เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ไดอารี่ความคิดihtayaf
29.3.17 เมื่อถูกถามว่า "ทำไงถึงเก่งภาษาอังกฤษ"
  •      For ones who ban games, you really think that you can remember some words such as frivolous, chivalry or reincarnate from academic areas? I don't think so.

         I absorb my vocabulary lists from my hobbies as much as from my classrooms.

         ประโยคข้างต้นเป็นสิ่งที่เรานึกขึ้นได้เมื่อคืน ขณะกำลังอ่านหนังสือเตรียมสอบสลับกับเล่นเกม  



         หลายครั้งที่เราจะได้ยินคำถามว่า  ถ้าอยากเก่งภาษาอังกฤษต้องทำยังไง  ต้องเรียนพิเศษที่ไหน  ต้องอ่านอะไรบ้าง  บลา บลา บลา  

         ตอบได้บ้าง  ไม่ได้บ้าง  


         สาเหตุที่ไม่สามารถตอบได้  นั่นเพราะรู้สึกว่าตัวเองนั้นไม่ได้เก่งกาจอะไรมากมาย  ถามว่าต้องทำยังไงถึงจะเก่งภาษาอังกฤษมากๆ  
         คำตอบคือ  ไม่ทราบค่ะ  ทุกวันนี้บางทีคนตอบก็ยังเขียนประโยคได้ไม่ค่อยตรงไวยากรณ์เล้ย


         แต่สิ่งที่แน่ใจเสมอนั่นคือ  "ภาษา"  นั้นเป็นทักษะอย่างหนึ่ง  ที่สามารถพัฒนาขึ้นได้จากการฝึกฝน  และการใช้บ่อยๆ
         ด้วยเหตุนี้จึงคิดว่า  คนเราสามารถเรียนรู้ภาษาได้มากเท่าที่ต้องการ  ตราบใดที่มีเวลาฝึกฝนมากพอ


         ว่ากันตามตรง  เราตอบไม่ได้หรอกว่าที่เรียนพิเศษที่ไหนบ้างที่เรียนแล้วจะเก่งภาษาขึ้นมาได้  แต่หากจะถามว่าตอนจะต้องใช้ภาษาแบบปัจจุบันทันด่วน  เช่นตอนเอนทรานซ์  หรือตอนเตรียมตัวไปเรียนเมืองนอกน่ะ  เรียนที่ไหน
         อันนี้ตอบได้  แนะนำได้เท่าที่เคยไปเรียนมา  ว่าที่ๆเคยไปลงเรียนนั้น  ดีหรือไม่ดีเพียงใด


         แต่ถ้าจะให้ตอบชัดๆเลยว่า  ต้องทำอย่างไรจึงจะเก่งภาษา  หากให้ตอบจริงๆแบบไม่กลัวโดนกระทืบ ก็จะแนะนำว่า

         "ทำยังไงก็ได้ให้ตัวเองจมอยู่กับภาษานั้นๆให้มากที่สุด  อย่างมีความสุข"



         สิ่งแรกเลยนะ  สิ่งแรก  ที่ต้องมี  คือพจนานุกรม  และ/หรือหนังสือสอนไวยากรณ์  เอาไว้อ้างอิงเวลาสงสัย  และเอาไว้ทำความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับภาษาก่อน
         และโปรดเอาไว้ข้างกายเสมอเวลาจมกับภาษา  โดยเฉพาะพจนานุกรม  เดี๋ยวเจอศัพท์ยากๆหลายๆคำขึ้นมา  ไม่รู้เรื่องเข้าจะพาลขี้เกียจไปเสียก่อน

         จากนั้น  อยากทำอะไร  เลือกเลย  

         อยากฝึกฟัง  ก็ฟัง  มีทั้งเพลง  ทั้งภาพยนตร์  ซีรีย์  คลิปสอนภาษาตรงๆ(อันนี้ไม่แนะนำนะจริงๆ  เพราะมันจะดูเป็นการเรียนแบบโจ่งแจ้งไปนิดนึง  พอเริ่มรู้ว่าจะเรียน  เดี๋ยวจะขี้เกียจ)  อะไรก็ได้  เลือกเหอะ  แล้วเปิดไปเลยเป็นวันๆ  หรืออย่างน้อยก็ทุกวัน  วันละกี่นาทีกี่ชั่วโมงก็ตามสะดวก
         อ่อ  เปิดแบบดูเนื้อหรือมี sub title ก็ดีนะคะ  จะได้ตามทันและฝึกอ่านไปด้วย

         อยากฝึกอ่านก็อ่านเข้าไป  หนังสือภาษาอังกฤษมีเยอะแยะ  หรือขี้เกียจซื้อก็เปิดเนต  อยากหาอะไรกูเกิ้ลเอาเลย  แล้วอ่านมันเข้าไป  อ่านไปเรื่อยๆ  นอกจากฝึกอ่านได้แล้วยังอาจได้ความรู้เพิ่มอีก

