เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
PAPAYAH's ARCHIVERocket man
LOCAL FOCUS : แนะนำซีนดนตรีนอกกระแสแห่งจังหวัด เลย
  • เรื่อง : เดอะมู๋ บุตรแห่งสมพงษ์เก๋

    เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าหากคุณเป็นคอดนตรีนอกกระแสแล้วบังเอิ๊ญบังเอิญเกิด เติบโต หรือมีเหตุต้องย้ายภูมิลำเนามาอยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ AKA อีสานบ้านเฮา จะต้องคุ้นเคยกับวัฒนธรรม “การตระเวณดูดนตรีข้ามจังหวัด” ที่ถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างปกติที่ของที่นี่ไม่มากก็น้อย เวลามีงานดนตรีอิสระงานสักทีในจังหวัดของท่าน หากคุณมีโอกาสสนทนาหรือทำความรู้จักเพื่อนใหม่ในงานนั้นๆ อย่างน้อยที่สุด 1 ใน 10 คนที่คุณจะได้พบปะในงานดนตรีจะไม่ใช่คนท้องที่ แต่อาจจะเป็นคนที่อยู่อำเภอข้างๆ จังหวัดใกล้ๆ ที่ตั้งใจมาเพื่อเข้าชมงานโดยเฉพาะ และเราก็เชื่อเป็นอย่างยิ่งอีกว่าหลายๆ คนที่กำลังอ่านงานเขียนชิ้นนี้อยู่น่าจะเคยผ่านประสบการณ์โร้ดทริปประมาณนี้กันมาบ้าง ปรากฎการณ์ดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงความลื่นไหลและความเชื่อมโยงบางอย่างในซีนดนตรีในภูมิภาคว่าพวกเราไม่ได้แยกขาดจากกันซะทีเดียว ซีนดนตรีนอกกระแสอีสานจริงๆ แล้วเป็นซีนดนตรีที่มีพื้นที่ค่อนข้างใหญ่ เพียงแต่ยังไม่มีการต่อจุดและเชื่อมกันอย่างเป็นรูปธรรมนัก วันนี้ PAPAYAH’s ARCHIVE จึงอยากจะขอแนะนำซีนดนตรีในท้องถิ่นกันบ้างหลังที่ผ่านมาบทความของเราจะหนักไปทางวงดนตรีจากภาคอื่นที่แวะเวียนมาทัวร์ที่นี่ซะส่วนใหญ่ โดยขอเริ่มจากซีนดนตรีที่ส่วนตัวผมมองว่าค่อนข้างประหลาดในเรื่องของที่มาที่ไปของจังหวัด “เลย” ที่เริ่มปรากฎชื่ออยู่บนแผนการทัวร์ของดนตรีนอกกระแสอย่างมีนัยยะ ขอเชิญทุกคนไปทำความรู้จักกับบทสัมภาษณ์สั้นๆ ของ 3 วงดนตรี และหนึ่งค่ายเพลง เชิญเสพ          






    Maliwan 


    วงดนตรี Alternative Rock จาก จังหวัดเลย ที่เพิ่งเปิดตัวในฐานะศิลปินภายใต้สังกัด “Stockhome Record” ค่ายเพลงอิสระที่เท่ที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา


    สมาชิก
    ยีน - เบส
    เอ็ม - ผู้จัดการ (แบ๊กอัพกีต้าร์) 
    โน๊ต - กลอง
    เน - ร้องนำ (ไม่มา)


    ช่วงก่อนหน้านี้เราเห็นชื่อของ “Maliwan” ค่อนข้างบ่อยในฐานะวงที่ร่วมเล่นให้กับศิลปินต่างๆ ที่ได้มาเล่นที่เมืองเลย รวมตัวกันนานหรือยัง ทำอะไรกันอยู่บ้าง


    ยีน : พวกเรา “Maliwan” ตั้งกันวงมาได้ประมาณสามปีละครับ ตอนนี้เพลงมีทั้งหมดสามซิงเกิ้ลคือ

