ตอนแรกก็งงๆ ตามไม่ค่อยทัน แต่ตอนนี้อยู่มาซักพักก็เริ่มปรับตัวได้ละ ๕๕๕๕

อย่างแรกเลยก็...

ระบบ College

คอลเลจทั้ง 31 

ขออธิบายสั้นๆก่อน ว่าเคมบริดจ์ประกอบไปด้วยหลาย เอ่อ เรียกว่าภาคละกัน 
ที่แยกเป็นอิสระต่อกัน ต่างคนต่างมีระบบของตัวเอง ถ้าที่เกี่ยวกับนักเรียนหลักๆก็จะมี 3 ส่วน

1. ตัวมหาลัยกลาง
2. Department คณะ ภาควิชา
3. College ตัวคอลเลจ

College ในที่เคมบริดจ์นี้ก็ไม่ได้แปลว่าโรงเรียน หรือวิทยาลัยแต่อย่างใด
คอลเลจจะเป็นบ้าน ให้ที่พัก โรงอาหาร และชีวิตสังคมต่างๆ
พูดง่ายๆก็บ้านแบบในแฮร์รี่พอตเตอร์นั่นแหล่ะ
เพียงแต่ที่เคมบริดจ์นี่ จะมีทั้งหมด 31 คอลเลจ กระจายตัวไปทั่วเมือง แทนที่จะเป็น 4 แบบในแฮร์รี่
มีทั้งอายุเก่าแก่ 6-700 ปี จนไปถึงคอลเลจน้องใหม่ 50 ขวบเผาะๆ
ฉะนั้นเวาลาเด็กเคมบริดจ์คุยทักทายกัน นอกจากจะถามว่าชื่ออะไรเรียนคณะอะไรแล้ว
ก็จะถามด้วยว่า เห้ เธออยู่คอลเลจไหนอ่ะ 

เดี๋ยวจะยกตัวอย่างคอลเลจบางคอลเลจมาให้ดู

Trinity College

คอลเลจอายุกว่า 500 ปี อาจจะดังที่สุดด้วย เรียกว่าเป็นกริฟฟินดอร์แห่งเคมบริดจ์ก็ว่าได้
เป็นคอลเลจของศิษย์ชื่อดังระดับโลก
อาทิ Sir Isaac Newton, เจ้าฟ้าชาย Charles, King Edward VII
หรือแม้แต่ Eddie Redmayne ก็เรียนที่นี่
เป็นคอลเลจที่รวยที่สุดในเคมบริดจ์ สวัสดิการของนักเรียนก็เลยจะดีมาก
แถมมีทุนให้เยอะแยะจ้อกแจ้กไปหมด (ตามที่เคยพูดไว้บทที่แล้ว)

St. John College

คอลเลจที่รวยเป็นอันดับ 2 ของเคมบริดจ์
และสถาปัตยกรรมสวยมากๆ ได้ข่าวว่าปาร์ตี้ May Ball ของที่นี่ที่สุดของที่สุดแล้ว
และเราชอบเดินทะลุผ่านไปเป็นทางลัดจากคอลเลจเราเข้าไปในเมือง ต้องยอมรับว่าวิวสวยมากจริงๆ

Trinity Hall

คอลเลจที่ชอบมีคนสับสนกันกับ Trinity college
ศิษย์เก่าคือ Stephen Hawking 

Pembroke College

คอลเลจเก่าแก่เช่นกัน มีศิษย์เก่าชื่อดัง นามว่าทอมฮิ

Lucy Cavendish College

ส่วนอันนี้คอลเลจเราเอง เป็นคอลเลจน้องใหม่อายุ 51 ปี
เป็นคอลเลจ mature (คือนักเรียนที่มีอายุ 21 ปีขึ้นไป) และเป็นหญิงล้วน
ให้อารมณ์คอนเวนต์ดี เหมือนสมัยอยู่มัธยม ๕๕๕๕

ทั้งนี้ทั้งนั้น ทุกคอลเลจจะแยกตัวเป็นอิสระต่อกันทั้งหมด
มีระบบจัดการบริหารของตัวเอง กฏใครกฏมัน
เช่น คอลเลจนั้นอาหารจะถูกมาก คอลเลจนี้ห้องพักดี คอลเลจนู้นซักเสื้อผ้าให้ฟรี
ก็แล้วแต่นโยบายของแต่ละคอลเลจเลย

วิธีการสมัครเข้าคอลเลจ ก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละระดับปริญญา
เท่าที่เข้าใจ สำหรับป.ตรีก็คือเวลาสมัครเข้ามหาลัยก็สมัครผ่านคอลเลจเลย
ซึ่งก็ต้องหาข้อมูลกันไปอีกว่าปกติคอลเลจไหน ชอบรับเด็กสายอะไรเป็นพิเศษ
อย่าง Trinity college ก็ชอบรับเด็กสายฟิสิกส์ หรือเลข เป็นต้น

ส่วนป.โทขึ้นไป จนถึงป.เอกก็จะง่ายหน่อย เวลาสมัครเข้ามหาลัย กับเข้าคอลเลจมันจะแยกกัน
ตอนสมัครจะสมัครกับมหาลัยกลาง แต่เรามีสิทธิเสนอชื่อคอลเลจที่เราอยากอยู่ได้ 2 อันดับ
แต่ถ้าเกิดไม่ได้ทั้ง 2 อันที่เลือกไป ก็จะโดน pool ไปให้สุ่มให้ลุ้นเอาว่าได้อยู่คอลเลจไหน