เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ก้วยสตอรี่ไร้ นาม
Under the same sky
  • HOW  ABOUT  YOUR BOYFRIEND?



    BOY - Blue boy come in my area


    FRIEND - 404 Error




                แด่เด็กชายผู้ครอบครองสีของท้องฟ้าตอนหกโมงสิบห้าและปีกคู่ของเขา







    ฝันร้าย…


    ผมเคยฝันร้ายทั้งๆที่กำลังลืมตาตื่น รอบตัวกลายเป็นภาพเบลอ ไม่อาจรับรู้สิ่งใด ปิดกั้นตัวเองและปล่อยหัวใจจมลงไปในทะเลลึก คิดว่าปกป้องตัวเองอย่างดีที่สุดแล้ว เท่าที่สองมือนี้ที่จะทำได้ กอดตัวเองแน่นที่สุด ภาวนาให้ตื่นจากฝันนี้เสียที หรือภาวนาให้ใครก็ได้หาผมเจอ...


    และพอลืมตาขึ้นมาอีกที…


    ก็เป็นเขา...ที่อยู่ข้างผม


    ผู้ชายธรรมดา สูงร้อยเจ็ดสิบกว่าๆ เดาว่าน้ำหนักตอนนี้ก็คงไม่เกินเจ็ดสิบ...อืม เดาจากที่กอดน่ะนะ ไม่อ้อนแอ้นบอบบางแบบที่ผมชอบเลยซักนิด ไม่ได้น่ารัก ไม่ได้มีหน้าอกคัพ D แบบที่ผมคลั่งไคล้


    มีแต่รอยยิ้มเจิดจ้าแสบตาที่ส่งให้ผมเสมอ…


    ชายหนุ่มผู้พิชิตท้องฟ้าด้วยรอยยิ้มเดียว  ผมแอบเรียกเขาแบบนั้น เป็นท้องฟ้าตอนหกโมงเช้า ฟ้าเทาเจือจางเหมือนน้ำในถังล้างแปรง  ไม่ได้สดใสมากนักแต่ก็ไม่ได้มืดหม่นจนมองไม่เห็นสิ่งใด อย่างน้อยผมก็เห็นตัวเองสะท้อนอยู่ในนัยน์ตาคู่นั้น เป็นประกายสดใสคล้ายบรรจุดวงดาวไว้นับร้อยนับพันนั่น…


    เราทั้งคู่ต่างหลงทาง…


    ผมไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่กอดของเขาแน่นกว่าเดิม หรือความรู้สึกของเขาที่เริ่มเปลี่ยนไปตอนไหน พอรู้สึกตัวอีกที เขาก็เข้าสู่สนามแข่งขันกวาดหมากทุกตัวของผมทิ้งแล้วตรงดิ่งมาหาผม


    ห้าวหาญและซื่อตรงอย่างถึงที่สุด…


    ผมฝังปลายจมูกกับเนื้อผ้านุ่มนิ่มอบอวลกลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มยี่ห้อประจำของอีกฝ่าย เรากอดกันนับครั้งไม่ถ้วนในความมืดมิดที่ห่อหุ้มพวกเราไว้และอำพรางความรู้สึกของผม


    ทิ้งความร้อนไว้บนผิวกายเย็นเฉียบของกันและกัน


    ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองเชื่อง...แต่เขาทำให้ผมเริ่มไม่แน่ใจ


    เพียงแค่รอยยิ้มเดียวเขาก็ทำผมเป็น ‘เด็กดี’ ได้เสียแล้วหรือ?


