เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
คลังฟิคของ นจ♡จากสองพฤศจิกา♡
os / Yours #wooseob #อูซอบ

  • 2922 words
    woojin x hyungseob
    note : ฮยองซอบโตกว่าอูจินนะคะ





    _

     

    Ifyou love somebody, let them go
    Forif they return, they were always be yours
    Andif they don’t, they never were.
     
    Kahlil  Gibran

     

    _

     

     

     

    พัคอูจินไม่เคยคิดเลยว่าตนเองจะมีวันนี้วันที่ความฝันในการเดบิวต์ของเขานั้นเป็นจริงจากเด็กผู้ชายที่รักในการเต้นและการแร็ปคนนั้น สู่การเป็น wannaone พัคอูจินในวันนี้

     

    "อูจินอ่า รีบเข้านอนได้แล้วพรุ่งนี้เช้ามีตารางงานนะ"

     

    "ขอผมเล่นเกมอีกแปปนึงนะพี่จีซองอีกตาเดียวจะไปนอนแล้วค้าบ"

     

    "นายพูดว่าขออีกตาเดียวเป็นครั้งที่ห้าแล้วนะ!ไปนอนได้แล้ว พี่ไม่ให้นายเล่นแล้ว" ยุนจีซองว่าจบก็เดินเข้ามายึดไอแพดเครื่องใหญ่ในมือของเขาในทันที

     

    "พี่จีซอง!!"

     

    "ไปนอนซะพัคอูจิน พี่รู้ว่านายไม่ได้เล่นเกมไม่ต้องรอเขาตอบแล้ว นี่มันจะตีสามอยู่แล้วนะ"

     

    "ผมเล่นเกมจริงๆ"

     

    ยุนจีซองส่ายหน้าไม่เชื่อพร้อมกับยกไอแพดเครื่องใหญ่ที่ในตอนแรกมันอยู่ในมือเขาขึ้นมาให้ดู

     

    "ช่องแชทคาคาโอนี่มันเป็นเกมเหรอพัคอูจินไม่ต้องมาเถียงพี่เลยนะ ปิดไฟแล้วนอนซะ"

     

    พัคอูจินได้แต่เม้มปากแน่นเพราะเขาไม่ได้เล่นเกมอย่างที่บอกกับพี่จีซองไป แต่เขากำลังรอใครบางคนตอบแชทอยู่

     

    "ก็ได้ครับ แต่ขอไอแพดผมคืนได้มั้ยเผื่อเขาตอบผมมาไงพี่"

     

    "ไม่ได้! ถ้าเขาตอบมาพี่จะมาบอกนายเองแล้วเรื่องนี้ก็เพลาๆลงหน่อยนะ อย่าให้แฟนคลับรู้ล่ะ เดี๋ยวจะเป็นเรื่อง"

     

    "ค้าบๆ เข้าใจแล้วค้าบราตรีสวัสดิ์นะครับพีจีซอง" ยุนจีซองยกยิ้ม มือของลีดเดอร์ยกขึ้นมาขยี้ที่เส้นผมสีน้ำตาลเข้มนั่นก่อนจะเดินออกจากห้องไป"

     

    ทำไมถึงไม่ตอบแชทฉันสักทีนะรู้มั้ยว่าคนรอมันท้อขนาดเนี่ย!

     

    ตึ้ง!

     

    เสียงแจ้งเตือนดังมาจากโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ทางบนหัวเตียงเขาน่ะเกือบลืมไปแล้วว่าตนเองมีโทรศัพท์นี่โชคดีที่พี่จีซองยึดแค่ไอแพดแต่ไม่ได้ยึดโทรศัพท์ของเขาไปด้วย

     

     

    นิสัยอีกอย่างของพี่จีซองคือการที่พี่จีซองจะชอบปิดการแจ้งเตือนหรือสัญญานทุกๆอย่างเวลานอน เพราะฉะนั้นวางใจได้เลยว่าพี่จีซองไม่มีทางรู้แน่นอนว่าเขาแอบตอบแชทใคร

     

     

    'อูจิน'

     

