เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
#รีวิวบายลูซินลูซิน
[นิยายวาย m/m Romance] ชุด Whyborne & Griffin
  • *ยกมาจากทวิตเตอร์บน @lucindah17 แก้ไขเพิ่มเติมเพื่อความเป็นระเบียบ


    ทำความเข้าใจหมวดนิยายวาย m/m Romance ก่อนนิดนึงนะคะว่าเราใช้คำนี้ในฐานะที่เป็นนิยายภาษาอังกฤษเช่นกัน 

    (ขอโทษที่ซ้ำคำว่า วาย กับ m/m romance ค่ะ ._. แต่เราไม่รู้จะจัดหมวดหมู่ยังไง คือถ้าจั่วว่าวายคนอาจจะคุ้นกว่า แต่มันก็ไม่ใช่วายแบบวายจีน วายญี่ปุ่นน่ะค่ะ)

    **หมายเหตุแรงๆ ที่ต้องบอกว่า m/m Romance ก็เพราะแนวนี้ ร้อยละเกือบร้อย มีฉากสลับโพค่ะ
    ***ตัวเอกทั้งคู่มีความรัก+คนรักมาก่อน แต่เล่มถัดๆ มาเขาได้แต่งงานกันนะคะ! โฮรร


    ชุด Whyborne & Griffin (11 เล่ม มีเล่มย่อยแบบ .5 อีก...8 เล่ม...)
    ผู้เขียน: Jordan L. Hawk 
    แนว: รักโรแมนติก/ย้อนยุค/แฟนตาซี/เหนือธรรมชาติ/ไสยศาสตร์/สืบสวน /สยองนิดๆ

    รีวิวจากเวอร์ชั่น kindle **ยังไม่มีแปลไทย**

    เรื่องนี้ให้อารมณ์แบบยุคเชอร์ล็อคโฮล์มส์หรือใหม่กว่านั้นหน่อย แนวสืบสวน มีคนตาย แฟนตาซีเหนือธรรมชาติ (supernatural) มีผี องค์กรไสยศาสตร์ (55 อ่านไม่ผิดค่ะ) ตัวเอกใช้เวทมนตร์ได้ เต็มไปด้วยสารพัดสิ่งเหนือโลก และ...

    ย้ำอีกทีค่ะว่า 11 เล่ม!! (ไม่นับเล่มย่อย) ฮาาา *เราอ่านไปถึงประมาณเล่มที่ 8 พาร์ทย่อยอ่านบ้างไม่อ่านบ้าง



    ภาพด้านบนนี้คือปกเล่ม 1 คนบนภาพก็คือตัวเอกของเรื่อง ไวบอร์น พ่อหนุ่มนักการศึกษา ลูกชายตระกูลใหญ่ อาจารย์ด้านโบราณคดีและภาษาศาสตร์ โดยเฉพาะภาษาที่ตายแล้วและอียิปต์วิทยา อาชีพหลักของเขาจึงอยู่ในพิพิธภัณฑ์เลดี้สมิธ และเพราะอยู่ในที่เก่าแก่อย่างพิพิธภัณฑ์ ไวบอร์นก็เลยมีโอกาสพบของ/คนแปลกๆ (และน่าสงสัย55) ไปจนถึงแบบไม่ใช่คน

    (เราอ่านนานมากแล้ว นานแบบ 3-4 ปีก่อน ดังนั้นขออภัยล่วงหน้าถ้าจำตรงไหนผิดไปนะคะ)

    ด้วยความที่ฉากของเรื่องปูมาเป็นอเมริกันยุควิกตอเรียน ยังนั่งรถม้า ถือไม้เท้า เรื่องรักร่วมเพศจึงเป็นเรื่องที่ต้องปิดบังไว้ จุดเริ่มต้นของเรื่องจึงเป็นการตายของเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนรักลับๆ ของไวบอร์น และเพราะการตายนี้เอง เขาก็เลยได้เจอตัวเอกอีกคน

    กริฟฟิน ฟลาเฮอร์ตี้ หนุ่มเชื้อสายไอริช อดีตนายตำรวจที่ปัจจุบันทำหน้าที่นักสืบอิสระ เข้ามาพัวพันกับไวบอร์นเพราะคัมภีร์โบราณปริศนาเล่มหนึ่ง กริฟฟินมาที่พิพิธภัณฑ์ มาหาผู้เชี่ยวชาญด้านอียิปต์โบราณเพื่อถอดรหัสคัมภีร์นั้น เพราะนั่นเป็นของชิ้นสุดท้ายที่อดีตคู่หูตำรวจ (และคนรักลับๆ...เช่นกัน) ของเขาทิ้งเอาไว้ 

