เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
The Story that Live(s) Long and ProsperLehrerinReeya
Khhhhaaaaaaaaaan!!!
  • เรากรี๊ดลั่น ตอนที่ John Harrison เฉลยว่า
    "My name....is Khan"

    เป็น WTF Moment แห่งชีวิตเลยทีเดียว

    คือจริงๆตั้งแต่เห็นโปรไฟล์ของ ๋John Harrison ก็เดาได้แล้วว่างานนี้ข่านมาแน่นอน เพราะทั้งบรรยายว่า มีพลังสมองและพลังกายเหนือมนุษย์ บ๊ะ! มันจะเป็นใคร

    ที่เซ็งสุดคือทั้งโรงไม่มีใครรู้สึกอะไรเลย เพราะทั้งโรงน่าจะไม่มีใครได้ดูตั้งแต่ซีรีย์แรก กับหนัง The Wrath of Khan

    Khan เป็นตัวร้ายสุดคลาสสิค เป็นคนที่อันตรายอย่างน่ากลัวและต้องเกิดการสูญเสียมากมายกว่าจะหยุดยั้งเขาได้...ถึงสองครั้ง! 








    ใน Original Timeline ยาน Enterprise ไปพบเข้ากับยานอวกาศเดินทางระยะไกลอายุกว่า 100 ปีลอยเท้งเต้งอยู่ในอวกาศ เป็นยานประเภทที่ใช้สมัยยังไม่ได้มีการคิดค้นเทคโนโลยีการเดินทางด้วยระบบ Warp เป็นยานเต่าอืดถ้าเทียบกับยานอย่าง Enterprise และเป็นยานจากยุคก่อนหน้าการมาเยือนโลกของชาว Vulcan ที่เปิดประตูให้โลกเข้าสู่ยุคใหม่

    ความสงสัยใคร่รู้ทำให้ยาน Enterprise สำรวจยานลำนี้ และพบว่ายานมีชื่อว่า SS Botany Bay  ลูกเรือพบว่ายานนี้มีลูกเรือ 72 คนหลับใหลจำศีลด้วยการแช่แข็ง ระบบการรักษาร่างกายให้จำศีลนี้หยุด/ชะลอสภาพร่างกายรอการตื่นขึ้นมาเนื่องจากการเดินทางในอวกาศยุคแรกนั้นใช้เวลานานมาก กว่าจะถึงเป้าหมายลูกเรือคงตายก่อนไปถึง หรือไม่ก็เป็นลูกหลานไปถึงแทน พวกเขาพบว่ามี 12 คนเสียชีวิตเพราะระบบรักษาความเย็นล้มเหลว

    คนที่ตื่นมาคนแรกเป็นชายที่เปี่ยมเสน่ห์ มีความเป็นสุภาพบุรุษ เขามีความแข็งแกร่งทางร่างกาย รวมทั้งสติปัญญาหลักแหลม ถึงจะตื่นมาเจอกับโลกที่ไม่คุ้นเคยแต่ก็ไม่มีท่าทีตระหนก ลูกเรือหญิงผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ นาม Marla McGivers ถึงกับหลงเสน่ห์เขาในทันที เขาได้เป็นแขกของยาน Enterprise ในขณะที่ทุกคนสงสัยถึงที่มาของชายคนนี้ มีทฤษฎีว่ายานของเขาอาจจะเป็นยานนักโทษเพราะชื่อ Botany Bay เป็นชื่อนิคมนักโทษในสมัยก่อนของออสเตรเลีย แต่ก็มีคำแย้งว่ายานมาจากยุคที่ทรัพยากรโลกถูกใช้ ถูกทำลายจนร่อยหรอ ยานดีขนาดนี้คงไม่เอามาส่งนักโทษไปในอวกาศหรอก 