    และคนที่ทำให้เขาไม่ได้หลับไม่ได้นอนต้องมานั่งรอตอบแชททั้งวันทั้งคืน ในที่สุดก็ตอบแชทเขาได้เสียที

     

    'ตอบช้า'

     

    'โทษที ปิดเสียงไว้'

     

    "เหตุผลนี่มันน่าจะจับมาตีสักทีดีไหมเนี่ย"  พัคอูจินพึมพำกับตัวเองเบาๆ

     

    'นี่คือเหตุผลหรอวะ'

     

    'อย่ามาวะใส่กันนะ นี่เป็นพี่นายนะอูจิน'

     

    'ก็บอกแล้วปะวะว่าไม่ได้อยากเป็นแค่น้องอะ จะให้ย้ำกันอีกสักกี่รอบ'

     

    พัคอูจินกดแป้นพิมพ์ด้วยอารมณ์โมโหปนน้อยใจงานเขาก็เยอะ เวลานอนก็แทบจะไม่มี ยังจะต้องมาอารมณ์เสียกับเรื่องเดิมๆแบบนี้อีก

     

    'ถ้าอารมณ์ไม่ดีก็อย่าพึ่งมาคุยกันเลย นายเหนื่อย เราก็เหนื่อยแต่เราไม่ได้เป็นที่รองรับการโมโหจากใครนะอูจิน'

     

    หลังจากที่ร่างสูงได้อ่านข้อความนั้นจบก็ไม่มัวรอช้ารีบต่อสายหาเจ้าของข้อความทันทีเรื่องแบบนี้จะมาปล่อยให้ค้างคาไม่ได้ รอเสียงสัญญานไม่นานปลายสายก็กดรับสายของเขา

     

    "ฮยองซอบ"

     

    "อือ"

     

    "เหนื่อยหรอ ขอโทษนะ"

     

    เป็นเขาเองเสมอที่มักจะชอบสร้างความรำคาญให้กับอีกฝ่ายพัคอูจินไม่เคยมีคนรัก คงจะมีแต่การแอบรักเพียงเท่านั้น  ครั้งแรกกับพี่ชายข้างบ้านตอนที่เขาอายุได้เพียง7 ปี

     

    นั่นเป็นครั้งแรกที่พัคอูจินรู้สึกว่าหัวใจของเขาเองเต้นผิดปกติ

     

    ไม่ใช่เพราะจากการเล่นซนของเขากับเพื่อนๆในหมู่บ้าน

     

    แต่เป็นเพราะ รอยยิ้ม ที่สวยหวานยิ่งกว่าผู้หญิงของฮยองซอบคนนั้นที่ถูกส่งมาให้เขาด้วยความบังเอิญนั่นต่างหาก

     

    มันเป็นครั้งแรก

     

    และครั้งเดียวมาโดยตลอด 

     

     

    "อือ ไม่เป็นไรหรอก เหนื่อยเหมือนกันใช่มั้ยละขอโทษเหมือนกันนะ"

     

    "ไม่ต้องขอโทษหรอก นายไม่ได้ผิดขอโทษนะที่ชอบทำตัวน่ารำคาญใส่อยู่เรื่อยเลย"

     

    "อือ"

     

    พัคอูจินเงียบ คนปลายสายก็เงียบเพราะการที่เราสองคนไม่ได้พูดคุยกันนาน คุยกันแต่ละครั้งก็นับคำได้ มันเลยทำให้กลายเป็นว่าต่างคนต่างเงียบเพราะไม่มีเรื่องอะไรที่จะต้องคุยกัน

     

    จนในที่สุดความอดทนของพัคอูจินก็หมดลง

     

    "เราไม่เป็นแบบนี้กันได้มั้ย"

     

    "แบบไหนล่ะ"

     

    "ก็แบบนี้ไง นี่ยังเป็นน้องชายเจ็ดขวบคนนั้นคนที่แอบรักเธอมาโดยตลอดคนเดิมนะ"

     

    "นายไม่ใช่นายคนเดิมอูจิน นายรู้ตัวของนายดี"คิ้วเข้มของร่างสูงขมวดขึ้นเป็นปมเขาน่ะเหรอที่ไม่ใช่อูจินคนเดิม

     

