อย่างที่เคยบอกไว้นะคะ "ยิ่งรู้จักคนมากเท่าไหร่ ยิ่งมีโอกาสเลือกคนที่ใช่มากขึ้นเท่านั้น"
เรื่องแบบนี้จริงๆไม่บอกก็น่าจะรู้กันอยู่แล้ว  จะย้ำทำไมหนักหนา น่ามคาน!!!!
ข่ะ....ปัญหามันไม่ได้อยู่ตรงที่ว่าไม่รู้ แต่เพราะมันรู้.....รู้แต่ไม่รู้จะทำยังไง? หือ?????????
อ่านแล้ว...หลายๆคนคงอยากจะซื้อคำว่า รู้ หรือ ไม่รู้ ของอิชั้นไปเผาพริกเผาเกลือสาปแช่งใช่มั้ยคะ??
แหะๆๆ....อย่าเพิ่งหัวร้อนไปค่ะ รอฟังคำอธิบายก่อน (กว่าจะเข้าสาระ ก็หมดไปหนึ่งย่อหน้าพอดี 555+)

สาวๆต่างก็รู้ดีใช่มั้ยคะว่า...ต้องรู้จักคนให้ๆมากเพื่อตามหาคนที่ใช่
แต่ปัญหามันติดอยู่ตรงที่ว่า...ก็วันๆไม่มีโอกาสได้เจอใครใหม่ และจะไปหาผู้ชายได้จากที่ไหน???
เอ๊ะ!!!หรือจะต้องเปลี่ยนงานทุกเดือน อันนี้ก็ดูจะแก้ปัญหาผิดจุดไปมากโขเลยทีเดียว..

งั้นเราลองมาแก้ปัญหาไปด้วยกัน..ทีละข้อๆนะคะ

คำถาม : เราจะเริ่มต้นหาชายในฝันจากตรงไหน?
คำตอบ : เริ่มจากตัวคุณเองก่อนค่ะ คุณต้องเปิดตัวเองให้มากขึ้น ออกไปทำความรู้จักกับคนใหม่ๆให้มากมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และที่สำคัญ คือ ห้ามจำกัดวงการรู้จักเฉพาะแค่ชายหนุ่ม!!! 
เพราะ ทุกคนที่คุณพบ พวกเขาอาจจะนำพาคุณไปรู้จักกับชายหนุ่มที่คุณกำลังค้นหาอยู่ ก็เป็นได้
เช่น เป็นเพื่อนของเพื่อน เป็นคนข้างบ้าน เป็นญาติห่างๆ เป็นลูกของลุงของเพื่อนของคนที่คุณรู้จัก ฯลฯ

คำถาม : แล้วชายที่ใช่เขาอยู่ที่ไหน?
คำตอบ : ทุกๆที่...ย้ำ!! มีหนุ่มที่ใช่อยู่ในทุกๆที่ เพราะเขาก็มีวิถีชีวิตเหมือนเราๆนี้แหละค่ะ ใช้ชีวิตปกติ ต้องทำงาน กินข้าว ซื้อของ ดังนั้น...ไม่จำเป็นต้องรอให้มีโอกาสสำคัญ งานปาร์ตี้ งานขึ้นบ้านใหม่ หรือโอกาสพิเศษใดๆในการตามหาเขา และที่สำคัญ การพยายามเรียนรู้กลเม็ดพิชิตใจชายด้วยวิธีต่างๆ รวมถึงการนั่งอ่านบทความนี้อยู่ ไม่ได้ช่วยให้คุณพบชายในฝันคนนั้นเลย ถ้าคุณไม่ออกไปตามหาเขาในโลกของความเป็นจริง  ถึงเวลา...ลงสนามได้แล้ว!!!

คำถาม : ช่วยพูดอะไรที่มันดูจับต้องได้มากกว่านี้ แบบที่สามารถเอาไปปฏิบัติตามเลยได้มั้ย??
คำตอบ : โอเคค่ะ แค่จำเอาไว้ว่า...ต่อจากนี้ คุณต้องรู้จักเป็นคนของสังคม!!!
เคยสังเกตมั้ยคะ? เพื่อนของเราบางคนทำไมมันถึงรู้จักกับคนอื่นไปทั่ว เดินไปไหนก็เจอแต่คนรู้จัก
ไปทานข้าวตลาดข้างๆออฟฟิศ กว่าจะเดินถึงโต๊ะ แวะทักแวะทายคนอื่น จนเราที่นั่งรออยู่กินจะหมดแล้ว
คนแบบนี้แหละค่ะ...ที่เราต้องเป็นให้ได้ 

คำถาม : แล้วจะเป็นคนของสังคมได้ยังไง?
คำตอบ : ง่ายๆเลย ตอบรับคำชวนของทุกงานที่ได้รับเชิญ  แม้ว่าจะต้องไปเพียงลำพัง
แต่อย่ากังวลไปค่ะ..คุณจะต้องรอด!

