เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
The Story that Live(s) Long and ProsperLehrerinReeya
Majel Barrett: แม่ผู้ให้มากกว่าชีวิต และเสียงแก่ Star Trek
  • จากใจ: ขอบคุณผู้ที่เข้ามาอ่านนะคะ ทิ้งคอมเมนต์ไว้ได้ ทั้งคำแนะนำ คำติชม ต่างๆ เราอยากทราบ feedback ค่ะ จะได้ปรับปรุงการเขียนไปเรื่อยๆ

    เพื่อให้เข้ากับช่วงวันแม่ เราเลยคิดว่าอยากจะเขียนเรื่องของผู้หญิงใน Star Trek โดยเฉพาะที่เป็น "แม่" เราเขียนเรื่อง Uhura นำไปแล้ว ครั้งนี้ก็เลยจะพูดถึงผู้หญิงที่เป็น "แม่" หลายๆคนเรียกเธอว่า "สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งแห่ง Star Trek" แต่ในเมื่อเรายกตำแหน่งนั้นให้ Uhura ไป ดังนั้นตำแหน่งที่เหนือกว่าก็ตกเป็นของเธอคนนี้ ที่มีชื่อว่า Majel Barrett


    ใครที่ใช้ Google หรือ gadget ระบบ android เคยได้มีโอกาสใช้ เสียงสั่งการของ Google ไหมคะ? ถ้าไม่มีลองเปิดใช้ดูจากหน้าคอมหรือมือถือ ที่กล่าวถึงระบบเสียงสั่งการบน Google ก็เพราะมันมีความเกี่ยวข้องกับ Star Trek อย่างมากค่ะ เพราะตอนที่พัฒนาระบบนี้ก่อนจะมาเป็น Google Now ทาง Google เรียกระบบนี้ว่า Google Majel 

    ระบบเสียงสั่งการเป็นหนึ่งในหลายๆเทคโนโลยีที่ได้รับอิทธิพลมาจาก Star Trek (เช่น โทรศัพท์มือถือ คนสร้างบอกเลยว่าได้แรงบันดาลใจจาก Communicator ที่ใช้ใน The Original Series) ที่มาก็คือเสียงของคอมพิวเตอร์ที่โต้ตอบกับคำสั่งด้วยเสียง หรือแจ้งสถานะต่างๆให้ลูกเรือของยานทราบ เสียงทั้งหลายนี้พากย์โดยผู้หญิงคนเดียว และคนเดิมตลอด 6 ซีรีย์ของ Star Trek ตั้งแต่ The Original Series, The Next Generation, Deep Space 9, Voyager, และ Enterprise นอกจากนี้ยังให้เสียงแค่
    ยาน USS Enterprise 1701 ในภาครีบูต 2009 ด้วย เธอจึงถือเป็นนักแสดงคนเดียวที่ร่วมงานกับ Star Trek ตั้งแต่ต้นจวบจนวันสุดท้ายของชีวิต เธอไม่ต่างจาก "แม่" ของ Star Trek และวาระสุดท้ายของเธอก็จากไปอย่างสงบเมื่อส่งเสียงสุดท้ายของเธอ เพื่อสั่งลาแก่ลูกรักของเธอที่ได้เติบโตเข้มแข็ง มีอายุยืนกว่าสี่ทศวรรษ ให้ออกเดินทางครั้งใหม่ที่จะยืนยาวต่อไปในฐานะตำนานอันเป็นอมตะ


    (ตัวอย่างเสียงจากตอน The Search for Spock)



    เจ้าของเสียงนั้นคือ Majel Barrett ผู้ที่ปรากฏกายครั้งแรกในบทต้นเรือ หรือ รองกัปตัน ในตอนนำร่องที่สร้างขึ้นเพื่อทดสอบตลาด เป็นตำแหน่งต้นเรือหญิงที่ทีมผู้สร้างหวังจะให้เกิดความแตกต่างแปลกใหม่แก่วงการโทรทัศน์ เพราะในยุคนั้นหญิงเก่งทัดเทียมชาย จับอาวุธสู้ และ กล้าหาญ  ที่สำคัญคือ "อยู่เหนือผู้ชายทั้งยาน ยกเว้นกัปตัน" การที่ผู้หญิงในอนาคตสามารถจับปืน และตัดสินใจเด็ดเดี่ยวเด็ดขาด ควบคุมยานอวกาศขนาดใหญ่ แถมยังโสด และอยู่ตัวคนเดียวในอวกาศได้นั้นไม่ธรรมดา



