เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Cineflixswiftism
Velvet Buzzsaw (2019) - ภาพสีเลือด


  • *รีวิวนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนล้วนๆ ขอย้ำว่า ล้วนๆ
    **ส่วนไหนผิดพลาดยังไง ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ หรือจะคอมเมนต์ติชมที่ด้านล่างก็ได้ครับ

    Directed by: Dan Gilroy
    Written by: Dan Gilroy
    Genre: Horror, Thriller
    Runtime: 112 mins

    Available on Netflix



    *มีสปอยล์เล็กน้อย*


    Velvet Buzzsaw นี่ก็เป็นอีกเรื่องนึงที่ผมอยากดูมากๆ ตั้งแต่ประกาศพล็อตเรื่องมาเลย ก็โปรโมตซะดิบดีว่าเป็นหนังสยองขวัญในแวดวงศิลปะ แค่คิดก็แปลกแล้ว ไหนจะชื่อนักแสดง ไล่มาตั้งแต่ Jake GyllenhaalRene RussoJohn Malkovich หรือ Toni Collette รวมดาราตัวท็อปของวงการมาเลย แล้วไหนจะชื่อผู้กำกับ (ที่เอาจริงๆก็ทำหนังแบบผีเข้าผีออก) อย่าง Dan Gilroy ที่ทำ Nightcrawler มา เรื่องนั้นนี่สนุกมากๆ ใครยังไม่เคยดูลองดูได้ครับ (Velvet Buzzsaw นี่ก็เป็น collaboration ครั้งที่สองของ Jake, Rene กับ Dan หลังเคยร่วมงานกันใน Nightcrawler ด้วยครับ)

    (source: IMDb)
    เรื่องย่อมีอยู่ว่า มอร์ฟ (Jake) เป็นนักวิจารณ์ภาพวาด ที่จู่ๆก็ต้องเข้าไปพัวพันกับภาพวาดปริศนาของศิลปินลึกลับคนนึง ก่อนที่คนรอบข้างจะพากันล้มตายอย่างไม่มีสาเหตุ แค่เรื่องย่อก็น่าสนใจแล้วใช่มั้ยล่ะครับ แบบนี้หนังจริงต้องออกมาดีแน่นอน!

    แต่กลายเป็นว่า หนังไม่ได้ออกมาเป็นแบบที่ผมคิดเลย เรียกได้ว่าน่าผิดหวังด้วยซ้ำไป (ขอย้ำอีกครั้งว่าเป็นความเห็นส่วนตัว) จากที่คิดไว้ว่าจะเป็นหนังสยองขวัญตลกร้ายที่มีเนื้อหาแบบ satirical ก็กลายเป็นแค่หนังดราม่า + satire ที่มีความสยองเป็นส่วนประกอบเท่านั้น ผิดหวังเรื่องนี้ไม่เท่าไหร่ หนังดันออกมาไม่ค่อยดีอีก ซวยซ้ำซวยซ้อนจริงๆเรา ขอพูดเป็นส่วนๆละกันนะครับ

    • ดราม่า - เป็นส่วนใหญ่ๆของหนังเลยที่มีความดราม่าเป็นหลัก และก็ไม่ใช่ดราม่าแบบที่ตัวเอกมานั่งเศร้าร้องไห้ฟูมฟาย แต่จะเป็นดราม่าเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครมากกว่า แต่หนังก็ไม่ได้แตะตรงนี้ลึกเท่าที่ควร

    • เสียดสี - แน่นอนว่าก็เสียดสีเรื่องราวในวงการศิลปะนั่นแหละ แต่เท่าที่ผมดู ส่วนนี้ไม่ได้ถูกขับออกมาชัดเจนสักเท่าไร และผมก็ไม่รู้ด้วยว่ามันเสียดสีอะไรยังไง เพราะตัวละคร (ที่เป็นคนในแวดวงศิลปะ) พูดคุยกันเยอะเหลือเกิน เหมือนไม่ได้เจอกันเป็นสิบปี เรียกได้ว่ามีบทสนทนาเกิดขึ้นแทบจะตลอดเวลา แต่การคุยกันในเรื่องนี้มันช่างน่าเบื่อเอามากๆ ไม่ลื่นไหลเอาซะเลย ก็ทำให้หนังจืดไปเยอะเลย

    • สยองขวัญ - เป็นองค์ประกอบที่มีน้อยที่สุดในเรื่องนี้ แต่กลับเป็นสิ่งที่ทำให้หนังโดดเด่นมากที่สุดเลยก็ว่าได้ ซึ่งสำหรับผม ส่วนนี้ทำออกมาได้น่าติดตามที่สุดละ ฉากสยองทีไรก็ยังได้ลุ้นอยู่บ้าง แถมฉากโหดก็สยองใช้ได้เลยล่ะ ฉากแขนคือโหดเกินคาดเลยแหละ55555 (แต่ข้อเสียคือ ตัวอย่างสปอยล์เยอะไปนิด)

    (source: IMDb)
    นอกจากนี้ หนังก็ไม่ได้มีสาระอะไรมาก เหตุผลของการกระทำต่างๆในเรื่องก็ไม่ถูกอธิบายเลย ปล่อยให้คนดูงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ตอนจบก็ไร้เหตุผลเอามากๆ ไปอ่านรีวิวบางคนเค้าถึงกับบ่นเลยว่านี่กูดูอะไรไปวะเนี่ย!?

    จริงๆหนังก็ไม่ได้แย่ถึงขนาดดูไม่ได้หรอกนะครับ (ยังไงก็ดีกว่า The Open House เยอะ) เพียงแค่มันไม่ใช่หนังสยองล้วนแบบที่ตัวอย่างตัดมา ตัวหนังไม่ค่อยน่าเบื่อ แต่ก็ไม่ได้ถึงกับสนุกอะไร ปูเรื่องนาน ดราม่าเยอะ คุยเยอะ ความสยองกลางๆ แต่ผมว่าโอเคนะ ส่วนเรื่องนักแสดงก็เล่นดีเอาเรื่องอยู่นะ จะว่าไป สิ่งที่ทำให้ผมดูจบก็เพราะนักแสดงนี่แหละ ถ้าขาดใครสักคนไปหนังคงจืดมากกว่านี้แน่ๆ (แต่ตัวละครก็เยอะจนแบ่ง airtime ไม่ค่อยพอดี) ยังไงก็ลองดูได้ครับ หนังก็น่าสนใจอยู่ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับช่วงนี้ครับ

    ปล. : ไม่สนับสนุนให้ดูของเถื่อนนะครับ ถึงแม้หนังจะไม่ได้ดีอะไรมากมายก็เถอะ

    Score: 6/10

    ลิงค์ดูหนัง (Netflix) : Velvet Buzzsaw

    ขอบคุณทุกคนทีี่เข้ามาอ่านครับ ^ ^

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
Piti Pui (@pitipui)
รอคอยเรื่องนี้ เช็คเนทฟลิกมาปุ๊ปคือดูเลย ผิดหวังเล็กน้อย ครึ่งแรกคือน่าเบื่อมาก ชอบตอนโน่นท้าย ๆ แล้ว ว่าจะรอดกันไหมแต่ละตัวละคร ลุ้นได้อยู่ไม่กี่นาที อ่าว ... หนังจบละ อะไรฟ่ะ ... ที่จะดีคงนักแสดง ครีเอทตัวละครให้มีบุคคลิกเฉพาะตัวดี โดยเฉพาะเจคจิลฯ คหสต.