    "ยังไงวะ"

     

    "นายไม่ใช่พัคอูจินน้องชายข้างบ้านของเราตั้งแต่วันที่นายเลือกที่จะเข้าไปในโซลแล้วอูจินนายกำลังจะดังนะ กำลังจะมีคนคอยจับตามอง เราอยากให้นายโฟกัสในทางที่นายเลือกไม่ได้อยากเป็นตัวถ่วงความสำเร็จของนายหรอกนะ"

     

    เขาไม่เคยคิดเลยด้วยซ้ำว่าพี่ชายข้างบ้านคนนั้นของเขาจะคิดมากขนาดนี้

     

    "เธอไม่ได้เป็นตัวถ่วง!ไอ้บ้าคนไหนเอาความคิดแบบนี้มาใส่ในสมองของเธอวะ"

     

    "พัคอูจิน!!! พูดจาให้มันดีๆหน่อยได้มั้ยไม่ได้อยากจะมาทะเลาะด้วยเลยนะ"

     

    พัคอูจินเอามือก่ายหน้าผากคิดไม่ตกกับสถานการ์ณตอนนี้ที่เขาโทรไปก็ไม่ได้คิดว่าจะชวนทะเลาะแต่เขาก็คุมอารมณ์ของเขาไม่ได้สักที

     

    "โอเค เราไม่พูดเรื่องนี้กันแล้วได้มั้ยครับอยากให้เธอคิดแค่ตอนนี้ ไม่ต้องไปนึกถึงอนาคตได้มั้ยยังไม่อยากจะเสียเธอไปให้ใครหรอกนะ"

     

    ปลายสายเงียบไม่มีเสียงใดใดเล็ดลอดออกมาจากปลายสายเลยสักนิด

     

    "เธอเงียบไปทำไม"

     

    "..."

     

    "เธอ"

     

    "..."

     

    "อูจิน"

     

    "ออกมาเจอกันหน่อยได้มั้ย ตอนนี้น่ะ"

     

    ห๊ะ!!! เธออยู่โซล?”

     

    อือ ออกมาเจอกันได้มั้ย แถวๆริมแม่น้ำฮันน่ะ

     

    พัคอูจินยกหูโทรศัพท์ออก หน้าจอบ่งบอกว่าตอนนี้เป็นเวลาตีสามกว่าแล้วทุกคนในหอคงจะหลับก้นไปหมดแล้ว

     

    "ได้ เธออย่าลืมใส่เสื้อหนาๆออกไปผ้าพันคอก็เอามาใส่ด้วย ถุงมือ ฮ็อตแพค อย่าลืมนะ เข้าใจที่นี่พูดหรือเปล่า"

     

    "อือ เราก็ไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ"

     

    "เด็กไม่เด็กแต่ก็ลืมทุกที่และว่ะ"

     

    อย่ามาว่ะใส่ บอกกี่ที่แล้ว! ว่าเราเป็นพี่พูดจาให้มันดีๆหน่อย

     

    พัคอูจินหัวเราะ ก่อนจะกรอกเสียงตอบคนปลายสายไป โอเคๆ สิบห้านาทีถึงไม่ขาดไม่เกิน เดี๋ยวเจอกันนะ

     

    อือ

     

    หลังจากวางสาย เขาเด้งตัวขึ้นออกจากเตียงคว้าเสื้อโค้ทที่แขวนอยู่หน้าตู้ พร้อมกับผ้าพันคอไหมพรมอย่างดีขึ้นมาใส่แล้วรีบออกจากหอพักทันที

     

    เขารู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆ ว่าพี่ชายข้างบ้านของเขาทำไมถึงมาอยู่ที่โซลได้แล้วมาตอนไหน มากับใคร ทำไมไม่เห็นจะบอกเขาบ้างเลย ถ้าเขาเจอหน้าเมื่อไหร่นะจะเค้นถามให้หมดเลย คอยดูสิ!

