เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ALIVE : เกม ซ้อน เกมNO.W
ออกเดินทาง
  • ……….

     

    ตอนที่ 2 : ออกเดินทาง

     

              “ทำไมในเกมส์มันยังมึนหัวได้ล่ะเนี่ย”ผมอดสงสัยไม่ได้หลังจากพบว่าตัวเองตื่นขึ้นมาในห้องปิดตายเล็กๆห้องหนึ่ง ผนังปูนเปลือยสภาพน่าจะหลายปี บนพื้นเต็มไปด้วยกล่องลังเปล่าๆเศษข้าวของใช้แล้วทิ้งเรี่ยราดเต็มไปหมด ที่นี่น่าจะเคยเป็นห้องเก็บของมาก่อนถ้าให้เดา

     

    //คุณเข้าสู่อไลว์ฟเรียบร้อยแล้ว ขอให้คุณโชคดี//เสียงของระบบดังขึ้นจากที่ไหนสักแห่ง

     

              ผมยังไม่ลุกขึ้นรอให้อาการมึนหัวดีขึ้นกว่านี้อีกหน่อยก่อนจะคว้าเอากระเป๋าเป้สีน้ำตาลที่วางอยู่ข้างๆ น่าจะเป็นของที่ระบบให้ตอนเริ่มต้นผมเปิดดูภายในกระเป๋าว่ามีอะไรบ้าง “ให้ตายเถอะ ให้มาแค่นี้แล้วกูจะไปอยู่รอดถึงอาทิตย์มั้ยล่ะ”ผมบ่นเมื่อเห็นสิ่งของข้างใน

     

              มันประกอบไปด้วยยาต้านไวรัสหนึ่งกล่องมีดพกหนึ่งเล่ม ไฟแช็กหนึ่งอัน ขนมปังหนึ่งห่อแล้วก็น้ำเปล่าอีกหนึ่งขวดนอกนั้นก็เป็นบัตรประจำตัวผู้เล่นหรือเรียกสั้นๆ ว่าไอดีการ์ด

     

              ผมยัดไอดีการ์ดใส่กระเป๋ากางเกงยีนส์รูดซิบปิดกระเป๋า ลุกขึ้นพร้อมคว้าเอาท่อนเหล็กยาวประมาณแขนที่วางอยู่บนพื้นขึ้นมาเหมือนจะเป็นของเริ่มต้นอีกเหมือนกัน ก่อนหมุนลูกบิดและค่อยๆดึงบานประตูเข้าหาตัวช้าๆ

     

              เมื่อก้าวผ่านประตูออกมาจึงรู้ว่าตัวเองอยู่ในสถานีตำรวจเพราะห้องถัดไปเป็นห้องขังเล็กๆ สามห้องและอีกห้องที่ปิดประตูไว้ไม่รู้ว่าเป็นห้องอะไรจึงขอผ่านไปก่อน ผมเดินออกมายังห้องใหญ่ด้านหน้ามันเต็มไปด้วยโต๊ะทำงานประมาณห้าหกโต๊ะดูท่าที่นี่จะไม่ใช่สถานีตำรวจใหญ่โตอะไรนัก ผมย่างก้าวอย่างระมัดระวังในใจคิดว่าที่นี่เป็นสถานีตำรวจมันก็ต้องมีปืนน่ะสิแต่เดินจนทั่วสุดท้ายก็ไม่ยักจะเจอ จึงพาตัวเองกลับมาห้องที่ยังไม่ได้เข้าตอนแรก

     

              ห้องไม่ได้ล็อคแต่เหมือนประตูจะขัดๆ นิดหน่อยผมจึงต้องใช้ตัวกระแทกเข้าไป ดูเหมือนข้างในจะเป็นห้องเก็บของกลางมีข้าวของมากมายอยู่ในถุงพลาสติกใสแล้วเก็บไว้ในกล่องกระดาษที่มีป้ายบอกว่าข้างในเป็นอะไรผมสำรวจไปตามกล่องต่างๆ แต่ก็ไม่เจอของที่พอจะเป็นประโยชน์เหมือนกับนี่เป็นพวกของหายแล้วเจ้าของยังไม่มารับคืนมากกว่าจนตัวเองเริ่มท้อนิดๆ

