เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
The story of Viz and His Amazing LifeBright Viz
รู้สึกตัวว่าแก่ ก็ตอนร่างกายมันแย่
  • เป็นการประเดิมเรื่องแรกที่ดีจริงๆ

    มีความพยายามหลายครั้งที่จะเริ่มเขียนอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ ขี้เกียจ จนไม่มีโอกาสเขียนซักที

    จนมาถึงวันนี้ วันที่ * ไม่ออก วิ่งเข้าวิ่งออกจากห้องน้ำไปแล้ว 5 รอบ จนสุดท้ายทนไม่ไหว ต้องไปซื้อยาจากแถวๆ คอนโดมากิน

    ระหว่างรอยาออกฤทธิ์ ก็ไม่มีสมาธิพอที่จะทำงาน (นั่งยังลำบากเลย) และยังไม่สามารถเดินทางไปไหนได้ด้วยความกลัวว่ายามันจะออกฤทธิ์บนทางด่วน จนได้ออกข่าวคล้ายๆ กับสาวท้องแก่ทนไม่ไหว คลอดบนทางด่วน แต่ของเรามันคือ *  ไม่ใช่เด็ก...


    เข้าเรื่องเลยดีกว่า

    สัปดาห์ที่ผ่านมา เราเริ่มรู้สึกตัวแล้วว่าเราไม่ใช่ Wolverine อีกต่อไป อาการเจ็บป่วยหรือบาดแผลต่างๆ ที่เคยใช้เวลาสองสามวันก็หายเป็นปกติ กลับยังคงอยู่ถึงแม้เวลาจะผ่านไปแล้วเป็นสัปดาห์



    สิว ที่เมื่อก่อนบีบแล้วรอสองวัน แผลและรอยทุกอย่างก็จะหายไปเหมือนไปยิงเลเซอร์ ปัจจุบันนี้แค่มันเป็น ถึงจะไม่ได้บีบแต่รอยสิวยังยืนยงคงกระพันบนใบหน้าของเราเป็นสัปดาห์ๆ

    แผลต่างๆ ที่เมื่อก่อนแป๊บๆ ก็หาย เดี๋ยวนี้รอไปเถอะ บางทีเป็นนานจนพอมันหายแล้วรู้สึกแปลกใจด้วยซ้ำว่ามันหายไปไหน(วะ)

    เวลาไปวิ่ง มีโอกาส 30% ที่จะเกิดอาการบาดเจ็บ ไม่ว่าจะเป็นปวดหลัง ปวดเท้า บลาๆๆ เป็นทีก็รักษาตัวเป็นชาติ จนรู้สึกเหมือนเป็นการแกว่งเท้าหาเสี้ยนยังไงยังงั้น ทำให้ตอนนี้ไม่ค่อยมีอารมณ์อยากจะไปวิ่งซักเท่าไหร่

    มาล่าสุด ท้องผูก ผูกหนักมากจนไม่แน่ใจว่ายาที่กินลงไปนี่จะเอาอยู่มั้ย มีแนวโน้มพอสมควรว่าอาจจะได้ไปลงเอยที่โรงพยาบาลแถวๆ นี้


    แล้วทำไม อยู่มาตั้งนานถึงพึ่งมารู้สึกตัว?

    เหตุผลก็ไม่มีอะไรมาก เมื่อก่อนเราใช้ชีวิตคนเดียว คิดแค่ว่าแค่มีชีวิตจนอยู่ดูแลพ่อ-แม่ให้ถึงที่สุด หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรที่ต้องเป็นห่วง หรือต้องกังวล จะใช้ชีวิตแบบปล่อยปละละเลยซักหน่อยก็คงไม่ตาย (เร็วขนาดนั้น)

    แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ละ มีอีกชีวิตที่เรารัก ที่เราอยากดูแลไปตลอด เรารู้ดีว่าถ้าเราเป็นอะไรไปยามแก่เฒ่า คนที่จะลำบาก คนที่จะเสียใจมันไม่ใช่เราคนเดียว เลยได้มีโอกาสหันกลับมามองตัวเองมากขึ้นนั่นเอง (จริงๆ คนที่เริ่มทักเราก่อนก็ไม่ใช่ใครหรอก ก็เธอเองนั่นแหละ)

    เราเชื่อว่าคงมีคนแบบเราอีกมาก ที่รักตัวเองไม่เท่าที่คนอื่นรักเรา และคนๆ นั้นดันเป็นคนที่เรารักมากกว่าตัวเอง มันก็กลายเป็นว่าถึงเวลาที่เราจะรักตัวเองมากขึ้นแล้ว

    EDIT:: หลังจากกด Publish เสร็จ ยาที่กินไว้ก็ออกฤทธิ์ทันที สรุปคืองานนี้อาการเจ็บป่วยมาเพื่อเป็นแรงผลัก...ดัน.. ให้เราเริ่มเขียนอะไรเลยนะเนี่ย
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in