เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ย้ายโรงเรียนรอบที่ล้านPhendao C.
02 - อนุบาลวารี
  • เตรียมอนุบาล : โรงเรียนอนุบาลวารี

    สร้างคนดีมีปัญญา พัฒนาศักยภาพของนักเรียน ก้าวไกลสู่เวทีโลกอย่างสร้างสรรค์ด้วยคุณภาพมาตรฐานการศึกษาระดับสากล

    ตั้งอยู่ที่ 59 หมู่ 6 ถนนมหิดล ตำบลหนองหอย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 50000

     ..

    โรงเรียนแรกในชีวิตเมื่อก่อนจำได้ว่าชื่อโรงเรียนอนุบาลวารี เดี๋ยวนี้เค้าเติบโตกลายเป็น"โรงเรียนวารีเชียงใหม่" มีสอนตั้งแต่อนุบาลถึงมัธยมศึกษา

    การหาโรงเรียนแรกของลูกนั้นเป็นเรื่องยากสำหรับคนเป็นพ่อแม่เลยทีเดียว แม่เล่าให้ฟังว่าไปเซอร์เวย์อยู่หลายที่แต่ที่เลือกอนุบาลวารีก็เพราะว่าเจ้าของโรงเรียนเป็นรุ่นพี่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย (สายสัมพันธ์คอนเนคชั่นมันดีอย่างนี้นี่เองจำเอาไว้ทุกคน)

    วัยอนุบาลเป็นวัยที่แปลกอยู่อย่างนึงคือถ้ามีอะไรฝังใจก็จะจำได้ติดหัวเลยนะ แม้ว่าจะยังเป็นเด็กน้อยก็ตาม

    จากรูป cover ไม่ต้องสงสัย เราเองเนี่ยแหละ เด็กที่ยื่นหน้ากวนตีนๆ มาที่กล้อง :D


    First day of school

    ตอนเด็กๆแม่จะให้ไว้ผมทรงบ๊อบ แล้วตัวก็จะขาวๆอวบๆกลมๆ เหมือนกล้วยไข่ ทาแป้งหน้าขาวหอมๆไปโรงเรียนทุกวัน ซึ่งตอนนั้นเราจำได้ว่าเป็นเด็กที่จะตื่นเต้นกับการไปโรงเรียนมากๆ แม่แต่งตัวให้เสร็จก็รีบวิ่งออกไปรอหน้าบ้านประหนึ่งนกอินทรีน้อยที่อยากจะเปิดปีกบิน มั่นใจสุดๆ ลูกมั่นใจมากพ่อแม่ยิ่งมั่นใจมากกว่า ทุกคนออกจากบ้านเหมือนว่าจะส่งลูกไปฮาร์วาร์ด แม่บอกว่าไอ้หมูมันสะพายกระเป๋าสีแดงเตรียมพร้อมกับการไปโรงเรียนวันแรก หลังจากที่พ่อแม่ได้พาไปเที่ยวโรงเรียนหลายรอบก่อนหน้านั้นเป็นเวลาสองอาทิตย์! เพื่อเป็นการ"ซ้อม"ไปโรงเรียน ให้เกิดความคุ้นชิน

    อยู่บนรถแม่ก็ถามว่าหนูอยู่ได้ไหมคะ ไอ้หมูก็ตอบว่า "อยู่ได้ค่ะ” จนไปส่งถึงหน้าห้องเรียน

    แม่ทำท่าหันหลังเหมือนจะกลับบ้านแต่จริงๆแล้ว.....

    ไปแอบดูอยู่ริมรั้วสังเกตการณ์ แล้วเสียงที่ได้ยินคือ

    ไอ้หมูมันแหกปากก่อนใครเลย ร้องไห้ แม่ได้ยินอยากจะไปรับกลับบ้าน แต่ป่าป๊าที่อยู่ด้วยกันตลอดบอกว่าต้องใจแข็ง ไม่งั้นลูกจะอยู่ไม่ได้ ต้องฝึกเค้า แม่เลยยอมกลับบ้านแต่โดยดี

    ครูเดือนมาเล่าให้แม่ฟังทีหลังว่าเด็กคนอื่นๆจากที่ไม่ร้อง เลยร้องตามกันเป็นขบวน (ไอ้หมูเอ๊ยยย..)

