เปลือกตาบางเริ่มขยับตามแรงตื่นรู้ของเจ้าของร่าง มือเรียวยกขึ้นก่ายหน้าผาก เสียงครางบ่งบอกความทรมาณของร่างกาย
"โอยยย…"
ดวงตาสีน้ำตาลคู่สวยลืมขึ้นมองเพดานกระท่อมหลังน้อย บรรยากาศ และกลิ่นอายนี้ช่างคุ้นเคยนัก
เรย์พยายามฝืนยันตัวเองให้ลุกขึ้น แต่ร่างกายของเธอยังคงเจ็บปวดรวดร้าวจากฟอร์สมหาศาลที่ได้รับจนต้องล้มตัวลงไปนอนอีกรอบ
"นอนพักไปเถอะน่า" เสียงคุ้นหูดังขึ้นภายในกระท่อมนั้น เธอหันไปมองทางต้นเสียง
ร่างสีฟ้าของผู้ที่เคยอาศัยอยู่ที่นี่นั่งอยู่บนตั่งอีกฟากของห้อง เขามองดูเธอด้วยความเป็นห่วง
"มาสเตอร์สกายวอล์คเกอร์... ฉัน… ฉันขอโทษ..." เธอบอกเขาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาแบบคนรู้สึกผิด
ความผิดบาปมหันต์ที่เธอตัดสินใจทำลงไป…
แม้จะเพื่อช่วยคนอื่น แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องเลย…
"ข้าเข้าใจ" เขาเริ่มลุกขึ้นเดินมาทางเธอ "ไม่ต้องขอโทษหรอก" เขายืนอยู่ข้างเตียง
เรย์เริ่มร้องไห้ เขายกมือขึ้นลูบเส้นผมของเธออย่างเอ็นดู
"พวกเราเป็นห่วงเธอ"
เรย์ปล่อยโฮออกมาทันทีเมื่อได้ยินคำพูดที่แฝงความห่วงใยนั้น เธอคิดว่ามาสเตอร์สกายวอล์คเกอร์จะผิดหวังในตัวเธอซะอีก แต่เขากลับยังมาพบเธอแถมบอกว่าเป็นห่วงอีก
นั่นยิ่งทำให้เธอยิ่งรู้สึกแย่เข้าไปใหญ่…
"เรย์!!" เสียงทุ้มคุ้นหูดังขึ้นขณะเขากำลังเดินเข้ามาในกระท่อม ลุคเดินหลบให้เบนยืนแทนที่เขา
"เรย์… อย่าร้อง… ยิ่งอ่อนแอเธอจะยิ่งควบคุมตัวเองไม่ได้นะ" เขาพูดพลางนั่งลงข้างเธอ
เรย์สะอึกสะอื้น เธอหันไปกอดเบนเต็มแรง คราบน้ำตาไหลเปรอะเลอะเสื้อของเขา เขาลูบผมเธอเบา ๆ อย่างเป็นห่วง
เรย์กอดเขาไว้นานแค่ไหนก็ไม่รู้ รู้แต่ว่านี่เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดของเบนนับตั้งแต่วันที่ลุคหมายจะเอาไลท์เซเบอร์ปลิดชีวิตของเขา
พอเรย์เริ่มจะเบาเสียงลงไปบ้างแล้ว เขาก็เอ่ยขึ้นว่า
“เป็นถึงซิธลอร์ดแล้วยังร้องไห้ได้อีกเหรอเนี่ย? ขี้แยชะมัดเลยเธอเนี่ย”
เรย์ที่ได้ฟังคำพูดยียวนกวนประสาทของเบนก็เริ่มเส้นกระตุกแล้วประชดกลับไปว่า
“ขอโทษนะที่ฉันเป็นจักรพรรดินีที่ขี้แย!!” เธอเน้นเสียงตรงคำว่าจักรพรรดินี
เพราะถ้าจะว่ากันตามความจริงแล้ว ยศของเธอสูงกว่ายศเจ้าชายแห่งอัลเดรรานและลูกชายของนายพลออร์กาน่าของเบนนัก
“แต่ก็ไม่ได้เป็นเจได”
เส้นความอดทนของเรย์ขาดผึง เอื้อมมือใช้ฟอร์สดึงไปหยิบอาวุธอะไรก็ได้ที่อยู่ใกล้มือที่สุดมา ไม้กระบอง อาวุธประจำกายของกายของเธอลอยหวือเข้ามาในมือทันที
จับอาวุธได้ก็ฟาดเข้าที่เบนทันที ชายหนุ่มไหวตัวทันกระโดดหลบไม้กระบองของเธออย่างคล่องแคล่ว วิ่งไล่กันมาเรื่อย ๆ จนออกมานอกกระท่อม
ฝูงพอร์กส่งเสียงร้องพลางมองดูการต่อสู้ของพวกเขาอย่างสนใจ จนเมื่อเบนเริ่มหนีมาจนถึงจุดที่พวกมันอยู่ ฝูงพอร์กก็แตกกระเจิงทันที
เรย์เริ่มมีท่าทางเกรี้ยวกราดขึ้นเรื่อย ๆ สีหน้าโกรธเกี้ยว แววตาแข็งกร้าวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งการฟาดกระบองแต่ละทีหวังผลให้เบนบาดเจ็บจริง ๆ
‘เรย์!! ตั้งสติ!!’ เสียงของเบนดังขึ้นในหัวของเรย์
‘ตั้งสติสิ!!’
