"พี่ค้นพบว่าจุดแข็งของพี่คือสามารถเล่าเรื่องให้ impact ได้ เพราะคนบางคนเค้าเก่งนะแต่เค้าเล่าเรื่องให้คนอินไปกับเค้าจนอยากมาช่วยมาร่วมมือกับเขาไม่ได้ แต่พี่เป็นคนที่สามารถช่วยให้คนพวกนั้นเล่าเรื่องเหล่านั้นออกมาได้ ไม่ว่าจะผ่านการพูดคุย ตั้งคำถามหรืออะไรก็ตาม พี่ก็เลยออกมาตั้งบริษัทแบบนั้น"
อยากจะบอกว่าคนที่พูดออกมาได้ชัดเจนว่าตัวเองมีดีตรงไหนเนี่ยโคตรเท่
แล้วคนที่ทำให้จุดดีตรงนั้นมันออกมาเป็นรูปธรรมได้อย่างพี่เขาคือโคตรของโคตรคูล
เพราะปัจจุบันจากระบบการศึกษาพื้นฐาน 12 ปีนั้นเป็นการเร่งให้เราต้องรีบค้นหาว่าตัวเองอยากเป็นอะไร โดยที่ตัวระบบการศึกษาและสังคมไม่ค่อยให้โอกาสเด็กได้ค้นหาและคิดถึงเรื่อง"จุดแข็ง"ของตัวเองในฐานะที่เป็นหนึ่งในปัจจัยในการเลือกอาชีพเท่าไหร่นัก
ทั้งที่ความจริงแล้วเรื่องจุดแข็งนี้เป็นเรื่องสำคัญกว่า เงินเดือนที่จะได้ หรือ ความมีหน้ามีตาของสังคมซะอีกแต่เด็กสมัยนี้กลับใช้เรื่องนี้เป็นเรื่องรองในการตัดสินใจซะมากกว่า (โดยที่ตัวเองก็ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วเรื่องที่เราคิดว่าเป็นจุดแข็งของเรานั้นเป็นอย่างที่เราคิดจริงๆหรือเปล่า)
ในหนังสือชื่อดังอย่าง Managing oneself ที่ถูกเขียนโดยปรมาจารย์จัดการของโลกอย่าง Peter F. Drucker หรือหนังสือขายดีอันดับ1 ของ WALL STREAT JOURNAL อย่าง STRENGTHS FINDER ล้วนแต่กล่าวไปในทำนองเดียวกันว่า ที่มาของความเบื่อหน่ายในการทำงานของคนส่วนใหญ่ในปัจจุบันมาจากการทำงานที่ไม่ได้ใช้ "จุดแข็ง" ในตัวพวกเขาจริงๆ และคนเราจะสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมได้แต่จาก "จุดแข็ง" ของตัวเองเท่านั้น
ถ้าเรามองดูคนที่ประสบความสำเร็จนั้น (ในที่นี้หมายถึงคนที่สามารถรักษาสมดุลของทุกด้านในชีวิตได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน ครอบครัว เพื่อน ตัวเอง) จะพบว่าส่วนใหญ่คนเหล่านั้นรู้ว่าจุดแข็งของตัวเองคืออะไร และใช้จุดแข็งนั้นให้เป็นประโยชน์
และพี่พิคือหนึ่งในคนเหล่านั้น
จากที่ฟังพี่พิเล่าประสบการณ์ชีวิตในด้านต่างๆให้ฟังถึงได้เข้าใจว่าพี่เค้าได้ค้นพบจุดแข็งตัวเองจากการที่พี่เขาลงมือทำอะไรหลายอย่างและคอยสังเกตตัวเองอยู่เสมอ ซึ่งแท้จริงแล้วมันคือหลักการพื้นฐานในการค้นหาจุดแข็งที่ชื่อว่า feedback analysis (การวิเคราะห์ทบทวนตัวเอง) จากในหนังสือเรื่อง Managing oneself
อย่างไรก็ตามจริงอยู่ที่ถึงแม้ "จุดแข็ง" จะเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้เราประสบความสำเร็จแต่ก็อย่าลืมว่ายังมีอีกหลายอย่างนอกจากจุดแข็งที่เราต้องใส่ใจ
แต่ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ทุกคนลองคิดอย่างจริงจังเรื่อง "จุดแข็ง" ของตัวเองเพราะมันอาจทำอะไรได้มากมายกว่าที่คุณคิด
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in