     

     

     

    /

     

     

     

    พัคอูจินใช้เวลาสิบห้านาทีพอดิบพอดีในการเดินทางมาถึงริมแม่น้ำฮันริมแม่น้ำฮันในตอนนี้แทบจะไม่มีคนหลงเหลืออยู่แล้วเขามองหาคนปลายสายที่กำลังพยายามบอกว่าตอนนี้ตนอยู่ส่วนไหนของแม่น้ำฮันอยู่

     

    สรุปเธออยู่ตรงไหน

     

    ริมแม่น้ำฮันไง

     

    แม่น้ำฮันยาวเป็นไม่รู้กี่กิโลต่อกี่กิโล เร็วๆบอกนี่มาว่าอยู่ตรงไหน อยากเจอใจจะขาดแล้วเนี่ย

     

    มีขา มีตา เดินหาเอาเอง เดี๋ยวก็เห็นเองนั่นแหละ

     

    เขาเริ่มรู้สึกหงุดหงิดกับคนปลายสายอายุก็มากกว่าเขา แต่เล่นอะไรไม่รู้เรื่องเลยให้ตายเถอะ

     

    อันที่จริง

     

    พัคอูจินไม่รู้ตัวเลยว่าคนปลายสายน่ะเห็นเจ้าตัวตั้งแต่ที่เขาก้าวขาลงมาจากแท็กซี่แล้ว

     

    อันฮยองซอบก็แค่ อยากยื้อเวลาไปสักหน่อยก็แค่นั้น

     

                และเวลามันก็คงหมดลง

     

                นี่เจอเธอแล้ว!หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะฮยองซอบ ห้ามขยับเขยื้อนไปไหน

     

                อันฮยองซอบเพียงแค่แค่นเสียงหัวเราะตอบกลับมาเท่านั้นก่อนโทรศัพท์ที่อยู่ในมือของเขาและอูจินจะหมดความหมายลง

     

                พัคอูจินพาขายาวๆของตนมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของคนปลายสายที่เขาไม่ได้เจอหน้ามาเกือบห้าปี

     

                คิดถึงร่างสูงว่าก่อนจะสวมกอดเข้าไปเต็มแรงมือเล็กๆของฮยองซอบเองก็เกี่ยวเข้าที่เอวของอูจินเช่นกัน คนตัวเล็กออกแรงรัดเขาแน่นแน่นจนเขาคิดว่ามันแปลก

     

     

                ทำไมกอดนี่แน่นจัง คิดอะไรกับนี่ป่าวเนี่ย

               

                ฮึ คิดคิดว่าเมื่อไหร่จะเลิกหลงตัวเองสักที ไอ้บ้านี่!”

     

                ฮยองซอบทุบลงไปเต็มแรงที่อกของเขาก่อนจะผลักตัวออก

     

                แล้วมาโซลทำไมไม่บอกไม่กล่าว มาทำไม มาทำอะไร มากับใครจะอยู่กี่วัน แล้วคุณป้าเป็นยังไงบ้าง…”

     

                หยุด!” คนตัวเล็กว่าพลางยกมือขึ้นมาทุบที่อกเขาอีกครั้ง

     

                ทุบกันแบบนี้เจ็บเป็นเหมือนกันนะ

     

                ไม่เชื่อหรอก อย่ามาหลอกกันให้ยาก

     

                อูจินยกยิ้มก่อนจะพูดต่อ แล้วสรุปมาโซลทำไมครับ

     

                “…”

     

                ทำไมเงียบล่ะมีอะไรหรือเปล่า

     

     

                อูจิน

     

                ครับ?”

     

               

                “…”

     

                อูจินจำได้มั้ยเมื่อปีที่แล้วที่เราไปสอบทุนไปเรียนต่ออเมริกาน่ะ

     

                จำได้ดิเขาว่าอย่างยิ้มๆ พลันในหัวก็นึกไปถึงเหตุการณ์ในวันนั้น “ที่เธอสอบไม่ติดใช่ปะ เธอโทรมาร้องไห้งอแงกับนี่ใหญ่เลย บ่นนู่นบ่นนี่บ่นทุกอย่าง ตั้งแต่มดแดงที่มาอยู่บนข้อสอบได้ยังไงก็ไม่รู้ยันเสียงพัดลมติดเพดานที่มันดังเกิน ตอนนั้นนี่ขำจนเจ็บท้องไปหมด เธอถามทำไมอะ”