    พวกเขาพบว่ายานมาจากศตวรรษที่ 20 ไม่มีข้อมูลอะไรมากนักในระบบของยาน เป็นปริศนาที่ทุกคนงุนงง ความสามารถที่เหนือมนุษย์ทั่วไปของชายนิรนามทำให้ชาว Enterprise นึกถึงเหตุการณ์ศตวรรษที่ 20 ที่นักวิทยาศาสตร์ได้พยายามปรับปรุงพันธุกรรมมนุษย์จนสร้างมนุษย์ที่แข็งแกร่งขึ้นมาเรียกว่า Augment หรือ มนุษย์วิวัฒน์ พวกเขาเกิดจากการตัดต่อพันธุกรรมและการคัดเลือกสายพันธุ์ จึงแข็งแรงกว่า ฉลาดกว่า มีประสาทสัมผัสดีกว่า ปอดทำงานได้ดีกว่า กล้ามเนื้อทำงานได้ดีกว่า แต่ที่น่ากลัวที่สุด....Augment ทระนงในความเหนือกว่าของพวกตนจึงได้ก่อการยึดครองอำนาจจากมนุษย์ทั่วไป และกดขี่เอาไว้เป็นทาส พวก Augment ยึดครองอาณาเขตได้แล้วก็เริ่มฆ่ากันเอง จนนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 เกิดการใช้ระเบิดนิวเคลียร์ทำลายฝ่ายตรงข้าม ฆ่ากัน แย่งชิงกัน ในที่สุดมนุษย์ธรรมดาที่ต้องเป็นเหยื่อก็ทนไม่ไหวและรวมตัวกันต่อต้านกลับ....ผลลัพธ์คือสูญเสียทั้งสองฝ่าย แต่ Augment ก็ตายไปหมด

     ชายคนนี้เป็น Augment.....และมีพวกนอนหลับอยู่ไม่ไกลนี้เอง...

    ยิ่งเริ่มสืบลึกลงไปพวกเขายิ่งตระหนก...เมื่อชายนิรนามบอกว่าตนเองชื่อ "Khan" พวกเขาก็ได้ใช้สิ่งนี้เป็นกุญแจค้นคว้าลึกลงไปในประวัติศาสตร์และพบความจริงที่อันตราย....เขาคือ Khan Noonien Singh เผด็จการชั่วร้ายที่ครองครึ่งโลก และเป็นคนสุดท้ายที่ถูกโค่นล้มลงได้ ทุกคนคิดว่าเขาน่าจะตายไปแล้ว แต่ความจริงได้ถูกเปิดเผยว่า Khan กับลูกน้องที่ภักดีได้หนีขึ้นยาน Botany Bay เพื่อออกไปหาดาวเคราะห์ดวงใหม่ครอบครอง แต่ผ่านมาร้อยกว่าปี...พวกเขาก็ยังไม่ถึงจุดหมาย

    Khan ถูกควบคุมเข้มงวด...แต่นั่นไม่อาจหยุดยั้งเขา หน้ากากสุภาพบุรุษอำมหิตของเขาล่อหลอก Marla Mcgivers จนติดบ่วงเสน่หายอมช่วยเขาในการยึดยาน Enterprise  Khan ปลุกลูกน้องบางส่วนขึ้นมาช่วยเขาในการยึดยาน เขาทำร้ายคนอย่างไม่มีลังเล และทรมาน Kirk อย่างสาหัส Marla สงสารกัปตันจึงแอบมาปล่อยเขา Spock ใช้ก๊าซสลบจัดการลูกน้องของ Khan แต่ตัว Khan หนีไปได้และพยายามจะระเบิดยาน Kirk เข้าไปขัดขวางและต้องสู้กับ Khan ตัวต่อตัว จนในที่สุดก็ซัด Khan ที่แข็งแกร่งกว่าได้จนสลบไป (โอ๊ะๆ เหมือนใครทำน้อ คุ้นๆ ฮา เขาเอามาสลับกับพี่ Spock ใน Into Darkness ไง) Khan ถูกจับไว้ มโนธรรมทำให้ Kirk ไว้ชีวิตเขากับลูกน้องแต่เอาไปปล่อยลงใน Ceti Alpha V ดาวร้างที่พอจะปลูกพืชได้ เหล่า Augment และ Marla ลงไปสร้างนิคมใหม่ ได้ชีวิตใหม่ แต่จะไม่ได้มีวันเข้าใกล้ยานอวกาศอีก 