     

              นอกจากเกิดห่างกันแค่สี่ร้อยเมตรกับห้องส่วนตัวมันจะไม่มีอะไรให้อีกแล้วจริงดิแต่ผมก็ไม่อยากใส่ใจ ตัวเกมส์คงไม่อยากให้ผู้เล่นถูกเอาเปรียบมากเกินไปล่ะมั้งคราวนี้ผมก้มตัวมองหาข้างล่างบ้าง จากที่เคยเล่นเกมส์อื่นๆ มา ของดีๆมักชอบตกตามซอกนั่นนี่ที่ไม่น่าจะเป็นไปได้

     

              และนั่นก็ทำให้ผมต้องอุทานออกมาเมื่อเจอปืนสั้นหนึ่งกระบอกอยู่ใต้ชั้นวาง“เริ่มมาก็เจอปืนเลยเว่ย!”ผมวางท่อนเหล็กและเอื้อมมือเข้าไปใต้ชั้นวางเพื่อล้วงมันออกมาเช็คสภาพ“เวรจริงๆ” ผมสบถเมื่อในแมกกาซีนไร้ซึ่งกระสุนอย่างนี้มันจะไปทำอะไรได้ล่ะ

     

              เกิดเสียงคล้ายฝีเท้าคนดังขึ้นนอกห้องผมตกใจรีบยัดปืนลงกระเป๋าทันทีพร้อมคว้าท่อนเหล็กขึ้นมากระชับแน่นในมือ “ประตูดันเปิดเบาๆไม่ได้อีกเฮ้อ ชีวิต” ผมพึมพำ ขณะส่องผ่านช่องประตูเอาเพราะผมไม่ได้ปิดสนิท

     

              จึงพบเข้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจในชุดกรมท่าทางการยืนและเดินดูผิดแปลกไปจากมนุษย์ธรรมดาไม่ต้องเดาก็รู้ว่าผู้มาเยือนตรงหน้านี้เป็นซอมบี้ “ไปแอบอยู่ไหนมาวะเมื่อกี้กูว่าเดินทั่วแล้วนะ” ผมตัดสินใจกระชากประตูฝืดๆรวดเดียว เสียงดังครืด มันหาสบตาผม

     

              “อยู่ดีๆจะให้ฆ่าคนมันก็ยังไงๆอยู่แฮะ”อยู่ๆ ผมก็เกิดความรู้สึกกล้าๆ กลัวๆ ขึ้นมา เพราะมันสมจริงมากถึงแม้จะอุ่นใจขึ้นมาเพราะมันเป็นเพียงเกมส์ก็เถอะถ้าเป็นของจริงผมอาจจะช็อกกว่านี้ก็ได้ อาจไม่ได้มายืนนิ่งยืนคิดอะไรอยู่แบบนี้แต่เหมือนมันจะไม่ยอมปล่อยให้ผมได้คิดก็พุ่งเข้าใส่ซะแล้ว

     

              ด้วยความตกใจผมใช้ท่อนเหล็กฟาดไปที่หัวตามวิธีจัดการซอมบี้ที่ไม่มีใครไม่รู้จักมันล้มตึงลงไปนอนกับพื้น แต่ยังไม่วายพยายามตะเกียกตะกายจะลุกขึ้นมาใหม่ “ก็ฟาดที่หัวแล้วไม่ใช่หรอวะทำไมยังไม่ตายอีก” ผมผงะถอยหลังเมื่อมันคลานมาหาก่อนตัดสินใจวิ่งเข้าไปซ้ำเข้าที่หัวอีกสามสี่รอบ จนเลือดสีแดงฉานไหลนองเจิ่งพื้น “สมจริงทั้งภาพและเสียง นี่ถ้ากูจิตอ่อนคงเป็นบ้าตายแน่ๆ ไม่อยากจะคิดว่าโดนกัดจะเจ็บขนาดไหน”

