เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เรื่องสั้นจากฉันถึงเธอJ A R O
คนแปลกหน้าทุกวันศุกร์ 13 มีนาคม
  • ทุกปีมักจะมีวันหนึ่ง วันที่ทุกคนเชื่อว่าเป็นวันแห่งความตาย วันอันตราย วันที่ไม่ควรออกจากบ้าน แต่สำหรับฉันวันไหนมันก็คือวันของการทำงานทั้งนั้นแหละ ฉันทำงานทุกวันแม้แต่วันหยุด การทำงานสายฟรีแลนซ์ ทำให้ฉันรู้ว่าวันหยุดไม่มีอยู่จริง ถึงแม้ว่าฉันไม่ต้องนั่งทำงานที่ออฟฟิศ แต่การทำงานอยู่กับบ้านคุณเชื่อไหม? มันก็น่าเบื่อไม่ต่างจากการทำงานในออฟฟิศนักหรอก ดังนั้นฉันควรจะออกไปทำอะไรที่จรรโลงใจบ้าง


    วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันของปีนี้ที่เป็น “ศุกร์ 13 เขาว่ากันว่าจุดเริ่มต้นความเชื่อเรื่อง ศุกร์ 13 นั้น เชื่อมโยงกับความเชื่อที่ว่ามีคน 13 คนร่วมทานอาหารมื้อสุดท้ายกับพระเยซู ก่อนที่พระองค์จะถูกนำตัวไปตรึงบนไม้กางเขนในวันศุกร์ประเสริฐ แต่ฉันไม่เชื่อหรอกนะ ไอ้เรื่องไร้สาระพรรณ์นั้นน่ะ วันศุกร์ 13 มีมาตั้งกี่ครั้งแล้ว ปีนี้อีก ฉันอายุ 25 ใคร ๆ ก็หาว่าเป็นช่วงวัยเบญจเพส ต้องระวังตัวดี ๆ แต่ฉันคิดว่ามันไม่เกี่ยวหรอก คนเราชอบมีความเชื่อแปลก ๆ มักจะเชื่ออะไรที่มันเชื่อถือไม่ได้หรือไม่ก็ไม่มีหลักฐานที่เป็นรูปธรรม 


    “อ้าว เคธี่จะไปไหนล่ะ วันนี้มันศุกร์ 13 นะ ดึกแล้วไม่น่าออกไปข้างนอกนะ ฝนก็ตกหนัก” พี่สาวฉันร้องทักทันทีเมื่อเห็นว่าฉันกำลังก้าวขาออกจากบ้าน “แค่ไปบ้านเพื่อนน่ะ” ฉันเอ่ยตอบสั้น ๆ ก่อนจะรีบกดกุญแจเปิดรถ เปล่าหรอก อันที่จริงฉันไม่ได้ไปบ้านเพื่อนหรอก ฉันก็แค่ อยากไปหาเขา ไปดูว่าเขาจะอยู่สุขสบายดีไหมเมื่อไม่มีฉัน

    “ครืน..” เสียงฟ้าร้องดังไปทั่ว “เปรี้ยง!” พลันก็มีแสงสีขาวทิ่มแทงลงมาจากท้องฟ้า ฝ่าความมืดมิดกลางสายฝนลงมา .. ฉันขี่รถมาจอดอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่ง ฉันจอดและมองคนภายในบ้านนั้น ภายในบ้านนั้นเปิดไฟสว่างไปทั่วทั้งหลัง มีเสียงเด็กน้อยร้องเพลงแข่งกับเสียงฝนที่กระหน่ำตกลงมา ก่อนที่ไฟในบ้านจะดับลง ทุกอย่างมืดสนิท เหลือเพียงแต่แสงไฟจากหน้ารถของฉันที่ยังคงสว่างอยู่ท่ามกลางความมืดบนท้องถนน ฉันเปลี่ยนมาใส่เสื้อกันฝน ค่อย ๆ เปิดประตูรถ และลงเดินไปใกล้ ๆ บ้านหลังนั้น  ฉันแอบอยู่ตรงด้านข้างหน้าต่าง เป็นจังหวะที่ไฟติดพอดี ทำให้ฉันมองเห็นเด็กผู้ชายคนนั้นได้ชัดเจนขึ้น ฉันแอบยืนมองเขาผ่านกระจกหน้าต่าง

    “เปรี้ยง!” ฟ้าฝ่าเป็นแสงตรงกระจกหน้าต่างพอดี เด็กน้อยหันหน้ามาตามเสียงและเห็นเงาของคนลึกลับอยู่ตรงริมหน้าต่าง “อ๊าก!!!” เด็กน้อยร้องลั่น “มาอีกแล้วฮะ ปีนี้มาอีกแล้ว ผมบอกแล้วว่ามีปีศาจอยู่จริง ๆ นะครับ มันมาให้ผมเห็นทุกปีเลย” เด็กผู้ชายร้องไห้ลั่น พร้อมกับยกมือชี้ไปที่หน้าต่างที่ว่างเปล่า “ทิม ไม่มีอะไรหรอกนะลูก อาจจะเป็นเงาต้นไม้ก็ได้” สาวร่างอวบสวมกอดเด็กชายไว้พลางลูบหัวเขาอย่างเบามือ

    ใช่..​ ฉันยอมขับรถไกลจากอีกเมือง ตั้ง ชั่วโมงเพียงเพื่อจะมาเห็นหน้าของเด็กผู้ชายคนนั้น กำลังเป่าเค้กวันเกิด วันนี้เขาครบรอบอายุ 10 ขวบแล้วสินะ.. ถ้าหากวันนั้น ฉันมีทุกอย่างเพียบพร้อมมากกว่านี้ฉันคงไม่ต้องยกเขาให้กับคนอื่น ฉันไม่เคยเชื่อเลยสักครั้งว่าวันนี้จะเป็นวันที่โชคร้าย เพราะฉันรู้อยู่แก่ใจว่ามันเป็นวันที่ฉันมีความสุขที่สุดในชีวิต สุดท้ายแล้วฉันก็เป็นเพียงคนแปลกหน้า เป็นเพียงปีศาจสำหรับเขาในทุกวันศุกร์ที่ 13 มีนาคม

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in