    นั่นไม่ใช่จุดจบ

    หลายปีต่อมา โปรเจค Genesis ที่มีเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพดวงดาวร้างไร้ชีวิตให้สามารถสร้างชีวิตและพืชพันธุ์ ได้คัดเลือกยาน Ceti Alpha VI เป็นสถานที่ทดลองเนื่องจากรายงานที่แน่ชัดว่าดาวนี้ไม่มีสิ่งมีชีวิต แต่พวกเขาไม่ได้รู้เลยว่า....พวกเขากำลังไปผิดดาว....

    แท้จริงแล้ว ดาวนั้นคือ Ceti Alpha V ที่หลุดจากวงโคจรเดิมเพราะ Ceti Alpha VI ได้เกิดระเบิดไปก่อนหน้า แรงระเบิดทำให้ Ceti Alpha V หลุดวงโคจรและเกิดสภาพเป็นทะเลทราย ทำลายชีวิตบนดาว แม้แต่เหล่า Augment ก็โดนทั้งรังสี และความหิวโหยจนตายไปเกือบหมด....

    แต่ไม่หมด.....

    Pavel Chekov กับ Captain Clark Terrell ลงไปสำรวจดาวและถูกจับ Khan ได้ครอง Genesis ที่สามารถปรับเปลี่ยนดาวได้...และสามารถทำลายสิ่งเดิมบนดาวนั้นไปพร้อมๆกัน Khan กลับมาครั้งนี้พร้อมความบ้าคลั่ง สภาพอันโหดร้าย และการตายของคนที่ภักดีต่อตนเอง รวมถึง Marla ที่เขารักอย่างสุดหัวใจทำให้ Khan ทุ่มเทกระทั่งชีวิตในการทำให้ Kirk เจ็บปวดที่สุด 

    กว่าที่ชาว Enterprise จะปราบ Khan ในรอบนี้ได้ก็ต้องสูญเสียครั้งใหญ่ คนที่สูญเสียอย่างมากก็คือ Kirk ที่ต้องเสียเพื่อนสนิทอย่าง Spock....และเพราะเหตุการณ์นี้นำไปสู่การที่ Klingon รับรู้เรื่องโปรเจค Genesis ทำให้เกิดการแย่งชิง จนนำไปสู่ความตายของคนที่ Kirk เพิ่งจะได้รู้จัก และรัก....นั่นคือ Dr.David Marcus ลูกชายของเขาที่เกิดกับแฟนเก่า
    .
    .
    .
    .
    .
    เดากันได้ไหมคะสำหรับคนดู Into Darkness แล้ว คริๆๆๆ

    .
    .
    .
    แฟนเก่าของแกคือ  Dr.Carol Marcus ที่ใช้ชื่อว่า Carol Wallace นั่นแหละค่าาาาาา ซึ่งทั้ง David และ Carol เป็นนักวิทยาศาสตร์เบื้องหลัง Genesis 

    หลังจากเหตุการณ์ใน The Wrath of Khan ได้นำไปสู่ The Search for Spock ภาพยนตร์เรื่องที่ 3 ของ The Original Series (เราตั้งชื่อตอนนี้ขำๆว่า สปอค ก๊อกสอง)  และ The Voyage Home ภาพยนตร์เรื่องที่ 4 (ไว้จะมาเขียนถึงทีหลังนะคะ เพราะเป็นตอนโปรดของเราตอนหนึ่งเลย) 





