เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Don't Worry Be Happy ความสุข ความฝัน กำลังใจNatthida Chitmankongkul
“แปรเปลี่ยน”
  • "ฉันอยากออกจากตรงนี้ ฉันอยากออกจากสิ่งที่เป็นอยู่ที่รายล้อมฉันอยู่  มันอึดอัดเหลือเกิน อึดอัดมากเกินกว่าจะรับมันไว้ ถามว่ามันยอมรับกับสิ่งที่เป็นอยู่ได้ไหม มันยอมรับได้และเข้าใจ  แต่มันโหดร้ายเกินกำลังที่ฉันจะเข้าไปช่วยเหลือมันกระอักกระอ่วน  ฉันว่ามันไม่สมควรที่มันจะเกิดขึ้นเขาไม่ควรทำ มันหน้าละอายออก มันไม่น่าเห็นใจเลยสักนิด การกระทำมันทำให้คนมาก่นด่าและสมเพชมากกว่าการเห็นใจและ มองเป็นตัวน่าขยะแขยง"

    ------------------------------------- 

    คนเราจะมีความรักและแสดงความรักกันด้วยวิธีต่างๆ มากมายคนรักกันแสดงความรักต่อกันฉันยินดีไปกับความรักนั้นด้วย ความรักนั้นบริสุทธิ์ทำให้เรามีความสุข โลกทั้งโลกกลายเป็นสีชมพู และมอบความรักให้แก่กัน  หลายคนนิยามกันแบบนั้น แต่ฉันว่าความรักในบางทีมันก็มีเห็นแก่ตัว  ความเอาแต่ใจตัวเอง ความไม่พอดีของกันและกันระหว่างคนสองคน  คนหนึ่งอยากป่าวประกาศให้ก้องโลกว่ารักอีกคนมากแค่ไหนแต่บางคนก็ไม่ได้อยากป่าวประกาศความรักนั้นออกไปแค่อยากมอบความรักให้แก่กันระหว่างกันเท่านั้นพอ แต่ละอย่างมันต้องขึ้นอยู่กับความพอดีของคนสองคนด้วย

    ความรัก...เราจะหาความรักที่พอดีสำหรับเราได้ที่ไหน มันมีจริงๆหรอ  ทำไมมันดูเหมือนความล่องลอย   ฉันสงสารคนที่ผิดหวังกับความรักนะ แต่การผิดหวังมันก็ไม่ได้ทำให้ใครตายในเวลาเฉียบพลันนักหรอกความรักมันทำให้เราแค่เปลี่ยนสถานะจาก คนรู้จักเป็นเพื่อน จากเพื่อนกลายเป็นแฟน  จากแฟนกลายเป็นคนรัก จากคนรักกลายเป็นสามีภรรยาที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกลายเป็นครอบครัว 

    แต่ถ้าวันหนึ่งความรักนั้นหมดลงมันก็ถดถอยลงไปที่จุดเริ่มต้นเท่านั้นเอง จุดเริ่มต้นที่เราจะต้องเริ่มต้นใหม่  จุดเริ่มต้นก็ไม่ได้ทำให้เราตาย มันแค่ทำให้เราเสียใจ วนเวียนอยู่ แต่อย่างน้อยมันจะค่อยจางหายไปเหลือไว้เพียงความทรงจำบางๆ เพียงเท่านั้น และเวลาเท่านั้นที่จะเยียวยาเรา ทำให้เราเป็นคนได้เหมือนเดิม เพราะฉะนั้นความสัมพันธ์เป็นอะไรที่รักษาไว้ให้คงอยู่นั้นยาก ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ในฐานะไหนๆถ้าเราขาดความเข้าใจ ใส่ใจ ซื่อสัตย์และจริงใจ ยังไงก็มันก็รักษาไว้ได้ยากยิ่ง

    การเพ้อฝันพร่ำบอกความรักให้คนอีกคนเพียงเพื่อให้เขากับมารักบนโลกโซเชียลนั้นมันช่างน่าตลกและสมเพชสิ้นดี ทำไมน่ะหรอเพราะการกระทำบางอย่าง หรือแม้แต่ความคิดของแต่ละคนมันไม่มีทางเหมือนกันกับที่เราคิดได้เลยและยิ่งเป็นคนที่รู้จักมักคุ้นกับพฤติกรรมการกระทำ หรือความคิดของเราแล้วบางทีมันก็เป็นดาบสองคมที่จะทิ่มแทงเราให้ไม่เหลือค่าของความเป็นมนุษย์อยู่เลย ยิ่งเป็นศักดิ์ศรีแล้วยิ่งแล้วใหญ่ 

    หลายคนอาจจะเห็นใจเข้าอกเข้าใจเชิดชูในความรักของเราที่มอบให้กับใครอีกคน

    "แต่....มันมักเป็นส่วนน้อยนิดที่จะเห็นใจ"

    พลังบนโลกโซเชียลถ้ามันเป็นเรื่องที่ดีก็ดีไป แต่ก็มีอีกด้านมุมหนึ่งที่โหดร้ายเสมอ คือ มักมีแต่การก่นด่า ขุดคุ้ยทำลาย เรียกกันได้ว่าแทบจะเผาเราทั้งเป็นเลยก็ว่าได้ และนี่แหละเป็นสิ่งที่มักทำให้เกิดความกระอักกระอ่วนมองกันอย่างน่าละอายที่สุดและอาจเป็นตราบาปติดตัวกันไปยันชั่วลูกชั่วหลาน ไม่ว่าเราจะทำหรือไม่ได้ทำก็ตามเราก็ยังผิดอยู่ดี

    ฉันไม่เคยคิดว่าการที่ใครคนหนึ่งมานั่งร้องขอความรักความเห็นใจจากคนที่ไม่รักแล้วจะประสบผลสำเร็จสักเท่าไหร่ เพราะว่าในเมื่อสถานะของอีกคนนั้นเปลี่ยนไปแล้วมันก็ยากเหลือเกินที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม  อะไรล่ะที่ทำให้ใครอีกคนเปลี่ยนไปนั้นมันก็ต้องย้อนกลับมาดูที่ตัวเองกลับมาดูที่ความคิด การกระทำ จิตใจ ความใส่ใจ การรักษาคำพูด ความซื่อสัตย์และอะไรอีกหลายๆ อย่างรวมกันทั้งนี้เมื่อกลับมาย้อนดูมันทำให้เราเข้าข้างตัวเองจนเกินไปและได้แต่พร่ำบอกตัวเองว่าฉันก็ไม่ได้แย่นิ ฉันก็ไม่ผิดนิ แต่จริงๆแล้วเรานั้นแหละที่ทำให้ความสัมพันธ์นั้นจบลงจบลงอย่างง่ายได้เพียงแค่ชั่ววูบเดียว เพียงแค่ความคิดเดียวเท่านั้นการร้องขอความรักจากคนที่ไม่ได้รักแล้วมันมักจะสูญเปล่าเสมอ

    ........แต่ถ้าใครมาร้องขอความรักความเห็นใจบนโลกโซเชียลแล้วได้คืนฉันก็ยินดีด้วย.........

    "แต่อย่าลืมว่าความหวังที่จะกลับมาเหมือนเดิมนั้นมีน้อยนิด เมื่อต่างคนต่างแปรเปลี่ยน"

    ฉันจดข้อความนี้ลงสมุดบันทึก เขาไปแล้วฉันตัดเขาออกไปแล้วจริงๆ และนั้นแหละคือ "สิ่งที่ฉันต้องการ"

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in