เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Other Girl Groups FictionDiagonal
[One Shot] Congratulations [Eunseo x Bona]











  • 'พี่สัญญา อีกสามปี วันที่อึนซอจบมอปลาย พี่จะกลับมาแสดงความยินดีนะ'











    เด็กสาวที่เพิ่งสวมเสื้อสูทสีเหลืองทับคาร์ดิแกนแขนกุดสีเดียวกัน ยืนตรวจตราความเรียบร้อยของเครื่องแบบนักเรียนอยู่หน้ากระจกบานยาว ก้าวเข้าไปใกล้นิดหนึ่งเพื่อค่อยๆ จัดโบว์สีน้ำเงินเข้มตรงปกที่มองดีๆ แล้วเหมือนจะเบี้ยวเล็กน้อยให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง


    จริงๆ แล้ว ที่ผ่านมาก็ไม่เคยละเอียดถึงขนาดโฟกัสองศาโบว์หรอก เพียงแต่ว่านี่เป็นวันสุดท้ายแล้วที่ซนอึนซอจะได้สวมชุดนี้ 


    อีกอย่าง...


    วันนี้เธอจะได้เจอใครบางคนที่คิดถึงมาตลอด 


    ใครบางคนที่ครั้งสุดท้ายที่ได้เจอกัน อึนซอยังอยู่ในเครื่องแบบของโรงเรียนมัธยมต้นอยู่เลย 


    เด็กสาวยังคงจำสัมผัสอ่อนโยนยามที่ใครคนนั้นวางมืออุ่นๆ บนกลางกระหม่อมได้ จำน้ำเสียงใจดีที่พูดพร้อมกับรอยยิ้มน้อยๆ ซึ่งทำให้ใจเต้นแรงในตอนที่อึนซอยังตัวเล็กกว่านี้ตั้งหลายเซ็น จำได้แม้กระทั่งว่า วันนั้นพี่สาวข้างบ้านที่โตกว่าสี่ปีใส่เสื้อลายทางกรมท่าสลับขาวคลุมด้วยโค้ทสีน้ำเงินเข้มตัวยาว กางเกงสีดำ แล้วก็รองเท้าผ้าใบสีครีมคู่เก่ง


    ซึ่งก็แน่นอน ว่าอึนซอต้องจำประโยคที่ตัวเองพูดออกไปได้ด้วยเหมือนกัน


    'พี่โบนา... ฉัน...คือว่า ฉันชอบพี่นะคะ'


    เพราะคิดว่าจะไม่ได้เจอกันแล้ว เธอเลยชิงสารภาพออกไปแบบนั้น ถึงแม้จะรู้ดีว่าในสายตาของหล่อนคงมองว่ามันเป็นความรักแบบเด็กๆ แต่อึนซอก็อยากจะบอกความรู้สึกของตัวเองให้คนที่ต้องย้ายตามครอบครัวไปอยู่กันคนละประเทศให้ได้รู้ไว้


    'ชอบแบบพี่สาวใช่มั้ย?'


    'ม-ไม่ใช่นะคะ!' ซนอึนซอในวัยสิบหกละล่ำละลักแก้ความเข้าใจผิด 'มันก็จริงที่ว่าเมื่อก่อน ฉันเคยชอบพี่แบบพี่สาว แต่ว่าตอนนี้-' หากพี่เขาก็ชิงพูดขึ้นมาเสียก่อนว่า


    'ตอนนี้อึนซอยังเด็กมากนะ มันไม่ใช่ความรู้สึกแบบนั้นหรอก' พี่โบนาขยับมาใกล้แล้วเกลี่ยหน้าม้าของเธอเบาๆ เหมือนที่เคยทำมาตลอดเวลาหล่อนต้องพูดในสิ่งที่เธออาจจะไม่ชอบใจ 'เราน่ะชอบพี่แบบพี่สาวนั่นแหละ'


    แม้อยากจะเถียงมากแค่ไหน แต่สิ่งหนึ่งที่อึนซอต้องยอมรับก็คือ 


    เธอยังเด็กจริงๆ 


    ยิ่งเมื่อมองจากสายตาของหล่อนที่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยแล้ว เด็กที่ยังไม่จบมัธยมต้นอย่างอึนซอก็คงยิ่งกว่าลูกเจี๊ยบ


    'มันก็ใช่ค่ะที่ว่าตอนนี้ฉันยังเด็ก'


    ในบรรดาพี่น้องสามคน พ่อกับแม่ต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวกันว่า อึนซอน่ะดื้อที่สุด แต่ท่านก็ต้องยอมรับอย่างทึ่งๆ เหมือนกันเมื่อเห็นว่าตอนที่อยู่กับโบนา อึนซอจะกลายเป็นเด็กว่านอนสอนง่ายเหมือนเป็นคนละคน


    นี่จึงเป็นครั้งแรก ที่อึนซอจะดื้อกับพี่สาวคนนี้


    'แต่ถ้าเป็นตอนที่ฉันจบมอปลายแล้วล่ะคะ ถ้าอีกสามปี ความรู้สึกของฉันยังเหมือนเดิม ถึงตอนนั้น... พี่จะเชื่อฉันได้มั้ย ว่าฉันชอบพี่จริงๆ'


    คนแก่กว่านิ่งไป ดวงตาของหล่อนมองตรงมาที่อึนซอเหมือนกำลังใช้ความคิด ก่อนที่จะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหวานเหมือนเดิม 


    น้ำเสียงแบบที่อึนซอชอบฟัง


    'ถ้างั้นอีกสามปี พี่สัญญา อีกสามปี วันที่อึนซอจบมอปลาย ถ้าพี่ไม่ติดอะไร พี่จะกลับมาแสดงความยินดีนะ'


    แม้คำตอบมันจะเป็นคนละเรื่องเดียวกัน แต่เด็กดื้ออย่างอึนซอก็ขอเหมาเอาว่า นี่เป็นคำสัญญาว่าโอกาสของเธอยังคงไม่หมดลงไปเสียทีเดียว 


    เพราะมันหมายความว่า โบนาก็ยังตั้งใจจะกลับมาที่โซลอีกครั้งจริงๆ


    และดูสิ ขนาดตอนนั้นหล่อนบอกชัดว่า ถ้าไม่ติดอะไรถึงจะมาแสดงความยินดี แต่อึนซอก็เลือกที่จะประทับคำสัญญานี้ลงในความทรงจำโดยจงใจลบส่วนสำคัญทิ้งไปเสียอย่างนั้น


    เด็กสาวปักใจไปแล้วว่า ไม่ว่าอย่างไร ในวันนี้ เธอจะต้องได้เจอกับโบนาอย่างแน่นอน


    ไม่ได้เผื่อใจ... ให้กับความผิดหวังเลยสักนิด
















  • เมื่อรู้แน่ชัดว่าพิธีจบการศึกษาจะมีขึ้นในวันไหน อึนซอก็ตัดสินใจเขียนอีเมลไปบอกพี่สาวที่เวลาเร็วกว่าสองชั่วโมงและอยู่ห่างออกไปอีกหลายพันกิโลเมตรให้ได้รู้