     

    //ยินดีด้วยค่ะคุณรู้วิธีกำจัดซอมบี้แล้ว คุณจะได้รับโกลด์ทุกครั้งเมื่อคุณกำจัดซอมบี้ได้อีกทั้งซอมบี้แต่ละตัวอาจมีสิ่งของจำเป็นที่คุณสามารถนำไปใช้ได้ค่ะ//

     

              สิ้นเสียงของระบบผมรีบควักไอดีการ์ดขึ้นมาดูความเปลี่ยนแปลงแล้วมันก็ขึ้นข้อความว่าคุณได้รับโกลด์จำนวน 230 โกลด์ ก่อนผมจะยัดมันกลับไปตอนนี้ยังไม่ใช่เวลามาดูว่าไอดีการ์ดมันทำอะไรได้บ้าง

     

              ผมไม่กล้าสำรวจดูว่าไอตำรวจนายนี้มันจะมีอะไรให้ผมบ้างแต่เท่าที่มองๆ ก็ไม่น่าจะมีอะไรให้เอาไปใช้หรอกตอนแรกผมกะว่าจะไปสำรวจในห้องเก็บของอีกสักหน่อยเผื่อจะเจอกระสุนปืนหรืออะไรที่พอใช้ได้อย่างอื่นแต่ยังไม่ทันจะก้าวเท้าเดินต่อ เสียงตะโกนร้องขอความช่วยเหลือก็ดังขึ้นไม่ไกลเหมือนจะเป็นหน้าสถานีตำรวจ

     

              ผมกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกไปห้องด้านหน้าก้มตัวใช้โต๊ะทำงานเป็นที่กำบังและซ่อนตัวเพื่อจะได้ซุ่มดูว่าเกิดอะไรขึ้นและควรจะทำยังไงก่อนจะเห็นว่าไอ้เจ้าของเสียงร้องนั่นผ่านกระจกใสของสถานีตำรวจไม่ใช่ใครอื่นเป็นไอริกเพื่อนผมนั่นเองที่กำลังวิ่งหนีตายจากซอมบี้กลุ่มหนึ่งด้านหลังมัน

     

              ทันทีที่รู้ว่าเป็นมันผมรีบลุกขึ้นวิ่งไปเปิดประตูพร้อมกับตะโกนว่า“วิ่งให้มันเร็วกว่านี้ว้อย”ก่อนวิ่งกลับเข้ามาข้างในหาว่ามันมีทางออกอื่นอีกรึเปล่าคราวนี้สู้ไม่ไหวแน่ จำนวนมันมากเกินไป

     

    “ไม่คิดจะออกมาช่วยกูหน่อยรึไง”ริกรีบปิดประตูทันทีที่เข้ามาข้างในผมกับมันรีบเคลื่อนโต๊ะมาขวางประตูเพื่อถ่วงเวลาเอาไว้ไม่รู้ว่ากระจกมันจะหนาพอกั้นพวกมันไว้ได้นานแค่ไหน

    “แล้วมึงมาอยู่นี่ได้ไง”

    “ก็เกิดที่นี่น่ะสิ” ผมตอบ “บอกไม่กลัวๆ วิ่งยับเลยนะมึง” ผมหยอก

    “เป็นมึงจะยืนไฝว้สินะมาเป็นสิบขนาดนั้นแล้วที่นี่มันมีทางออกอื่นมั้ยเนี่ย กูว่าอยู่ได้อีกไม่นานหรอก” ริกพูดพลางหอบ สายตาจับจ้องไปยังกลุ่มซอมบี้ที่พยายามจะเข้ามาให้ได้