    (Majel ในบท Number One ส่วนทางซ้ายที่หล่อมากกกก คือ กัปตัน Pike คนดั้งเดิมค่ะ)

    และสถานีโทรทัศน์กับผู้ชมกลุ่มทดลองรับไม่ได้! 

    ผู้ชมผู้หญิงเกลียดเธอ!! อีนี่มันอะไร? ทำไมกล้าเกินหญิง รับไม่ได้ ทำไมต้องทำตัวแกร่งเกินชาย? น่ารำคาญ จะมากล้าหาญอะไร ไม่เคยได้มี!! 

    ต้องเข้าใจกันก่อนนะคะ ว่าในช่วงยุค 60s ผู้หญิงส่วนใหญ่ของอเมริกายังคงติดอยู่กับบทบาท "เมียและแม่" กับ "แม่บ้านแม่เรือน" ที่เป็นมรดกจากยุคเก่า แทบจะเรียกได้ว่าการที่ผู้หญิงออกจากบ้านมาทำงานแทนผู้ชายในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง (รวมไปถึงงานสำคัญในกองทัพ งานจารชน งานถอดรหัส งานวิทยุสื่อสาร) เป็นแค่เรื่องฝันไป งานที่ทำได้ก็มีแค่เป็นพี่เลี้ยง เป็นครูสอนเด็กเล็ก หรืองานเลขาเท่านั้น ในยุค60s ผู้หญิงในสื่อมักจะอยู่ในฐานะแม่บ้าน อ่อนแอ ทำอะไรไม่เป็น ต้องรอผู้ชายมาช่วยเอาไว้เสมอ นางเอกก็ต้องเป็นบทนางเอ๊กกก นางเอกก หยิบจับอะไรไม่ได้ จะตายเอาถ้าผู้ชายไม่มาช่วย หรือไม่งั้นก็ต้องเป็นนางมารยั่วสวาทไปเลย ดังนั้นการที่ผู้หญิงติดยศอย่างทหาร สวมเครื่องแบบ และทำงานเป็น

    Gene Roddenberry บิดาของ Star Trek ก็โดนอัดยับว่าไอเดียไม่สร้างสรรค์ (หรือสร้างสรรค์เกินไป?) จะไม่มีใครยอมรับผู้หญิงที่กล้าแกร่งกร้าวเกิน และไม่มีใครยอมรับเอเลี่ยนเลือดสีเขียวหูชี้เหมือนปีศาจ แน่ Gene ต้องเลือกเอาว่าจะเก็บรองกัปตันหญิง หรือ เอเลี่ยนหูชี้ 

    สุดท้าย...เขาเลือกเก็บเอเลี่ยนหูชี้ และแต่งงานกับรองกัปตันหญิงแม่มเลย!  สาเหตุน่ะหรือ? เพราะ Leonard Nimoy คงไม่ยอมแต่งงานกับ Gene แน่ๆ

    ตอนนั้น Majel  คบหาเป็นแฟนกับ Gene การที่ Gene เอาแฟนที่เป็นนักแสดงโนเนมมาเล่นทำให้ช่องไม่พอใจ ในช่วงที่คบเป็นแฟนกัน Gene ยังแต่งงานกับภรรยาคนแรกแต่เตียงหักไปเรียบร้อย ในขณะเดียวกัน Gene ก็ยังคบหากับ  Nichelle Nicols (ผู้รับบท Uhura) แต่เนื่องจากว่า Gene รู้สึกว่าเขารัก Majel มากกว่า อีกทั้ง Nichelle กับ Majel ก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันด้วย Nichelle จึงเป็นฝ่ายถอยออกมาเพื่อให้ Majel กับ Gene ได้อยู่ด้วยกัน