    ใช่ ถึงจะมีโปรแกรมแชตมากมาย แต่หนทางติดต่อเดียวที่โบนาทิ้งไว้ให้ก็มีแค่อีเมลเท่านั้น และถึงนานๆ หล่อนจะตอบสักที แต่อึนซอก็ยังรู้สึกดีที่อย่างน้อยๆ เราก็ไม่ได้ขาดจากกันไปเสียทีเดียว


    โดยหลังจากสารภาพความรู้สึกออกไปในคืนนั้น ตลอดสามปีที่ติดต่อกันผ่านอีเมล อึนซอก็ไม่เคยแสดงออกว่าพยายามจะล้ำเส้นอีกเลย โบนาไม่เคยบอกตรงๆ หรอกว่าห้ามทำ แต่ในเมื่อเธอเลือกจะบอกพี่เขาเองว่า จะให้ระยะเวลาพิสูจน์ว่าความรู้สึกที่มีมันเป็นเรื่องจริง จนกว่าจะได้เจอกันอีกครั้งตอนในวันที่เรียนจบมัธยมปลาย อึนซอจะต้องไม่ทำอะไรให้หล่อนต้องลำบากใจเด็ดขาด


    นิ้วเรียวคลิกเมาส์ตรงปุ่มส่งเรียบร้อยแล้ว แต่เด็กสาวก็ยังคงนั่งมองจอนิ่งๆ อยู่อีกพักใหญ่ 




    'พี่โบนา

    ฉันจะจบมอปลายวันที่ 7 กุมภานี้นะคะ พี่จะมาใช่มั้ย ฉันมีอะไรอยากบอกพี่เยอะแยะเลย

    คิดถึงมากๆ
    อึนซอ'




    คำว่า 'คิดถึง' ที่ลงท้ายอีเมลฉบับนี้ เป็นคำแรกในรอบสามปีที่แสดงถึงความรู้สึกของอึนซออย่างตรงไปตรงมาที่สุด—เธอไม่ได้เผลอ แต่ตั้งใจจะบอกให้โบนารู้จริงๆ


    ว่าตลอดเวลาที่ไม่ได้เจอกัน เธอคิดถึงหล่อนมากแค่ไหน


    ว่าตลอดสามปีที่ผ่านมา ความรู้สึกของเธอยังคงเหมือนเดิม ไม่มีสักวินาทีที่เปลี่ยนไปเลย
















  • อึนซอในชุดเครื่องแบบนักเรียนที่เรียบร้อยและถูกระเบียบตั้งแต่หัวจรดเท้า ทำให้พ่อแม่ที่นั่งรออยู่ชั้นล่างมองขึ้นมาทางบันไดด้วยสายตายิ้มๆ



    "แต่งตัวเรียบร้อยเหมือนตอนเปิดเทอมมอสี่วันแรกเลยอึนซอ" แม่พูดขึ้นก่อน


    และพ่อก็ได้ทีแซวต่อท้าย "ใจคอจะเรียบร้อยแบบนี้แค่วันแรกกับวันสุดท้ายใช่มั้ยเรา?" 


    "ก็ไม่ได้ตั้งใจแบบนั้นซะหน่อยค่ะ" คนเป็นลูกสาวตอบยิ้มๆ "แต่ไหนๆ ก็เป็นวันสุดท้ายที่จะได้ใส่แล้ว อีกอย่างหนูต้องรับรางวัลนักเรียนดีเด่นด้วย เพราะงั้นแต่งให้เรียบร้อยก็ถูกแล้ว"


    จงใจละเหตุผลสำคัญเอาไว้ เพราะพ่อกับแม่น่ะไม่รู้เสียหน่อยว่าวันนี้อดีตพี่สาวข้างบ้านจะมาด้วย


    หากประโยคที่แม่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบขณะที่ลุกมาโอบไหล่เธอไว้ ก็ทำให้อึนซอต้องหันขวับไปมองอย่างไม่เชื่อหู


    "อึนซอยา พี่โบนาเค้าฝากแม่มาขอโทษหนูน่ะลูก"


    "คะ?"


    นี่มันอะไรกัน แม่กำลังจะพูดเรื่องอะไร?


    "พี่เค้าสัญญากับหนูว่าวันนี้จะมาใช่มั้ยล่ะ"


    "ทำไมแม่รู้? แล้วทำไมแม่ถึง–"


    หากคนที่ตอบให้อึนซอได้เข้าใจ กลับเป็นพ่อที่พูดแทรกขึ้นมา


    "เมื่อเช้าพี่เค้าโทรมาที่บ้านน่ะ ว่าฝากขอโทษอึนซอด้วยที่วันนี้ไปแสดงความยินดีไม่ได้"


    คนที่เฝ้ารอวันนี้มาตลอดรู้สึกได้ว่ามือของแม่ที่โอบไหล่อยู่กระชับแน่นขึ้น รู้สึกได้ว่าเนื้อตัวชาไปหมด และอึนซอก็รู้สึกได้ว่า...สองตาของตัวเองเริ่มจะพร่ามัวเพราะม่านน้ำตาแห่งความผิดหวังที่ไม่เคยเผื่อใจไว้ว่ามันอาจจะเกิดขึ้น


    ทั้งๆ ที่...เมื่อตอนนั้น โบนาก็เคยบอกไว้แล้วแท้ๆ ว่า ถ้าไม่ติดอะไร


    ผิดที่อึนซอเองที่เลือกจะทำเป็นไม่ได้ยินเงื่อนไขสำคัญนั่น


    และทั้งที่แม่พยายามจะบอกเหตุผลว่าเป็นเพราะพี่เขาติดงานด่วน แต่น้ำตาของอึนซอที่ทิ้งตัวอาบแก้มหยดแล้วหยดเล่านั้นก็เหมือนจะไม่ยอมฟังบ้างเลย 


    เด็กสาวสูดน้ำมูกเบาๆ ก่อนที่จะใช้หลังมือเช็ดหน้าอย่างลวกๆ พยายามอย่างยิ่งที่จะทำให้น้ำตาหยุดไหล ในขณะเดียวกันก็ฝืนทำเป็นยิ้ม และพูดกับแม่ที่กอดอยู่ด้วยน้ำเสียงสดใสที่ปั้นแต่งขึ้นเพราะไม่อยากจะให้พ่อกับแม่ไม่สบายใจ


    "ม...ไม่เป็นไรหรอกค่ะ หนูเข้าใจ ก็พี่เค้าติดงานจริงๆ นี่นา"


    เพราะถ้าเธอดึงดันจะงอแงไม่ยอมรับฟังทั้งๆ ที่โบนามีเหตุผล นั่นหมายความว่า– 


    ถึงจะจบมัธยมปลายอยู่วันนี้แล้ว แต่อึนซอก็ยังเป็นแค่เด็กน้อยคนหนึ่ง
















  • อึนซอพยายามมองในแง่บวกว่าถึงวันนี้จะไม่ได้เจอกัน แต่อย่างน้อยๆ ก็ยังใจชื้นได้ว่า โบนานั้นตั้งใจจะมาเจอกันจริงๆ และไม่คิดจะหายไปเฉยๆ เมื่อมาไม่ได้



    หล่อนยังไม่ลืมที่เคยสัญญากันไว้


    หากถึงอย่างนั้น ใบหน้าที่เคยสดใสร่าเริงอยู่ทุกวันก็หมองลงไปถนัดตาจนถูกเพื่อนทักอยู่ดี


    "ไม่ค่อยสบายหรือเปล่าแก?" 


