เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ไดอารี่ความคิดihtayaf
21.3.17 สิ่งที่ฉันได้เรียนรู้จากการทำงาน9เดือน
  •      ชีวิตคือการเรียนรู้  ยิ่งโตมากเท่าไหร่เราจะยิ่งรู้ว่า  มีเรื่องราวมากมายที่เราต้องรู้ได้ด้วยตัวเอง  ไม่มีสถานศึกษาแห่งใดหรอกที่สามารถสอนสิ่งเหล่านี้ได้ทั้งหมด

         ประสบการณ์จะเป็นผู้บอกคุณเอง  ว่าอะไรเป็นอะไร  เช่นเดียวกับสิ่งที่ฉันได้เรียนรู้จากการทำงานเป็นเวลาเกือบปีที่ผ่านมา 

         ...ดังต่อไปนี้



         1.  อย่าคิดเถียงกับบุคคลที่อยู่เหนือคุณ 

         กับรุ่นพี่  เจ้านาย  หัวหน้า  หรือผู้บังคับบัญชาใดๆ  คุณไม่มีวันเถียงชนะหรอก  เพราะเขามีประสบการณ์มากกว่าคุณ  เขาย่อมรู้ว่าอะไรเป็นอะไร  และอาจไม่ฟังคุณง่ายๆ
         และ  ถึงจะเถียงชนะไป  คุณอาจพบว่าตัวเองแพ้ในการทำงาน  ค่าที่ได้สร้างศัตรูเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน  ส่วนจะให้คุณให้โทษได้เพียงใด  ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของเขาเป็นสำคัญ

         แนวทางที่แท้จริงคือ  ทำอย่างไรก็ได้ให้เขายอมรับในตัวคุณ  อย่างดีที่สุดที่ทำได้คือ  ทำให้เขารู้สึกดีกับคุณ และ/หรือ ยอมรับในความเห็นของคุณ
         ส่วน..อย่างน้อยที่สุด  คือการทำให้เขาไม่หาเรื่องรังแกคุณในที่ทำงาน  ซึ่งทำให้คุณสามารถทำงานไปได้เรื่อยๆโดยปกติสุข

         ส่วนวิธีการจะเป็นอย่างไรนั้น  อันนี้ก็สุดแท้แต่แนวของแต่ละคน  และคู่กรณีเป็นสำคัญ



         2.  ปรารถนาสารพัดในปฐพี  เอาไมตรีแลกได้ดั่งใจจง

         ไม่ได้บอกว่า  การที่เราดีกับใคร  แล้วทุกคนต้องชอบเรา  แต่ที่แน่ๆคือ  หากอีกฝ่ายมีความเป็นคนปกติมากพอ

         ไม่มีใครร้ายใส่คนที่มาดีกับตัวเองหรอก

         นี่คือสิ่งที่ฉันคิดไว้เสมอ  ดังนั้น  เวลาจะติดต่องานใดๆ  ฉันจะเข้าหาอย่างสุภาพไว้ก่อนเป็นลำดับแรก  อย่างน้อยก็เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีในการสนทนา  และยังอาจทำให้ได้เพื่อนเพิ่มจากการทำงานอีกด้วย


         นอกจากนี้  หากเห็นว่าอีกฝ่ายหนึ่งอาวุโสมากกว่า  และไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าเราแก่กว่า  

         "ไหว้ซะ"

         สองมือไม่ต้องซื้อไม่ต้องหา  และยังสามารถทำให้เขาเอ็นดูได้  เมื่ออีกฝ่ายเอ็นดูเสียแล้ว  การติดต่อประสานงานก็จะไม่พบอุปสรรคมากเกินกว่าที่ควรจะเป็น



         3.  เราไม่สามารถทำให้ทุกคนชอบเราได้  เพราะเราเองยังไม่สามารถชอบทุกคนได้เลย

         ฉันว่ามันเป็นเรื่องปกติมากที่ในที่ทำงานนั้นจะมีคนที่ชอบเราและไม่ชอบเรา  และในทางกลับกัน  เราก็อาจมีคนที่เราไม่ถูกชะตา...ในทางส่วนตัว  ได้เช่นกัน