    “อย่าบอกลา”, “หมากฝรั่ง” และล่าสุด “บุคคลอันตราย” ซึ่งเป็นซิงเกิ้ลเปิดตัวของพวกเราในฐานศิลปินภายใต้สังกัด “Stockhome Record”




    ที่มาของชื่อวง “Maliwan” ถ้าคนพื้นที่เดาน่าจะพอรู้กันว่าเอามาจากชื่อถนนเส้นหนึ่งที่เชื่อมขอนแก่นยาวไปจนถึงเมืองเลย


    ยีน : จริงๆ มันก็มาจากชื่อถนนนี่แหละครับ ตอนแรกไม่รู้เลยว่าถนน “มลิวัลย์” นี่ยาวไปถึงขอนแก่นด้วย ที่มาก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนครับ ตอนตั้งชื่อวงก็คุยกันประมาณว่า เราเอาชื่อถนนมาตั้งเป็นชื่อวงกันดีไหมเขาจะได้รู้ว่าเรามาจากเมืองเลยนะ ประมาณนี้ครับ  



    แล้วแนวเพลงจริงๆ ของพวกเราสามารถระบุได้ไหม


    ยีน : น่าจะเป็น Folk Rock


    เอ็ม : ก็อย่าเพลงที่ผ่านมาก็จะมีความเป็น Post Rock บ้าง ผสมผสาน แต่ว่าแนวทางของ "Maliwan" ถ้าในฐานะผมมองน้องๆ ผมคิดว่าน่าจะจะอยู่ในหมวดของคำว่า Alternative เพราะว่ามันผสมหลายอย่าง แต่ส่วนมากที่ชอบกันในวงก็จะเป็น Folk Rock/Alternative แต่ก็ฟังกว้างครับ



    ที่มาของเพลง “บุคคลอันตราย”


    โน๊ต : เพลงนี้เป็นเพลงที่ เน เขียนมานานแล้วครับ พูดถึงประมาณว่าเขาเป็นคนที่ทำเรื่องแย่ๆ มาก่อนแล้ววันหนึ่งเขาต้องการที่จะเป็นคนดีให้กับใครสักคนหนึ่ง แต่ว่าด้วยอดีตที่เคยทำไม่ดีเอาไว้ตัวแย่ๆ เอาไว้ ทำให้คนที่เราอยากจะให้เขาให้โอกาสเรามองว่าตัวเราเป็นบุคคลอันตราย





    ขอถามเอ็มเกี่ยวกับซีนดนตรีอินดี้ที่เมืองเลย เพราะคุณเองน่าจะถือได้ว่าเป็นคนหนึ่งที่เป็นตัวตั้งตัวตีของซีนดนตรีที่นี่และยังเป็นหุ้นส่วนร้าน “Canvas Livehouse” ร้านดนตรีทางเลือกของจังหวัดเลย อยากทราบว่าในปี 2020 รวมถึงหลังโควิดมาเนี่ยที่ซีนเมืองเลยเป็นอย่างไรบ้าง


    เอ็ม : ที่เมืองเลยคนค่อนข้างเปิดโอกาสให้ดนตรีใหม่ๆ เข้าไป อย่างที่ผมทำร้านมา ร้านมันก็ไม่ได้มีคนเยอะอะไรทุกวัน ที่ทำกันอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะว่าความชอบส่วนตัวด้วยส่วนหนึ่ง และเราก็มีเพื่อนร่วมอุดมการณ์เยอะ ทั้งในเมืองเลย และเพื่อนๆ จากจังหวัดอื่นๆ เราซึ่งอยากจะหาพื้นที่ให้กับตัวเองก็เลยตัดสินใจเปิดร้านนี้ขึ้นมา ซีนดนตรีที่เลยก็ดีครับ เวลามีงานคนที่นี่กล้าที่จะสนับสนุนศิลปินเพราะร้านผมมันเป็นร้านที่เล็กมาก เล็กจริงๆ ทำให้ต้องขายบัตรในราคาที่ค่อนข้างแพง ซึ่งเมืองเลยถ้าเก็บบัตรเกิน 200 ก็จะมีคนบ่น เขาก็จะบ่นกันว่าเฮ้ยทำไมต้องเก็บบัตรวะ ทำไมไม่ให้กูเข้าดูฟรีล่ะ แต่ก็ยังมีแฟนคลับที่เขากล้าที่จะสนับสนุนศิลปิน กลุ่มแฟนคลับที่เข้าใจว่าการซื้อบัตรคือการสนับสนุนศิลปินที่เขาชื่นชอบ เราจะบอกกับลูกค้าที่เข้ามาในร้านเสมอว่า คุณเข้ามานะผมไม่ได้กำไรเลย ถึงได้มันก็อยู่แค่หลักพันเพราะว่าร้านมันจุคนได้แค่ประมาณร้อยคน เราก็ต้องทำให้มันสมดุลกันกับค่าใช้จ่าย เพื่อให้ร้านมันไปได้ องค์กรอยู่ได้ วงการก็อยู่ได้ ศิลปินก็อยู่ได้






