Fiction IdentityV
Pairing: Jack the Ripper/Smiley face
ความรักของฆาตกรก็เปรียบเสมือนยาพิษ
มันไม่มีทางเป็นความรักธรรมดาเช่นคนทั่วไปได้
เพราะสุดทางของความรักแล้ว มักมีแต่ความวิปลาสรออยู่เสมอ
เพล้ง!
เสียงแก้วแตกดังสนั่นห้องโถงของเหล่าผู้ล่า
แจ็ค เดอะ ริปเปอร์ เป็นผู้สร้างเสียงนั้น เขาปาแก้วไวน์ใส่สไมลี่ที่ยืนนิ่งด้วยใบหน้าถมึงทึง กลิ่นไวน์แดงชั้นดีลอยอบอวลในอากาศจนรู้สึกน่าอึดอัดมากกว่าน่าหลงใหล ดวงตาสีดำทมิฬของตัวตลกฉายแววโทสะอย่างชัดเจน มือหยิบอาวุธประจำตัวยกขึ้นเตรียมพุงไปฟาดเจ้าผู้ชายไร้เหตุผลตรงหน้า
“ทั้งสองคน พอก่อนเถอะ” เบนเดินเข้ามาห้ามก่อนที่สงครามของสองฮันเตอร์จะเริ่มขึ้นโดยมีลีโอและไวโอเล็ตต้าเตรียมพร้อมหากมันเลยเถิดไปไกล
“เจ้าหัวไชเท้าเวร แกมันไอ้ตัวไร้เหตุผล!” สไมลี่ตะคอกเสียงดีงสนั่นลืมภาพตัวตลกหน้ายิ้มไปได้เลยเพราะตอนนี้ภายใต้หน้ากากของอีกฝ่ายบิดเบี้ยวไปด้วยแรงอารมณ์เกรี้ยวกราด
“ไร้เหตุผล? คิดว่าตัวคุณมีเหตุผลมากสินะครับถึงได้ทำอะไรแบบนั้นทั้งที่เราคบกันอยู่”
ใช่
ฮันเตอร์ หรือ ฆาตกรสองคนนี้คบกันมาได้เกือบเดือนหนึ่งแล้ว แต่ประเด็นสำคัญคือทั้งสองคนมักมาทะเลาะกันเรื่องยิบย่อยตลอดแล้วคนหาเรื่องส่วนมากดันเป็นฆาตกรต่อเนื่องผู้ดีแดนอังกฤษเสียได้
“ฉันทำอะไรอีกว่ะ!!? อย่าบอกนะว่าเพราะเอมิลี่?” สไมลี่อยากหัวเราะให้ก้องฟ้า เหตุใดคนรักจอมงี่เง่าของเขาถึงเป็นพวกขี้หึงขนาดนี้
แม่งน่ารำคาญ
“เอมิลีเอมิลี่เอมิลี่! เฮ้อะ! ผมล่ะแปลกใจจริงๆว่าเราคบกันทำไม?” แจ็คตะเบ็งเสียงลั่นอย่างอดกลั้น สไมลี่ไม่เคยยิ้มมีความสุขหรือแม้แต่สนุกตอนอยู่กับเขาเลยสักนิดแต่พอมีแมตช์ต้องเจอกับยัยคุณหมอโสโครกนั้นอีกฝ่ายกลับแสดงสีหน้าระริกระรี่น่ารำคาญออกมาตลอด
“เลิกก็ได้นะ” สไมลี่เฟสเอ่ยเสียงต่ำ ก่อนจะถอดหน้ากากเขวี้ยงลงพื้นอย่างหมดซึ่งความอดกลั้น ร่างหนาเดินไปเข้าไปกระชาดคอร่างเพรียวจนตัวโน้มต่ำลงมา “ถ้าการคบกันมันทำให้แกมีความข้องใจมากหนักก็เลิกไปซะ!” ตัวตลกผลักอีกฝ่ายออกก่อนจะเดินหนีกลับขึ้นห้องไม่สนใจใบหน้าเศร้าหมองของแจ็คเลยแม้แต่น้อย
“แจ็ค” ลีโอเดินมาลูบหลังเพื่อนเก่าที่คอตกเป็นลูกหมาถูกทิ้งก่อนจะผละออกไปนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ วันนี้ยังเช้าเกินไปที่จะเสียเวลามาปลอบใจเพื่อน
