เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Movie ReviewJaturaphat Wannapoporn
Finding Dory ผจญภัยดอรี่ขี้ลืม
  • รายละเอียด

     

    ผู้กำกับ : Andrew Stanton, Angus MacLane

    ค่ายหนัง : Disney Pixar

    หมวดหมู่ : แอนิเมชัน

    เรท : ทั่วไป

    ความยาว : 103 นาที

    ฉายในระบบ : 2D (Digital, ATMOS) / 3D (Digital, IMAX, ATMOS)

    มีการจำกัดโรงหรือไม่ : ไม่


    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



              ห่างหายกับหนังแอนิเมชันไปนาน ล่าสุดที่ไปดูมาก็ Zootopia ตั้งแต่เดือนกุมภาแล้ว กลับมารอบนี้ก็เป็นหนังของ Disney เหมือนเดิม (จริงๆ อยากพูดว่า Pixar มากกว่า แต่เค้าซื้อไปแล้วทำไงได้ ฮือๆ) แถมยังเป็นภาคต่อของแอนิเมชันในตำนานตั้งแต่ปี 2003 Finding Nemo สิริรวมแล้วสร้างห่างกันถึง 13 ปี!!! แต่ทางผู้กำกับออกมาบอกว่าเนื้อเรื่องในหนังจะผ่านไปแค่ 3 เดือนหลังจากที่มาร์ลินและดอรี่ไปผจญภัยตามหานีโม่ สำหรับเนื้อเรื่องในภาคนี้ ดอรี่ เจ้าปลาบลูแทงก์ขี้ลืมจะเป็นตัวเอกของเรื่อง พาเราไปผจญภัยตามหาครอบครัว..... ความหลังที่เคยเลือนหายไป แต่หัวใจเรียกร้องให้จำได้อีกครั้ง

              ปกติแล้วเป็นคนไม่ชอบปลา แต่ชอบกินปลา (งงดิ) ก็เลยรู้สึกว่าปลาในเรื่องมันไม่ค่อยน่ารัก 555 ข้ามไปดีกว่า ว่ากันที่เนื้อเรื่องกันเลย จุดเด่นของหนัง Pixar ทุกเรื่องก็คือเนื้อเรื่อง ซึ่งเรื่องนี้จะเน้นไปที่ประเด็น ครอบครัว ความรักความผูกพันเป็นสายใยผูกรั้งความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวให้ไม่ขาดออกจากกัน แม้วันนึงอาจจะลืมหายไป แต่มันจะไม่หายไปตลอดกาล (ทำไมต้องคม) แน่นอนว่าของเค้าดีอีกแล้วครับท่าน ผู้กำกับเค้าคัดสรรและคั้นประเด็นนี้เต็มที่จนได้น้ำผลไม้เลิศรส ลากไปตั้งแต่ครอบครัวจริงๆ แบบพ่อแม่ลูก ครอบครัวแบบเพื่อนทั้งในอดีตและปัจจุบัน ถ่ายทอดออกมาแบบง่ายๆ ไม่ซับซ้อนทางคำพูดของตัวละคร แต่ก็มีการใส่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ตลอดการเล่าเรื่อง เพื่อปูทางไปให้ถึงจุคพีคในตอนท้ายของหนัง

              อีกประเด็นที่น่าสนใจก็คือประเด็น อยากอยู่คนเดียว อันนี้ก็น่าสนใจดี มีการเสียดสีสังคมในปัจจุบันแบบนิดๆ ซึ่งประเด็นนี้รับบทนำโดยเจ้าหมึกที่เคยมีแปดหนวด แฮงก์ แต่ประเด็นนี้เค้าไม่ค่อยขยี้อะไรมากมาย เรื่อยๆ ไปตามเนื้อเรื่อง แล้วก็มาสรุปจบในตอนท้ายของเรื่องอย่างเดียว เลยไม่ค่อยอินมากแต่ก็ยังดีอยู่ สำหรับวิธีการเล่าเรื่องของหนังเรื่องนี้จะใช้วิธี ตัดสลับไปสลับมาระหว่างเรื่องปัจจุบันและเรื่องในอดีตของดอรี่ ไขปริศนานึงได้ก็ตัดไปทีนึง เหมือนหนังสืบสวนดี 55 วิธีนี้ก็เลยทำให้การปะติดปะต่อเรื่องเพื่อลากมาให้ถึงจุดพีคมันดียิ่งขึ้นไปอีก ตอนถึงจุดพีคนี่ผมรู้สึกเลยว่า เฮ้ยเจ๋งหวะ หลอกผมด้วยรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ได้ตลอดทั้งเรื่อง