    ตอนแรกไวบอร์นก็ไม่อยากยุ่งกับตาไอริชนี่หรอก แต่ไปๆ มาๆ ก็มีอะไรสักอย่างดึงดูดเข้าหา ระหว่างสืบไปก็ค่อยๆใกล้ชิดกันไป และพบว่าเบื้องหลังการตายแปลกๆ เหล่านี้มีกลุ่มหมอผีที่ใช้มนตร์ดำชั่วร้ายมาเกี่ยวข้อง 

    ตอนแรกไวบอร์นก็ไม่อยากเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติ (เกินไป) พวกนี้ ถึงจะทำงานสายโบราณคดี อยู่ในพิพิธภัณฑ์ และคลุกคลีกับเอกสารโบราณ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเชื่อเรื่องเวทมนตร์หรือไสยศาสตร์อะไร จนกระทั่ง...พบว่าตัวเองใช้เวทมนตร์ในหนังสือโบราณได้ (ประเภทเสกไฟ ร่ายคาถาเลย)

    เล่มเปิดของซีรีส์นี้จึงมีทั้งเรื่องความลี้ลับ การถอดรหัสคัมภีร์โบราณ และยังมีประเด็นความซับซ้อนของตัวละคร ฉะนั้นในส่วนเลิฟไลน์ ตัวเอกทั้งสองก็ต้องต่อสู้กับการยอมรับความรู้สึกของตัวเอง เริ่มต้นทำความรู้จักกันไปพร้อมๆ กับการไขปริศนากลุ่มภาคีหมอผี และไขคดีเพื่อนที่ตาย โดยส่วนตัวเราเลยค่อนข้างชอบซีรีส์ชุดนี้ แม้บางเล่มจะรู้สึกดรอปๆ (น่าจะเล่ม 2, 6) แต่ภาพรวมทั้งซีรีส์ สำหรับเราแต่ละเล่มสนุกเป็นส่วนใหญ่ ก็เลยติดตามเรื่อยมา

    ไปดูนิสัยตัวเอกทั้งสองกันค่ะ (เพราะเป็น m/m Romance ตะวันตกสลับโพเป็นเรื่องปกติ ดังนั้นจะเรียกเคะ/เมะก็ไม่เต็มปากนัก แต่ถ้าจะจิ้น เราก็จิ้นไวบอร์นเคะค่ะ55)


    เพอร์ซิวาล เอนดิคอตต์ ไวบอร์น 

    มนุษย์ introvert ขี้อาย เก็บตัว ไม่ค่อยเข้าสังคม สรุปง่ายๆ คือลุคแบบคนหมกตัวอยู่ในพิพิธภัณฑ์ แต่ก็มีความคุณชายหน่อยๆ เพราะพื้นฐานครอบครัวเป็นนักธุรกิจใหญ่ (ถ้าจำไม่ผิด ขุ่นพ่อเป็นเจ้าพ่อทางรถไฟหรือไม่ก็นักอุตสาหกรรมเนี่ยแหละ ยุคหนึ่งในอเมริกาคนพวกนี้คือกลุ่มที่ร่ำรวยที่สุด เหมือนพวกกลุ่มค้าเหล็กคาร์เนกี เจ้าพ่อน้ำมันร็อกกี้เฟลเลอร์) 

    แต่ไวบอร์นไม่ชอบเรื่องธุรกิจอะไรเลย แทนที่จะสืบทอดกิจการ กลับไปเรียนสูงๆ ในสาขาประหลาดๆ (ในความเห็นพ่อ) แล้วไปหมกตัวอยู่ในพิพิธภัณฑ์ กับหนังสือเก่าๆ ตรงนี้ก็เลยเกิดปมขัดแย้งในครอบครัวขึ้นมา บวกกับคาแร็กเตอร์ส่วนตัวเป็นแบบนั้น พอชอบคนเพศเดียวกันด้วย ความกดดันหลายๆ อย่างก็เลยทำให้ไวบอร์นดูมีภาพของคนตัวสูง (ตามที่บรรยาย ไวบอร์นสูงกว่ากริฟฟิน) ที่ชอบเดินก้มหน้าห่อไหล่ เป็นคน self-esteem ต่ำ ไม่มั่นใจในตัวเอง เกรงว่าคนจะรู้เรื่องความสัมพันธ์กับผู้ชาย

