เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
what i watchedyou are my iced coffee
รีวิว maze runner : the death cure (2018)


  • Directed by : Wes Ball
    Based on : The Maze Runner series by James Dashner
    Stars : Dylan O'Brien, Kaya Scodelario, Thomas Brodie-Sangster, Ki Hong Lee



    เรื่องราวของชาวทุ่งก็ได้เดินทางมาถึงตอนจบแล้ว เราจะเริ่มต้นด้วยการขอบคุณที่ไม่หั่นแบ่ง maze runner : the death cure เป็นสองภาคเหมือนไตรภาคอื่นๆ ขอบคุณจริงๆ

    ใครที่เคยดูภาคหนึ่งและสองมาแล้ว เราว่าภาคสามนี้ก็ไม่ควรพลาดที่จะสละเวลาไปดู เป็นการปิดฉากไตรภาคได้ดีทีเดียว ดูให้หายค้างคาใจว่าตอนจบนั้นเป็นอย่างไร เห็นด้วยกับหลายๆความคิดเห็นที่บอกว่าเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ไม่กี่เรื่องที่ทำออกมาสนุกกว่าหนังสือ 



    THE MOST IMPORTANT THING IS THAT WE ALL HAVE EACH OTHER.
    BECAUSE WE'RE ALL IN THIS TOGETHER.

    NEWT - THE MAZE RUNNER

    เราอินกับความสัมพันธ์ของชาวทุ่งมากกกกกกก โดยเฉพาะสามหน่อโทมัสนิวท์มินโฮ ยิ่งอ่านหนังสือมาจะอินเป็นพิเศษ แม้ว่าภาคนี้จะเน้นเรื่องราวเกี่ยวกับมิตรภาพมากที่สุด มากกว่าสองภาคก่อนเย้ออออ แต่สำหรับเราว่าในส่วนของหนังขาดตรงจุดนี้ไป ไม่ได้เล่าเรื่องหรือแสดงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครมากพอที่จะอินชนิดเสียน้ำตา(แบบเรา) Deleted scene ทั้งหลายนั้น เราคิดว่าถ้าได้นำมาใส่ในตัวหนัง คนที่ดูแต่หนังอย่างเดียวก็จะเข้าถึงความรู้สึกของตัวละครมากขึ้นซักนิดแหละ 






    มีหลายฉากทีเดียวที่ถึงกับ "หืม แบบนี้ก็ได้เหรอ หืม หืม หืม" บางจุดมันดูไม่เมคเซ้นส์จนขัดใจเล็กน้อย โทมัสและผองเพื่อนเก่งเกินหน้าเกินตา WCKD ไปหน่อยหรือว่า WCKD มันห่วยกันแน่ โถ่ 55555555 บางฉากที่มีการเล่าเรื่องแบบข้ามกระโดดไปหน่อย เพิ่มนิดนึงได้ไหมคะ แต่ในหนังมีซีนที่เราชอบมากกว่าในนิยายเยอะอยู่ พิมพ์บอกตรงนี้ไม่ได้ เดี๋ยวสปอย

    the death cure มีรายละเอียดที่ต่างจากหนังสือเยอะพอสมควร เนื่องจากแปลงบท(เยอะโคตร)ในภาคสอง ก็ต้องแปลงบทในภาคนี้ต่อจากภาคสองที่ปูเรื่องมาแล้วสิเนอะ แต่ตัวบทยังคงไม่ได้นอกลู่นอกทางเหมือนภาคสองนะ เราตื่นเต้นมากที่จะได้ดู เพราะเล่มสองคือเล่มที่เราชอบที่สุดจากนิยายชุดนี้ พอเอาเข้าจริงๆก็แอบรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เราไม่ได้มีปัญหากับการที่สร้างเป็นภาพยนตร์แล้วแตกต่างจากนิยาย แต่มันดันสร้างออกมาได้มึนๆงงๆ ไม่เมคเซ้นส์นี่สิ รู้สึกขัดใจพอสมควร (เหลือบมอง Percy Jackson และ Divergent เวอร์ชั่นหนัง เราเสียดายภาพยนตร์สองชุดนี้มาก)

