ตื่นแต่เช้า กินอาหารเช้าแล้วเพื่อนแยกตัวไปทำงาน ออกลุยเดี่ยวเที่ยว Jerusalem แบบ city tour โดยแวะถามวิธีการจากพนักงานต้อนรับของโรงแรม

กำลังจะออกจากโรงแรม ชายวัยกลางคนแต่งกายสุภาพเดินเข้ามาถามเบาๆว่า ได้ยินว่าจะเที่ยวรอบเมือง ให้เขาพาเที่ยวไหม ไปรถส่วนตัว ค่าใช้จ่ายไม่แพงตอบกลับไปว่า ไม่ละ ขอบคุณ ซึ่งไม่มีการเซ้าซี้ใดๆ

ออกจากโรงแรมข้ามถนนมาฝั่งตรงข้ามยืนรอที่ป้ายรถเมล์ซักพัก รถเมล์ 2 ชั้น  City tour 

ขึ้นไปซื้อตั๋วกับคนขับจะได้หูฟังไว้ฟังคำบรรยายสถานที่ที่รถกำลังแล่นผ่าน มีภาษาหลักให้เลือก เช่นอังกฤษ ฮิบรูว์ อารบิค เยอรมัน เป็นต้น พร้อมใบปลิวแผ่นเล็กๆ  บอกจุดและเวลาที่รถวิ่งผ่าน

รถวิ่งเป็นวงกลมผ่านสถานที่สำคัญต่างๆ เช่นเมืองเก่าซึ่งจะมีผู้โดยสารขึ้นลงมากสถานีหนึ่ง สวนสัตว์ TISCH (ได้รับเงินอุดหนุนจากTisch Family มีสัตว์ต่างๆ ที่ปรากฏในคัมภีร์ไบเบิ้ลและมีควาญช้างซึ่งเป็นคนไทยทำหน้าที่ดูแลช้าง) พิพิธภัณฑ์ รัฐสภา ศูนย์การค้า สถานที่ฝังศพยุวชนทหารที่พลีชีพเพื่อชาติสถานีรถบัส เป็นต้น ถ้านั่งครบรอบโดยไม่แวะลงจุดใดเลยใช้เวลาประมาณ 2 ชม.หรือจะแวะลงเดินที่จุดใดจุดหนึ่ง แล้วรอรถคันต่อไปไม่ผิดกติกาใดๆ

City Bus Tour จะวิ่งบริการนักท่องเที่ยววันละ 4 เที่ยวเที่ยวแรกเริ่มต้นที่สถานรถบัสเวลา 09.00 น. เที่ยวสุดท้ายออกประมาณ 15.30 น.

นั่งรถวนรอบเมืองพร้อมโดดขึ้นโดดลงจนครบรอบโดดลงอีกทีที่ Old city ตรง Jaffa gate  แวะเข้าสำรวจห้องน้ำ แน่นอนต้องเสียค่าบริการนิดหน่อยจ้า จำนวนห้องน้ำน้อยไปหน่อย แต่สะอาดสะอ้านดีสำหรับห้องน้ำสาธารณะ แม้ว่าผู้ใช้บริการส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวแต่มีวินัยในการใช้บริการสาธารณะคือช่วยกันรักษาความสะอาดสถานที่เลยออกมาดูดี

ห้องน้ำในเขต old city แถวร้านขายที่ระลึกมีบริการ สะอาดดีใช้ได้

ออกมาเจอช่องขายตั๋วสำหรับปีนบันไดขึ้นไปเดินบนกำแพง (Rampart walk) ตะกายขึ้นบันไดไปบนเชิงเทิน พอ โผล่ขึ้นมาเจอกองถ่ายเล็กๆ กำลังถ่ายทำ video เพลงพอดี