    จนกระทั่งค้นพบพลังวิเศษที่ไม่คิดว่าตัวเองจะมี แล้วใช้พลังนั้นช่วยคนได้จริงๆ ไวบอร์นก็จะหลุดออกมาจากเปลือกที่ซ่อนอยู่ข้างในทีละนิด และเพราะแต่ละเล่มเขาจะค่อยๆ พัฒนาตัวเอง สำหรับเราเลยเป็นตัวเอกที่ค่อนข้างเอาใจช่วย ทำนองว่า สู้ๆ เขานะ เดี๋ยวเธอก็จะทำได้ดีขึ้นกว่านี้เอง! 


    กริฟฟิน ฟลาเฮอร์ตี้

    เทียบกับไวบอร์นแล้ว กริฟฟินเป็นคนธรรมดาในหลายๆ ความหมาย ผู้ชายธรรมดา จากครอบครัวธรรมดาค่อนไปทางจน (โดยพื้นฐานชาวไอริชในอเมริกา ถ้าเป็นคนทั่วไปจะไม่ค่อยรวยกันอยู่แล้ว) ตัวเขาเป็นเด็กกำพร้า และมีพี่ชายคนนึง (ไม่แน่ใจว่าพี่บุญธรรมไหม ถ้าจำไม่ผิด กว่าจะได้โผล่จริงๆ ก็เล่ม 6 โน่น) ชีวิตปกติสุข ทำงานเป็นตำรวจ จนกระทั่งคู่หู (และคนรักลับๆ) ตาย

    การเสียชีวิตของคู่หู (เกลนน์) กลายเป็นบาดแผลฝังใจของกริฟฟิน ดูจากภายนอก เขาเป็นผู้ชายคูลๆ ที่ดูมั่นใจในตัวเอง (เวลามองผ่านแว่นของไวบอร์นที่ขี้อายและเก็บตัว) แต่การตายของเกลนน์ทำให้เขาออกจากงาน แล้วยังเคว้งคว้างไปพักใหญ่ กริฟฟินจึงค่อนข้างฝังใจกับเรื่องที่คนรักอาจเป็นอะไรไป ทำให้เห็นว่าในเปลือกที่ดูมั่นใจ ที่จริงเขาก็มีรอยเว้าแหว่งอยู่เหมือนกัน

    ทั้งไวบอร์นและเขาต่างสูญเสียคนที่ตนรักไป เมื่อมาเจอกันในจังหวะเวลาที่เหมาะสม แล้วผ่านอะไรๆ มาด้วยกัน ก็เลยอดเริ่มต้นสานสัมพันธ์กันไม่ได้ ซึ่งเราค่อนข้างชอบการปูความสัมพันธ์ในช่วงวิกฤต/ความยากลำบากแบบนี้ (และไม่มีดราม่าน้อยใจ ฉันมาทีหลัง เธอไม่ใช่คนแรกของฉันอะไรเลย เราเลยค่อนข้างสบายใจ55) 


    ความสัมพันธ์ของคู่เอกคร่าวๆ จะค่อนข้างราบรื่น อาจมีบ้างตรงที่ต้องปรับจูนกัน เช่นไวบอร์นอาจไม่ใช่คนพูดปัญหาของตัวเองให้ชัดๆ หรือกริฟฟินก็มีจุดเออเร่อของตัวเองที่พยายามทำเป็นเข้มแข็ง แต่พอลองหันหน้าคุยกัน (บางครั้งหันบนเตียง บางครั้งบนโซฟ---แค่ก) ก็เคลียร์กันได้ อารมณ์หนังจบเป็นภาคๆ ทุกภาคจบแฮปปี้เอนดิ้ง


    ห้าเล่มแรก โทนปกทำนองนี้หมดเลย (แต่หลังเล่ม 8 น่าจะเปลี่ยนคนทำปก)


    เรียงลำดับซีรีส์
    1. Widdershins
    2. Threshold
    8. 
    11. 