    ใครที่เป็นแฟนคลับ Thomas Brodie-Sangster ผู้รับบท Newt ของเรานั้นภาคนี้ออกเยอะกว่าทุกภาคที่ผ่านมา(มากกก) ไปดูเถอะ โปรโมตขนาดนี้แล้ว 



    โดยรวมแล้วเรื่องแอคชั่นความบู๊มันส์ ยิงปืนปาระเบิดถือว่าสนุกกว่าในหนังสือนะ เอาใจช่วยชาวทุ่งตลอดเรื่องจนไม่ได้รู้สึกว่าหนังยาวเกินไป (ใจนี่ต้องการดูแบบ uncut กี่ชั่วโมงจัดมาเลยเพ่) ถ้าถามว่าทั้งสามภาคที่ดูชอบภาคไหนที่สุด ก็คงเป็นภาคหนึ่งมันให้ความรู้สึกความคลาสสิกและความกลมกล่อมที่สุดแล้ว



    SPOILED ALERT 

    ตรงเนื้อหาส่วนสปอยนี้จะหวีดด้วยความรู้สึกของแฟนเกิร์ลอย่างบ้าคลั่ง

    ทุกโคนนนนนนนนนนนนนน ฮือออออออออออ ฉากนิวท์มัสแต่ละฉากนั้นมันช่างทำให้ใจบาง ปวดใจ ทุกข์ทรมาณจากความรู้สึกต่างๆที่ถาโถมเข้ามา เราอ่านหนังสือเล่ม1-3มาแล้ว ทำใจกับฉากการตายของนิวท์ตั้งแต่ก่อนอ่านถึง(เจอสปอยก่อนอ่านจบ หงุดหงิดสุดๆ) พอเอาเข้าจริงๆแค่เห็นหน้าตาและท่าทางของนิวท์ที่ดูอิดโรยจากการติดเชื่อ เราก็รับไม่ไหวแล้วววววววววววววว


    ความรู้สึกตอนดูจบ


    สำหรับเราเราว่าในหนังทำออกมาโคตรซึ้ง มันเศร้าแบบซึ้งๆ ในฉบับหนังสือนี่เศร้าแบบหดหู่ เราทิ้งเพื่อนไว้ที่นั่น(ศูนย์ที่ดูแลคนติดเชื้อ) เราช่วยเพื่อนเราไม่ได้ เราฆ่าเขากับมือ ฮืออออออออออออออออออออออออออออ แต่ในหนังคือโทมัสอยู่กับนิวท์ตลอด ไปช่วยมินโฮด้วยกัน หนีออกมาด้วยกัน นิวท์แสดงอาการหนักขึ้นเรื่อยๆ และซีนนั้นก็มาถึง....... นิวท์พยายามจะฆ่าตัวเอง และโทมัสพยายามจะห้ามและจะช่วยชีวิตนิวท์ไว้(นิวท์แทงตัวเองเนาะ เราดูหนังแค่1รอบอยู่เลย ไว้ว่าจะหาเวลาไปดูอีกรอบเพื่อซึมซับโมเม้น) แต่ไม่ว่ายังไงมันก็ทรมาณใจทั้งคู่เลย edit เพิ่มเติม : ไปดูรอบสองมาแล้วค่ะ นิวท์แทงตัวเองจริงๆ ดูอีกรอบก็ไม่ได้ร้องไห้น้อยกว่าเดิมเลย โถ่

