1st year: 1st semester - รีวิวทุกวิชาที่เรียนในคณะสังคมวิทยา มธ.

ปีหนึ่งเป็นอะไรที่งงมาก งงวิชาที่มันมีหลายส่วน ทั้งวิชาศึกษาทั่วไป ส่วน1 ส่วน2 วิชาบังคับนอกคณะ ในคณะ เยอะสิ่งไปหมด แต่แน่นอนว่าปีหนึ่งยังไม่ต้องคิดอะไรเยอะค่ะ วันปฐมนิเทศ (ถ้าจำผิดขออภัย) เขาจะมีตารางให้ว่าเรามีโควตาการเรียนไว้อยู่แล้ว ก็คือว่าปกติเวลาเราจะลงทะเบียนเรียนในเว็บเนี่ย มันจะมีบางวิชาที่เขาจำกัดจำนวนนักศึกษาใช่ไหมคะ เราเลยต้องขอโควตาก่อน ทีนี้เราขึ้นปีหนึ่งมายัง งง ๆ อยู่ เขาเลยมีโควตาให้เรียบร้อยแล้วค่ะ วันลงทะเบียนเรามีหน้าที่แค่ล็อกอินเข้าไปในเว็บกาก ๆ ที่ล่มทุกครั้ง และกดลงทะเบียนได้เลย แต่ก็มีบางวิชาที่เราจะต้องมากดเลือกเองเหมือนกันค่ะ แต่เขารับจำนวนเยอะ เพราะฉะนั้นก็น่าจะกดทันไม่ต้องห่วง ซึ่งแน่นอนว่าวิชาที่ต้องเรียนในปีหนึ่งก็คือเหล่าวิชา TU10X ทั้งหลายค่ะ
* ดีเทลเราอาจจะไม่ค่อยละเอียดมากนะ เพราะมันนานแล้ว เราลืม
** เราไม่ใช่คนเรียนเก่งน้า เรียนกลาง ๆ ค่อนไปล่างคับ555
*** เราเข้าเรียนทุกคาบนะคะ ไม่ค่อยโดดเด้อ ถ้าวิชาไหนโดดจะบอกไว้

TU100 CIVIC EDUCATION
เราเรียนเซควันเสาร์เนอะ พอดีมันมีหลายเซคเลยแคปมาแค่นี้งับ ก็น่าจะเป็นวิชาที่โด่งดังพอสมควร ถึงความปสด.และความลำไยต่าง ๆ ซึ่งก็เป็นเรื่องจริงค่ะ อยู่ที่ว่าจะมากหรือน้อย ส่วนตัวเราคิดว่าขึ้นอยู่กับอาจารย์และเพื่อนร่วมกลุ่ม
แต่เราคิดว่าวิชานี้ดีตรงที่ทำให้เราได้รู้จักคนเพิ่มขึ้นเยอะเลยค่ะ เพราะในเซคคือจะรวทหลายคณะมาก และเซคเราจับกลุ่มทำงานแบบสุ่ม สิ่งที่ได้คือเราไม่มีเพื่อนคณะเดียวกันในกลุ่มนั้นเลย ทำให้เราต้องสนิทกับเพื่อนต่างคณะไปโดยปริยาย
กลุ่มนึงก็มีประมาณ 10 คน ตอนเรียนก็จะเป็นงานกลุ่มง่าย ๆ เหมือนตอนม.ปลาย เขียนมายแมพ เล่นเกมนู่นนี่สนุกสนาน ถ้าให้เห็นภาพก็เชิงหน้าที่พลเมืองประมาณนั้น ความปสด.จะมาตอนที่เราต้องคิดโปรเจคค่ะ คิดว่าจะทำอะไรแล้วไปเสนออาจารย์ อาจารย์บางคนก็ให้ผ่านยากมากกกกกก
กลุ่มเราตอนนั้นทำกระเป๋าจะขวดน้ำพลาสติกแล้วเอาไปแขวนที่ตึกเรียนค่ะ แบบให้คนหยิบไปใช้เพื่อลดการใช้ถุงพลาสติก ซึ่งเอาจริง ๆ ลดได้จริงไหมก็ไม่รู้ แต่คิดคอนเส็ปสวยหรูไว้ก่อน และแน่นอนว่ามันผ่านค่ะ5555 ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะอาจารย์เซคเราใจดีด้วย
ทีนี้แหละค่ะ ระยะทางพิสูจน์ม้าการเวลาพิสูจน์คนที่แท้ ด้วยความที่เราต้องใช้ขวดจำนวนเยอะมากเพื่อมาทำกระเป๋า เราเลยต้องไปคุ้ยขยะกันค่ะ แล้วตอนทำงานกลุ่มเหมือน ice breaking เลย คุ้ยขยะกันทุกวันหลังเลิกเรียน คุ้ยเสร็จเอาไปล้าง นั่งตัด นั่งเย็บกันจนมืดทุกวัน ไม่ให้สนิทกันได้ไง55555 คือตอนนั้นสนิทกันมากกกก เพราะเจอกันบ่อยสุดแล้ว นั่นแหละค่ะ สุดท้ายก็ผ่านมาได้ แต่เกรดก็น่าหงุดหงิดอยู่เมื่อเทียบกับสิ่งที่เราทำ เราได้ B มางง ๆ นี่คือผลเข้าเรียนทุกครั้งและเย็บขวดจนมืดหรอคะพรี่ ๆ
กล่าวโดยสรุป วิชานี้ยังไงเราก็หนีไม่พ้นค่ะ55555 แนะนำให้สวดภาวนาว่าขอให้ได้อาจารย์ดีและเพื่อนร่วมกลุ่มดี แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นค่ะ เพราะงานกลุ่มมีทุกวีค มีลงชุมชน ของเราตอนลงชุมชนยังไม่สนิทกันมาก มาสนิทตอนยัดลงแท็กซี่กัน 5-6 คน และหลงทางค่ะ555555 เราเลยจะบอกทุกคนเสมอว่าวิชานี้ถ้าได้เพื่อนโอเค เราจะมีเพื่อนดี ๆ เพิ่มขึ้นในชีวิตเยอะเลยค่ะ ทุกวันนี้เราก็ยังติดต่อกันอยู่เลย และสิ่งที่จะแนะนำเกี่ยวกับวิชานี้ก็คือ หนีไม่พ้นค่ะ สวดมนต์ได้อย่างเดียว สาธุ