    ส่วนใหญ่เป็นชื่อสถานที่ เว้น 5,7 ชื่อแต่ละเล่มจะบอกว่าเรื่องเกิดที่ไหน เล่มแรกก็คือเมืองบ้านเกิดของไวบอร์น แต่ด้วยความที่มันหลายเล่ม (และเรายังอ่านไม่ครบ) ขอเล่าคร่าวๆ ละกันค่ะ

    เล่ม 1-3 จะฟีลเดียวกัน สืบสยอง มีเรื่องไสยศาสตร์ลี้ลับประปราย (ศพเดินได้!) ไวบอร์นจะค่อยๆ อัพเกรดเวทมนตร์คาถาของตัวเอง

    เล่ม 4 ดูจากชื่ออาจพอเดากันได้ เล่มนี้ย้ายไปอียิปต์ค่ะ! ซึ่งเป็นเล่มที่เราชอบมากกก (มีเรื่องของคู่รอง เพื่อนสนิทของไวบอร์นด้วย เป็นนอร์มอลชายหญิง และเราชอบตัวละครนี้มากๆ เลย)

    เล่ม 5 Bloodline เป็นเล่มแรกที่ไม่ได้ใช้สถานที่เป็นพ้อยท์ตั้งชื่อ แต่ประเด็นสำคัญก็คือเรื่องนี้ นั่นคือชาติกำเนิดของไวบอร์น และเขายังได้ค้นพบความลับสำคัญในครอบครัวด้วย นั่นคือ แม่ของเขายังไม่ตาย แต่เป็น...ถ้าจำไม่ผิดเป็นนางเงือกในทะเล แล้วเขายังมีน้องสาวที่อยู่ในอาณาจักรใต้น้ำด้วย ส่วนหนึ่งเพราะเขามีสายเลือดเหนือธรรมชาตินี้แหละ ก็เลยทำให้ตอบสนองกับคาถาต่างๆ ในคัมภีร์โบราณได้ดีมาก

    ภาคนี้ไวบอร์นและกริฟฟินได้แต่งงานกันค่ะ! โดยมีแหวนและคนในครอบครัว (แม่/น้องสาว) เป็นสักขีพยาน ส่วนพ่อที่คิดว่าเข้มงวดมาตลอดก็ทำหลับตาข้าง ถึงจะไม่ได้ยอมรับเอิกเกริกก็ไม่ได้ว่าอะไร จุดที่ดีคือ เรื่องนี้ไม่มีดราม่าโฮโมโฟเบีย ซึ่งน่าทึ่งสำหรับฉากยุควิกตอเรียนเหมือนกัน (แต่ก็ทำให้อ่านได้อย่างสบายใจ55)

    เล่ม 6-7 กลับไปผจญภัยกัน นอกจากอัพเกรดคาถาที่ไวบอร์นเทพขึ้นทุกเล่ม ยังได้เจอพี่ชายของกริฟฟินเป็น พลพรรคจากเล่มเก่าๆ และเรื่องที่เล่าขนานมาตลอดก็คือ ภาคีหมอผี ที่...เอิ่ม ยังไม่ยอมหายไปสักที

    (เราดูเนื้อหาย่อๆ ของเล่มหลังๆ ก็พบว่ายังคงวนเวียนกับภาคีหมอผีมนตร์ดำ55555)
    จุดที่เราค้างไว้คือตอนต้นๆ เล่มที่ 8 ซึ่งกริฟฟินจะย้อนกลับไปยัง Fallow เมืองบ้านเกิดของตัวเองที่เขาโตมา ที่นี่คือบ้านของพ่ออุปถัมภ์ แล้ว...ที่เหลือเราก็ไม่ทราบแล้วค่ะ ฮาาา ไว้อ่านต่อแล้วจะมาอัพเดททีหลังนะ


    สรุปประเด็นต่างๆ ในเรื่อง+สปอยล์

    1. ความสัมพันธ์ของคู่เอก ดังที่เล่าไปข้างบนค่ะ มีขลุกขลักตามปกติ แต่โดยรวมสวยงาม และเป็นวิกตอเรียนที่เรียก husband กันได้ ครอบครัวมายืนเรียงแถวปรบมือสนับสนุน (คำเปรียบเทียบ55) เป็นปลาบปลื้มค่ะ T^T คือระหว่างทางอาจมีคนที่รู้ความจริงอี๋ๆ คนชอบเพศเดียวกันบ้าง แต่คนเขียนไม่ได้มุ่งประเด็นนี้ สายสุขนิยมควรตำ