    แต่คงเป็นเรื่องปกตินะ ที่เด็กเตรียมอนุบาลจะต้องมาคู่กับการร้องไห้คิดถึงแม่ เพราะเราผูกพันกับแม่มาตั้งแต่ตัวยังเป็นวุ้น อยู่ในท้องนางมา 9 เดือน คลอดออกมากอดแรกที่เราได้สัมผัสคืออ้อมอกของแม่ แล้วผู้หญิงคนนี้แหละที่ต้องตื่นมาให้นมและปลอบโยนเราตอนกลางดึกและทุกๆเวลาที่เราต้องการมันจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เราต้องคิดถึงแม่เพราะโรงเรียนอนุบาลเป็นสถานที่แรกที่เราจะได้หลุดจากสายตาป่าป๊าและหม่าม้าเพื่ออยู่ในความดูแลของคุณครู พร้อมด้วยเด็กคนอื่นๆที่ต้องร่วมชะตากรรมด้วยกัน

    ถ้าธรรมดาจะไม่ใช่ไอ้หมู แม่บอกต้องมารับคุณหนูตั้งแต่เที่ยง เพื่อนคนอื่นๆเค้าอยู่กันถึงบ่ายสามแต่ไอ้หมูจะโยเยร้องกลับบ้าน แต่แก้วเป็นอย่างนี้อยู่เดือนสองเดือน หลังจากนั้นก็แกร่งขึ้นชอบทำตัวเป็นผู้ช่วยครูเดือนดูแลเพื่อนๆ ส่งเพื่อนเข้านอนแล้วก็ชอบไปโรงเรียนมากขึ้น เพราะครูเดือนเอาเพลงมาสอนให้ร้องเลยอินกับการไปโรงเรียนมากขึ้น เนื้อเพลงมีอยู่ว่า

    “มาโรงเรียนมีเพื่อนมากมายเหงาจะตายอยู่บ้านคนเดียว ที่โรงเรียนมีเพื่อนกรูเกรียวอยู่บ้านคนเดียวมาโรงเรียนดีกว่า"


    สับปะรด

    ความทรงจำที่เด่นชัดที่สุดของการอยู่โรงเรียนอนุบาลวารีคือ การแสดงประจำปีของนักเรียน จำได้ว่าโชว์ของเราจะเป็นการเต้นในชุดสับปะรด ยังจำชุดได้เลยเป็นชุดกลมๆสีเหลืองๆ เหมือนสับปะรด แม่เล่าให้ฟังว่าตอนนั้นหนูมั่นใจมาก กลับบ้านไปซ้อมทุกวัน ร้องแต่เพลงสับปะรด อยู่บนรถก็กระโดดดึ๋งๆ อาบน้ำก็ร้องแต่เพลงสับปะรด จริงจังจนครูเดือนเลือกให้ยืนเต้นข้างหน้าเพื่อนๆ นับว่าเป็นความภูมิใจครั้งแรกของพ่อแม่และวงศ์ตระกูลเป็นอย่างมาก

    เหตุการณ์ ณ วันนั้น จำได้ว่าสถานที่การแสดงเป็นอารมณ์สนามกีฬาประจำเมือง แม่เล่าให้ฟังว่าลูกตื่นเต้นมากกกก (อย่างกะจะไปแข่งเดอะวอยซ์) เสื้อผ้าหน้าผมพร้อมแสดงตั้งแต่ออกจากบ้าน แต่ ณ วินาทีที่ต้องขึ้นแสดงนั้ เพลงอินโทรขึ้น! ปรากฎว่าลูกสาวแม่ออกไปยืนร้องไห้โฮต่อหน้าฝูงชน ร้องแบบร้องโฮแบบขอชีวิตจริงจังจนแม่ออกมารับข้างเวทีแทบไม่ทัน

    เอาจริงๆจำไม่ได้ละว่าทำไมถึงร้องไห้ แต่นับว่าตอนนั้นเป็นการแสดงออกครั้งแรกของเด็กหญิงเพ็ญดาวถึงจะล้มเหลวไม่เป็นท่า ทำเอาแม่ขายหน้าเค้าก็ตาม แต่ก้าวแรกก็นับว่าเป็นก้าวแรกที่สำคัญของวัยเริ่มเกรียน


    หัวปูด

    และช่วงเตรียมอนุบาลเป็นช่วงที่ซนมาก แม่จะบอกตั้งแต่เล็ก(จนโต)เลยว่า เราเป็นเด็กผู้หญิงที่เหมือนเด็กผู้ชาย คือจะซนเป็นลิง ซนสุดๆแผลแรกที่ได้จนถึงตอนนี้คือ รอยแผลเป็นใต้คางเกิดมาจากการตกบันได เป็นโรคชอบเต้นชอบกระโดด แม้กระทั่งขึ้นลงบันไดเลยเป็นเหตุให้เกิดเลือดนอง

    เอ่อ...ถึงจุดนี้ก็ขอฝากถึงคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ทั้งหลายนะคะ ว่าอย่าปล่อยให้ลูกของท่านฝึกวิชาเห้งเจียแต่เด็กเพราะวัยนี้นี่คลาดสายตาไม่ได้เลย