    ชินบีถามขึ้นตอนที่พวกเธอซึ่งเป็นตัวแทนของห้องสามเตรียมตัวจะขึ้นรับรางวัลนักเรียนดีเด่นกัน จนต้องส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มน้อยๆ เพราะไม่อยากให้เพื่อนเป็นห่วง


    "แน่นา..."


    "อื้อ ฉันโอเคน่า"


    "ดีแล้ว อย่าลืมว่าเดี๋ยวพอเสร็จจากนี่พวกเราต้องไปถ่ายรูปกันอีกเยอะนะ ทำตัวให้สดใสเข้าไว้เพื่อน"


    ก็จริงอย่างที่ชินบีว่า เพราะพอพิธีการศึกษาจบลง ก็ต้องไปถ่ายรูปกับเพื่อนๆ ในห้องอีก ไหนจะพวกรุ่นน้องที่มารอจะถ่ายกับรุ่นพี่อย่างพวกเธอในชุดนักเรียนเป็นครั้งสุดท้าย ที่สำคัญ กับพ่อแม่และพี่สาวที่จะตามมาตอนช่วงเที่ยง เธอก็ยังไม่ได้ถ่ายรูปด้วยเลย


    ใบประกาศปกสีเลือดหมูที่ยืนยันการสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลายอย่างเป็นทางการ มาอยู่ในมือของอึนซอเรียบร้อยแล้ว อย่างน้อยก็พอยิ้มได้ว่าในวันนี้ เธอก็ได้โตขึ้นไปอีกระดับ 


    ถึงจะยังไม่ได้เจอกับโบนาในวันนี้ก็ไม่เป็นไร และถึงหล่อนจะยุ่งจนไม่สามารถกลับมาเกาหลีได้จริงๆ ก็ไม่เป็นไรเช่นกัน ถ้ามันต้องเป็นอย่างนั้น สักวัน อึนซอจะเป็นคนไปหาหล่อนเอง


    "พี่อึนซอ ถ่ายรูปกันค่า" ดายองกับยอรึม รุ่นน้องมอห้าที่สนิทกันปรี่เข้ามาหาหลังจากที่เธอถ่ายรูปกับเพื่อนๆ และครอบครัวเสร็จ "พี่ไม่อยู่แล้ว พวกหนูเหงากันแย่เลยอะ"


    "อย่ามาเวอร์" อึนซอยิ้มขำก่อนจะยื่นมือไปยีหัวดายองอย่างหมั่นเขี้ยว "ทำอย่างกับปกติคุยกับพี่เยอะมากงั้น–"


    ปลายประโยคหายเข้าไปในลำคอพร้อมๆ กับดวงตาที่เบิกกว้างเมื่อหันไปเห็นบุคคลที่คุ้นตามาปรากฏตัวอยู่ท่ามกลางฝูงชน ทีแรกอึนซอคิดว่าตัวเองตาฝาดจนต้องกระพริบตาหลายต่อหลายครั้ง ก่อนจะถึงขั้นตบหน้าตัวเองเต็มแรงเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้ฝันจนดายองอ้าปากหวออย่างตกใจ


    ก็มันจะเป็นไปได้ไง


    ก็คนที่บอกว่าติดงานอยู่ที่ซิดนีย์ จะข้ามน้ำข้ามทะเลมาปรากฏตัวอยู่ตรงนี้ได้ยังไง!?


    "พ...พี่โบนา"


    พึมพำด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ลำคอแห้งผากขณะที่ก้าวยาวๆ ผ่านฝูงชนคนแล้วคนเล่า ก่อนสองเท้าจะไปหยุดยืนอยู่หน้าคนที่คิดถึงและโหยหามาตลอด


    แก้มขวาที่แดงเพราะแรงตบจากมือตัวเองเมื่อกี้ ช่วยยืนยันชัดเจนว่าอึนซอไม่ได้ฝันไป


    แม้ร่างบอบบางของโบนาจะอยู่ในระยะเอื้อมถึง แต่อึนซอก็เลือกที่จะกระพริบตาถี่ๆ อีกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าตัวเองไม่ได้ตาฝาดจริงๆ 


    "พี่...พี่โบนาจริงๆ ใช่มั้ย?"


    แทนที่คนตรงหน้าจะตอบมาว่าใช่หรือไม่ใช่ ริมฝีปากอิ่มที่เคลือบด้วยลิปกลอสสีธรรมชาติก็ขยับพูดในสิ่งที่เป็นคนละเรื่องกันอีกแล้ว


    หากประโยคที่ดูธรรมดาเหลือเกินนี้ กลับทำให้อึนซอแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่


    "สูงขึ้นตั้งเยอะเลยอึนซอยา สูงกว่าพี่แล้ว"
















  • พ่อกับแม่และพี่สาวกลับไปแล้ว เพื่อนๆ ก็แยกย้ายกันไปแล้วเช่นกัน ทิ้งเธอไว้กับหญิงสาวรุ่นพี่ที่พวกเพื่อนนั้นทำหน้าเหลอหลากันหมดตอนได้เจอ 



    ก่อนที่ชินบีตัวดีซึ่งเข้าใจสถานการณ์ได้เร็วเหมือนเคยจะมากระทุ้งศอกใส่อย่างแซวๆ นิดหนึ่ง แล้วจึงปลีกตัวตามคนอื่นๆ ไป พวกนั้นบอกกันว่าหลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จจะไปกินหมูย่างและถล่มโนเรบังกันให้หนำใจ


    "จริงๆ แล้วอึนซอน่าจะไปกับเพื่อนนะ"


    "ไหนพี่บอกว่าติดงานมาไม่ได้ไง?"


    สิ่งที่เธอพูดสวนไป ทำให้คนตัวบางที่นั่งอยู่ที่โต๊ะเรียนข้างกันนิ่งไปทันที ก่อนหล่อนจะตอบเสียงเบาว่า


    "ก็ติดงานจริงๆ แต่สุดท้ายก็ขอออกมาได้แป๊บนึง เดี๋ยวสักบ่ายสองพี่ต้องไปแล้ว"


    อึนซอใช้ความพยายามอย่างหนักที่จะนิ่งฟังอย่างสงบโดยไม่โวยวายอะไรออกไป ต้องห้ามตัวเองไว้อย่างสุดความสามารถ ในการยับยั้งไม่ให้ความน้อยใจที่เอ่อล้นมันพรั่งพรูจนทำให้คนที่อุตส่าห์มาหากันต้องลำบากใจ


    "ทำไม...ถึงไม่บอกว่ากลับมาแล้ว"


    ทันหันไปเห็นว่าโบนาเม้มริมฝีปากก่อนที่จะเอ่ยตอบเธอด้วยน้ำเสียงที่เบาลงไปอีก


    "พี่ขอโทษ..."