    Gene แยกทางกับภรรยาคนแรกแล้วแต่เขารอจนซีรีย์จบในปี 1969 จึงทำการหย่าอย่างเป็นทางการ (เนื่องจากอยากจะทุ่มให้กับซีรีย์มากกว่าจะมาปวดหัวกับกระบวนการหย่า) ในระหว่างนั้นเขากับ Majel แต่งงานกันที่ญี่ปุ่นในพิธีแบบชินโต (Gene ไม่ได้เคร่งครัดกับศาสนาใดๆ การแต่งงานที่ญี่ปุ่นก็เป็นแค่พิธี รอจนเขาหย่าแล้วถึงแต่งซ้ำอีกครั้งให้สมบูรณ์ทางกฏหมาย) ถึง Gene จะยังไม่ทิ้งลายเจ้าชู้แต่ Majel ก็เป็นเมียคนสุดท้ายของเขาไปตราบจนวันตาย 
    (ภาพแต่งงานของ Gene Roddenberry กับ Majel)

    Majel ได้เล่น Star Trek ต่อ แต่บทของ Majel ถูกเปลี่ยนไปเป็นพยาบาล Christine Chapel พยาบาลผมบลอนด์แสนสวยที่แอบรัก Spock อยู่ข้างเดียว (วี้ดวิ้ว!) ส่วน Spock ก็เลื่อนขึ้นมาเป็นต้นเรือแทน แต่ถึงจะเป็นพยาบาลอันเป็นอาชีพตามขนบของผู้หญิงแต่ Nurse Chapel ไม่ใช่แค่เป็นตัวละครป้อแป้ คอยส่งเครื่องมือให้หมอ แต่เธอก็อึด ถึก ตามประสาหญิงสาวแห่ง Enterprise ในภายหลัง Nurse Chapel ได้เลื่อนขึ้นไปเป็นแพทย์เต็มตัว

    นอกจากแสดงแล้วเธอยังเป็นคนที่ให้เสียงแก่คอมพิวเตอร์ของยาน และกลายเป็นธรรมเนียมของเรื่องไปแล้วว่าเสียงจากคอมพิวเตอร์ต้องเสียงเธอเท่านั้น รวมทั้งเสียงของตัวละครอีกหลายตัวในเวอร์ชั่น animation ซึ่งเสียงสุดท้ายที่ Majel พากย์แก่ Star Trek นั้นคือพากย์เสียงคอมพิวเตอร์ให้กับ Star Trek 2009 หลังจากนั้นเพียงสองสัปดาห์เธอก็ได้จากโลกนี้ไปอย่างสงบ ปิดตำนานของเธออย่างสวยงาม 

    (เสียงของ Majel ที่นาทีที่ 0:35 เป็นต้นไป) 


    Majel ไม่ได้ปรากฏแค่ในบทแค่ 2 บท แต่ยังรับบทตัวละครรับเชิญที่มีบทบาทโดดเด่นไม่น้อยอีกตัวคือบท Lwaxana Troi เอกอัครราชทูตจากดาว Betazed สาวสังคมผู้มากด้วยเสน่ห์เย้ายวน ภายนอกดูเป็นหญิงวัยกลางคนที่ยังดูสาว สวยสะพรั่งจนเหมือนเป็นพี่สาวมากกว่าแม่ของ Deanna Troi ที่ปรึกษาจิตวิทยาบนยาน USS Enterprise-1701-D (1 ในตัวละครหลัก จาก ซีรีย์The Next Generation) Lwaxana Troi เต็มไปด้วยสีสัน อารมณ์ขัน ขี้เล่น อารมณ์ดีเสมอ เป็นแค่สาวไฮโซไม่มีพิษสงอะไร วันๆคิดแต่จะปาร์ตี้และหาผัวใหม่ ชอบปั่นหัวคนให้คล้อยตามที่เธอต้องการ ผู้ชายคนไหนเข้าตานางหากไม่ระวังตัวอาจโดนจับทำผัวเอาได้ง่ายๆ (ขนาดแฟนเก่าลูกสาว นางยังจ้องงาบ นางไม่เลือกเผ่าพันธุ์ด้วย คลำดูมีหางไม่มีหางนางชอบได้หมด) 