    Pumpkins At Alaska


    พวกเขาคือ ดูโอ้ Synth-Pop ที่มีพื้นเพดั้งเดิมจากจังหวัดอุบลราชธานี แต่มีสมาชิกส่วนหนึ่งหนีมาปักหลักอยู่ที่จังหวัดเลย และเป็นหนึ่งกำลังสำคัญในการผลักดันซีนดนตรีของที่นี่ เป็นอีกหนึ่งศิลปินที่ออกผลงานอย่างต่อเนื่องและน่าจับตามองการเติบโตของวงเป็นอย่างยิ่ง 


    สมาชิก 
    โอม - ร้องนำ/กีต้าร์
    เด่น - ซินธิไซเซอร์


    จุดเริ่มต้นที่ในการมาเล่นดนตรีด้วยกัน


    เด่น : มันเริ่มจากผมขายปิ้งหมูอยู่หน้าร้านของพี่เป้วง “Hesick” ตอนแรกผมก็ยังไม่รู้จักพี่โอม ซึ่งพี่แกก็เดินเข้ามาเลย “เฮ้ ไอ้หนุ่ม เราทำซินธ์ใช่ปะ งั้นลองมาทำเพลงกับพี่” ช่วงนั้น “Polycat” กำลังมาไงพี่ จากนั้นเราก็เริ่มคัฟเวอร์กันพี่แล้วก็ทำเพลงกันมา



    ชื่อวงมีที่มาอย่างไร


    PAA  : (หัวเราะก๊าก)


    เด่น : ชื่อวงก็มาจากหมอเป้เหมือนกันครับ เราก็ทำเพลงกันอยู่ดีๆ แล้วพี่โอมอะ ช่วงนั้นเขาคลั่งวงเมทัลไทยชื่อ “No Penguins In Alaska” แล้วแกก็ชอบคำว่า “อลาสก้า” มากๆ ประกอบกับบอร์ดเอฟเฟคของพี่เป้มันจะเขียนว่า “Pumpkins” ซึ่งตอนนั้นก็เรียนมาน้อยไงพี่ ก็ไม่รู้ว่ามันแปลว่าอะไร ก็ทึกทักกันเองถ้าเป็น “Pumpkins At Alaska มันน่านะเวิร์คนะเลยก็เป็นชื่อวงที่ใช้มาจนปัจจุบัน 





    เห็นว่าตอนนี้ปล่อยมาทั้งหมดถึง 7 เพลงแล้วมีเพลงอะไรบ้าง


    โอม : เพลงแรก “ผมรักคุณ” ครับ แล้วก็ “ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน”, “ฝันเลว”, “ความแห้ว” อะไรอีกวะ “หรือว่าฉันคิดไปเอง”, “Lazykiss” และล่าสุด “ถุงเท้าคู่เดิมที่ฉันยังเก็บไว้”