              และสำหรับภาคนี้จะไม่ได้เน้นไปที่สัตว์สายพันธุ์เดียวกับปลาเป็นหลักแล้ว เขาเน้นไปที่สัตว์สายพันธุ์อื่นๆ ด้วย อย่างหมึก หอย สิงโตทะเล นก และคน บทมันก็เลยกระจายไปให้ทุกภาคส่วนเลย เพื่อแสดงถึงความร่วมมือร่วมใจของสัตว์หลายสายพันธุ์ (ว่าแต่คุยกันรู้เรื่องได้ไง 55) จริงๆ จะมองเรื่องนี้เป็นอีกประเด็นก็ได้ แต่มันก็เวอร์ไปนิดนึง ข้อดี ก็คือมันหลากหลายมากขึ้น หนังมีอะไรให้เล่นมากขึ้น อย่างหมึกก็แทบจะเป็นตัวเอกรองจากดอรี่เลย เก่งโคตร 55 ส่วนสิงโตทะเลกับนกนี่โคตรฮา โคตรดี เป็นตัวแย่งซีนของหนังเลย จังหวะความฮาของหนังนี่ต้องขอชมว่าฮาทุกตอนที่เล่นจริงๆ แถมยังสามารถดึงเอาจุดเด่นของสัตว์แต่ละใช้ชนิดมาใช้สร้างความแปลกใหม่ให้กับหนังได้อีก สบายไปเลย

              ส่วน ข้อเสีย ผมว่าพอตัวละครมันเยอะ บทมันก็กระจายเยอะไปหน่อย มันไม่ค่อยอิ่มไม่ค่อยอินไปกับแต่ละตัวละคร ส่วนหนึ่งก็น่าจะเพราะไม่ได้ปูพื้นให้กับแต่ละตัวละครด้วย (ก็เข้าใจว่าเวลามันบีบและทุนมันแพงด้วย) ละก็แอบรู้สึกว่าคุมตัวละครไม่ค่อยอยู่ บางทีก็ใช้ไม่คุ้ม อย่างเจ้าหมึกแฮงค์ที่ผมรู้สึกว่าคาแรกเตอร์ของตัวละครมันสับสนนิดๆ และสิ่งที่ตัวมันทำลงไปก็มีความขัดแย้งอยู่ หรือเจ้าปลานีโม่ ที่บทไม่ค่อยมีเยอะ ไม่ค่อยดึงอะไรในตัวนีโม่ออกมาเล่น แต่ก็ผมอาจจะคิดไปคนเดียวเหมือนกัน 55 และท้ายสุดเลยก็เรื่องความไม่เมคเซนส์ จริงๆ ก็รู้อยู่ว่าแอนิเมชั่นมันก็เวอร์ๆ อยู่แล้ว คือบางสิ่งที่ตัวละครทำไปมันขัดกับที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้า หรือบางอย่างมันก็ไม่น่าใช่สิ่งที่ตัวละครนี้จะทำน่ะครับ

              ท้ายสุดแล้วก็ต้องขอชมเรื่องงานภาพ ว่ายังทำได้หน้าตื่นตาตื่นใจเหมือนเดิม ระหว่างการผจญภัยหนังจะพาไปชมท้องทะเลที่งดงามอุดมไปด้วยสัตว์นานาพันธุ์ที่มีความน่ารักฟุ้งฟิ้งมุ้งมิ้ง (แต่ไม่ชอบปลา...) หรือจะเป็นท้องทะเลที่ถูกทำลายด้วยน้ำมือของมนุษย์เต็มไปด้วยเศษซากขยะ แทบไม่มีสิ่งมีชีวิต และที่สุดท้ายคือศูนย์ศึกษาสิ่งมีชีวิตทางทะเล ผมชอบที่นี่มาก มันอารมณ์เดียวกับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเลย มีอะไรให้ดูเต็มไปหมด ขอชมคนออกแบบเลยว่าเก่งมาก ทำได้น่าสนใจดีครับ

     

              ขอแถมนิดนึง ก่อนเริ่มเรื่องจะมีแอนิเมชันแปะหัวเรื่องชื่อ Pipers ซึ่งเป็นเรื่องราวของนก Sandpiper (นกอีก๋อย, นกปากซ่อม) ยาวประมาณ 4-5 นาที น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ลงรายละเอียดที่ตัวนกดีมาก (โดยเฉพาะขนนก) บางมุมนี่นึกว่านกจริงๆ เน้นไปที่การแสดงออกน่ารักๆ ของเจ้านกและเพื่อนปูตัวน้อยๆ เรื่องราวเลยไม่ค่อยมีอะไร แต่ดูแล้วยิ้มได้ หัวเราะได้ สรุปคือดีงาม


    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

     

    คะแนน

    คะแนนจาก Koma : 7.6/10

    คะแนนจาก IMDb : 8.0/10 จากผู้โหวต 27,000 คน

    Metascore จาก IMDb : 77/100

    คะแนนจาก Rotten Tomatoes : 95% => Fresh!!!

     

    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


    What if I forget you?

    Would you ever forget me?

     

    ส่วนตัวแล้วก็ประทับใจครับ แต่ไม่ค่อยอินไม่ค่อยสุดเท่าไหร่

    ใครที่เป็นแฟน Finding Nemo อยู่แล้วก็อย่าลืมไปดูกันนะครับผมม

     

    สุดท้ายนี้ถ้าผิดพลาดประการใดก็กราบขออภัยนะครับ -/\-

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in