    และใช่แค่รอยยิ้มเดียวนั่นแหละ...จากเสือให้ร้องเมี้ยวยังทำได้เลย





    ผมคิดว่าผมพลาดที่ยอมให้เขากอด…


    เป็นความรู้สึกแปลกๆยามก้านนิ้วสอดประสานกัน  หรือยามที่เขาประทับริมฝีปากนุ่มลงที่ข้างแก้มของผมยามจำต้องร่ำลากันเข้านอนและตื่นมาเจอกันในตอนรุ่งสาง


    มันคล้ายกับผีเสื้อที่กำลังขยับปีก…เล็กน้อยแต่ยิ่งใหญ่คล้ายจะสั่นโลกทั้งใบของใครซักคนก็ย่อมทำได้…


    และโลกของใครซักคนที่ว่า...ก็คือผมเอง :(






    บางทีพ่อคงแปลกใจนิดหน่อย ที่ลูกชายคนโตของพ่อมีแฟนเป็นผู้ชาย ไม่ได้น่ารักบอบบางอย่างสมัยนิยมออกจะหนาและแข็งแรงไปด้วยซ้ำ แต่บางทีพ่อคงทำเพียงตบบ่าผมแล้วระบายยิ้มให้ เขาคงจะเคารพทางเลือกของผม มีหลายเรื่องที่ผมต้องปรับตัว อย่างแรกคือเราเลื่อนจากเพื่อนเป็นแฟนกันแล้ว อย่างที่สองคือ ผมทรีต แฟน ที่เป็นผู้ชายไม่เป็น


    เงอะงะและงุ่มง่าม...พวกเราทั้งคู่


    ค่อยๆก้าวเดินอย่างเชื่องช้าจนน่าขำ


    แต่ไม่เป็นไรหรอก…


    ตราบเท่าที่ท้องฟ้ายังยิ้มให้ผม....มันจะไม่เป็นอะไร




    มันจะไม่เป็นอะไร...แม้ในยามที่เราต่างมอบอ้อมกอดให้แก่กัน ในยามที่ผมยอมให้เขาทั้งหมด ทั้งร่างกายและหัวใจ ยอมกรีดร้องอย่างสุขสมภายใต้อาณัติของเขา


    ภายใต้ท้องฟ้ากว้าง…


    ผมจะเป็นของเขา…



    ไม่รู้ว่าเนิ่นนานเท่าไหร่ที่เราพร่ำบอกรักกันซ้ำแล้วซ้ำเล่าผ่านสัมผัสลึกซึ้ง ยามริมฝีปากร้อนเลื่อนผ่านผิวเนื้อเปลือยเปล่าเขาทิ้งร่องรอยเอาไว้มากมาย  ไม่อาจนับและผมก็ไม่ได้เอ่ยห้าม ทำเพียงไล้ปลายนิ้วไปตามแผ่นหลังกว้างยามเขาเคลื่อนไหว คลื่นอารมณ์ซัดสาดเราทั้งคู่ โหมกระหน่ำและสงบลงในเกือบรุ่งสาง ผมลืมตาตื่นขึ้นมาตอนที่ฟ้าเริ่มมีแสงสลัว ขมุกขมัวและเลือนลาง เหลือบตามองใบหน้ายามหลับของคนที่ก่อกวนมาเกือบตลอดทั้งคืน ขยับตัวนิดหน่อยพร้อมกับเบ้หน้าเพราะความรวดร้าวจากเบื้องล่าง ยกมือขึ้นเกลี่ยปรอยผมที่ตกลงมาปรกหน้าผากมนของอีกฝ่าย คลี่ยิ้มออกมานิดหน่อยตอนคิ้วเข้มขมวดเพราะถูกรบกวน


    สอดนิ้วกุมมือหยาบเพราะถูกใช้งานอย่างหนัก กระชับให้แน่นขึ้นนิดหน่อยก่อนจะบรรจงจูบลงที่หลังมือของเขา


    ผมไม่เคยบอกความหมายของจูบนี้...และหวังว่าซักวันผมจะกล้าพอ



    มีอีกหลายเรื่องที่ผมยังไม่ได้บอกเขา และอีกหลายเรื่องที่ผมอยากจะฟังจากปากของเขา เรื่องของเราทั้งคู่ที่หลงทาง และต่างเจ็บปวด


    ถูกทำร้ายและถูกรัก….