    พูดถึงสองเพลงที่พูดมาล่าสุดเป็นเพลงที่ปล่อยมาช่วงปลายปี 2019 เป็นการปล่อยแบบหักทุกทฤษฎีการตลาด คือ ปล่อยเพลงละวัน ต่อกันเลย แล้วปล่อยกันตอนตี 1 ทำไมถึงปล่อยช่วงเวลานั้น


    เด่น : บางครั้งมันก็ดีดครับ แบบเราทำมันจนเสร็จละ แล้วถ้าเวลาเราทำไปสักพักแล้วมันทิ้งนานๆ ในฐานะคนทำงานสร้างสรรค์มันอาจจะเกิดอาการ “ไม่อิน” มันไม่อินกับที่เราทำเสร็จ ณ ตอนนั้น พอเราไม่อิน เราก็จะเกิดความกลัวว่ามันจะออกมาไม่ดี แล้วพอเรากลัวเราก็จะแก้ไปเรื่อยๆ สู้เรารีบทำให้เสร็จแล้วปล่อยไปดีกว่า เพราะยังไงมันก็เป็นเพลงสมบูรณ์แล้ว ส่วนเรื่องชอบไม่ชอบก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง โดยส่วนตัวพวกผมไม่ค่อยอยากดองเพลงไว้เท่าไหร่


    แล้วผลตอบรับเป็นยังไงบ้างกับสองเพลงนั้นในการใช้สูตรการตลาดนี้


    เด่น : ไม่ค่อยเวิร์คนะ 


    โอม : ไม่น่าทำเลยพี่ (หัวเราะ)







    Trashlab





    “Trashlab” คือชื่อของค่ายเพลงและสหกรณ์ดนตรีอิสระจากจังหวัด เลย ที่บริหารงานโดยวง “Pumpkins At Alaska” ซึ่งเป็นวงที่แต่เดิมมีพื้นเพมาจากจังหวัดอุบลราชธานี แต่เลือกมาใช้ชีวิตที่เมืองเลยด้วยอะไรสักอย่างที่กระทบกระเทือนจิตใจอย่างหนักของ โอม นักร้องนำของวง ซึ่งทำให้เกิดเป็นซีนดนตรีนอกกระแสขนาดเล็กที่ถือว่าเป็นกำลังหลักสำคัญของจังหวัดเลย ณ ปัจจุบัน


    ความเป็นมาของค่าย “Trashlab” 


    เด่น : เริ่มทำมาได้ 2-3 เดือนเองครับ ตอนนี้มีศิลปินด้วยกันหมดวง


    โอม : เอาจริงๆ มันคือค่ายที่รวมวงที่ผมเล่น (หัวเราะ) 


    อะ ตอนนี้คุณเล่นอยู่กี่วง


    โอม : 5 วง ครับ มี “Pumpkins At Alaska” , “SOY”, “Hesick”, “Monsignor” แล้วก็ “Wanlop” ครับ



    แนะนำศิลปินในค่าย



    1. The Birthday Party (Dream Pop)  




    2. Wanlop (Folk/Pop) 




    3. Monsignor (Emotive Grunge)




    4. The Mushy (Surf Rock)




    5. WORRX ( Modern R&B)




    6. LOE (POP) กำลังบันทึกเสียง


    7. PANIC ATTACK กำลังบันทึกเสียง



    8. SOY


    วงดนตรีจากจังหวัด เลย ที่จำกัดความแนวเพลงของตัวเองไว้ว่าเป็น “Hipster-srceamo” มีซุ่มเสียงของทุกแนวมีความป๊อป มีความร๊อก มีความสครีม มีรีเวิบ มีสำรอก แล้วก็มีความมาด



    สมาชิก 
    ซอล : กีต้าร/ร้องนำ มาด
    โอม : กีต้าร์


    ทำไมถึงเลือกจะทำเพลงในแนวทางนี้


    ซอล : มันน่าจะเกิดการวิธีการทำเพลง คือจะเริ่มจากพี่โอม เขาจะคิดโครงดนตรี โครงเพลงมาก่อนที่จะส่งให้ผม เขาก็ใส่ความเป็นเขามา ส่วนผมก็จะใส่ของผม แล้วก็มาคิดกันสดๆ ว่าจะร้องอะไรยังไงดี ก็อัดเขียนเนื้อใส่ตรงนั้นไปเลย