“ไม่!! ออกไปจากหัวฉันเดี๋ยวนี้นะเบน!!”
‘ตั้งสติ!!’
“ย้ากกกกกกกกกก!!!” พร้อมกับเงื้อกระบองเตรียมฟาด เบนหลบได้อย่างหวุดหวิด
‘ตั้งสติสิ เรย์!!’
“ไม่!! ก็บอกว่าออกไปจากหัวฉัน!!”
‘ฉันจะฝึกให้เธอควบคุมอารมณ์ให้ได้’
“คนหัวร้อนอย่างนายเนี่ยนะ!! จะสอนให้ฉันควบคุมอารมณ์!!”
‘ฉันเคยฝึกกับสโน๊คมา ฉันสอนให้เธอได้!!’
“ถ้านายทำได้ นายคงไม่กลายไปเป็นไคโล เร็น จอมหงุดหงิดหรอก!! ยังมีหน้ามาสอนฉันอีก!!”
‘ฉันทำได้ ฉันรู้วิธีรับมือกับศาสตร์มืด’
“ไม่เชื่อโว้ยยยย!!”
‘ให้ฉันลองฝึกให้เธอก่อนสิ’
“ม่ายยยยยยยยยยย!!!” เรย์แผดเสียงดังลั่น ฟันสีขาวเรียงตัวสวยของเธอกลายเป็นเขี้ยวแหลมคม เธอยังคงดื้อดึงไม่ยอมแพ้เบนที่กำลังช่วยเตือนสติจนเริ่มจะถูกด้านมืดเข้าครอบงำสติสัมปชัญญะ เธอยื่นมือข้างหนึ่งออกมาเพื่อใช้ฟอร์ส
แต่ผลที่ได้กลับเป็น…
‘เปรี้ยงงงงงงงง!!!!’
สายฟ้าลำใหญ่ฟาดลงมายังหินก้อนใหญ่ใกล้กับกระท่อมของเหล่าแม่บ้านปลาผู้ดูแลที่นี่ ห่างจากจุดที่เธอยืนออกไปไม่ไกลนัก
ก้อนหินแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ กระเด็นไปโดนหลังคา ตัวบ้าน และสิ่งของที่วางอยู่ใกล้ ๆ จนเละเทะไปหมด เหล่าแม่บ้านปลารีบวิ่งมาดูความเสียหายที่เกิดขึ้น
โชคยังดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ…
เรย์อ้าปากค้างตกใจกับสิ่งที่เธอเรียกมาและความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก และละล่ำละลักกล่าวคำขอโทษพร้อมกับน้ำตาที่รื้นขึ้นมาคลอเบ้า
เหล่าแม่บ้านปลาต่างโวยวายเป็นภาษาของพวกเขาซึ่งเรย์กับเบนไม่เข้าใจเลยแม้แต่คำเดียว แต่ก็พอจะเดา ๆ ได้ว่า เล่าแม่บ้านคงหมายหัวพวกเขาสองคนว่าเป็นตัวทำลายล้างแห่งอาค-ทูอย่างแน่นอน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in