เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
[SF] Gumiho | NOMINPrimroseYellow
3
  • 3

     

     

    “ข้าคือคนรักของเจ้าเมื่อหนึ่งพันปีก่อน” น้ำเสียงที่เอื้อนเอ่ยออกมาช่างคุ้นหูของคนฟังเสียเหลือเกินเจโนพยายามนึกแล้วนึกอีกก็ไม่สามารถนึกได้ว่าเขาเคยได้ยินจากที่ไหน  “ข้าคิดถึงเจ้าพอ ๆ กับที่เคียดแค้นเจ้า” แจมินเดินเข้าไปใกล้พร้อมกับประคองใบหน้าของชายหนุ่มเอาไว้อย่างแผ่วเบา

    “เจ้าพูดอะไรข้าไม่เข้าใจ” รูปโฉมงดงามแต่เต็มไปด้วยความน่าเกรงขามเขาไม่สามารถละสายตาออกจากนางตรงหน้าได้แม้ใจอยากเบือนหนีไปเท่าไหร่ก็ตาม

    “แล้วสักวันเจ้าจะเข้าใจ”

    “ปล่อย” น้ำเสียงราบเรียบทำเอาหญิงสาวชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะยอมปล่อยมือตามที่อีกฝ่ายต้องการ

    “เจ้าคงเหนื่อย นอนพักเถอะข้าจะไม่กวน”  สิ้นประโยคนั้นเจโนก็ล้มตัวนอนลงกับพื้นทันที

     

    มือเรียวสวยลูบศีรษะบนตักอย่างรักใคร่แม้จะผ่านไปนานถึงพันปีแต่ความรักยังคงผูกเอาหัวใจสองตัวโยงเป็นสายใยเส้นบางอยู่เจโนคนในอดีตเป็นคนละคนกับปัจจุบันนางรู้ข้อนี้ดีแต่ดวงจิตนั้นยังคงเป็นดวงจิตเดียวกันต่อให้เขาไม่ได้อยู่ในรูปลักษณ์เดิม นางก็จะไม่มีทางลืมเป็นอันขาด

    กลีบปากบางประทับลงที่ขมับของชายหนุ่มเสียงเพลงที่ไร้ทิศทางช่วยขับกล่อมให้เจโนเข้าสู่ห้วงของนิทราลึกขึ้นจนแทบจะลืมเลือนเสียทุกสิ่งดาบเล่มเดิมยังคงอยู่ไม่ไกลจากแจมิน หากนางใจแข็งอีกเสียหน่อยคงหยิบมันขึ้นมาปลิดชีพชายผู้นี้แล้วแต่เพราะความรักนางจึงทำได้เพียงมองเท่านั้นหากค่ำคืนนี้คือจุดเริ่มต้นของการแก้แค้น แจมินก็คงเลือกก้าวผิดข้างโดยไม่รู้ตัวหรือแท้จริงนางอาจตัดสินใจกับเส้นทางที่เลือกแล้วแม้ตอนจบอาจเป็นเช่นเดิมแต่นางกลับยอมเพื่อบุรุษผู้เป็นที่รักยิ่ง

    ในความฝันเขายืนอยู่ริมหน้าผาอันสูงชันแรงบีบแน่นที่ฝ่ามือรับรู้ได้ว่ามีใครบางคนกำลังหวาดกลัวต่อบางสิ่งอยู่เสียงสุนัขเห่าหอนไปทั่วบริเวณยิ่งบีบให้ความกลัวเกาะกุมจิตใจมากขึ้นเขาหันไปมองเสี้ยวหน้าของหญิงสาว “เจ้าฆ่าข้าทำไม เพราะข้าเป็นปีศาจอย่างนั้นหรือแม้ว่าข้าจะเกลียดสิ่งที่ข้าเป็นและพร้อมจะเปลี่ยนมันเพื่อเจ้าแต่เจ้ากลับไม่เห็นค่ามันสักนิด”

    “....”