         และ  หากใช้สองวิธีนี้แล้วยังอยากได้คำศัพท์เพิ่มอีก  ขอแนะนำว่า  

         เล่นเกมเหอะ   


         อ้าว  พูดจริงๆนะไม่ได้เข้าข้าง  เกมเนี่ยแหละ  ตัวสอนคำศัพท์ชั้นดีเลย  แถมหลายคำยังเป็นคำแปลกๆที่ไม่เคยเห็นในห้องเรียนด้วย  

         ว่าตามตรง  เราไม่รู้เหมือนกันว่า  เกมมันกลายเป็นเครื่องมือในการสร้างคลังคำศัพท์ส่วนบุคคลได้อย่างไร  แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมา  เรายอมรับเลยว่าเราจำศัพท์บางคำได้เพราะเกมนี่แหละ  โดยศัพท์ที่เราจะได้จากเกมนั้นจะขึ้นอยู่กับเกมที่เราจะเล่นเป็นสำคัญ  ซึ่งอาจเป็นอะไรก็ได้  ซึ่งอ่านตอนแรกคงไม่รู้เรื่อง  (แน่นอนล่ะ  ไม่เคยเห็นนี่)  ต้องเปิดดิค  ซึ่งถ้าเราประทับใจคำนั้นเป็นพิเศษเราอาจจำมันได้ในทันที  แต่ถ้าจำไม่ได้ก็ไม่ต้องตกใจไป  หลังจากเล่นเกมไปเรื่อยๆและเจอคำเดียวซ้ำๆไปสักสี่ห้ารอบ เราอาจโดนบังคับจำไปเองโดยไม่ต้องพยายามเลยก็เป็นได้

         เช่นสามคำแรกที่จั่วไว้ตอนต้น  เราได้จากการเล่นเกมทั้งนั้นเลย  โดย frivolous(ที่ไม่สำคัญ,ที่ไม่เอาจริงเอาจัง)  นั้นได้ตอนเล่นเกมเดินทางที่ตัวละครใช้บรรยายลักษณะคนๆหนึ่ง
         chivalry (ความกล้าหาญ,ความเป็นสุภาพบุรุษ)  นั้นได้ตอนเล่นเกมเกี่ยวกับสงครามกลางเมืองของสหรัฐอเมริกา
          reincarnate (การเกิดใหม่)  จำไม่ได้แฮะ  น่าจะได้จากเกม rpg สักเกมหนึ่ง  

         สนุกกว่านั่งท่องศัพท์ไป dictator แบบที่เคยทำตอนประถมอีกนะ  :D


         จะเห็นได้ว่า  ภาษาสามารถพัฒนาได้แบบที่เราไม่ต้องเรียนเลยด้วยซ้ำ  เพียงแค่หาสิ่งที่ตรงกับจริตเราไว้ทำเวลาว่างๆได้  เท่านั้นเอง



         ส่วนทักษะด้านการเขียนและการพูดนั้น  ถ้าถามความเห็นส่วนตัว  เราว่าหลังจากที่เราจมตัวเองไปกับภาษาสักพักจนคุ้นเคยกับมันและมีแนวประโยคและคำศัพท์มากพอ  เราจะเริ่มพูดและเขียนแบบธรรมดาได้เอง

         ส่วนหากจะเรียนเฉพาะทาง  เช่น  ศัพท์การแพทย์  หรือ  ศัพท์กฎหมาย  อันนี้ต้องบังคับตัวเองฟังหรืออ่านบทความเกี่ยวกับการแพทย์หรือกฎหมาย  ให้คุ้นเคยมากกว่าเดิมหน่อย
         หรือจะไปหาคอร์สเพิ่มเติมเรียนเอาเลยก็ได้

         แต่หากอยากฝึกภาษาอังกฤษทั่วๆไป  หรือต้องการได้ทักษะภาษาแบบไม่ต้องฝืนตัวเองมากเกินไป  เราว่า  การหางานอดิเรกที่ต้องข้องเกี่ยวกับภาษาอังกฤษมากๆ  ก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลวนัก  



         สารภาพเลยว่าทุกครั้งที่ได้รับคำถามแบบนี้  อยากจะแนะนำให้หาภาษาอังกฤษเป็นงานอดิเรกไปเลย  หลายครั้งอยากแนะนำด้วยซ้ำว่า  "เล่นเกมดิ!!"  

         แต่...  ก็รู้นะ  ว่าบางทีทางเลือกนี้ไม่ค่อยได้รับความนิยมนัก  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  

         "เกม!"  

         สาเหตุก็อาจเพราะเห็นผลช้าและไม่ชัดเจนเท่าการไปติว  และหลายคนมักมีอคติว่าเกมนั้นจะทำให้เสียคนมากกว่ามีดี  

         สุดท้ายเลยได้แค่ยิ้มแห้งๆ  และแนะนำเรื่อยเปื่อยไปตามที่ทำได้  เท่านั้นเอง  


         ปล. เคยเขียนเรื่องนี้ไว้เหมือนกันในเวบอื่น  สนใจจะเข้าไปชมก็ได้นะคะ
         https://alwaysfay.blogspot.com/2016/05/1.html
         https://alwaysfay.blogspot.com/2016/05/2.html
           
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in