เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิวนิยายฉบับคนชอบดองChadang
รีวิว น้องชายที่รัก (จบ)
  • น้องชายที่รัก ( 2 เล่มจบ)
    ผู้แต่ง Molly 
    ผู้แปล ธมน
    สำนักพิมพ์ Rose Publishing

    เรื่องย่อ

    เย่ฟานที่ตลอดมาดื้อและเมินเฉยต่อความเอาใจใส่ของพี่ชาย ตัดสินใจกลับบ้านมาอยู่ปรับความสัมพันธ์พี่น้องกับสวีเซิงเหยา พี่ชายที่รักและเอาใจใส่เขาอย่างสุดหัวใจ พร้อมกันนั้นเขาสองคนก็ต้องเตรียมรับมือจากอันตรายใกล้ตัวที่ไม่อาจคาดเดาได้อีกด้วย !


    ความรู้สึกหลังอ่าน (สปอยล์ปานกลาง)

             น้องชายที่รัก ผลงานของคุณ Molly ที่มีตัวละครคาบเกี่ยวกับเรื่อง หัวใจมีหลิงซี จำนวนเล่มอยู่ที่ 2 เล่มจบค่ะ ไม่สั้นไม่ยาว ความรู้สึกเราเนื้อหายังคงคอนเซ็ปอ่านสบายหวาน ๆ ค่ะ แต่ฟิลกู๊ดอาจไม่เท่าหลิงซีที่ตัวเอกสองคนเป็นผู้ใหญ่ และตัวหลิงซีออกจะเป็นคนง่าย ๆ มองโลกในแง่ดี ส่วนทาง น้องชายที่รัก ด้วยบุคลิกตัวละครและปมปัญหาของเรื่องทำให้มีมิติของความคิด ความรู้สึกมากกว่าค่ะ


    ก่อนจะเล่าอื่นใดขอแปะ สปอยล์ แจ้งไว้ก่อน (ตามสำนักพิมพ์) ว่า
    เขาไม่ใช่พี่น้องกันแท้ ๆ ค่ะ อะไรยังไงต้องติดตามในเล่มนะคะ ^^


    ช้อนทองคำของบ้านสวี

               คุณพี่ชายหรือพระเอกของเรื่อง สวีเซิงเหยา เหมือนเป็นลูกหลงของประธานสวีในวัยห้าสิบปี เขาเป็นคนเรียนรู้ไวตั้งแต่เด็กและมีบุคลิกเป็นผู้ใหญ่กว่าวัย ในตอนที่พ่อของเขาอายุหกสิบกว่าแล้วพาแม่ใหม่พร้อมน้องชายที่ใกล้คลอดกลับมา สวีเซิงเหยาวัยสิบห้าก็ใจกว้างพอที่จะยอมรับ และตั้งตารอคอยน้องชายคนนี้อย่างใจจดใจจ่อ ถึงขนาดใช้เวลาเป็นเดือน ๆ พยายามคิดชื่อให้น้องชาย แต่เมื่อถึงวันที่น้องชายตัวน้อยลืมตาดูโลก เขาก็หาชื่อเหมาะ ๆ มอบให้น้องได้แค่ชื่อเล่นว่า เตี้ยวเตี้ยว (ช้อนทองคำ) หลังจากนั้นมา เด็กคนนี้ก็เป็นดังแก้วตาดวงใจของเขา น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถดูแลน้องได้ตลอด ทำให้กว่าจะรู้ว่าช่วงเวลาที่เขาไปเรียนต่อหลายปี เตี้ยวเตี้ยว ไม่ได้รับการเอาใจใส่จากพ่อที่แก่ชรา และแม่ที่เฉยชา ทำให้กลายเป็นคนต่อต้านสังคมไป ...ก็สายไปเสียแล้ว 