TU101 THAILAND, ASEAN, AND THE WORLD
วิชานี้คือ D+ ตัวแรกในชีวิตมหาวิทยาลัยค่ะ เล่าก่อนว่ามี 2 เซค ซึ่งตอนลงทะเบียนเราไม่รู้ เราเลยลงเซคพุธบ่าย อาจารย์อัครพงษ์ เรียนสนุกลุกนั่งสบาย มีวิทยากรมาบ่อย ตอนเราเรียนมีคุณเคน นครินทร์ และคุณรังสิมันต์ โรมมาบรรยาย จริง ๆ มีคนอื่นอีกแต่เราโดดค่ะ แหะๆ เรียนสนุกจริง ๆ แต่ให้คะแนนไม่สนุกเลย เราจำดีเทลงานไม่ได้แล้ว แต่เป็นงานเดี่ยวค่ะ แบบให้ไปอ่านหนังสือที่เขากำหนดแล้วเขียนอะไรซักอย่าง ส่วนข้อสอบก็เป็นกากบาทแต่คือจับฉ่ายมาก ๆ ถามแบบเขาสอนตอนไหน นั่นแหละค่ะ ตอนแรกคิดว่าจะ F แล้ว แต่ก็ยังดีที่ผ่านมาได้
เท่าที่ถามเพื่อนคนอื่นมาเขาบอกว่าอีกเซคได้คะแนนง่ายกว่าแต่เรียนไม่สนุกเท่านี้ค่ะ เพราะงั้นก็ลองชั่งใจกันดูดี ๆ นะคะ5555

TU103 LIFE AND SUSTAINABILITY
เอาจริง ๆ เลยนะ สำหรับเราวิชานี้ปสด.และลำไยกว่า TU100 อีกค่ะ555 เท่าที่จำได้คือในวิชามันจะแบบเป็น 3 พาร์ท แล้วแต่ละพาร์ทก็จะมีงานกลุ่มค่ะ ซึ่งงานมันก็ต้องลงพื้นที่อีก แล้วกลุ่มคนเยอะด้วย แน่นอนว่ามากคนก็มากความจริง ๆ ค่ะ มีตัดต่อคลิปอีกเยอะสิ่งไปหมด ของเราลงพื้นที่ที่ปากคลองตลาดค่ะ ก็ต้องไปสัมภาษณ์คนนู้นคนนี้ และการสัมภาษณ์ก็จะตามมาด้วยความไม่เต็มใจตอบของคุณลุงคุณป้าแถวนั้นค่ะ มันเลยเป็นงานที่เราไม่ชอบ รีวิวอะไรได้ไม่มากเพราะจำดีเทลไม่ได้แล้วค่ะ ไม่มีอะไรน่าจดจำ จำได้แค่ความลำไย ฮื่อ
ส่วนเกรดก็ B เหมือนเดิมคับ