    “ข้าอยากให้เจ้าเจ็บปวดเช่นเดียวกับสิ่งที่ข้าเจอแต่ข้าก็รักเจ้าเกินกว่าจะปล่อยให้เจ้าต้องทนทุกข์ทรมานเช่นข้า”

    “....”

    “เจโน...หากข้าปล่อยเจ้าไปอีกครั้งสัญญากับข้าสิว่าเจ้าจะไม่กลับมาเพราะถ้าเป็นเช่นนั้นข้าจะไม่มีวันปล่อยมือจากเจ้าอีก”

    “เจ้าพูดอะไรข้าไม่เข้าใจ”

    “สัญญาสิ”

    “ไม่” เขาสะบัดมือออกแต่กลับเสียหลักตกลงมาจากหน้าผาสูงภาพสุดท้ายที่เขาจำได้คือหางของสุนัขสีขาวขนฟูซึ่งมันมีถึงเก้าหางแกว่งไปมารวมไปถึงหูสีขาวที่โผล่ออกมาจากศีรษะของหญิงสาวอีกด้วยชุดฮันบกสีเลือดช่วยขับให้ผิวขาวนวลผ่องเปล่งประกายสะท้อนแสงจันทร์แต่คงไม่มีสิ่งใดงดงามไปกว่าใบหน้าของนางที่มีคราบน้ำตาอาบสองแก้มทุกสิ่งเกิดขึ้นอย่างเชื่องช้าจนอดคิดไม่ได้ว่าหากย้อนเวลากลับไปได้เขาคงไม่ปล่อยมืออีกฝ่ายและเช็ดน้ำตาให้จางหายไป

    เสียงร้องของนกน้อยด้านนอกปลุกเจโนให้ตื่นขึ้นเผชิญกับโลกแห่งความเป็นจริงความรู้สึกเสมือนจริงทำให้เขาหันมองสิ่งรอบกาย เขายังคงอยู่ในวิหารเช่นเดิมเมื่อพลิกศีรษะมามองเพดานก็ต้องแปลกใจเพราะแทนที่จะเห็นเพดานเขากลับมองเห็นเพียงใบหน้าแสนงดงามของหญิงสาวแทน

    หญิงสาวเปิดเปลือกตาขึ้นเพื่อสู้แสงด้านนอก แพขนตายาวกระพือขึ้นลงราวกับปีกผีเสื้อขยับริมฝีปากบางคลี่ออกเพื่อเอื้อนเอ่ยถ้อยคำทักทาย “เจ้าหลับสบายไหม” เจโนรีบยันตัวลุกขึ้นมานั่งพร้อมกับจับไหล่ของอีกฝ่ายแน่น

    “เจ้าเป็นใครกันแน่”

    รอยยิ้มจาง ๆ ผุดขึ้นประดับใบหน้าหวาน  “หากข้าเป็นปีศาจ เจ้าจะกลัวข้าไหม”  แม้นางจะยิ้มแต่น้ำเสียงกลับตรงกันข้ามความหม่นหมองแฝงเอาไว้ในทุกถ้อยคำจนหัวใจของคนฟังถูกบีบอัดด้วยอะไรบางอย่าง  “ถ้าเจ้ากลัวก็จงรีบออกไปเสียหากเจ้ายังอยู่ข้าคง......ไม่สามารถปล่อยเจ้าไปได้อีก”  น้ำตาที่เอ่อคลอหน่วยค่อย ๆไหลลงมาอย่างอ้อยอิ่ง ลูกแก้มกลมใสสั่นไหวราวกับมันจะแตกออกเป็นเสี่ยง ๆก้านนิ้วเรียวยาวเอื้อมไปเกลี่ยมันออกจากพวงแก้มสีระเรื่ออย่างแผ่วเบา

    “อย่าร้องไห้เลย เจ้าไม่เหมาะกับน้ำตาหรอกนะ”  คำปลอบโยนแสนนุ่มนวลยิ่งทำให้หัวใจดวงน้อยที่เคยเหี่ยวเฉามานับพันปีกลับมาพองโตได้อีกครา