    เสี้ยวหน้าด้านข้างที่เห็นชัดถึงความรู้สึกผิดเหลือเกิน ทำให้อึนซอพอใจชื้นว่าอย่างน้อยๆ หล่อนก็ยังแคร์กัน อย่างน้อยๆ ก็เอ่ยขอโทษอย่างตรงไปตรงมา ไม่เฉไฉจนทำให้เธอต้องรู้สึกแย่ไปมากกว่านี้


    จึงทำให้อึนซอ 'กล้า' ที่จะแสดงความรู้สึกที่ปิดผนึกไว้นานถึงสามปีต่อหน้าโบนาเสียที


    "ฉันคิดถึงพี่มากนะคะ คิดถึงมากๆ" รู้ตัวว่าถือวิสาสะเอื้อมไปจับมือของคนโตกว่าที่ประสานอยู่บนตักมากุมไว้ เมื่อโบนาไม่ได้ปฏิเสธ จึงลูบหลังมือนุ่มบอบบางของหล่อนอย่างทะนุถนอม อึนซออยากจะใช้ภาษากายเพื่อเน้นย้ำคำว่าคิดถึงให้ชัดเจนขึ้น


    "อึนซอยา..."


    "พี่โบนา วันนี้ฉันเรียนจบมอปลายแล้วนะ–"


    "เออใช่ พี่ยังไม่ได้แสดงความยินดีกับเธอเลย!" ก่อนที่คนซึ่งนั่งนิ่งให้เธอกุมมืออยู่ตั้งนานจะลุกลี้ลุกลนหันไปหยิบของในกระเป๋าถือใบใหญ่ของตัวเอง 


    "เอ้า ยินดีด้วยนะซนอึนซอ"


    ที่โบนายื่นให้ คือกล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าทรงแบน ห่อด้วยกระดาษสีครีมสะอาดตา


    "ไว้ค่อยกลับไปแกะตอนอยู่คนเดียวนะ"


    ยิ่งหล่อนพูดแบบนี้ อึนซอยิ่งอยากจะแกะทันที แต่เพราะว่าโบนาจัดแจงดึงมือเธอข้างหนึ่งไปจับไว้ นั่นล่ะอึนซอถึงเลิกล้มความตั้งใจและหันไปยัดกล่องสีครีมลงกระเป๋าเป้


    รู้สึกตัวว่าใบหน้าเริ่มจะร้อนวูบวาบมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อโบนายังคงไม่ยอมปล่อยมือ ทั้งที่ตอนนี้เธอก็ไม่ได้คิดจะแกะของขวัญเรียนจบต่อหน้าหล่อนแล้วแท้ๆ


    "พี่..."


    "พูดต่อสิ เมื่อกี้ถึงไหนแล้วนะ"


    พอเป็นแบบนี้ ที่เคยทำตัวเองให้นิ่งขรึมได้ ก็กลายเป็นว่าเริ่มจะเขินขึ้นมาจนต้องยกมือข้างที่ว่างขึ้นลูบท้ายทอย ไม่ก็เกาแก้มเป็นระยะ


    แต่ที่ไม่เปลี่ยน ก็คือน้ำเสียงที่หนักแน่น ยามเมื่อพูดในสิ่งที่เคยพูดไปแล้ว และเพิ่มในสิ่งที่พยายามเก็บไว้กับตัวเองมาตลอดสามปี


    "ฉันอยากบอกพี่ว่า ตอนนี้ฉันจบมอปลายแล้ว และมันก็สามปีแล้วนับจากวันที่ฉันบอกไปว่าฉันชอบพี่ ตอนนั้นพี่บอกว่าฉันยังเด็ก ฉันอาจจะไม่ได้ชอบพี่แบบนั้นจริงๆ ถ้าเป็นแบบนั้น เวลาที่ฉันไม่ได้เจอพี่ ก็น่าจะเลิกชอบได้ง่ายๆ ใช่มั้ยคะ แต่ว่ามันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย"


    มือที่เคยขัดเขินจนไม่รู้จะเอาไปวางที่ไหน บัดนี้อึนซอสามารถวางมันลงไปบนมือของโบนาได้เช่นเดิม


    "ยิ่งไม่ได้เจอกัน ฉันยิ่งคิดถึงพี่ คิดถึงจนจะเป็นบ้าตายอยู่แล้วพี่รู้มั้ย แต่ฉันไม่กล้าแสดงออกเพราะกลัวพี่หาว่าฉันเป็นเด็กพูดไม่รู้ฟัง ไม่รักษาสัญญาว่าจะรออีกสามปีแล้วค่อยคุยเรื่องนี้กัน ทั้งที่ตัวเองเป็นคนพูดเองแท้ๆ"


    เมื่อได้โอกาสเปิดเผยความรู้สึกอย่างตรงไปตรงมาเสียที ก็กลายเป็นว่าอึนซอยิ่งอยากจะแสดงออกมากกว่านี้ ยิ่งได้พูดออกไปมากเท่าไหร่ ด้านทางกาย เธอก็ยิ่งอยากจะสัมผัสโบนามากขึ้น


    "พี่โบนา..."


    ไม่รู้ตัวเลยว่าเผลอยกมือขึ้นประคองที่ข้างแก้มของคนโตกว่า


    "ตอนนี้ฉันไม่ใช่เด็กแล้ว และฉันก็ยืนยันว่าความรู้สึกของฉันยังเหมือนเดิม"


    และโบนาก็ไม่ได้ขยับหนีแต่อย่างใด


    หากก่อนที่จะมีอะไรเกิดขึ้น เสียงโทรศัพท์มือถือของโบนาก็ดังเรียกสติของคนทั้งคู่เสียก่อน เท่าที่ได้ยินแว่วๆ จากเสียงที่ดังลอดออกมา ก็ได้ความว่าคงเป็นสายจากคนที่ทำงานของหล่อนเพื่อเช็กให้แน่ใจว่าจะกลับมาทำงานตามเวลาจริงๆ ใช่มั้ย


    ถ้าเป็นซนอึนซอเมื่อสามปีที่แล้ว เชื่อได้เลยว่าจะต้องงอแงและดึงดันจะรั้งโบนาให้อยู่ด้วยกันต่อแน่นอน


    "ถึงฉันจะไม่อยากให้พี่กลับไปทำงานแล้วมาอยู่กับฉันแค่ไหน แต่ฉันก็จะอดทน ถ้าพี่เลิกงานเมื่อไหร่ โทรหาฉันนะคะ แล้วฉันจะไปหาพี่เอง"


    พร้อมกับขอโทรศัพท์ของโบนามากดเบอร์ตัวเองให้เสร็จสรรพ


    จากสายตาที่มองมาอย่างทึ่ง ดูเหมือนว่าหล่อนเองก็คงไม่คาดคิดเหมือนกัน


    "น้องอึนตอของพี่ไม่เด็กแล้วจริงๆ ด้วย"


















  • รางวัลที่อึนซอได้รับสำหรับการทำตัวให้สมกับที่บอกว่าตัวเองไม่เด็กแล้ว ก็คือการได้มานั่งรอโบนาเลิกงานสบายๆ ในห้องของหล่อน โดยเจ้าของห้องพาเธอมาส่งที่นี่ก่อนจะกลับไปทำงาน



    'มีแซนด์วิชอยู่ในตู้เย็นนะอึนซอ ถ้าหิวก็รองท้องได้เลย เพราะพี่ไม่แน่ใจว่าจะเลิกดึกหรือเปล่า?'