TU121 MAN AND SOCIETY
วิชานี้ไม่ใช่ตัวบังคับเหมือนข้างบนแล้วนะคะ เป็นวิชาศึกษาทั่วไปส่วน 2 ของคณะเรา จริง ๆ ตอนแรกเราไม่ได้ลงวิชานี้ เราลง TU124 โดยที่ไม่รู้ว่ามันชื่อวิชาอะไร พอไปวันแรกเพิ่งรู้ว่าเป็นเศรษฐศาสตร์อะไรซักอย่าง เรารีบกดถอนอย่างไวเลยค่ะ เศรษฐศาสตร์นี่บ่ได้จริง ๆ เลยมาลงวิชานี้แทน ชื่อภาษาไทยว่าวิชามนุษย์กับสังคมค่ะ
ตอนเราเรียนมีอาจารย์แบ่งกันสอน 2 คน เอาจริง ๆ วิชานี้เหมือนวิชาปูพื้นสำหรับการเรียนสายสังคมเลยค่ะ เนื้อหาเยอะ แต่อาจารย์สอนดีแล้วก็ไม่น่าเบื่อเลย จะว่าเป็นก้าวแรกของการเรียนเรื่อง Gender ในมหาวิทยาลัยของเราเลยก็ได้ แล้วก็มีเรื่องสิทธิมนุษยชน เรื่องภาวะโลกร้อน มีอีกหลายเรื่องเลย แต่เราลืมอีกแล้วค่ะ5555
งานจะเป็นงานเดี่ยว ของเราคือดูการ์ตูนซินเดอเรลลา มู่หลาน แล้วก็โฉมงามกับเจ้าชายอสูร ดูแล้วเอามาเขียนเปเปอร์ค่ะ ที่เหลือก็สอบกลางภาคกับปลายภาค แต่ก็อย่างที่บอกว่าเนื้อหาเยอะมากจริง ๆ ต้องตั้งใจเรียนและไม่ควรโดดค่ะ ข้อสอบเขียนตอบอย่างเดียวค่ะ เราได้ B+ มา ซึ่งเราก็พอใจนะ

SA110 READING AND WRITING FOR SOCIOLOGISTS AND ANTHROPOLOGISTS
เป็นวิชาที่ปีหนึ่งทุกคนของคณะเราต้องเรียนค่ะ เป็นวิชาบังคับเลย ซึ่งเข้ามาปีหนึ่งก็เจอของโหดเลยเราพูดแค่นี้5555 เอาจริง ๆ เป็นวิชาที่เราไม่ชอบเลย งานจะเป็นงานให้เราอ่านหนังสือแล้วเขียนเล่า เขียนสรุปอะไรประมาณนั้นค่ะ มีทั้งงานกลุ่มและงานเดี่ยว แต่ที่โหดคืออาจารย์และพี่ TA ค่ะ เขียนแล้วก็ต้องไปพรีเซ็นต์หน้าห้องค่ะ แบบอ่านเรื่องที่เราเขียนมา เรานี่ออกไปถือไมค์คือเสียงสั่นเลย กลัวโดนด่า5555 นั่นแหละค่ะ แต่เกรดก็ไม่ได้ยากขนาดนั้น ถ้าส่งงานครบก็ B+ ขึ้นไปเลยค่ะ ไม่มีสอบ คะแนนงานล้วน แล้วก็เทอมที่เราเรียนมีลงาคสนามก็คือสวนส้ม น่าจะจังหวัดสุโขทัย (ถ้าจำผิดขออภัย) ไป 2 วัน 1 คืน มีคะแนนด้วยค่ะ กลับมาก็จะมีงานเขียน เรียกว่าเป็นงานภาคสนามครั้งแรกในฐานะนักศึกษาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยาเลยก็ได้ค่ะ แต่ภาคสนามนั้นเราไม่ได้ไปค่ะ เพราะอะไร เพราะตรงกับวันคอนเสิร์ตศิลปินเกาหลีค่ะ แน่นอนว่าเราต้องเลือกไปคอน สุุดท้ายเลยได้ B มาค่ะ ถ้าไปก็น่าจะได้ B+ แต่เราก็โอเคนะ เราก็รู้แต่แรกแล้วว่าถ้าไม่ไปก็ไม่ได้คะแนนส่วนนี้ และงานเขียนเราที่โดนแก้เยอะมาก ๆ เกรดเท่านี้เราก็พอใจแล้วค่ะ