    “เหมาเหมา” ชื่อนี้ผมไม่ได้เรียกเจ้าขนฟูตรงนั้น

               เย่ฟาน อายุยี่สิบปีได้ประสบอุติเหตุจนบาดเจ็บสาหัส หลังฟื้นขึ้นมาเขาก็ร้องไห้ขอกลับบ้านไปอยู่กับพี่ชายทันที เพื่อสานสัมพันธ์พี่น้องที่เขาเคยทำลายลงกับมือ เย่ฟานพยายามคิดสารพัดคำพูดที่จะเริ่มต้นสนทนากับพี่ชาย แต่เขาประเมินความบ้างานของพี่ชายน้อยไปหน่อย อยู่บ้านมาหลายวันสวีเซิงเหยาปรากฏตัวที่บ้านน้อยมาก แถมพอเจอหน้ากันสองพี่น้องก็จูนกันไม่ติด ส่วนหนึ่งเพราะคุณพี่ชายที่ขี้เป็นห่วงชอบเริ่มต้นด้วยการบ่นเป็นคุณพ่อห่วงลูก เลยทำให้น้องชายน้อยอกน้อยใจว่าพี่ชายไม่แคร์เขาแล้ว ดีที่เพื่อนของพระเอกที่เป็นคู่รองเข้ามาเตือน พระเอกที่ไม่คุ้นกับการทำตัวดี ๆ ของน้องชาย จึงใจเย็นลงและพูดคุยเปิดใจดี ๆ ทว่าน้องชายเรียกเขาว่า “เหมาเหมา” เหมือนตอนเด็กยังไม่เท่าไร แต่เรียก “พี่ชาย”  นี่...ช่างทำดาเมจต่อเขาอย่างร้ายกาจจริง ๆ 

                ดาเมจ นี้...มีพลิกนิด ๆ ว่าพอนายเอกเรียก “พี่ชาย” พระเอกกลับหลอนขึ้นมาว่านี่มีคนสลับตัวน้องเขามารึเปล่า ! 
               ซึ่งในความรู้สึกเราเรื่องที่พระเอกระแวงนี่โทษเขาไม่ได้จริง ๆ ค่ะ ถึงคนเขียนจะใช้น้ำเสียงเล่าให้อ่านสบาย ๆ ออกขำ ๆ แต่มันสะท้อนความเจ็บปวดตลอดเวลาที่ผ่านมาของพระเอกด้วยเช่นกัน เขารักน้องมาก น้องต้องการอะไรเขาก็ให้ ทำร้ายจิตใจก็อภัย แต่ยังไงพระเอกก็เป็นคนคนหนึ่ง เขาไม่สามารถทนให้คนที่รักทำร้ายความรู้สึกซ้ำ ๆ ได้ เพราะแม้อภัยได้ แต่ยังเจ็บปวด เราเลยจะเห็นความขี้ระแวงตรวจสอบเรื่องเย่ฟานแบบสุดโต่งของพระเอกค่ะ คุณพระเอกคิดตั้งแต่มีคนปลอมตัวเป็นน้องมาหลอกจนถึงขนาดต้องแอบตรวจดีเอ็นเอว่าใช่น้องตัวจริงแน่ใช่ไหม ... เขาไม่เชื่อจริง ๆ ว่าน้องจะกลับใจ

            แต่สุดท้ายผลออกมาก็ต้องยอมรับค่ะ (55555) ทว่าเรื่องก็มีพลิกอีกรอบออกจะแฟนตาซีย้อนเวลาข้ามโลก มาแก้ไขตัวเอง แต่เราชอบแนวคิดนี้มาก ๆ ไว้จะเพ้อเจ้อทีหลังค่ะ (แหะ ๆ)