     ในขณะเดียวกัน Lwaxana ก็เป็นนักการทูตที่ใช้ทั้งเสน่ห์ และกุศโลบายแยบยล มากชั้นเชิง Lwaxana เป็นตัวละครที่มีมิติสูงตัวหนึ่ง ออกมาทีทำเอาคนรอบตัวทั้งรัก ทั้งรำคาญ Lwaxana แต่งงานครั้งแรกกับผู้หมวด Ian Troi ซึ่งเป็นมนุษย์จากโลกที่ทั้งรัก ทั้งเทิดทูนภรรยาจนยอมย้ายมาอยู่ที่ดาวของเธอและเลี้ยงลูกตามขนบชาว Betazoid ทุกอย่าง



    ด้วยภาพลักษณ์ดั่งผีเสื้อที่ชอบเย้ายั่ว รักอิสระ ทำให้คนจินตนาการไม่ออกเลยว่า Lwaxana จริงๆแบกความเศร้าที่ต้องเสียลูกสาวคนโต (จมน้ำระหว่างการไปปิคนิค) และต่อมาก็ต้องเสียสามีที่รักและเข้าใจเธอที่สุดไปทำให้ Lwaxana จมดิ่งสู่การพยายามปกปิดความเศร้าและหนีความจริง  Lwaxana พยายามปกปิดความอ่อนแอด้วยท่าทีเข้มแข็ง ไม่แคร์โลก เธอต้องการให้คนทั้งหลายเห็นภาพที่สวยงาม สมบูรณ์แบบ เปี่ยมไปด้วยสีสันของเธอ ดังจะเห็นได้จากการแต่งกายที่นำแฟชั่นเสมอ และทรงผมสุดอลังการของเธอ (ที่จริงๆคือ วิก และเธอไม่เคยถอดออกต่อหน้าใคร) 

    (กับว่าที่ลูกเขยในอนาคตที่เกือบโดนนางงาบ)

    เพราะเคยสูญเสียลูกสาวคนโตไปในอุบัติเหตุ และต้องเสียสามีไป Lwaxana จึงเป็นแม่ที่รักและพยายามปกป้องลูกสาวคนเล็กอย่าง Deanna แบบสุดโต่ง ถึงเธอมักจะทำตัวเป็นเด็กๆให้ลูกสาวต้องคอยตามห่วง ตามดูแล แต่พอถึงคราวที่ต้องปกป้องลูกๆ Lwaxana ก็คือแม่เสือที่พร้อมขย้ำคอใครที่บังอาจมาแหยมกับลูกตัวเองได้ เธอมีลูกชายอีกคนกับสามีใหม่ที่แต่งงานกันเพียงสั้นๆแต่ได้หย่ากันเพราะเธอไม่ต้องการให้ลูกชายถูกพรากไปเลี้ยงดูแยกจากแม่ตามธรรมเนียมดาวของสามี แล้วถึงเธอจะชื่นชอบสิ่งสวยงามปานใด แต่เธอกลับเป็นคนที่มองเห็นความงามจากภายใน เหนือรูปลักษณ์ หรือสถานภาพ 


    Gene Roddenberry เสียชีวิต Majel ก็ยังคงสานต่อการทำงานร่วมกับ Star Trek เพราะสำหรับเธอ Star Trek เป็นมากกว่าซีรีย์ที่สามีสร้าง แต่เป็นสายใยแห่งความผูกพัน เธอตั้งปณิธานที่จะไปร่วมงานต่างๆ รวมถึงพวก ComicCon เพื่อให้ซีรีย์นี้ไม่มีวันตาย


    นี่คือเรื่องราวของผู้หญิงที่เป็นแม่ของ Star Trek 


    Live Long and Prosper

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in