แมชต์แรกของวันเริ่มตอนหกโมงเช้า ซึ่งสไมลี่ถูกเลือกให้ลงเป็นผู้ล่าโดยมีผู้เอาตัวรอดอีกสี่คน เอมิลี่ นาอิบ เทรซี่และเอ็มม่า โดยที่สไมลี่ล่าจบในเวลาแค่สิบนาที เกือบทุกคนได้นั่งเก้าอี้ยกเว้นคุณหมอคนสวยที่โดนพาไปปั่นไฟจบครบทุกเครื่องและพามาส่งที่ประตู. นั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้แจ็คผู้ใจเย็นอยู่เสมอถึงกับเลือดเดือดพล่านแต่เช้า
…
สไมลี่รู้อยู่แล้วว่าผลลัพธ์มันต้องออกมาแบบนี้
อย่างน้อยมันก็ไม่ใช่กรงเล็บของอีกฝ่ายเหมือนคราวที่แล้วที่ทะเลาะกันตามลำพังจนแจ็คถึงขั้นลงไม้ลงมือ บางครั้บางครั้งเค้าก็คิดไม่ได้ว่าการคบกันจะส่งผลลัพธ์แบบไหนออกมาเพราะสุดท้ายแล้ว ความรักครั้งนี้คงมีแต่ความเจ็บปวดรออยู่ที่ปลายทางถึงอย่างนั้นขอแค่ตอนนี้เท่านั้น ที่จะได้อยู่ด้วยกันจนกว่าเกมส์จะสิ้นสุดลง มีแค่ในปราสาทแห่งนี้เท่านั้นที่ทั้งเขาและอีกฝ่ายจะรักกันได้
สไมลี่กลับมาที่ห้องนอนจ้องมองเตียงที่ว่างเปล่าเบื้องหน้าก่อนจะล้มตัวนอนลงไปพลางนึกคิดถึงอนาคตและอดีตของพร้อมกันซึ่งมีแต่ความว่รงเปล่ารออยู่ ราวกับว่าความรักครั้งนี้จะเป็นแค่ความรักวันต่อวันเท่านั้นความรู้สึกที่มากขึ้นไม่ส่งผลให้อนาคตนั้นแน่นอนเลยแม้แต่น้อย
“สไมลี่” เสียงพร่าแหบฉายแววเศร้าอันคุ้นเคย
“ใจเย็นลงแล้วรึไง?” ตัวตลกถามก่อนจะพลิกตัวหันมาที่ประตู จ้องมองร่างสูงนิ่ง มือเรียวยาวผิดรูปนั้นถือหน้ากากแตกๆของเขาเอาไว้
“ขอโทษจริงๆ ขอโทษนะ” ร่างสูงเพรียวเดินลิ่วมาที่เตียงก่อนจะคว้าเจ้าของห้องไปกอดแน่น หน้ากากสีขาวถูดถอดออก จมูกโด่งซุกไปที่ลำคอหนาอย่างออดอ้อนต้องการคำขออภัยเช่นทุกครั้ง สไมลี่แค่กอดตอบเท่านั้น
“ผมพยายามแล้วสไมลี่แต่ผมทำไม คุณรู้ใช่ไหมว่าผมไม่ต้องให้คุณสนใจใคร คุณต้องเป็นของผมคนเดียวเท่านั้น เข้าใจผมใช่ไหม?” เสียงทุ้มกระซิบบอกอย่างหวั่นวิตก ดวงตาสีทองเลื่อนมาสบดวงตาสีเดียวกันอย่างเว้าวอนแกมบังคับ มันส่องไปด้วยความบ้าคลั่งและรุนแรงอยากที่จะครอบครองไว้คนเดียว
“…” สไมลี่ยังคงเงียบ
“พูดกับผมสิครับที่รัก โมโหโวยวายอะไรก็ได้แต่อย่างเฉยชากับผม”
“เปล่า แค่คิดว่าแกเนี่ยประสาทเสียดีเท่านั้นเอง” สไมลี่หลัดยิ้มออกมา หัวใจเขาพองโตแทบออกมาจากอก ดวงตาแบบนี้แหละที่เขาต้องการจากแจ็ค แขนหนายกขึ้นกอดคอร่างตรงหน้าก่อนจะดึงอีกฝ่ายคร่อมร่างตนเองบนเตียงนุ่ม
อยากครอบครองงั้นหรือ?
อ่า…แทบจะเกิดอารมณ์เลยให้ตายเถอะ
“แกต่างหากที่เป็นของฉัน”
จำเอาไว้
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in