    น้องชายที่รัก – พี่ชายที่รัก

           แหมม ... เราไม่อยากพูดถึงประเด็นความรักจริง ๆ เพราะยังไงคุณม่อหลี่ก็เขียนหวานนน อยู่แล้ว พระเอกเรื่องนี้ที่สุดของความดูแลเอาใจใส่ คิดเผื่อนายเอกทุกอย่าง แต่ไม่ใช่ว่าคิดแบบตัดสินใจแทน นายเอกไม่ต้องทำอะไรนะคะ เขาคิดอย่างเข้าใจ แรก ๆ อาจจะมีความหวงห่วงน้องอยากให้น้องหลบใต้ปีกของตัวเอง แต่เขาก็เรียนรู้ที่จะปล่อย ว่าชีวิตของน้องชายไม่ใช่ชีวิตเขา ทางเดินของน้อง น้องต้องเลือกเอง ทำให้พระเอกกลายเป็นผู้สนับสนุนที่ดี การคิดเผื่อให้น้องอย่างรอบคอบของเขา ไม่ใช่การบ่งการหรือแย่งการตัดสินใจ ขณะเดียวกันนายเอกที่กลับมาเพื่อเอาใจใส่พี่ชายก็ทุ่มเทเต็มที่ เขาอยากจะทำทุกอย่างเพื่อให้พี่ชายมีความสุข ขณะเดียวกันหัวใจที่เคยเอาแต่ต่อต้านความรักจนต้องโดดเดี่ยวจนตายมาครั้งหนึ่งของเขา เรียกร้องหาความรักความอบอุ่นจากพี่ชายคนนี้มากกว่าที่เขาคิดเช่นกัน ... 

             สำหรับคู่หลักคุณพี่ชายเป็นเสาหลักด้านจิตใจมากเลยค่ะ เพราะที่ผ่านมาเย่ฟานเติบโตอย่างลูกคุณหนูที่เกเร รอบตัวมีแต่เพื่อนเที่ยว ไม่มีเพื่อนที่จริงใจ คนรับใช้คอยแต่นินทา แม่ก็เย็นชา พ่อที่รักตนก็ชราเกินกว่าจะสั่งสอน ทำให้การเข้าสังคมและความทันคนของเย่ฟานต่ำมาก ยังดีที่เขาได้โอกาสกลับมาแก้ไขตัวเอง ดังนั้นเราเลยรู้สึกว่าพอเป็นเรื่องของพี่ชายที่มอบความรักให้เขาอย่างไม่จำกัด เย่ฟานก็พร้อมมากที่จะทำลายทุกกำแพงของข้อจำกัดไปเลย ส่วนคู่รองนิสัยเป็นแบบตรงข้ามกันค่ะ แต่เติมเต็มกันและกันดี นอกจากนี้ ... คู่แอนดูร์กับหวังลี่ลี่ที่เราเดาโพทิ้งท้ายไว้ใน รีวิวหลิงซี ก็มาออกที่เรื่องนี้แล้วค่ะ !!!

         สรุปแล้ว เนื้อเรื่องน้องชายที่รัก เน้นปมความสัมพันธ์พระเอกนายเอกมากกว่าการแก้ปมปัญหาภายนอก ซึ่งแอบเสียดายนิด ๆ อุตส่าห์ปูมา แต่ดันตบจบรวบรัดทีเดียว แอบสงสัยนิดหน่อยด้วยว่ามีวิธีไหนอีกไหมที่จะจบปัญหานี้ ... แต่นี่แค่ความรู้ส่วนตัวเรานะคะ โดยรวมแล้วเป็นนิยายอ่านยิ้ม ๆ ไปกับแต่ละคู่ค่ะ ลองอ่านตัวอย่างกันก่อนได้ว่าแนวใครทางใครรึเปล่า

              ปล. เรื่องนี้ไม่อ่านหลิงซีมาก่อนก็สามารถอ่านได้นะคะ แต่ถ้าอ่านมาก่อนก็เหมือนอีสเตอร์เอคเลยค่ะ ชอบที่คุณม่อหลี่ตอบแฟน ๆ ไว้ ว่า คู่หลิงซีไม่ว่าจะโลกไหน ๆ เขาก็จะตกหลุมรักกันอย่างแน่นอน โอ้ยยย อย่างหวานข้ามเรื่องเลยค่ะ 