    คนที่น่าจะต้องรออีกหลายชั่วโมงยกนิ้วทำสัญลักษณ์โอเค หากก็ไม่ลืมกำชับว่า


    'ถ้าจะดึกมากยังไงพี่โทรบอกด้วยนะคะ ฉันจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง'


    โบนานิ่งไปนิดหนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ พร้อมรอยยิ้ม โดยที่ไม่ยอมสบตากัน


    อึนซอไม่ค่อยแน่ใจว่าที่ตัวเองคิดจะถูกมั้ย แต่มันเหมือนกับว่าหล่อนจะกำลังเขินอยู่ แต่ยังไงก็ช่าง เธอคิดว่าตัวเองเริ่มจะมีความยับยั้งชั่งใจขึ้นมาบ้างในการที่สามารถบังคับตัวเองให้นั่งอยู่กับที่แทนที่จะตรงเข้าไปกอดหล่อนไว้ด้วยเหตุผลที่ว่าจะไม่ได้เจอกันอีกตั้งหลายชั่วโมง


    ถึงโบนาจะไม่ว่าอะไรก็เถอะ แต่ต้องท่องไว้ว่าห้ามวอแวจนหล่อนเสียการเสียงานเด็ดขาด


    และเพราะไม่มีอะไรจะทำ ระหว่างนี้ อึนซอก็เลยเดินสำรวจนู่นนี่ไปเรื่อย อันไหนที่มันดูเป็นส่วนตัวมากเกินไปอย่างห้องนอน เธอก็จะไม่เข้าไปยุ่ง อยู่แต่ในพื้นที่รับแขกที่โบนาพามา หรือเต็มที่ก็ไปตรงส่วนครัวถ้าหากว่าหิวขึ้นมาจริงๆ 


    ที่แรกที่อึนซอไปหยุดยืน ก็คือเบื้องหน้าชั้นหนังสือที่สูงกว่าเธอประมาณสามฟุต กะจากสายตาวันนี้ เธอน่าจะสูงกว่าโบนาเกือบสิบเซ็นได้อยู่ ลองเอื้อมหยิบหนังสือที่อยู่สูงที่สุดยังเกือบไม่ถึง เพราะแบบนี้สินะหล่อนถึงต้องมีบันไดเล็กๆ ไว้ปีนหยิบหนังสือ น่าเอ็นดูชะมัด


    โบนาจัดเรียงหนังสือบนชั้นอย่างเป็นระเบียบ แยกหนังสือภาษาเกาหลีกับภาษาอังกฤษจากกันชัดเจน ประเภทที่เห็นว่ามีเยอะเป็นพิเศษก็เป็นพวกหนังสือเกี่ยวกับการตลาดและงานโฆษณา รองลงมาก็เป็นพวกหนังสือพวกฮาวทูพัฒนาตนเอง มีเล่มหนึ่งที่จำได้ว่าพ่อเคยซื้อให้อ่านแต่อึนซอยังไม่ได้แตะสักนิด


    จากนั้นสายตาที่มองไปเรื่อยๆ ก็ไปสะดุดเข้ากับปฏิทินแขวนแบบเรียบๆ ที่อยู่ข้างชั้นหนังสือ เยื้องๆ กับโต๊ะทำงานขนาดเล็กที่มีแม็คบุ๊กวางอยู่


    อึนซอต้องยิ้มออกมาทันทีอย่างไม่สามารถเก็บซ่อนความปลื้มใจไว้ได้ เมื่อเห็นว่าตรงช่องวันที่เจ็ดกุมภาบนปฏิทินมีลายมือน่ารักๆ เขียนด้วยปากกาเมจิกสีชมพูว่า


    'อึนซอจบ ม.ปลาย แล้ว'


    พร้อมกับสัญลักษณ์หน้ายิ้มที่วาดต่อท้ายด้วยปากกาสีเดียวกัน


    อึนซอดีใจจริงๆ ที่ว่าสุดท้ายแล้ว คนที่รอให้ถึงวันนี้ใจจะขาด... 


    ไม่ได้มีแค่เธอคนเดียว





    :)



















  • เมื่อไม่มีอะไรทำจริงๆ อึนซอก็ตัดสินใจหยิบกล่องของขวัญเรียนจบที่เจ้าของห้องเป็นคนให้ออกมาจากกระเป๋าเป้ จดๆ จ้องๆ อยู่นานเพราะอยากจะลองเดาว่าของข้างในเป็นอะไรก่อนจะแกะออกมาดูเฉลย



    มันเป็นกล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าทรงแบน ที่ก็ยังถือว่าสูงประมาณหนึ่ง มากพอที่จะทำให้อึนซอเดายากว่าตกลงแล้วของในนั้นคืออะไรกันแน่ อีกอย่างก็คือ มันหนักพอประมาณ พยายามเขย่าดู ก็ได้ยินเสียงของข้างในขยับนิดหน่อย ซึ่งก็ไม่ได้ช่วยจำกัดชอยส์ให้น้อยลงเลย...


    เพราะว่างนั่นแหละเลยมีเวลามานั่งวิเคราะห์เป็นบ้าเป็นหลัง แต่ในที่สุดอึนซอก็หมดความอดทน ตัดสินใจค่อยๆ ดึงสก็อตช์เทปออกอย่างระมัดระวังเพราะไม่อยากให้กระดาษห่อขาด เพราะเธอตั้งใจจะเก็บมันไว้อย่างดีแม้กระทั่งกระดาษห่อ เนื่องจากนี่เป็นของขวัญชิ้นแรกเลยที่โบนาซื้อให้กัน


    ดวงตาเบิกกว้างทันทีเมื่อดึงกระดาษไปได้ครึ่งหนึ่งแล้วเห็นเต็มสองตาว่ามันคือกล่องอะไร


    มีแว้บหนึ่งที่คิดว่าหรือโบนาจะแอบเกรียนเอากล่องนี้มาแล้วเนียนใส่ของอย่างอื่นลงไป แต่พอเห็นโน้ตที่ติดอยู่หน้ากล่องซึ่งเขียนถึงเหตุผลที่ให้ไว้อย่างชัดเจน ก็ทำให้อึนซอไม่อาจคิดว่ามันเป็นอย่างอื่นไปได้


    'เอาไว้ใช้ตอนเรียนมหาลัยนะ มันจะช่วยเธอได้มากเลย แอพจดเล็คเชอร์ของ ipad เค้าดีจริงๆ พี่ชอบมาก ปล.ไม่ต้องเกรงใจ อันนี้พี่ใช้แต้มบัตรเครดิตแลกมา ไม่เสียเงินเลยสักวอน'


    แต่แต้มบัตรเครดิตของพี่มันก็ได้มาจากการใช้เงินซื้อนั่นซื้อนี่ไม่ใช่หรือไงเล่า!