    2. เรื่องลี้ลับเหนือธรรมชาติ ถ้าใครชอบเรื่องมนตร์ดำคาถาที่อ่านแล้วไม่รู้สึกเด็กมาก เล่นของปลุกศพ(?) ผีดิบวิ่งไล่(??) ควรตำค่ะ ด้วยความไวบอร์นขลุกอยู่ในพิพิธภัณฑ์เป็นงานหลัก ของแปลกๆ ก็จะมีมาตลอด5555

    3. คาแร็กเตอร์ตัวละครทำออกมาได้ดีค่ะ ทั้งตัวเอกทั้งสอง และคนนี้เลย--เพื่อนสาวคนสนิทของไวบอร์น Dr.Christine Putnam ซึ่งคริสทีนเนี่ยออกมาตั้งแต่เล่มแรกๆ แล้ว แต่ด้านบนเรายังไม่ได้พูดถึงเธอ

    คาร์ของสาวคริสทีนผู้ทำงานในพิพิธภัณฑ์เหมือนกันก็คือสาวโบราณคดีสายลุย เป็นทั้งเพื่อนที่ดี และคนคอยช่วยเหลือไวบอร์นเรื่องต่างๆ กระทั่งรู้เรื่องกริฟฟิน เธอก็ไม่หือไม่อือและอยู่ข้างเพื่อนเต็มที่ แล้วยังเป็นคนเก่ง ฉลาด ห้าว เรียกง่ายๆ ว่าเป็นหญิงสาวที่ควรมีไว้ในตี้ตะลุยดันเจี้ยนค่ะ555 เธอมีบทบาทมากในเล่ม 4 Necropolis ที่กลุ่มตัวเอกรวมตี้ไปลุยอียิปต์กัน (เล่มที่เราชอบสุดที่ว่า) แล้วที่นี่ พวกเขาก็ได้พบเพื่อนร่วมตี้คนใหม่ ซึ่งอนาคตจะกลายมาเป็นคู่หมั้นของคริสทีน

    สำหรับเราเล่มนี้เลยเรียกว่ามีสีสันครบ แต่สาย m/m อาจไม่ชอบที่มีส่วนนี้แทรกเข้ามามั้ง บางคนก็เลยโหวตคะแนนเล่มนี้ค่อนข้างน้อย แล้วก็เป็นเล่มที่ฉีกจาก 3 เล่มก่อนหน้าค่อนข้างมาก

    นอกจากคริสทีน ตัวละครสมทบอย่างครอบครัวของไวบอร์นก็วางบทบาทได้โอเค มีเหตุมีผล เข้าใจที่ทุกคนเป็นแบบนั้น แล้วพอถึงเล่ม 5 (ดังที่สปอยล์ไปด้านบน) ปมครอบครัวของไวบอร์นก็ถือว่าคลายเกือบหมดแล้ว 

    4. ประเด็นสืบสวน ตรงนี้ถือว่ารองสุด รองกว่าเรื่องเวทมนตร์คาถาและแก๊งหมอผีอีก แต่ก็ช่วยให้เรื่องมีสีสันมากขึ้น หนังสือชุดนี้อาจมีเรื่องสืบสวนบ้าง แต่ไม่ใช่แนวสืบสวนขนาดที่แวดล้อมด้วยคนตายทุกเล่ม ดังนั้นแนวเรื่องด้านบนเราเลยเทไปทางรักโรแมนติก/แฟนตาซี/เหนือธรรมชาติ มากกว่าสืบสวน แต่ถ้าจะหาแนวสืบสวน ในนี้ก็มีค่ะ


    ประเด็นใหญ่ๆ น่าจะมีเท่านี้ เท่าที่อ่านเรื่องย่อเล่มที่เหลือ ส่วนท้ายๆ (เล่มที่ 9-11) คาดว่าเป็นการรับมือกับภาคีหมอผีมนตร์ดำที่ว่าแล้ว หลังจากย่อยเรื่องทั้งหมดอีกรอบ เราเลยได้แรงบันดาลใจที่จะอ่านต่อขึ้นมา55 เสียดายที่ไม่มีฉบับภาษาไทย (และคิดว่าน่าจะยากที่จะมีใครทำ...) แต่หาซื้อ e-book ในอเมซอนหรือช่องทางต่างๆ ได้นะคะ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in