     (ใน The Wrath of Khan (ซ้าย) Spock ได้เสียสละตัวเองเข้าไปเสี่ยงกับรังสี ใน Into Darkness ได้สลับให้ Kirk เสียสละแทน ฉากแตะมือที่กระจกและทำ Vulcan Salute ทำแล้วเรียกน้ำตาเราอย่างรุนแรง แถมเจอ I have been . . . and always shall be . . . your friend ตั้งแต่ 2009 กรีดร้องน้ำตาไหลไปรอบแล้ว ป๊ะเท่งป๊ะเหลือเกิน)



    ตัดกลับมาที่การกลับมาของ Khan ใน Into Darkness เมื่อ timeline มีการเปลี่ยนแปลงเพราะเหตุการณ์ Nero ทำลายยาน USS Kelvin ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบลูกโซ่ แทนที่ Kirk จะเป็นผู้พบยาน Botany Bay ก็กลายเป็นว่าถูกพบไปก่อนหน้าโดย Section 31 และ Khan ถูกบังคับให้ช่วยคิดค้นยานที่ทรงพลานุภาพ 

    อันนี้ต้องวกมาเล่าเรื่อง Section 31 สักหน่อย ว่าเปรียบเสมือนหน่วยลับในเงามืดของ Starfleet ไม่ได้ขึ้นตรงกับ Starfleet เสียทีเดียว แต่มีคนในองค์กรที่มาจาก Starfleet รวมทั้งพวกระดับสูง และข่าวกรองของ Starfleet ก็มักทำเป็นเอาหูไปนา เอาตาไปไร่   Section 31 เชื่อว่าลำพัง Starfleet ไม่สามารถปกป้องสันติภาพและความปลอดภัยของโลก รวมถึง The Federation ได้จึงจำต้องมีหน่วยที่เคลื่อนไหวแบบลับๆ ที่ยอมทำเรื่องสกปรกที่เขาเชื่อว่าจะส่งผลดี รวมไปถึงการลอบสังหารคนที่คาดว่าจะนำภัยมาให้ The Federation แม้แต่การเสี่ยงชีวิตคนบริสุทธิ์เพื่อแลกกับผลลัพธ์ที่เชื่อว่าจะดีต่อ The Federation พวกเขาก็ทำ ดังนั้นหลังเหตุการณ์ USS Kelvin  Section 31 ก็คาดการณ์ว่าขืนอยู่นิ่งๆ สงบๆ มีหวังต้องโดนทั้ง Klingon หรืออะไรๆมากระหน่ำ จึงได้ทำการสร้างอาวุธด้วยเหตุผลว่า "ต้องโจมตีมันก่อนโจมตีเรา" 


    ตัดกลับมาที่  Khan อีกที ในเวอร์ชั่นนี้ Khan ยังคงความรักพวกพ้องอย่างสุดหัวใจเพราะเหล่า Augment คือครอบครัวหนึ่งเดียวของเขาที่จงรักภักดีกันจนสุดท้าย Khan ยังคงเหมือนเดิมที่มีความสามารถพอจะทำลายล้างได้แม้จะตัวคนเดียว และสร้างความเจ็บแสบให้กับ Kirk อย่างสุดซึ้ง แต่อย่างน้อยเลือดของ Khan ก็ถูกนำมาใช้ฟื้นคืนชีพให้ Kirk ได้ ต้องขอบคุณ Spock ที่ซัด Khan ซะอ่วม (สลับกับที่ Kirk เป็นคนซัด Khan จนเละเป็นโจ๊กในตอน Botany Bay) ตอนนี้พี่ Khan ก็ได้กลับไปนอนเป็นไอติมแช่เย็นเจี๊ยบต่อไปพลางๆ รอวันกลับมาสร้างความปั่นป่วน (ถ้าจะมี) ในอนาคต ตอนนี้ก็แปลกใจนะที่ไม่มีมีการฉวยโอกาสประหารทิ้ง (แค่ดึงปลั๊กซะให้ระบบล่มก็จบ) แต่เดาว่าคงเป็นเพราะยุคนั้นพวกเขามาไกลเกินกว่าความคิดคนยุคเราล่ะมั้ง



    .
    .
    .
    .
    .

    Live Long and Prosper

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in