    “กูไปดูมาละมีประตูหลังอยู่เหมือนมันจะไปหมู่บ้านหนึ่งได้ รีบไปเหอะ” ผมตอบก่อนวิ่งนำมันเข้าไปด้านหลัง ผ่านห้องขังและห้องเก็บของลึกเข้าไปข้างในเป็นพื้นที่แคบๆแต่มีประตูเหล็กบานหนึ่งที่เปิดไปสู่ถนนด้านหลังได้

    “ว่าแต่มึงเจออะไรมั่งยัง” ริกถามขณะค่อยๆ แง้มประตู ไม่รู้ว่าอะไรรอต้อนรับอยู่ข้างนอกบ้าง

    “แล้วมึงล่ะ” ผมย้อนถาม

    “เจอกล่องกระสุนปืนพกแต่ไม่เจอปืนว่ะโคตรแย่” ริกตอบแบบเซ็งๆ

    “แต่กูเจอปืนว่ะ” ผมหัวเราะร่า

    “จริงดิ ไหนเอามาดูดิ๊”

    “ไว้ก่อนน่าไปให้พ้นๆจากไอพวกบ้านี่ก่อน” ผมตอบ

    “เออๆ ก็ได้ งั้นรีบไปกันเถอะ ดูเหมือนจะไม่มีอะไร”ริกว่า

     

              ด้านหลังสถานีเป็นถนนสองเลนทอดยาวไปสุดลูกตาข้างหน้าห่างจากพวกผมประมาณสองสามกิโลเมตรเป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ซึ่งนั่นเป็นเป้าหมายของพวกเรา เมื่อเดินห่างจากสถานีมาเรื่อยบนถนนก็รู้ว่ามันเป็นเพียงสถานีย่อยเล็กๆ ตามทาง ด้านหน้าสถานีเป็นถนนทางหลวงที่พาไปไหนก็ไม่รู้ไกลถัดไปจากสถานีมีบ้านอยู่สองสามหลัง ผมรู้สึกว่าผังเมืองที่นี่มันแปลกๆ ชอบกล

     

              สองข้างถนนที่พวกเรากำลังเดินอยู่เป็นป่าไม้หนาทึบต้นไม้ขึ้นสูง พุ่มหญ้ารกชันทั้งสองข้างทาง ตลอดทาง ผมกับริกคอยสอดส่องหาสิ่งของตามรถราที่ถูกจอดทิ้งไว้บนท้องถนนซึ่งมีอยู่แทบตลอดทาง

     

    “คิดว่าเราจะเจอคนในหมู่บ้านมั้ย?”ริกถามขึ้นขณะเดินกันมาได้สักพัก

    “ก็มีอยู่หรอกแต่นี่มันช่วงทดสอบจำนวนคนก็คงมีเท่าในตึกนั่นแหละคงไม่เกินพักหรอก” ผมตอบ

    “คิดว่าแมพมันจะกว้างขนาดไหนวะช่วงทดสอบ”ริกถามต่อ

    “กูก็ไม่รู้ว่ะ แต่ตอนนี้โคตรร้อนเลยแดดมันจะแรงไปไหนวะ” ผมพูดพลางสะบัดคอเสื้อให้เกิดลมเบาๆพอให้เย็นชื่นขึ้นมาบ้าง ก่อนจะเปิดกระเป๋าล้วงเอาปืนที่เจอให้มันตามที่บอกไว้ “กูเจอแต่ปืนว่ะ ไม่เจอกระสุน แต่กระสุนที่มึงเจอก็น่าจะใช้ได้แหละ”ผมกล่าว

    “เฮ้ย กูว่าน่าจะได้นะเดี๋ยวขอลองก่อน” ริกรีบควักเอากล่องกระสุนออกมาลองทันทีแล้วมันก็ใช้ได้ ริกบรรจุกระสุนลงไปทั้งสิ้นยี่สิบลูกเต็มแมกกาซีนพอดีมันโยนกล่องทิ้งข้างทาง ไงซะที่นี่ก็คงไม่เหลือกฎเกณฑ์อะไรแล้ว

