เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Read, Read, ReadPrepanod Nainapat
หน้ากากเดนนรก
  • ในช่วงหลังๆ นี้ ผมกับหลายๆ คนที่เคยสนทนากันเคยทักกันว่า หมดยุค 'การ์ตูนมิตรภาพ' แล้ว ซึ่งเรื่องนี้ก็เหมือนจะตอกย้ำคำพูดตะกี้อยู่พอสมควร

    ก่อนอื่นขอย้อนอธิบายถึงนิยามของ 'การ์ตูนมิตรภาพ' ของผมก่อนครับ การ์ตูนที่ว่านั้นหมายถึงการ์ตูนแนวที่ พระเอกต้องรวมกลุ่มกัน ไว้ใจกันถึงที่สุด โดยแทบจะไม่มีความคลางแคลงใจ และใช้พลังมิตรภาพ (หรือพลังหมาหมู่ในกรณีที่คุณเป็นตัวร้าย) เดินเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบ ลูกสูตรที่ว่านี้ เราเห็นได้จากการ์ตูนยุค 1980-2000  อยู่ไหมน้อย ไม่ว่าจะเก่าหน่อยอย่าง โรงเรียนลูกผู้ชาย หรือถ้าใหม่หน่อย กรณีแบบ โทริโกะ ก็น่าจะไม่พ้นจากสูตรนี้นัก

    แต่ช่วงหลัง การ์ตูนมิตรภาพ ได้รับความนิยมน้อยลง คงเพราะคนอ่านเจอมามาก ความเอียนจึงบังเกิด และการ์ตูนค้านมิตรภาพ ตัวละครไม่ได้ขาวจัดดำจัด แต่ละคนมีความชั่วร้ายในตัว บางครั้งการอยู่รวมกลุ่มกันก็เป็นอะไรที่ 'ก่อกิเลสหมู่' มากกว่า ก็เลยนิยมขึ้นมาในช่วงยุค 2010



    หน้ากากเดนนรก (ลิขสิทธิ์จัดจำหน่ายโดย สำนักพิมพ์รักพิมพ์) ก็อยู่ในแนวค้านมิตรภาพอยู่พอตัว แม้จะใช้พลอทเดิมๆ ชวน Cliche อย่างการที่จู่ๆ ตัวเอกโดนลากไปโลกต่างมิติ และโดนไล่ฆ่าจากเหล่าคนใส่หน้ากาก (แบบหน้าปกเล่มแรก) แจกจ่ายความสิ้นหวังให้กับตัวประกอบมากมาย แล้วเทใจให้ลุ้นกับตัวละครเอกว่าจะรอดไปได้อย่างไร พร้อมกับหักหลังเบาๆ ตามสไตล์แนวนี้

    ถึงจะดูซ้ำซากอยู่ หน้ากากเดนนรก ยังมีส่วนที่น่าจับตามองก็คือ การที่ตัวละครเอกสองตัว มีวิธีการคิดที่เป็นเหตุเป็นผล แม้ว่าจะอยู่ท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่น่าเชื่อก็ตาม (จนบางทีเราหมั่นไส้ความเทพของตัวละครบ้าง) และเมื่อเนื้อเรื่องถูกขยายไป ก็พบว่าเรื่องนี้มีความน่าสนใจจนทำให้คนอ่านนั่งเก้าอี้ไม่ติดเลยล่ะ เรียกได้ว่ามีความโดดเด่นข้ามหน้าข้ามตาการ์ตูนค้านมิตรภาพที่เริ่มเฟ้อในตลาดแล้ว

    ส่วนตัวแล้วผมก็ลุ้นต่อว่า... เล่ม 3 จะออกเมื่อไหร่นะ
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in