     

                มือกร้านเหมือนคนทำงานหนักทั้งๆที่มันเกิดจากการฝึกซ้อมอย่างหนักของพัคอูจินถูกเคลื่อนไปบนเส้นผมสีน้ำตาลเข้มนั่นนี่เป็นสีที่เขาเลือกให้คนตัวเล็กย้อมเองแหละ 

     

     

                ปีนี้เรา... สอบติดแล้วนะ

     

                พัคอูจินชะงักมือของตนเองหัวสมองของเขามันตื้อไปหมด คำพูดที่คนตรงหน้าเขาเคยบอกว่า เราจะสอบให้ติดแล้วไปอเมริกาให้ได้ในวันนั้น มันจะเกิดขึ้นจริงในวันนี้

     

     

                เขาควรจะยินดีที่พี่ชายข้างบ้านของเขาสอบติดสิพี่ชายตัวเล็กของเขาอ่านหนังสือแทบเป็นแทบตายเพื่อทุนนี้เลยนะแกต้องยินดีสิพัคอูจิน ยินดี!

     

     

                ก็...ดีแล้วนี่ครับยินดีด้วยนะ

                ฮยองซอบพยักหน้าตอบรับเขาพร้อมกับรอยยิ้มแต่เป็นรอยยิ้มที่พัคอูจินไม่ชอบเอาเสียเลย จะฝืนยิ้มให้เขาทำไมกัน

     

                แล้วเธอจะไปกี่ปี 4 ปี หรือ 6 ปี เธอได้ป.ตรีควบป.โทเลยด้วยหรือเปล่า

     

                พี่ชายข้างบ้านไม่ตอบเพียงแค่ส่ายหน้าไปมาแทน พัคอูจินเลิกคิ้วขึ้นอีกครั้งด้วยความสงสัยฮยองซอบคงไม่ได้ป.เอกด้วยหรอกนะ!

     

                เธออย่าบอกนะว่าได้ป.เอกด้วยน่ะ

     

                บ้าเหรอได้แค่โทนั่นแหละ

     

                แล้วทำไม...?”

     

                ฮยองซอบยกมือขึ้นมาจับเข้าที่แขนทั้งสองข้างของเขาก่อนจะเอ่ยฟังเรานะ พัคอูจิน

     

     

                นายกำลังไปได้ดีกับเส้นทางของนายเรื่องนี้เรายินดีกับนายด้วยจริงๆนะ ความพยายามของนายสำเร็จแล้วนายรู้ใช่มั้ย?”

     

                เขาพยักหน้าตอบคนตัวเล็กไปคนเป็นพี่ทำเพียงส่งยิ้มที่แสนอ่อนแรงกลับมาเพียงเล็กน้อย

                เราเห็นนายมาตั้งแต่เด็กๆ ตอนนี้นายโตขึ้นเยอะเลยอูจินอูจินคนซนประจำหมู่บ้านของเราตอนนั้นกลับกลายมาเป็นพัคอูจินสุดเท่ห์ในตอนนี้ไม่อยากจะเชื่อเลยเนอะ

     

     

                เธอจะพูดอะไรกันแน่

     

                เขาจ้องตาฮยองซอบเขม็งเพราะคนตัวเล็กข้างหน้านี่เหมือนกำลังพูดในสิ่งที่ตัวเองไม่ต้องการที่จะพูดอยู่

     

                โอเคพัคอูจินฮยองซอบสูดหายใจ เราจะไม่กลับมา เราหมายถึงเราจะอยู่ที่นั่น ทำงานที่นั่น 

     

     

                พัคอูจินไม่ได้ยินเสียงอะไรอีกหลังจากคำว่าจะไม่กลับมาออกจากปากของฮยองซอบ

     

     

                ทะ ทะ... ทำไม?”

     

     

                ทุนที่เราได้น่ะ มันเป็นทุนที่ต้องใช้คืนโดยการทำงานอยู่ที่นั่น นาย...เข้าใจใช่มั้ย

     

                 

                ...