         แต่โลกของการทำงานไม่ใช่สนามเด็กเล่น  ที่ไม่ชอบใครก็จะร้องไห้กลับบ้านไม่ต้องไปเจอะไปเจอกันอีกได้  

         ยิ่งเป็นผู้ใหญ่  เราจะรู้ว่า  เราต้องอยู่ร่วมกันกับทั้งคนที่เรารู้สึกดีและไม่รู้สึกดี  และเราต้องเป็นผู้ใหญ่ให้ได้มากพอ  นั่นคือแม้เราจะไม่ชอบหน้าใคร  แต่เราก็ต้องร่วมงานกับเขาให้ได้  
         โตแล้ว  ไม่ใช่เด็กๆ  ทำตัวเป็นมืออาชีพหน่อย

         เรื่องส่วนตัวก็เรื่องส่วนตัว  เรื่องงานก็เรื่องงาน  เหนือหัวเขาจ้างเรามาทำงาน  ไม่ได้จ้างเรามารักเพื่อนร่วมงาน  เราจะรู้สึกอย่างไรก็ช่าง  แต่เราต้องทำให้งานเดินให้ได้

         นี่แหละ  สำคัญที่สุด



         4.  เราเลือกเพื่อนร่วมงานไม่ได้

         ตอนเรียน  แม้เราจะเถียงว่าเราจะไปรู้ได้อย่างไรว่าในห้องเราจะเจอใครบ้าง  แต่คงไม่ปฏิเสธว่า  การที่เราสนิทกับเพื่อนสักคน  หรือเพื่อนสักกลุ่ม  นั่นเพราะเรายินดีที่จะเดินเข้าไปในชีวิตเขาเอง

         เลือกเรียนด้วยกัน  ไปไหนมาไหนด้วยกัน  ไปเที่ยวกัน  กินข้าวร่วมกัน  และเราก็รักกัน  

         เราไม่ได้สนิทกับเพื่อนเรียนทุกคนหรอกใช่ไหม  เราสนิทเฉพาะคนที่เราอยากสนิทด้วยเท่านั้น


         แต่ในโลกแห่งการทำงานนั้นต่างไป  หลายครั้งเราเลือกไม่ได้ว่า  เมื่อทำงานที่นี้แล้ว  เราจะต้องเจอใครบ้าง  ทุกคนต่างจับพลัดจับผลูมาทำงานที่เดียวกัน  และมาสนิทกันเพราะความใกล้ชิดนี่เอง

         ตรงนี้เองที่ฉันรู้สึกได้ว่ามันเป็นความสนิทที่ไม่สนิทสักเท่าไหร่  แต่สนิทเพราะความจำเป็นเป็นหลัก  ดังนั้น  แต่ละคนย่อมมีความแตกต่างกันอยู่บ้างไม่มากก็น้อย  

         ด้วยเหตุนี้  ฉันจึงคิดว่า  เราไม่จำเป็นจะต้องตัวติดกันกับเพื่อนร่วมงาน  เหมือนกับที่เราชอบทำตัวติดกับเพื่อนสนิทตอนเรียน  เสมอไป  
         ใช่  มันโอเคที่จะไปไหนมาไหนด้วยกันบ้าง  ทั้งในเวลางานและเวลาพัก  แต่บางครั้ง  การแยกกันบ้างก็ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอะไร  ในเมื่อต่างคนต่างมีความต้องการที่ต่างกัน

         จะแยกกันไปหาความสุขบ้าง  จะเป็นไรไป  

         ส่วนเพื่อนร่วมงานจะกลายเป็นเพื่อนสนิทแบบเพื่อนสมัยเรียนได้ไหมนั้น   มันเป็นเรื่องของอนาคต

         และถึงแม้เราเลือกเพื่อนร่วมงานไม่ได้  สิ่งหนึ่งที่เราเลือกได้เสมอ  นั่นคือ  ความคิดของเราที่มีต่อเพื่อนร่วมงาน  และทางเลือกในการปฏิบัติตัวต่อเพื่อนร่วมงาน