    หลังจากคางแตกก็จะมีหัวปูดหัวโนตลอดเวลา ตอนอยู่อนุบาลวารีจำได้ว่าหน้าผากข้างใดข้างหนึ่งจะต้องปูดเป็นลูกมะนาว แล้วแม่ก็จะโปะดินสอพองไว้ พอข้างนึงยุบ อีกข้างนึงก็ปูดอีกขึ้นลงอัพแอนด์ดาวน์อยู่อย่างนั้น จนเป็นภาพชินตาก็ครูเดือนครูประจำชั้นและเพื่อนๆเนื่องจากเป็นเด็กที่(โคตร)ซน หัวเลยชอบไปกระแทกนู่นนี่ตลอด

    นอกจากจะมีเรื่องเจ็บตัวบ่อยเป็นอาจิณกรรมแล้ว ยังมีเรื่องเจ็บหัวใจที่นำไปสู่ความดราม่าที่ยังจำได้ถึงทุกวันนี้

     

    ซันนี่

    ทุกคนต้องจำได้ถึงสัตว์เลี้ยงตัวแรกเพราะจะเป็นอารมณ์คล้ายๆ เรามีโปเกมอนประจำตัวเป็นของตัวเองยิ่งถ้าอยู่กับเรานานจะยิ่งผูกพัน จำได้ช่วงวัยนั้น ป่าป๊าซื้อหมามาให้ตัวนึงพันธุ์อัลเซเชี่ยนชื่อว่า ซันนี่

    สุนัขพันธุ์นี้จะตัวใหญ่ ป๊าซื้อมาตอนมันค่อนข้างโตแล้ว มันน่ารักและซนมากแต่สิ่งหนึ่งที่บิดาลืมไปนั่นก็คือ

    ลูกสาวตัวเองเพิ่งจะอยู่เตรียมอนุบาล !!!

    ซันนี่เป็นเพื่อนรัก เรารักกันมาก และเราเล่นด้วยกันทุกวัน แต่สิ่งที่ซันนี่ชอบทำซันนี่ชอบกระโดดใส่ มันไม่ได้ตั้งใจหรอก แต่ตัวมันใหญ่และตัวเรายังติ๊ดเดียวเอง เลยทำให้ล้มแล้วร้องไห้บ่อย

    ป๊าเริ่มรู้สึกผิด รู้สึกได้ว่าถ้าสมองลูกสาวกระทบกระเทือนมากกว่านี้อาจจะทำให้สติสัมปชัญญะไม่สมบูรณ์ได้เลยตัดสินใจยกซันนี่ให้กับคนรู้จัก

    เหตุการณ์วันนั้นยังจำได้ดี มีรถกระบะคันนึงเข้ามาในบ้าน ป๊าจูงซันนี่ขึ้นหลังรถกระบะ ตัดภาพมาเรานั่งดราม่าร้องไห้เป็นเผาเต่าอยู่ที่ชิงช้า ซันนี่คงรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น มันกระโดดลงจากรถขณะที่ป๊ากำลังคุยกับเจ้าของใหม่อยู่ วิ่งมาหาเรา เอาหน้ามันมาแนบ แล้วเลียหน้าเบาๆ เหมือนจะบอกว่า "ไม่เป็นไรนะ อย่าร้องไห้นะ" แล้วมันก็วิ่งกลับไปที่รถ กระโดดขึ้น แล้วก็ลงไปนั่งอย่างว่าง่าย

    แล้วซันนี่ก็จากไป

    ยังจำได้ดีจนถึงวันนี้ เตรียมอนุบาล กับหมาตัวแรก เป็นการสอนตัวเองครั้งแรกเลยว่า อะไรที่เรารักถึงเราจะรักมากแค่ไหน สักวันหนึ่งก็ต้องจากกันไป ไม่ว่าจะเป็นการจากกันเพียงชั่วคราวหรือจากกันตลอดไปก็ตาม

    คิดถึงซันนี่นะ(ป่านนี้แกคงตายไปแล้วล่ะ) แต่อยากให้รู้ว่าขอบคุณที่เป็นเพื่อนกันถึงเราจะอยู่ด้วยกันแค่แป๊ปเดียว แต่คำว่าเพื่อนแท้ ถ้าเป็นแล้วเราจะเป็นตลอดไป <3

     

    เราอยู่อนุบาลวารีแค่หนึ่งปี ความทรงจำมีไม่เยอะเท่าไหร่เพราะยังเด็กมาก แต่เรียกได้ว่า...ก้าวแรกยังไงก็สำคัญเสมอ  

    (เรื่องนี้เขียนไว้เมื่อสามปีก่อน ไม่เคยเผยแพร่ที่ไหน)

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in