PY200 GENERAL PSYCHOLOGY
ชื่อภาษาไทยว่าจิตวิทยาทั่วไป เป็นวิชาของคณะศิลปศาสตร์ ซึ่งอยู่ในหมวดของวิชาบังคับนอกคณะ ส่วนนี้คือเราต้องเลือก 2 วิชา จาก 6 วิชา ใน 6 วิชานั้นคือจะมีิจิตวิทยา ภูมิศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ รัฐศาสตร์ และวารสารศาสตร์ ที่เราเลือกจิตวิทยาเพราะว่าวันปฐมนิเทศรุ่นพี่แนะนำมาค่ะ ประกอบกับตอนนั้นปีหนึ่งเรายังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเลือกวิชาอะไรเป็นวิชาโท ซึ่งนักศึกษาคณะเราเลือกจิตวิทยาเป็นวิชาโทกันเยอะพอสมควร เราเลยลงวิชานี้เผื่อในอนาคตเราจะเลือกโทจิตวิทยาค่ะ ประกอบกับเศรษฐศาสตร์ก็คือไปไม่น่าไหว รัฐศาสตร์เพื่อนก็บอกมาว่าหนักหนาสาหัสอยู่ ส่วนวารสารก็คือคนแย่งชิงกันเยอะมาก เลยมาลงที่วิชานี้
การเรียนถ้าเอาแบบสั้น ๆ ตามที่เรารู้สึกเลยก็คือมีความคล้ายชีววิทยา ม.ปลายเลยค่ะ ถ้าใครเรียนสายวิทย์มาก็น่าจะเรียนได้ไม่ยากมาก เช่น เรื่องระบบประสาท การมองเห็น การได้ยิน อะไรแบบนี้ เอาจริงวิชานี้คือมันไม่ได้ยากขนาดนั้นสำหรับเรานะ แต่ประเด็นคือเนื้อหาเยอะมาก มากแบบมากกกกกกกกกกกกกกกกก เราแนะนำเลยว่าไม่ควรโดดและควรตั้งใจเรียนในคาบจะช่วยเยอะมาก เพราะว่าถ้ามาอ่านตอนสอบอย่างเดียวคือบ่ได้เลย คือจำอะไรบ่ได้เลยจ่ะ555555
เล่าก่อนว่าห้องเรียนจะมี 2 ห้อง ห้องใหญ่จะเป็นห้องที่มีอาจารย์บรรยายหน้าห้อง ส่วนอีกห้องนึงคือมีแต่จอและเสียงค่ะ จอก็คือไม่ใช่ถ่ายทอดสดหน้าอาจารย์นะคะ ถ่ายทอดสดสไลด์เฉย ๆ ซึ่งจากประสบการณ์แล้ว ห้องถ่ายทอดนี่คือมีคนตั้งใจเรียนจริง ๆ ประมาณ 5 คน ที่เหลือเข้าไปอัดเสียง ใช่ค่ะ เราคือหนึ่งในนั้น555555555 แต่เราตั้งใจเรียนครึ่งเทอมแรกนะ อยู่ห้องที่มีอาจารย์ คะแนนมิดเทอมเราเลยสูงกว่ามีน ส่วนครึ่งหลังคือนั่งคุยละ เพราะอยู่ห้องถ่ายทอดกับเพื่อน55555 เพราะฉะนั้นเราแนะนำว่าให้อยู่ห้องที่มีอาจารย์ค่ะ แต่ว่าต้องไปเร็วนิดนึงนะ ไม่งั้นที่นั่งเต็ม
หลังมิดเทอมที่เราบอกว่าไม่ค่อยตั้งใจคือเราแบบอ่านก่อนสอบเลย แล้วก็จำอะไรไม่ค่อยได้ เพราะเนื้อหามันเยอะ ข้อสอบก็เยอะค่ะ ไม่ต่ำกว่า 60 ข้อ เป็นข้อกานะ จำได้ว่าไฟนอลมั่วไปเยอะมาก เยอะจนแบบทำใจไว้แล้วว่า D แน่ ๆ แต่สุดท้ายก็ B ค่ะ เหมือนโกงความตาย55555

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น