    เพ้อเจ้อข้ามโลก ข้ามเวลา ข้ามมิติ (ข้ามความเพ้อเจ้อสปอยล์นี้ได้ค่ะ)

                เท่าที่เราอ่านมานิยายหรือการ์ตูนจะมีพล็อตเกี่ยวกับย้อนเวลา หรือโลกคู่ขนานประมาณ 3 แบบ

    1. แบบเส้นตรง คือ ถ้าย้อนเวลากลับมาในวัยเด็ก (หรือวัยใด ๆ ก่อนเกิดจุดพลิกร้ายแรงในชีวิต) ตัวละครเอกจะจดจำเรื่องราวในอนาคตได้ และพยายามเปลี่ยนแปลงชีวิตของตนเองจากความทรงจำนั้น จนกระทั่งเรื่องราวต่าง ๆ ในอนาคตไม่เหมือนเดิม เช่น This Time … lucky in game lucky in love (2 เล่มจบ สำนักพิมพ์ EverY)

    2. แบบโลกคู่ขนานทุก ๆ ทางเลือกมีอนาคตอีกแบบรออยู่ เรื่องแบบนี้ใครเคยดู ครูพิเศษจอมป่วนรีบอน ภาคอนาคต คือแบบนั้นเลยค่ะ ยกตัวอย่างเช่น เวลาคุณเลือกคณะมหาวิทยาลัย มีสองทางคือเป็นนิติศาสตร์กับอักษร ในแนวคิดนี้อนาคตของคุณความจริงมีสองทางเลือกนี้เกิดขึ้นอยู่แล้ว นั่นคือโลกอนาคตที่คุณเป็นทนาย กับอนาคตที่คุณเป็นนักการทูต

    3. แบบมีตัวตนเดียว พลอร์ตนี้ถ้าใครเคยดูเรื่องของ ป้าCamp อย่าง สึบาสะ จะเข้าใจได้ง่ายค่ะ ขอยกตัวอย่างของเรื่องนี้เลย พระเอกเชารันเดิมใช้ชีวิตในโลก A อนาคตมีแบบเดียว (ตัวตนเชารันคนเดียว) แต่เมื่อเขาทำการย้อนเวลาโลกจะเกิดมิติใหม่ขึ้น และเรื่องราวของโลกที่เชารันย้อนเวลากลับไปจะเริ่มมีบางอย่างผิดเพี้ยนจากเดิม เช่น เดิมคนชื่อเฟย์ต้องเกิดมาเป็นลูกคนเดียว แต่การย้อนเวลาของเชารันทำให้เกิดมิติใหม่ที่เฟย์มีฝาแฝดเกิดขึ้น
             และเรื่อง น้องชายที่รัก ก็นำเสนอการย้อนเวลาที่น่าสนใจมากเลยค่ะ เรียกว่าใกล้เคียงกับแบบที่ 3. แต่ก็ไม่ใช่ซะทีเดียว ...เป็นแบบไหน ? ต้องลองไปติดตามกันแล้วล่ะค่ะ (55555)

           ขอบคุณที่อ่านจนจบความเพ้อเจ้อของเรานะคะ เราคิดว่ามันคงจะงง ๆ น่าดูไว้มีแรงใจจะไปเพ้อเจ้อการย้อนเวลาของน้องชายที่รักจัดเต็มใน บล็อก แยกอีกทีค่ะ เพราะแค่นี้เราก็รู้สึกกลัวว่า จะสปอยล์มากไปรึเปล่า
     (เล่าเพลินไปหน่อยค่ะ แหะ ๆ )


    ภาพปกจาก Samsembook
    เรื่องอื่นของนักเขียน หัวใจมีหลิงซี
    By Chadang



เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in