         ถึงแม้ยังไม่สนิทกัน  แต่ก็ดีต่อกันได้  ไม่ใช่หรือ  

         การไม่มีเพื่อนสนิทไม่ร้ายเท่าการมีแต่ศัตรูหรอก  เชื่อสิ



         5.  การพิสูจน์ตัวเองด้วยฝีมือนั้นยากและยาวนานกว่าด้วยน้ำคำ  แต่ได้ผลดีกว่า

         การเอาแต่พูดหรือสร้างชื่อด้วยวาจานั้นง่าย  แต่การให้ข้อมูลที่ดูดีเกินไปมักเป็นดาบสองคม  โดยเฉพาะหากเราไม่ดีจริงตามคำโฆษณา  
         คราวนี้อาจจบไม่สวย

         การโฆษณานั้นสำคัญก็จริง  แต่ที่สำคัญยิ่งกว่า  คือการพิสูจน์ให้ได้ว่า  เราทำได้จริงๆอย่างที่ได้กล่าวไว้

         วิธีก็ไม่มีอะไรมาก  อดทนทำงานด้วยความตั้งใจไปเรื่อยๆ  ให้เขาเห็นว่าเราจริง  

         ให้การกระทำเป็นเครื่องพิสูจน์คุณค่าของเรา  มันอาจยาก  เห็นผลช้า  แต่เมื่อเราทำได้จริง  เราย่อมได้รับการยอมรับและเชื่อถือจากคนรอบข้างเอง

         ระยะทางพิสูจน์ม้า  กาลเวลาพิสูจน์คน



         6.  เงินเดือนกับเงินเก็บ  บางทีก็คนละเรื่อง

         เคยรู้สึกว่า  ถ้าได้งานที่เงินเดือนเยอะกว่านี้คงจะดี  คงจะมีเงินเก็บมากกว่านี้มาก  

         เมื่อเร็วๆนี้ได้มีโอกาสคุยกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง  เธอได้ทำงานที่มีเกียรติและเป็นที่ใฝ่ฝันของใครหลายๆคน
         แน่นอน  เงินเดือนดีด้วย  

         แต่ทั้งที่เงินเดือนเยอะกว่า  เธอกลับบอกว่าตัวเองแทบไม่เหลือเก็บเลยในแต่ละเดือน  เพราะต้องนำไปจ่ายค่ากิน  ค่าอยู่  และอื่นๆอีกจิปาถะ

         นั่นทำให้ฉันรู้สึกว่า  การได้เงินเดือนดีไม่ได้แปลว่าต้องเก็บเงินได้มากเสมอไป  และทำให้ฉันตระหนักว่า  ปริมาณเงินที่เข้าในแต่ละเดือนไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่ส่งผลต่อปริมาณเงินในกระเป๋า  ยังมีความจำเป็นอีกมากมายที่สามารถดูดทรัพย์เราไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  หากงานที่ได้ต้องอยู่ห่างบ้านช่องห้องหอ  นั่นหมายถึงรายจ่ายที่จำเป็นจะเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

         นอกจากเงินเดือนแล้ว  สถานที่ทำงานจึงเป็นปัจจัยที่สำคัญไม่แพ้กัน

         ต้องขอบคุณประสบการณ์จากคุณเพื่อนที่เปิดหูเปิดตาฉันว่า  งานที่เงินเดือนดี  บางทีก็ไม่ได้ดีเสมอไป

         และการได้เงินมากก็ไม่จำเป็นต้องเก็บเงินได้มากดังที่ใครๆเข้าใจ  ด้วยเช่นกัน


         โลกแห่งการทำงานนั้นยากและซับซ้อน  สาเหตุหนึ่งก็คือ  มันไม่เคยมีสอนในตำรา  ไม่เคยมีใครมาจ้ำจี้จ้ำไชบอกว่า  เราต้องเจออะไรบ้าง  ทุกคนต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง  เป็นภาคบังคับที่ต้องรู้ให้ได้  เพื่อการอยู่รอดอย่างมีความสุขในโลกกลมๆใบนี้  


         ขอให้มีความสุขกับการทำงาน
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in