เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
กีฬาสีสอนให้ฉันรู้ว่า...?sikarin
ความรอบคอบและความเชื่อใจ
  • เงินกองกลางหาย 215 บาท
    เท่ากับความรู้สึกของเพื่อน ที่ห่างออกไป 215 กิโลเมตร



              บัญชี หน้าที่ที่ต้องมาพร้อมกับความรอบคอบ

              การเก็บเงินกีฬาสี คือ สิ่งที่ทุก ๆ คนต้องพบเจอกันมาบ้าง ถ้าโรงเรียนไหนใจดีหน่อยก็จะทำให้เรามีเงินเหลือเพียงพอที่จะใช้ในการทำกีฬาสี ทำให้เราไม่ต้องเก็บเงินจากเพื่อน ๆ ในสีเพิ่ม แต่ถ้าโรงเรียนไหนใจร้ายหน่อย ให้เงินมาไม่มาก เราก็ต้องเก็บเงินเพิ่มกันเอง ซึ่งโรงเรียนของเราก็เป็นอย่างหลังนั่นแหละนะ

              เรื่องของเรื่องก็มีอยู่ว่า ในการทำกีฬาสี ก็จะรวมเอาเพื่อน ๆ หลาย ๆ ห้องเข้ามารวมกัน จนเกิดเป็นหนึ่งสี สีที่เราอยู่ก็คือสีเขียว (อันนี้ไม่จำเป็นต้องบอกหรอก แค่อยากพิมพ์เฉย ๆ ) ด้วยเหตุผลที่ว่ามีเพื่อนหลาย ๆ ห้องมารวมกัน ก็เลยทำให้เวลาเก็บเงินจะค่อนข้างลำบาก ถ้ามีบัญชีกลางอยู่แค่คนเดียว เพราะกว่าจะเก็บห้องนี้ครบ ก็ต้องไปเก็บห้องนู้นต่อ มันยุ่งยาก ก็เลยทำให้สีเราตัดสินใจว่า โอเค ในเมื่อมีกันอยู่สองห้อง ก็ตั้งบัญชีของแต่ละห้องไปเลย หลังจากนั้นค่อยเอาเงินมารวมกันแล้วไปเปิดบัญชีที่มีชื่อสองคน ทุกคนในสีก็ตกลงโอเค say yes กันไป สรุปก็คือตามนั้น

              หลังจากที่เริ่มเก็บเงินมาสักระยะหนึ่ง เราก็เลยตัดสินใจที่จะนำเงินส่วนที่เก็บส่วนแรกไปฝาก ฝากตอนแรกก็ราบรื่น ไม่มีปัญหา แต่พอฝากครั้งที่สอง ก็ยังไม่มีปัญหาอะไร ทีนี้พอถึงเวลาที่จะเบิกเงินไปใช้ ตอนนี้แหละที่ทำให้ปัญหาเกิดขึ้น และเป็นตัวจุดชนวนความแตกแยกขั้นที่หนึ่งชั้นดีเยี่ยม

              เพราะเงินกองกลางหายไป 215 บาท

              แน่นอนว่าเราที่เป็นประธานสีเป็นคนเอะใจคนแรว่าเงินกองกลางที่รวมกันหายไปไหน 215 บาท วันนั้นทั้งคืนที่คุยกันเรื่องเงินสีเราก็เลยนั่งบวกลบและทำบัญชีเอง

              ไม่ใช่ไม่เชื่อใจเพื่อน เพียงแต่สงสัยว่ามันหายไปไหน 215 บาท ?

              สุดท้ายเพราะเงิน 215 บาทที่หายไปนี่แหละ ทำให้บัญชีห้องเรากับเพื่อนบัญชีอีกอีกห้องทะเลาะกันจะเป็นจะตาย เพราะความไม่รอบคอบตั้งแต่แรก ตั้งแต่ตอนที่เก็บเงินเพื่อนแล้วไม่เช็คดี ๆ ว่าคนนี้จ่ายจริงหรือเปล่า คนนี้ยังไม่จ่ายแต่ติ๊กทำเครื่องหมายว่าจ่ายแล้ว หรือว่าติ๊กเครื่องหมายให้คนที่จ่ายแล้วแต่ยังจ่ายไม่ครบเกินหรือเปล่า

              แต่ก็นั่นแหละ ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นแล้วเราก็ย้อนกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว สุดท้ายก็ทำได้แค่ยอมรับมันแล้วชดใช้ให้มันจบ ๆ ไป เพราะรู้อยู่เต็มอกว่าที่ิพลาด มันน่าจะเป็นห้องของตัวเอง สุดท้ายบัญชีห้องเราเลยยอมควักเงินส่วนตัวจ่ายเพิ่มเพราะไม่อยากให้เป็นเรื่อง

              แต่ถึงจะควักเงินจ่ายเพิ่มไปแล้ว 215 บาท แต่ความรู้สึกที่ห่างออกไปเนี่ยสิ
              ไม่ได้รู้สึกว่ามันกลับมาเป็นเหมือนเดิมเลยสักนิด
              ... แค่สักนิดก็ไม่เหมือนเดิม

              บทเรียนราคาแพงจากครั้งนี้สอนให้เรารู้ว่า : เราต้องเป็นคนที่รอบคอบให้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เพราะหลังจากที่มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง พูดจาว่าร้ายกันด้วยคำพูดที่มีแต่ทำลายความรู้สึก สุดท้ายสิ่งที่ถูกพูดออกไปจากปากมันก็เอากลับคืนมาไม่ได้แล้ว 

              ไม่ได้อยากจะยึดติดกับอดีตที่เกิดขึ้น แต่พอกลับมาคิดอีกรอบก็รู้สึกว่าพวกเราเก่งกันมาก ๆ ที่ผ่านมันมาได้ พวกเราสามารถทำงานร่วมกันได้ทั้ง ๆ ที่เสียความรู้สึกและความเชื่อใจต่อกันไปตั้งแต่เริ่ม

              พวกเราเก่งกันมากจริง ๆ ที่อดทนมาจนจบงาน
              ...
              ถ้าถามว่าความรู้สึกมันเสียไปตอนไหน
              ก็คงตอบได้ว่าเสียไปพร้อม ๆ กับเงินที่หายนั่นแหละ
              ถึงจะมีเงินจำนวนเดิมมาชดใช้ แต่พวกเราก็รู้อยู่แก่ใจ

              "ว่ามันก็ไม่เหมือนเดิม" 
              ขอบคุณที่ยอมอดทนมาตลอดนะ ทุกคนเลย :)

              
              

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in