    ผมสวมกอดเขา ขยับแบ่งผ้าห่มให้อย่างเคย แอบสัมผัสปีกคู่ที่หลังคนที่ยังอยู่ในนิทราอย่างแผ่วเบา


    ขอบคุณมัน...ที่นำพาเขามาหาผม


    เขาบินมาไกลเพื่อมาเจอผม และผมก็หลงทางไปไกลก่อนจะกลับมาเจอเขา


    กอดแน่นขึ้นอีกนิดให้พอได้ยินเสียงหัวใจของอีกฝ่ายได้ชัดเจนขึ้น มันแผ่วเบาและเต้นเป็นจังหวะละมุนละไมคล้ายรอยยิ้มของเขา


    ขยับตัวยุกยิกภายใต้ผ้าห่มหนาจุมพิตเปลือกตาสีอ่อนอย่างรักใคร่


    ตอนมีรักผมอ่อนแอ ขี้แพ้  และ เปราะบาง


    อดีตสอนผมให้หวาดกลัวเหลือเกินที่จะวางใจไว้ในมือใครซักคน


    แต่ครั้งนี้ผมทำ...บรรจุหัวใจแก้วเนื้อบางที่มีรอยร้าวเล็กๆของตัวเองใส่กล่องผูกโบว์และบรรจงวางไว้ในมือเขา  โดยหลอกว่ามันคือขนมปี๊บ


    และไม่ว่าอีกฝ่ายจะรับรู้หรือไม่ ผมก็ทำมันไปแล้ว…


    ผมกำลังเสี่ยงทายว่ามันจะแตกสลายอีกครั้งหรือเปล่า…


    คาดหวังว่าเขาจะใจดีกับผมอีกนิด…


    มากๆก็ได้...ผมชอบที่เขาใจดี :)





    ผมอมยิ้มยามเจ้าลูกมาตัวโตส่งเสียงงุ้งงิ้งออกมา ผละออกมานอนหนุนหมอบใบโตจับจ้อง โครงหน้าเท่ๆนั่นที่ไม่อยากจะยอมรับนัก


    ฟังเสียงหัวใจตัวเองเต้นระรัว โวยวาย และตะโกนโหวกเหวกในความเงียบตามลำพัง


    “รู้แล้ว…” ผมบอกตัวเอง พึมพำบอกหัวใจที่งอแงตั้งแต่เมื่อกี้ พร่ำบอกให้มันเต้นช้าลงหน่อย  ผมยังไม่อยากตายเพราะหัวใจเต้นแรงมากเกินไปหรอกนะ


    ขยับตัวเข้าไปใกล้อีกนิด ผมกำลังจะร่ายมนต์ เผื่อเขาจะรักผมมากขึ้นอีกนิด


    “...รัก….นะ”


    กระซิบกระซาบราวกับกลัวเขาจะตื่นมาได้ยิน ผมยิ้มโง่ๆให้การกระทำของตัวเอง พออกพอใจแล้วก็ล้มตัวลงรวมร่างกับหมอนนุ่มใบเดิม เปลือกตาปรือปรอยลงเพราะความอ่อนเพลีย


    หาวหวอดอย่างแมวขี้เซา มือยังกุมมือเขาไว้ เสียงนกร้องของยามเช้าเริ่มโผล่มาทักทายบอกให้รู้ว่าอีกไม่นานท้องฟ้าจะเปลี่ยนสีอีกครั้ง…


    แต่นั่นไม่สำคัญหรอก ผมบอกแล้วไง


    ไม่ว่ามันจะเปลี่ยนไปแค่ไหน...ภายใต้ท้องฟ้าผืนนี้


    ผมก็เป็น...ของเขาไปแล้วอยู่ดี :)




    FIN


    ______________________________________________

    แด่เด็กชายสีฟ้า ปีกคู่ รอยยิ้มเคลือบหยาดน้ำตาล และทุกคนที่เคยหลงรักเขา

    ใช่ ผมเองก็ด้วย


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in