     

                อีก 4 ชั่วโมง เครื่องจะออก วันนี้เราจะอยู่ที่นี่เป็นวันสุดท้าย

     

                “…”

     

     

                แม่ของเราสบายดี แม่ของนายท่านก็ฝากมาบอกว่าท่านสบายดี ไม่ต้องเป็นห่วง แต่ถ้านายว่างเราอยากให้นายแวะไปเยี่ยมท่านบ้างนะ เพราะท่านก็คงจะเหงาไม่มีแม่เราให้ไปคุยด้วยบ่อยๆแล้วนะ

     

                พัคอูจินก้มหน้ามองพื้นเขาไม่อยากเงยหน้าขึ้นไปมอง สาเหตุเป็นเพราะน้ำใสๆที่ไหลออกมาจากดวงตาของเขา

     

               

                ขอบคุณสำหรับทุกอย่างเลยนะ

     

                ขอให้อูจินของเรา...มีแต่ความสำเร็จฮึก เราจะรอฟังข่าวนายที่นั่นนะ

     

                มีคนรักเยอะๆ เยอะขึ้น ฮึก เรื่อยๆทุกปีเลยนะ

     

     

                พัคอูจินปาดน้ำตาที่อยู่บนหน้าตัวเองอย่างลวกๆก่อนจะเงยหน้าขึ้นเขาค่อยๆบรรจงเกลี่ยน้ำตาที่อยู่บนใบหน้าของพี่ชายข้างบ้านออกอย่างแผ่วเบา

     

     

                อย่าร้องไห้เลยนะครับ

     

     

                ฮึกอันฮยองซอบสะอื้นตัวโยน ร่างสูงมุ่งหวังที่จะเข้าไปสวมกอด แต่คนตัวเล็กกว่ากลับก้าวถอยหลังหนีเขาไป

     

     

                โชคดีนะอูจิน โชคดี ฮึก

     

                ฮยองซอบว่าจบก็วิ่งหันหลังออกไปจากที่ตรงนี้ ปล่อยเขายืนอยู่คนเดียวพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมาอีกครั้ง

     

    อีกครั้ง

     

     

    และอีกครั้ง

     

     

     

     

    /

     

     

     

     

                อันฮยองซอบวิ่ง วิ่ง และยังคงวิ่ง วิ่งจนแน่ใจว่าตัวเองนั้นมาไกลมากพอแล้ว คนตัวเล็กทรุดนั่งลงกับพื้น น้ำสีใสที่สร้างความเจ็บปวดในหัวใจของเขาก็ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดไหลออกมาง่ายๆ

     

     

                โชคดี ฮึก โชคดีกับเส้นทางของนาย

     

     

                เรา ก็รัก ฮึก อูจิน รักอูจินมาโดยตลอดเหมือนกัน

     



     

    /



    END



    _

     

     

    But for us, even if I don’t go back I always be yours,
    just yours.
     

     

    _







     ตราบใดที่เรายังไม่หายไปจากโลกนี้ เรายังคงรักคุณเสมอ : ) 
    เป็น os ที่เราเคยแต่งไว้นานมากแล้วค่ะ นานมากกกกกกก มากจนแทบจะลืมเรื่องไปหมดแล้วค่ะ (555555)  แต่พอวันนี้สอบ 9 วิชาสามัญภาษาอังกฤษเสร็จสดๆร้อน แล้วเราสะดุดกับโควทที่เรานำมาขึ้นต้นมากเลยค่ะ 
    แต่นิสัยของตัวละครหลักของเราในทีนี้แย้งกับโควทค่ะ 55555 ที่ไม่กลับไป ไม่ใช่ไม่รัก แต่เพราะว่ารักนั่นแหละค่ะ ถึงไม่กลับไป แต่ทั้งคู่ก็ยังพึงระลึกเสมอ ว่าเรายังเป็นของนาย ส่วนนายก็ยังเป็นของเรานะ อะไรทำนองนี้แหละค่ะ
    หวังว่าจะชอบนะคะ แง เจอปืนค่า ด้วยร้าก♥
    คอมเม้นท์ติชมกันได้ที่นี้หรือติดแท็ก #นจxfic ในทวิตก็ได้ค้าบ 
    นจ♥ @from2nov_
    19/3/2018

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in