    อึนซอตระหนักได้ถึงความเด็กน้อยของตัวเองก็ตอนนี้เนี่ยล่ะ จากมุมของเธอ การที่จบมัธยมปลายมันดูเป็นผู้ใหญ่มาก แต่พอมาลองคิดจากมุมของคนที่จบมหาวิทยาลัยแถมทำงานมาเป็นปีแล้ว–


    เฮ้อ ฉันมันเด็กน้อยจริงๆ นั่นล่ะ















  • หากก่อนที่อึนซอจะทดท้อกับความเด็กที่แท้จริงของตัวเองไปมากกว่านี้ โบนาก็กลับมาได้ทันเวลาพอดี ให้เธอเลิกคิดอะไรฟุ้งๆ แล้วรีบตรงเข้าไปจับมือคนที่เพิ่งทำงานเหนื่อยๆ มาไว้แน่น



    แน่นอนว่าสิ่งแรกที่อึนซอพูดออกไปก็คือ


    "พี่โบนา ไอแพดมันมากเกินไป ฉันรับไว้ไม่ได้หรอก"


    คนให้เพียงแค่เลิกคิ้ว หากเหมือนว่าหล่อนเองก็ดูจะคาดการณ์ไว้อยู่แล้วว่าอึนซอจะต้องพูดแบบนี้


    "อึนซอได้เปิดออกมาดูหรือยัง ในกล่องไม่ได้มีแค่ไอแพดนะ"


    โบนาโยนความประหลาดใจกลับมาให้เธอเดี๋ยวนั้น คนเด็กกว่าจึงจัดแจงรีบเปิดฝากล่องไอแพดซึ่งตอนแรกไม่กล้าแตะในทันที


    ข้างในกล่องเป็นไอแพดเครื่องใหม่เอี่ยมอย่างที่ควรจะเป็น แต่พอหยิบขึ้นมา ข้างใต้กลับมีสมุดขนาดเท่าฝ่ามือเล่มหนึ่งที่วางปะปนอยู่กับคู่มือและอุปกรณ์ชาร์จ


    จังหวะที่จะกำลังหยิบมาเปิดดู โบนาก็หยุดมือเธอเอาไว้อีกแล้ว


    "เอาไว้อ่านตอนอยู่คนเดียวได้มั้ย... หรืออย่างน้อยๆ ก็ไม่ใช่ต่อหน้าพี่"


    คราวนี้ อึนซอมั่นใจ ว่าที่เห็นสีชมพูระเรื่อบนแก้มเนียนใสของโบนา เธอไม่ได้ตาฝาดหรือว่าคิดไปเอง


    "ทำไมอะ พี่เขียนสารภาพรักฉันไว้หรือไง?"


    ก็พูดแซวไปงั้นเอง ไม่คิด ไม่เคยคิด ไม่แม้แต่จะคิดจริงๆ ว่าคนตัวบางที่อยู่ตรงหน้า–


    จะดันพยักหน้ารับเสียอย่างนั้น!


    "พี่..."


    "อึนซอยังต้องให้พี่บอกโต้งๆ อีกเหรอ ว่าพี่รู้สึกยังไง"


    คนที่เพิ่งจบมอปลายหมาดๆ วันนี้เหมือนกับเป็นใบ้ไปชั่วขณะ ยิ่งตอนที่คนอายุมากกว่าขยับเข้ามาใกล้ กลิ่นหอมจากเนื้อตัวของหญิงสาวที่คิดถึงมาตลอดก็ยิ่งทำให้อึนซอทั้งหูอื้อและตาลาย


    โคตรเด็ก ฉันนี่มันโคตรเด็กเลย!


    "ไหนบอกว่าไม่เด็กแล้วไง?"


    โบนาพูดประโยคนี้ด้วยเสียงแผ่วเบาราวกระซิบในตอนที่ริมฝีปากของหล่อนอยู่ข้างหู ก่อนที่อึนซอจะรับรู้ได้ถึงสัมผัสนุ่มๆ ที่แก้ม สติ...แทบหลุดลอยไปไหนไม่รู้ ตอนที่คนแก่กว่าลากไล้ริมฝีปากจากข้างแก้มมาหยุดตรงแถวๆ มุมปากของเธอ


    หากโบนาก็ไม่ได้ทำอะไรมากกว่านั้น มันเหมือนกับว่า–


    หล่อนรอให้เธอเป็นคนเริ่ม


    "พี่โบนา..." อึนซอกระซิบเรียกชื่อราวกับจะขออนุญาต ก่อนที่จะค่อยๆ ประทับริมฝีปากลงไปที่จุดเดียวกันของอีกคนหลังจากที่หล่อนหลับตาพริ้ม


    รู้สึกเหมือนไฟช็อตตอนที่มันเริ่มมากไปกว่าแค่การที่ปากแตะปาก ก็ไม่ใช่ว่าอึนซอจะไร้เดียงสาเสียทีเดียว ชินบีน่ะตัวดี ชอบส่งนู่นส่งนี่มาให้ดู มันบอกว่า เรียนรู้ไว้แก เดี๋ยวสักวันก็ได้ใช้เอง เชื่อฉัน ก็ยังดีที่มันไม่แนะนำให้เธอไปลองปฏิบัติกับคนอื่น


    ไม่อย่างนั้นคงได้โดนเจ้าของริมฝีปากที่เธอยังคงชิมไม่เลิกเล่นงานเอาแน่ๆ


    หากก่อนที่ทุกอย่างจะดำเนินไปในทางที่ลึกซึ้งกว่านั้น โบนาก็เป็นฝ่ายหยุดเธอไว้ก่อน


    "โอเคๆ พี่เชื่อแล้วว่าไม่เด็ก"


    พอผละออกจากกัน อึนซอก็ยิ้มออกมาทันทีเมื่อได้เห็นว่าแก้มสองข้างของหล่อนเกือบจะเป็นสีแดงแป๊ด


    "พี่... ฉันค้างที่นี่ได้มั้ย?"


    และก็ไม่แปลกใจที่โบนาจะตอบกลับมาทันทีด้วยน้ำเสียงที่ห้วนและเฉียบ


    "ไม่ได้!"


    แต่แทนที่จะกลัว อึนซอกลับหัวเราะคิกคักเมื่อคิดว่าตัวเองพอจะเดาได้ว่าทำไมหล่อนถึงปฏิเสธเสียงแข็งขนาดนั้น จึงไม่พ้นโดนคนที่เขินอย่างหนักฟาดเบาๆ ที่ต้นแขน


    "โธ่พี่โบนา อีกสามเดือนฉันก็จะเต็มยี่สิบแล้วนา..."


