เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Life as a Fangirlfray_04
อ่านจบแล้ว: ร้านหนังสือรอบโลก
  • เป็นรีวิวหนังสือสั้นๆ ของหนังสือเล่มนี้ c: เราไปได้มาจากงาน Bangkok Books Festival 2016 ค่ะ

    เรื่อง ร้านหนังสือรอบโลก
    ผู้แต่ง บลูเบอรี่พาย, นวรัตน์ รุ่งอรุณ, อาทิตย์ พรหมประสิทธิ์,
    ดวงฤทัย เอสะนาชาตัง, โคลญ่า, ปราบดา หยุ่น, เด็กหญิงหง่าว,
    สุดแดน วิสุทธิลักษณ์
    สำนักพิมพ์ ฟรีฟอร์ม
    ราคา 125 บาท


    หนังสือเล่มนี้จะเป็นการรวบรวมบทความ ความเรียง ของนักเขียน 8 ท่านว่าด้วยร้านหนังสือที่พวกเขาเดินทางไปเยือนในดินแดนต่างๆ ที่คนชอบหนังสือและร้านหนังสืออย่างเราเห็นแล้วเนื้อเต้น ชีพจรชักอยากจะลงเท้า ออกเดินทางตามรอยร้านหนังสือที่พวกเขาเขียนถึงมากๆเลยล่ะ 

    ขอเวิ่นก่อน คือตัวเราเองนั้นมีความคิดที่จะทำทริปตระเวนร้านหนังสือทั่วโลกอยู่แล้ว แต่มันก็ยังไม่ได้เป็นจริงเป็นจังมากมาย (ตอนนี้ที่แรกที่กำลังจะไปคือ BooksActually ที่สิงคโปร์ล่ะ ตื่นเต้น) 
    แล้วพอได้มาอ่านหนังสือเล่มนี้แล้วพูดเลยว่าไฟลุกโชนมาก แทบอยากจะเก็บกระเป๋าออกไปซะตอนนั้นเลย 

    เข้าเรื่องหนังสือ เราจะเล่าถึงบทที่เราชอบนะคะ 
    บทแรก ร้านหนังสือรอบโลก เขียนโดยคุณบลูเบอรี่พาย 
    เล่าถึงที่มาของร้านหนังสือตามหัวมุมต่างๆของโลก เปิดด้วยคำถามชวนคิดว่าร้านหนังสือแห่งแรกของโลกอยู่ที่ไหนกันนะ อื้มม นั่นสิ
    แล้วก็ต่อกันที่ประวัติของร้านหนังสือเชนสโตร์ดังๆของทั้งฝั่งอเมริกา และ อังกฤษ อย่างเช่น Barnes & Noble, Waterstones หรือใกล้บ้านเราเข้ามาหน่อยก็ Kinokuniya นี่เอง
    เราชอบบทนี้เพราะมีการสอดแทรกประวัติศาสตร์ เข้าไปด้วย คือเราเป็นคนทีสนใจในเรื่องที่มาของสถานที่เป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วย เจอแบบนี้แล้วรักเลย c:

    บทต่อมาที่ชอบ Reading in the Alphabet City เขียนโดยคุณอาทิตย์ พรหมประสิทธิ์ และ             หนอน (หนังสือ) น้อย ผจญภัยในบิ๊กแอปเปิ้ล ของคุณนวรัตน์ รุ่งอรุณ
    ทั้งสองบทนี้มีแก่นเรื่องคล้ายกันคือพาไปรู้จักกับร้านหนังสือที่มีจุดเด่นเฉพาะตัวโดยการขายหนังสือเฉพาะทาง ชอบมากเลย

    อีกบทที่อยากพูดถึงคือบทปิดท้ายของเรื่อง ชื่อ 
    ที่คั่นหนังสือ เมื่อความทรงจำถูกอำพราง เขียนโดยคุณสุดแดน วิสุทธิลักษณ์
    เป็นบทที่พูดถึงที่คั่นหนังสือ (แหงล่ะ) เราชอบมากที่เอามาไว้เป็นบทสุดท้ายของเล่ม เพราะถึงแม้จะไม่เกี่ยวกับร้านหนังสือ แต่เมื่อพูดถึงหนังสือ และโดยเฉพาะถ้าพูดกับคนรักและทะนุถนอมหนังสือแล้ว สิ่งที่จะต้องมีควบคู่กับหนังสือข้างกายตลอดก็คงเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากที่คั่นหนังสือนั้นเอง 
    ในบทนี้พูดถึงที่คั่นหนังสือยุคแรกว่าผลิตกันยังไง และมีจุดประสงค์อะไร แตกต่างจากจุดประสงค์ของมันในปัจจุบันไปมากแค่ไหน ไปจนถึงพูดคุยถึงสารพัดสิ่งของที่ผู้คนหยิบจับเอามาใช้ต่างที่คั่นหนังสือ 

    เราอ่านแล้วก็ได้แต่อมยิ้มในสิ่งของที่คนเอามาใช้คั่นหนังสือกัน มีตั้งแต่กระดาษห่อหมากฝรั่ง ยันแว่นตา
    เรายังไม่ทันจะอ่านจบดี ก็มีเหตุให้เราต้องวางไป เลยคว้าเอาใบเสร็จใกล้มือมาคั่นเอาไว้ก่อน :)

    สรุป
    เราว่าหนังสือไซส์กะทัดรัดเล่มนี้น่าจะถูกใจคนที่ชอบอ่านหนังสือและเข้าร้านหนังสือนะคะ อ่านเพลิน   ได้เกร็ดความรู้ประวัติศาสตร์ด้วย พร้อมทั้งยังได้มุมมองใหม่ๆกับชีวิตว่า ทุกสิ่งทุกอย่างไม่จีรังยั่งยืน อย่างหนังสือและร้านหนังสือที่เห็นกันเต็มไปหมดเนี่ย มันอาจจะหายไปเมื่อไหร่ก็ไม่มีใครรู้ ถ้าคนเรายังอ่านหนังสือน้อยลงและเลือกที่จะพึ่งพาสื่ออิเล็คทรอนิกขึ้น เพราะเดี๋ยวนี้ร้านหนังสือเล็กๆหลายร้านที่มีเอกลักษณ์ของตัวเอง น่าไปเยือน ก็พากันปิดตัวลงก่อนจะได้ไปเยือนซะแล้ว เศร้า ;___;


    ตอนท้ายนี้ ขอยกส่วนนึงของบทความของคุณบลูเบอรี่พาย เกี่ยวกับหนังสือและร้านหนังสือมาให้อ่านกัน
                          "มนุษย์อ่านหนังสือมานับพันๆ ปี และร้านหนังสือก็จะอยู่คู่โลกไปอีกแสนนาน                      ตราบที่ยังมีคนเขียนหนังสือขาย และมีคนซื้อหนังสืออ่าน" 


    รีวิวหนังสือเล่มแรกของเราจบไปแล้ว ยังไงใครอยากพูดคุยเรื่องหนังสือ 
    แวะเข้ามาที่แอคทวิตเตอร์เรา @fray_04 ได้นะคะ
    ปล.รูปปกเป็นร้าน Shakespeare and Company ที่ปารีสค่ะ 






Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in