คำถาม : จะเอาตัวรอดในงานสังสรรค์ได้ยังไง?
คำตอบ : ไม่ใช่แค่เอาตัวรอด แต่คุณต้องหาผลประโยชน์จากการไปร่วมงานนั้นๆด้วย  คือ ต้องได้รู้จักคนใหม่ๆเพิ่มเติมให้ได้ และข้อความต่อไป คือ ข้อปฏิบัติที่จะช่วยให้ภารกิจของคุณสำเร็จ..

เทคนิค Work a Room หรือการเป็นจุดสนใจของงานนั้นๆ
((วิธีการ คือ เมื่อคุณไปถึงบริเวณงานแล้ว ให้คุณหยุดยืนในจุดทางเข้าก่อน แล้วมองดูรอบๆทั้งบริเวณและผู้คน ไม่ต้องเขินอายสายตาของคนอื่นที่มองคุณนะคะ ตอนนั้น..คุณคือเมรีญา มั่นหน้ามั่นโหนกไว้
ระหว่างที่คุณมองไปรอบๆนั้น เมื่อเผอิญสบตากับใครสักคน โปรยยิ้มเล็กๆที่ดูเป็นกันเองให้กับพวกเขาเหล่านั้น แม้จะรู้จักหรือไม่ก็ตาม.......
เมื่อคุณเจอกลุ่มเพื่อนของคุณแล้ว อย่าเพิ่งตรงดิ่งไปในทันที ให้แวะทักทายผู้คนที่อยู่ระหว่างทางก่อน
อาจจะเป็นแค่รอยยิ้ม หรือคำทักทายสั้นๆ ถ้าระหว่างงานคุณมีโอกาสได้รู้จักกับคนใหม่ๆ ลองชวนคุยเกี่ยวกับงานนั้นๆ หรือ ซักถามว่าเขารู้จักกับเจ้าของงานนี้ได้อย่างไร)) 

จำเอาไว้ว่า..พูดคุยเพียงสั้นๆ แต่ให้ได้เยอะๆคน อย่าลืมที่จะถามชื่อของพวกเขา
ก่อนจะปลีกตัวออกมา...ลองทวนชื่อของพวกเขาอีกครั้ง และก็ขอให้เขาสนุกกับงาน เท่านี้เป็นอันว่าผ่าน!

สวมจิตวิญญาณของเจ้าของสถานที่ คือ ให้คุณยิ้มแย้ม แจ่มใส และทักทายกับผู้คนที่รู้จักหรือไม่รู้จักด้วยความรู้สึกว่า คุณเป็นเจ้าของงานหรือเจ้าของสถานที่ ที่อยากให้ผู้มาร่วมงานมีความสุขที่สุด

ดูแลทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ไม่เลือกปฏิบัติ แสดงความสนใจคู่สนทนาของคุณอย่างเท่าเทียมกัน

และก็อย่าลืมว่า...ทุกคนสามารถเป็นทางผ่านนำพาคุณไปสู่คนที่เป็นคำตอบของหัวใจได้
ดังนั้น ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้รู้สึกสนอกสนใจในตัวคู่สนทนาคนนั้นๆ แต่อย่าเพิ่งบอกปัดมิตรภาพใหม่ๆทิ้ง คุณอาจจะได้ขอความช่วยเหลือเขาในอนาคตก็ได้ แต่ควรระวังให้การพูดคุยเป็นไปในทำนองเพื่อน หรือคนรูจักเท่านั้น...


คำถาม : แล้วนอกจากไปงานสังสรรค์แล้ว เราจะพบคนใหม่ๆได้อย่างไร?
คำตอบ : ลองสมัครเป็นสมาชิกศูนย์ออกกำลังกายที่ทำให้มีโอกาสได้รู้จักกับหนุ่มๆรักสุขภาพมากขึ้น หรือถ้าเป็นสมาชิกอยู่แล้ว ก็เพิ่มโอกาสด้วยการลงชื่อในคอร์สที่หนุ่มๆให้ความสนใจ เช่น การต่อยมวย คลาสศิลปะการป้องกันตัว หรือจากที่เคยทำกิจกรรมเพียงลำพัง ฟังเพลงวิ่งลู่ไม่สนใจผู้สนใจคน ก็ลองทำกิจกรรมที่ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นบ้าง ซึ่งมันก็แทบไม่ได้เปลี่ยนกิจวัตรประจำวันใดๆของคุณเลย

ลองไปทำกิจกรรมใหม่ ที่คุณอยากจะทำแต่ไม่กล้า เช่น สมัครเข้าชมรมปั่นจักรยานเสือภูเขา 
สมัครคอร์สชงเครื่องดื่มค็อกเทล  หรืออะไรต่างๆที่อยู่ในความสนใจ และไม่ต้องอ้างว่าไม่มีเพื่อนไปด้วย นี่ถือเป็นโอกาสดีที่คุณจะได้ทำความรู้จักกับคนใหม่ๆอย่างแน่นอน