    "แต่ตอนนี้เธอก็ยังไม่เต็มยี่สิบไง"


    "โอเค งั้นฉันขอมัดจำไว้ก่อน" ก่อนที่โบนาจะทันตั้งตัว เธอก็ขยับไปกอดหล่อนไว้ พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นที่ทำให้คนดิ้นขลุกขลักในทีแรกดิ้นไป


    "พี่โบนา เป็นแฟนกับฉันนะคะ" 


    และก็รีบเสริมก่อนที่หล่อนจะเข้าใจผิด "ไม่ใช่เพราะว่าฉันอยากจะทำอะไรๆ กับพี่นะ แต่ฉันแค่อยากแน่ใจ ว่าต่อจากนี้ เราจะไม่เป็นแค่พี่น้องกันแล้วก็เท่านั้น"


    และในที่สุด คนอายุมากกว่าก็กอดตอบเธอแน่นไม่แพ้กัน การพยักหน้าในตอนที่วางคางอยู่บนไหล่ขณะกอดกัน ก็ทำให้อึนซอมีความสุขเสียจนไม่รู้จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดอย่างไรถึงจะทำให้เข้าใจได้


    ที่อุตส่าห์อดทนรอคอยมาตลอดสามปีโดยไม่ปริปากบ่นหรืองอแงใดๆ ให้โบนาลำบากใจ ในวันนี้ อึนซอก็ได้รับรางวัลที่ประเมินค่าไม่ได้เป็นสิ่งตอบแทนเรียบร้อยแล้ว


    "อยู่กับพี่ไปนานๆ นะเจ้าเด็กบ๊อง"


    "เอ๊ะ ก็บอกว่าไม่เด็กแล้วไง" 


    อดทำหน้ายุ่งใส่คุณแฟนหมาดๆ ไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้น อึนซอก็กลับมายิ้มและพยักหน้ารับคำขอของโบนาอย่างเต็มใจ พร้อมกับเสริมว่า


    "ถึงไม่ขอ ฉันก็จะอยู่กับพี่ไปนานๆ อยู่แล้ว พี่นั่นแหละอย่ารำคาญฉันซะก่อนล่ะ"


    ปลายจมูกโด่งที่ฝังลงมาที่แก้มของเธอเหมือนกับจะหมั่นเขี้ยว ก็ทำให้อึนซอหัวเราะชอบใจ แล้วกอดคนอายุมากกว่าที่จนถึงตอนนี้ก็ยังคลอเคลียไม่เลิกไว้แน่น...


    ดูนะ ทำแบบนี้กับเธอทั้งที่บอกว่าอีกสามเดือนค่อยคิดเรื่องนั้น... อืม บางทีซนอึนซอก็เป็นมนุษย์มีเลือดเนื้อ ไม่ใช่พระอิฐพระปูนเนอะ


    แต่เอาวะ อีกสามเดือนก็อีกสามเดือน 


    เป็นแฟนเด็กไง ก็ต้องทำตัวอยู่ในโอวาทคุณเค้าหน่อย!



















  • Bonus



    อึนซอได้อ่านสมุดบันทึกของโบนาทันทีที่กลับถึงบ้านแล้วรีบวิ่งเข้าห้องตัวเองทันควัน 


    ก็ไม่ผิดจากที่คิดว่าทั้งหมดทั้งปวงที่เขียนอยู่ในนั้นด้วยลายมือน่ารักๆ ของหล่อน จะทำให้อึนซอตื้นตันจนถึงขนาดร้องไห้ออกมา


    มันเริ่มจากความไม่มั่นใจในคำบอกชอบของอึนซอเมื่อสามปีก่อน เรื่อยมาจนถึงวันที่เธอส่งอีเมลไปบอกกำหนดพิธีจบการศึกษา ระหว่างนั้น โบนาก็เขียนตอบสิ่งที่เธอเคยสงสัยไว้ทุกอย่าง




    'อย่าโกรธพี่เลยนะที่พี่พูดกับเธอไปแบบนั้น เพราะพี่ไม่แน่ใจเลยอึนซอ ว่าสุดท้ายแล้วเธอจะรู้สึกแบบเดียวกันกับพี่จริงๆ 

    อีกอย่าง พี่ก็ไม่อยากให้เธอมายึดติดกับพี่ตอนที่พี่ไม่ได้อยู่ข้างๆ เธอเหมือนเก่าด้วยเหมือนกัน... 3 ปีมันนานนะอึนซอ แต่พี่ก็หวังจริงๆ ว่าเธอจะทำได้อย่างที่พูด'




    'พรุ่งนี้ก็ครบปีที่พี่มาอยู่ซิดนีย์แล้วล่ะ พอมาย้อนคิดมันตลกดีเหมือนกันนะ ที่จู่ๆ พี่ก็ดันไปชอบเธอซะงั้น แถมจะแสดงออกก็ไม่ได้เพราะว่าเธอเป็นน้องและก็ยังเด็กมาก ตอนที่พี่รู้ตัวว่าชอบ พี่รู้สึกแย่มากเลยนะที่คิดอะไรแบบนั้นกับเธอ 

    เพราะว่าเธอเด็กมาก เด็กมากจริงๆ'




    'ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกันที่ทำให้เธอส่งเมลหาพี่ด้วยการทำตัวเป็นน้องตามปกติเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตอนแรกๆ พี่ก็น้อยใจเหมือนกันนะ และก็คิดว่าเธออาจจะถอดใจกับพี่แล้ว 

    แต่พอเธอยังส่งมาอยู่ตลอด เล่านู่นเล่านี่ให้พี่ฟังถึงแม้พี่จะไม่ค่อยว่างตอบเธอได้เร็วๆ พี่ก็เริ่มพอจะเข้าใจ ว่าเธอน่ะไม่ได้เปลี่ยนไปหรอก นี่น่ะเป็นการแสดงออกว่าคิดถึงในรูปแบบของเธอ และมันก็น่ารักเอามากๆ เลย'




    'อึนซอยา เธอจะต้องโกรธแน่ๆ ถ้ารู้ว่าพี่กลับมาก่อนโดยไม่บอกเธอ พี่ขอโทษนะ ขอโทษจริงๆ ที่ต้องทำแบบนี้ แต่เพราะว่าพี่ตั้งใจว่าเราไม่ควรเจอกันจนกว่าจะถึงวันนั้น พี่ก็เลยไม่บอก 

    แต่ขอสารภาพไว้ตรงนี้เลยนะอึนซอ ว่าพี่เคยไปแอบดูเธอทำกิจกรรมนู่นนี่ตั้งหลายครั้ง จำที่เธอแข่งโต้วาทีตอน ม.6 เทอม 1 ได้มั้ย วันนั้นพี่ก็ไปดูนะ น่าเสียดายที่เธอไม่ชนะ เพราะในความคิดพี่ เหตุผลของฝั่งเธอดีกว่าเยอะเลย 

    แต่ยังไงอึนซอของพี่ก็เก่งที่สุดอยู่แล้ว'




    'เดือนหน้าก็จะครบ 3 ปีแล้ว ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันจะเร็วขนาดนี้ อึนซอของพี่จะไม่ใช่เด็กน้อยมอปลายแล้ว แต่จะกลายเป็นสาวมหาลัยที่พี่เชื่อว่าต้องน่ารักมากๆ 

    อยากให้ถึงวันนั้นเร็วๆ เพราะพี่จะได้บอกซะทีว่าพี่รู้สึกยังไง หวังนะ หวังว่าที่เรายังส่งเมลคุยกันได้แบบนี้ จะทำให้เธอยังรอพี่อยู่ ไม่ไปชอบคนอื่นซะก่อน 