    “มันคงดีกว่านี้ หากเจ้าจำเรื่องเมื่อชาติที่แล้วของตัวเองได้ จำข้าจำเรื่องความรักของเรา และจำว่าครั้งหนึ่งเราเคยมีความสุขด้วยกันมากแค่ไหน”

    “ข้าไม่รู้หรอกว่าเจ้าหมายถึงอะไรหรือหมายถึงใคร แต่ตอนนี้ข้าคือข้าและข้าก็ไม่ชอบน้ำตาของเจ้าเลย”

    “เจโน...”

    “เจ้ารู้ชื่อข้าได้อย่างไร”

    “นั่นไม่สำคัญหรอก เช้าแล้วเจ้าคงต้องกลับบ้าน”

    “แล้วเจ้าล่ะ เป็นหญิงสาวเหตุใดจึงมาอยู่ในวัดเช่นนี้”

    นางเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะส่งดึงมือของเจโนขึ้นมาทาบไว้ที่ข้างแก้ม  “เพราะเจ้าในอดีตเป็นคนขังข้าเอาไว้ที่นี่ หนึ่งพันปีสำหรับการจองจำมันช่างทรมาน....ข้ามันเป็นปีศาจจิ้งจอกที่ผู้คนต่างพากันหวาดกลัว และเจ้าก็ควรจะกลัวข้าด้วย”

    “บรรพบุรุษนามเดียวกับข้าเป็นคนฆ่าเจ้า”

    นางพยักหน้า  “และเป็นคนรักของข้า”

    “ข้าไม่อาจรู้ได้ว่าตัวข้าในชาติก่อนเป็นเช่นไร ข้ารู้เพียงตอนนี้และดูเหมือนข้าจะตกหลุมรักปีศาจเช่นเจ้าเสียแล้ว”

    “เจ้าเกลียดคำโกหกและข้าเองก็ไม่ต่าง หากมันเป็นเพียงคำปลอบโยนเพื่อให้น้ำตาข้าเหือดหายเจ้าก็ไม่จำเป็นพูดมันออกมา”

    ชายหนุ่มคลี่ยิ้มบาง  “เจ้าคิดมากเกินไปแล้วข้าซื่อตรงกับความรู้สึกเสมอ”  มือหนาเอื้อมไปลูบศีรษะอย่างอ่อนโยน

    “ฮึก...ฮือ...” กำแพงความแข็งแกร่งทั้งหมดที่เคยมีพังทลายจนไม่เหลือชิ้นดีแจมินปล่อยให้น้ำตาทุกหยาดหยดไหลออกมาโดยไม่คิดที่จะห้าม

    “โอ๋ ๆ ปีศาจอะไรทำไมเจ้าขี้แยแบบนี้”  แจมินพยายามกลืนก้อนสะอื้นลงไปเพราะนางเองก็ไม่ได้อยากร้องไห้ให้อีกฝ่ายเห็นเช่นกัน

    “ฮึก...”

    “กลับออกไปพร้อมกับข้า”

    “แต่ว่า”

    “ไม่มีแต่ ข้าทิ้งม้าไว้ที่ข้างลำธารริมทางขึ้นเขา กลับบ้านไปกับข้า”

    “แต่”

    “ถึงจะเป็นปีศาจข้าก็ไม่กลัวเจ้าแล้วทำตามที่เจ้าต้องการหรอกนะข้าจะพาเจ้ากลับไปอยู่กับข้าที่บ้าน”

     

    โปรดติดตามตอนต่อไป

    #จิ้งจอกโน่มิน

     

    คนใจร้าย แงแอ จำก็ไม่ได้!แล้วยังจะกลับมาอีก

    จริงๆเราไม่ได้ตั้งใจให้ดราม่าเลยนะคะ

    แต่แต่งไปแต่งมาเราร้องไห้เองเลยฮือออออ

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in