อย่างที่บอกนะคะ..คนที่ใช่มีอยู่ทุกที่ แต่ทุกความสัมพันธ์เริ่มต้นจากการพูดคุย
ถ้าคุณไม่เริ่ม คุณก็จะไม่มีวันได้
ลองเปิดบทสนากับผู้อื่นก่อนบ้างซิคะ?? และก็พยายามคุยให้ได้กับทุกๆคน???
ครั้งแรกๆ ทุกคนอาจจะรู้สึกยากและทำได้ไม่ดี แต่เรื่องแบบนี้มันฝึกฝนกันได้ ครั้งถัดๆไปจะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน และเมื่อเราเจอคนที่ใช่ตอนนั้นก็คงจะเก่งขึ้นบ้างแล้วหละ...
หรือลองสวมบทบาทเป็นนักท่องเที่ยว คือ เริ่มต้นพูดคุยด้วยการซักถามข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่หรือ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนั้นๆ ด้วยความรู้สึกว่าคุณไม่รู้ ไม่คุ้นเคย
คุณคือนักท่องเที่ยวที่หลงมาในสถานที่นี้ครั้งแรก!!! เห็นอะไรก็ตื่นตาตื่นใจไปหมด คุณจึงซักถามผู้อื่นเพียงเพราะรู้สึกสนใจใคร่รู้ในคำตอบ มากกว่าที่จะต้องการสร้างความประทับใจ.....


คำถาม : แล้วต้องทำแบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่?
คำตอบ : เรื่องแบบนี้คงตอบให้แน่ชัดไม่ได้ แต่การได้ทำอะไรบ้างก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย ใช่มั้ยคะ?

แล้วต้องลงทุนขนาดไหน ไม่อยากเสียเวลากับเรื่องไร้สาระ เนื้อคู่ถ้ามันจะมาเดี๋ยวมันก็มาเอง???
คิดอย่างนั้นจริงๆหรอคะ... เราลองมามองมุมกลับจากปลายทางมาที่ต้นทางกันดูดีมั้ยคะ
........ลองคิดดูนะคะ ถ้าสมมุติว่าตอนนี้คุณกำลังคบหากับใครสักคนอยู่ และเขาก็เป็นชายหนุ่มในแบบที่คุณต้องการทุกอย่าง ไม่ว่าจะรูปร่าง หน้าตา ฐานะ อุปนิสัย ทัศนคติ ความคิด กริยาท่าทาง รวมไปถึงอาชีพการงาน ทั้งคุณและเขาต่างก็เข้ากันได้ดี มีความสัมพันธ์ที่ยอดเยี่ยม มีช่วงเวลาที่แสนวิเศษด้วยกัน

คุณอยากใช้เวลาร่วมกันกับเขา หรืออยากจะใช้เวลาอยู่ที่ทำงานมากกว่ากันคะ??
ถ้าเป็นอิชั้น อิชั้นตอบอย่างไม่ลังเลเลยว่า..ห่อใส่กระเป๋าได้ ก็คงจะพกเขาไปด้วยทุกที่นั้นแหละค่ะ!!!
และในเมื่อคุณอยากจะมีช่วงเวลาที่ยืนยาวในความสัมพันธ์กับหนุ่มในฝัน ทำไมคุณถึงไม่ให้ความสำคัญกับการเริ่มต้นตามหาเขาคนนั้นหละคะ ต่อให้ต้องใชเวลานานแค่ไหน แต่ถ้าเราเจอคำตอบที่ถูกต้อง
อิชั้นว่ามันก็น่าจะเสี่ยงดูนะคะ...


Bonus Tips...
     - เมื่อเจอหนุ่มหล่อกำลังอ่านหนังสือ ลองทักเขาด้วย "เล่มนี้น่าสนใจดีนะคะ"
     - เมื่อเจอหนุ่มหล่อในร้านกาแฟ แล้วเผอิญคุณหันไปสบตา ขณะเขากำลัง "หาว"
หาวทั้งๆที่อยู่ในร้านกาแฟ ลองทักเขาด้วย "เป็นวันยุ่งๆนะคะ?"  ไม่แน่คุณอาจจะมีเพื่อนใหม่เพิ่มขึ้น?
     - เมื่อเจอหนุ่มหล่อในผับคืนวันสุดสัปดาห์ที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คน แต่เผอิญมีหนุ่มหล่อยืนอยู่ข้างๆคุณ ลองทักเขาด้วย " คนเยอะนะคะ" "น่าอึดอัด" พูดจบให้คุณมองไปรอบๆแล้วก็ต่อมุกด้วยท่าทางที่เพิ่งคิดขึ้นได้ว่า...."อ๋อออ คุณก็เป็นหนึ่งในนั้น" (ใช้น้ำเสียงหยอกล้อนะคะ แล้วก็ใช้มือผลักเขาขยับออกไปเล็กน้อย) ไม่แน่ว่าคนนั้นคุณอาจจะไม่ต้องยืนอึดอัดอยู่คนเดียวก็เป็นได้!!!

Credit: Get the guy/Matthew Hussey                                                                                               

Cover Pic: www.rainforestislandsferry.com