     

    “แค่นี้ก็ถือว่าโหดสำหรับคนเพิ่งเกิดแล้วกูว่าเป็นผลของวีไอพีแน่ๆ เราคงไม่โชคดีเหมือนตัวเอกนิยายเกมส์ออนไลน์ทั่วไปหรอก”ผมว่า

    “ก็จริง แต่กูว่ามึงเป็นคนเก็บเหอะอยู่ที่กูกูยิงหมดแน่” ริกยื่นปืนที่บรรจุกระสุนเต็มแม็กให้

    “มึงแน่ใจ?”

    “บอกให้เก็บก็เก็บเหอะน่า” ริกย้ำ

     

              ระหว่างที่ผมยืนรอไอริกที่กำลังมุดเข้าไปหาของที่พอใช้ได้ในซากรถผมที่ยืนเฝ้าระวังให้ก็สังเกตเห็นกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งไกลๆ อยู่ข้างหลังทางที่เราทั้งคู่เพิ่งเดินผ่านมา“นั่นคนรึเปล่าวะ?”ผมถาม พยายามเพ่งมอง แต่มันก็ไกลเกินจะเห็นได้ชัด

    “ไหน?” ริกที่อยู่ในรถมองผ่านกระจกหลัง

    “ตรงนั้นไง” ผมชี้ไปยังทิศที่เห็น

    “นี่มึงยังกล้าถามอีกหรอว่ามันเป็นคนรึเปล่า”ริกพูดจบก็รีบพรวดออกมาจากรถทันที ไม่ได้อะไรอีกตามเคยเกมส์นี้ทำไมมันหาของยากขนาดนี้เนี่ย

    “พวกซอมบี้ที่ตามมึงมามันไปพาพวกมารุมทึ้งเราแน่เลยว่ะ”ผมพูด

    “บ้าน่า มึงก็พูดไป” ริกว่า พลางละตาจากกลุ่มผีดิบไปยังหมู่บ้านที่น่าจะห่างจากพวกเราไม่ถึงกิโลเมตร“กูว่ารีบไปเถอะ”

    “ว่าแต่ทำไมมันไม่วิ่งมาหาเราล่ะในเมื่อมันเห็นเราแล้วหรือว่ายัง?” ผมสงสัยถ้าเป็นในหนังนี่พวกมันดาหน้ากันเข้ามาแล้ว

    “ไม่รู้เหมือนกันแต่ก่อนหน้ามันก็ไม่วิ่งไล่นะ แต่พอกูตกใจออกวิ่งเท่านั้นแหละ วิ่งตามกูกันชิบเลย”ริกเล่า

    “งั้นเราเดินไปเถอะคอยรักษาระยะห่างไว้ก็พอ ไม่ต้องเหนื่อยด้วย บางทีมันอาจยังไม่เห็นเราก็ได้เลยไม่ได้สนใจอะไร”ผมว่า

    “เรื่องเดินน่ะกูเห็นด้วยแต่กูว่ามันเห็นเรานะ ไม่งั้นมันจะเดินตามเรามาขนาดนี้หรอ บางทีมันอาจเดินตามเรามาตั้งนานแล้วก็ได้หลังๆ เราหยุดหาของบ่อยมันเลยตามทัน” ริกว่า

    “อย่างนี้มันก็ลุ้นดีเหมือนกันเนอะ”ผมพูดขึ้น รู้สึกเสียวหลังแปลกๆ เมื่อมีกลุ่มซอมบี้เดินตามอยู่ห่างๆแบบนี้ มันจะคลั่งวิ่งเข้าใส่เมื่อไรก็ไม่รู้

     

    ..........

     

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in