ไต่ขึ้นไต่ลงกำแพงซักพักเจอเด็กผู้หญิงเล็กๆ 3 คนพี่น้องมากับพ่อแม่และยาย ช่างพูด ซัก ถาม พ่อบอกว่าเดิมอยู่สหรัฐอเมริกา เพิ่งย้ายครอบครัวกลับมาอยู่ที่ Tel Aviv ได้ประมาณ10 ปี ท่าทางสุภาพ น่ารักมากทั้งครอบครัว บอกว่าขอถ่ายรูปหน่อย ทั้ง 3 พี่น้องต่างตั้งท่าไม่มีเขินอาย พร้อมขอดูผลงานจากกล้องดิจิตอลเสียดายไม่ได้ถามที่อยู่ไว้

เดินมองหลังคาบ้านผู้คนที่อยู่ในเขตเมืองเก่าซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาหรับ สำหรับเขตของยิว (Jewish Quarter) และคริสต์ (Christian Quarter) จะเป็นโบสถ์สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ไม่ใช่ที่พักอาศัย

ลงจากกำแพงแถวถิ่นอาหรับ ซึ่งเมื่อเล่าให้เพื่อนฟังเพื่อนบอกว่า ไม่ค่อยมีใครเดินหรอก น่ากลัว ว่างั้นแหละ เพราะตอนเดินวนเวียนอยู่ดูวิเวกวังเวงยังไงไม่รู้

ลัดเลาะไปตามตรอกซอกซอย (หลงทางค่ะ หาทางออกไม่ได้) ตลอดทางมีร้านค้าเป็นระยะๆ พ่อค้าชักชวนให้เข้ามาชมสินค้า ทักทายถามไถ่กัน พอรู้ว่ามาจากประเทศไทยทีนี้แหละคุยยาว หลายๆ คนเคยมาเที่ยวเมืองไทยกันคนละหลายๆ ครั้ง ชอบเกาะสมุยมาก บางร้านมีน้ำชาให้กินด้วย

ในที่สุดมาถึง Wailing Wall ผู้คนยังเนืองแน่นเหมือนเดิมเพราะยังอยู่ช่วงวันหยุดยาว

อากาศดี แดดออก ดีกว่าเมื่อวานที่ฝนตกพรำๆและบรรยากาศมัวซัว

บ้างนั่งกินอาหารที่เตรียมมา บ้างถ่ายรูปบนกำแพงมีการตีกลอง เป่าเขาสัตว์พร้อมโยกย้ายส่ายสะโพกเฉลิมฉลองกันเป็นที่ครึกครื้น

เดินดูผู้คนมาเรื่อยๆ จนถึง Jaffa gate มี ghost guide เข้ามาถามต้องการใช้บริการนำเที่ยวไหม ตอบปฏิเสธไปว่ามีไกด์ส่วนตัวมาด้วย แต่ตอนนี้พลัดกัน มีการต่อปากต่อคำกันสนุกสนานดี ผู้คนอารมณ์ดี ไม่ค่อยมีหงุดหงิดให้เห็นเท่าไหร่

เหนื่อยมาก เดินมาครึ่งค่อนวัน สุดท้ายกลับโรงแรมดีกว่า

เลาะเรื่อยมาตามตลาดอาหรับ มีร้านขายผลไม้เนื้อแกะทั้งหัวแช่อยู่ในน้ำยาอะไรไม่รู้ส่วนตัวแขวนทั้งตัวอยู่ในตู้เย็นขนาดมหึมา ผลไม้ ผักต่างๆราคาถูกทั้งขายปลีกและขายส่ง มีขอทานเดินเข้ามาขอเงิน ท่าทางน่าสงสารแต่ต้องรีบเดินเกาะกลุ่มกับนักท่องเที่ยวเอาไว้เพื่อความปลอดภัย

กลับมาถึงโรงแรมทีวีกำลังออกอากาศข่าวระเบิดพลีชีพที่ Tel Aviv ซึ่งอยู่ห่างไป 30กม. ระเบิดที่ร้านอาหารมีคนตาย 9 คน บาดเจ็บ 30-40 คน

ลงมากินข้าวเย็นกับเพื่อน บอกว่า พรุ่งนี้กินข้าวแล้วกลับ Haifa เลยดีกว่า และเป็นวันหยุดวันสุดท้าย ช่วงบ่ายจะไม่ค่อยมีรถเมล์วิ่ง