    เพราะพี่เองก็ไม่เคยมองใครเลยตลอด 3 ปีเหมือนกัน'




    'อึนซอยา หวังว่าจะชอบของขวัญที่ให้ไปนะจ๊ะ มันมีประโยชน์กับการเรียนมากจริงๆ อย่าแค่เอาไว้เล่นเกมหรือดูหนังอย่างเดียวล่ะ'




    ก่อนจะจบท้ายด้วยตัวหนังสือตัวบรรจงที่เขียนด้วยปากกาเมจิกสีชมพูแบบเดียวกับที่เขียนบนปฏิทินว่า












    'พี่รักอึนซอมากๆ นะ'























  • เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นก่อนที่จะหัวจะถึงหมอน ก็ทำให้โบนาลุกจากเตียงและกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปยังโทรศัพท์ที่วางไว้บนโต๊ะเครื่องแป้ง


    ที่ต้องรีบขนาดนี้ เพราะมันเป็นเสียงเรียกเข้าที่เธอตั้งไว้สำหรับแฟนเด็กหมาดๆ นั่นล่ะ


    "พี่โบนา..."


    เสียงอู้อี้มาขนาดนี้ โบนามั่นใจว่าอึนซอต้องอ่านสมุดบันทึกเรียบร้อยแล้ว


    "ว่าไงคะ?"












    "ฉันก็รักพี่เหมือนกันค่ะ รักมากๆ เลย ฮือ"























    END.

    #ฟิคตอไม่เด็กแล้วนะ

















  • เฮ้อ มาอีกเรื่องแล้วอะค่ะ หยุดไม่อยู่แล้วกับความหลงใหลในตัวน้องโบนา 55555
    เพิ่งมาชอบ 5 วัน ได้ฟิคมา 2 เรื่อง บ้าบอ ดูท่าว่าจะไม่หยุดแค่นี้ด้วย 55555

    สำหรับแรงบันดาลใจของฟิคและชื่อแท็ก ได้มาจากน้องคนนึงที่บิวท์ให้เรามาติ่งอูจูเช้าเย็น จนในที่สุดก็สำเร็จนะคะแหม่ บวกกับประโยคแสนอบอุ่นของพี่โบเค้าที่ว่าสัญญากับอึนซอไว้แล้ว ยังไงก็ต้องมา เนี่ยค่ะ พอเพ้อเจ้อต่อ ก็เลยได้มาเป็นวันช็อตที่ยาวพอประมาณนี้

    อ่านแล้วชอบไม่ชอบยังไง สามารถฝาก feedback ไว้ได้ในคอมเมนท์ (สามารถใช้แอคเคาท์ทวิตเตอร์หรือเฟซบุ๊กสมัครได้ทันทีค่ะ) 

    หรือสำหรับชาวทวิตเตอร์ก็แชร์ความรู้สึกผ่านแท็ก #ฟิคตอไม่เด็กแล้วนะ ได้เลยค่ะ

    ขอบพระคุณที่เข้ามาอ่านกันค่ะ <333





Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
theniaz (@theniaz)
แง้ อ่านแล้วลุ้นมากค่ะ กลัวตอแห้วอ่ะ ตอนแรกนึกว่าพี่เค้าให้ความหวังทั้งที่ไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นกับตอด้วยซ้ำ ที่ไหนได้ พี่โบนาโคตรน่ารักเลยค่ะ ฮือออออออ รอกันมาหลายปี ตอนนี้ก็ได้สมหวังกันแล้วเนอะ คุ้มค่ากับการรอคอยมั้ยล่ะเจ้าตอ ตอไม่เด็กแล้วน้าาาาา 5555555 สนุกมากค่ะ ชอบอ่ะะะะะะะ
shallot_ss (@shallot_ss)
อ่านแล้วชอบค่ะ ตอนแรกไม่ได้สนใจวงนี้ แต่พอเห็นความสวยฟรุ้งฟริ้งของหลายๆคนประกอบกับมีฟิคนี้ไหลผ่านทลมาก็เลยต้องเข้ามาอ่านและศึกษา สุดท้ายกลายเป็นชอบคู่นี้ไปด้วยเลย พี่โบนานี่เป็นพี่สาวที่น่าทะนุถนอม เราเป็นอึนซอเราก็รอนะ5555 สุดท้ายก็เห็นว่าพี่เค้าก็รักน้องมากไม่แพ้กัน ดูเป็นความรักที่บริสุทธิ์สวยงามและน่าใฝ่ฝันถึง แม้ชีวิตจริงยากจะเกิดขึ้น แต่อ่านแล้วแบบ ฮรืออ ดีอะ แฟนเด็กก็น่ารัก พี่สาวก็น่ารักก
nobi (@nobitfn)
ตอไม่เด็กแล้วนะ ตอไม่เด็กแล้วนะ ตอไม่เด็กแล้วนะ ตอไม่เด็กแล้วนะ แต่ตอก็ยังไม่ได้กินพี่เค้านะคะ ท่ดๆ 5555555555
รอมาได้ตั้งสามปี อีกสามเดือนจะเป็นไรไปล่ะะะะะ (ทำไมมุ่งประเด็นนี้ก่อน)

ตอนที่แม่บอกว่าพี่เค้าจะไม่มาหา แล้วตอร้องไห้ นี่เศร้าไปด้วยเลย รู้เลยว่ารักเมนมาก 5555555
นี่สรุปว่าพี่เค้าชอบน้องก่อนอีกหรอคะ แต่เห็นว่าน้องยังเด็กงี้ โห่วววว กินเด็กอะะะ
ละแบบ ถือว่าความอดทนเป็นเลิศทั้งคู่อ่ะค่ะ ตอต้องทำตัวไม่งอแง คิดถึงก็ไม่บอก เราว่าเด็กที่พยายามจะทำตัวเป็นผู้ใหญ่มันยากอ่ะ เพราะเด็กยังไงก็คือเด็ก คงฝืนน่าดู
แต่คนพี่นี่ผิดคาดมากๆ สรุปชอบก่อน เขียนเล่าความรู้สึกตัวเองไว้ด้วย ละมีการไปแอบดูน้องที่โรงเรียนด้วย โอ้วโหวววว เหมือนคุณแม่ไปแอบดูลูก 5555555
3ปีจริงๆมันนานนะคะ แล้วคุยติดต่อกันไม่เยอะ ชีวิตจริงคนเราจะมั่นคงได้แบบในฟิคมั้ยนะ 555555555

ขอบคุณความหลงพิโบที่ทำให้เราได้อ่านฟิค (อีกแล้ว)...... แต่งต่อไปนะคะ เลาจะลอออออ
เรื่องต่อไปเป็น #ตอได้กินพิโบแล้วนะ หรือ #พิโบกินเด็ก ดีมั้ยคะ /) (\

ปล ไอเว็บนี่มันปิดชื่อคนเม้นไม่ได้หรอคะ รู้สึกว่ามันโจ่งแจ้ง อาย 55555555