    ตอนนี้มีเพลงอะไรบ้าง


    ซอล : ตอนนี้มีทั้งหมด 3 เพลง เพลงแรกชื่อ “I miss you” ที่ช่วงล๊อคดาวน์เราได้ชวนคนที่อยู่บ้านมาถ่ายคลิปเต้นประกอบเพลงแล้วรวบรวมมาเป็นมิวสิกวีดีโอ ส่วนเพลงที่สองชื่อว่า “Happy” แล้วก็เพลงที่สาม “Yark Me Mia Song Khon” (อยากมีเมียสองคน) เพลงเราพูดถึงดวงจันทร์กับดวงอาทิตย์ คือสำคัญทั้งคู่ แต่เสิร์ชเป็นตัวเลข “1.5424°” มาจากองศาความเอียงของดวงจันทร์เวลาที่บดบังดวงอาทิตย์ในปรากฎการณ์ “จันทรุปราคา”





    แล้วเนื้อหามันตามชื่อเพลงเลยไหม


    ซอล : ถูกต้องครับ แต่ว่าเราไม่ได้เขียนตรงๆ เราใช้การเปรียบเปรย ประมาณว่า เธอสำคัญเหมือนแสงจากดวงอาทิตย์ในยามกลางวัน ส่วนอีกคนก็เป็นเหมือนแสงพระจันทร์ในยามค่ำคืน ขาดไม่ได้ทั้งคู่ เริ่มจากไอ้เนี่ย(ซอลชี้ไปที่ โอม) บอกว่าอยากให้เขียนเพลงด้วยโจทย์นี้ อยากมีเมียสองคน เราก็เลยมาคิดต่อ เลยเอามาเปรียบเทียบกับพระจันทร์กับพระอาทิตย์ดีกว่า สำคัญทั้งคู่





    ในส่วนแนวเพลงก็มีความน่าสนใจมากๆ คือมุกวันนี้ยังหาอยู่เลยว่ามีวงไหนเคยทำอะไรแบบนี้ไหม


    ซอล : ไม่น่ามีครับ ขนาดส่งเพลงไปที่เว็ปไซต์ Unite Asia เว็บข่าวดนตรีของฮ่องกงซึ่งเป็นเว็บที่ตั้งมาหลายปีมาก ขนาดคนเขียนเขายังไม่รู้ว่าเป็นแนวอะไร เขาก็ยังหา ref. ไม่เจอ และเราเองก็ยังหาไม่เจอเลยว่าในโลกมีวงไหนทำเพลงแบบนี้ ซึ่งตอนนี้พวกเราฟอร์มทีมกันเรียบร้อยแล้วจากที่ทำกันเล่นๆ กันเองสองคน ตอนนี้มีเพื่อนมาช่วยเสริมทัพจนเต็มวงแล้ว กำลังจะมีทัวร์ที่กรุงเทพและสุพรรณในช่วงหยุดหยาวนี้ครับ



    จะปล่อยเพลงอีกเมื่อไหร่


    ซอล : ที่คุยกันไว้ก็เดี๋ยวจะมีปล่อยอีกเพลงหนึ่ง ส่วนที่เหลือน่าจะรอปล่อยอัลบ้มช่วงต้นปีหน้าทีเดียว ที่ออกเป็นแผ่นกับทาง “PleaseBuythis records” ฝากติดตามด้วยครับ





    ช่องทางการติดตามศิลปิน
    Maliwan : https://www.facebook.com/maliwanfanpage / https://www.facebook.com/stockhomerecords
    Pumpkins At Alaska : https://www.facebook.com/PumpkinsAtAlaska
    SOY : https://www.facebook.com/soyheesoyhee
    Trashlab : https://www.facebook.com/trashisalwaysatrash
    Canvas Livehouse : https://www.facebook.com/canvaslivehouse


    _________________________________________________________________________________________









Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in