เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
my life is my lifele livre (b)
2
  • “ปรับตัว”

    ปรับตัวคือคำที่นักเรียนเเลกเปลี่ยนจะได้ยินบ่อยมากถึงมากที่สุด คงจะเป็นเพราะว่าการที่เรามาในที่ที่ทุกสิ่งทุกอย่างแตกต่างจากประเทศเราเอง สิ่งแรกที่เราต้องทำก็คือปรับตัวจริงๆ โวเลนเทียร์ต่างก็บอกกันว่ายิ่งเราปรับตัวเข้ากับสังคมและครอบครัวได้เร็วเท่าไหร่ เราก็ยิ่งมีความสุข และสบายตัวสบายใจกับการอยู่ที่นี่มากเท่านั้น

    ในความเป็นจริงเเล้ว เราว่าการปรับตัวคือหนึ่งในสิ่งที่ยากที่สุดที่จะทำในการเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนแล้ว ตอนก่อนเราจะมา คำว่าปรับตัว และตัวคอนเซปต์ของวัฒนธรรมของฮังการีดูไม่ได้ยากที่จะทำตัวให้คุ้นเคยด้วยเลย มองดูผ่านๆ ก็คล้ายกับวัฒนธรรมของไทยอยู่พอสมควร แต่พอเราได้มาอยู่จริงๆ แล้ว มีเรื่องเล็กเรื่องน้อยอีกมากมาย ที่การที่เราแค่อ่านจากคู่มือ หรือตามอินเตอร์เน็ตอย่างเดียว มันก็คงรวบรวมไว้ไม่หมด 

    เราใช้เวลาอยู่สองถึงสามเดือนในการปรับตัวให้เข้ากับหลายๆ อย่าง ถึงอย่างนั้นก็ยังมีบางอย่างเช่นกันที่จนถึงตอนนี้ เราก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ว่าทำไมเขาถึงทำแบบนี้ ทำไมเขาถึงคิดแบบนี้ แต่บางครั้งเราว่ามันอยู่ที่การเข้าใจใน mindset และ values ของคนอื่นมากกว่า ที่ทำให้เราปรับตัวเข้ากับเขาได้ง่ายขึ้น การทำความเข้าใจว่าบางครั้งคนเรามันไม่มีเหตุผลหรอกที่จะเลือกทำแบบนี้ แทนที่จะทำอีกอย่างนึง 

    มีหลายครั้งมากๆ ที่เรากับครอบครัวของเราทะเลาะกัน หรือเกิดการเข้าใจผิดกัน เพราะความไม่คุ้นชินใยสิ่งที่อีกฝ่ายทำ อาจเป็นเพราะด้วยเรื่องของภาษาด้วย ที่ทำให้เราไม่ได้คุย หรือพูดถึงสิ่งเหล่านี้อย่างเปิดเผย ตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่เรามาถึง

    การปรับตัวเนี่ย ฟังผ่านๆ ก็ดูเหมือนจะง่ายนะกับการที่เราต้องเลิกทำบางสิ่งบางอย่างที่เราทำบ่อยๆ จนชิน เพราะมันเป็นสิ่งที่คนในประเทศนี้เขาไม่ทำกัน แต่พอต้องมาเลิกจริงๆ มันคือสิ่งที่ยากมากกกกกกกก ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยที่จะใส่รองเท้าในห้องครัวทุกครั้ง (รองเท้าอารมณ์รองเท้าแตะ แต่เอาไว้ใส่ในบ้าน) หรือเรื่องอื่นๆ อีกมาก แต่ละคนก็คงมีความเคยชินที่ไม่เหมือนกันนั่นแหละ

    แต่เราว่ามันก็จริงอย่างที่พวกโวเลนเทียร์พูดนั่นแหละ ยิ่งเราปรับตัวได้เร็วเท่าไหร่ เราก็ยิ่งมีความสุขสบายใจมากขึ้นเท่านั้น
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in