    please, tommy, please 

    ซีนที่อ่านจดหมายของนิวท์นี่เอาเป็นว่าร้องไห้อย่างเดียว ยิ่งตอนจบที่เราเห็นมินโฮและโทมัสนั่งกันอยู่ หัวจรัยเลามั่ยหวัยแร้วววว นิวท์ควรจะได้มาอยู่ตรงนี้กับพวกเขาด้วยสิ หลังจากผ่านอะไรด้วยกันมาตั้งมากมาย นิวท์ควรได้รับสิ่งที่เรียกว่าความสุขบ้าง มันรู้สึกหน่วงๆและจุกในอกอย่างบอกไม่ถูก แต่เราชอบนิยายหรือภาพยนตร์ที่ตัวละครสำคัญๆตายนะ มันรู้สึก real ดี(หรือนี่ชอบอะไรที่ทำให้จิตใจบอบช้ำ) เหมาะสมกับคำว่าโลกนี้มันโหดจริงๆ


    จริงแล้วๆตอนจบ the death cure เป็นแบบนี้
    ที่มา : https://www.pinterest.com.mx/pin/510103095271741325/?autologin=true

    ดูจบแล้วในหัวเราก็มีแต่ภาพบรรยากาศตอนอยู่ท้องทุ่งวนเวียนอยู่ในหัวตลอด นิวท์คือคนที่พาทอมมี่ทัวร์รอบทุ่ง ปลุกทอมมี่ไปดูโศกา นิวท์ไว้ใจที่จะเขียนจดหมายไว้ให้ทอมมี่ เอาหนังกับหนังสือมาตีกันแล้ว

    จริงๆเราชอบคู่เทเรซ่ากับโทมัสมากเลยนะ(ไม่เคยชอบเบรนด้าเลย ตั้งแต่อ่านหนังสือแล้ว รู้สึกว่าตัวละครนี้ไม่ต้องมีก็ได้ เราอ่านหนังภาคแรกเข้าฉายได้ไม่นาน อ่านรอบเดียวซึ่งตอนนี้ก็ลืมรายละเอียดยิบย่อยไปเกือบหมดแล้ว) อินตั้งแต่ในหนังสือที่เขาโทรจิตคุยกัน โทมัสเป็นห่วงและพยายามตามหาเทเรซ่าในเล่มสอง ฉากเทเรซ่าตายในหนังทำออกมาได้ดีกว่าหนังสือ(คุ้นๆว่าว่าตึกถล่มใส่ แต่รายละเอียดก่อนหน้าลืมแล้ว) เราได้เห็นว่าเทเรซ่าพยายามจะช่วยโทมัส ตอนนางตกลงไปเลยรู้สึกเสียใจและเศร้ากว่าในหนังสือ 

    มาพูดถึงซีนที่ขัดใจกันบ้าง เริ่มต้นซีนแรกเลย ที่ไปขโมยตู้รถไฟเพื่อช่วยมินโฮ แต่ดันผิดตู้ เรานี่อะโหว กุมขมับแปป มั่ยรู้จาพูดอะรัย 555555555 แต่เอาน่า ช่างมันเถอะ ปลอบใจตัวเองอยู่

    ฉากต่อสู้กับพวกวิคเค็ตนี่เธอมีระบบป้องกันเมืองอย่างดีเยี่ยมแล้วใช่ไหม โทมัสใกล้ประตูขนาดนั้นตั้งใจยิงไม่โดนรึว่าไงกัน และแจนสัน เธอสั่งลูกน้องให้จับพวกโทมัสที่ขึ้นจากสระน้ำได้นะ เอ้อ แต่ว่าลูกน้องเธอยิงปืนไม่แม่นเลย ขอบอก

    แล้วเรื่องที่ตรวจจับโทมัสตอนที่อยู่กับกลุ่มกบฏที่หน้ากำแพง ทำไมเพิ่งตรวจจับได้ตรงนั้นอ่ะ ตอนไป WCKD ออกตามล่าพวกโทมัสหลังขโมยตู้รถไฟทั้งที่อยู่ใกล้ฐานลับขนาดนั้นตรวจจับไม่ได้ หรือโทมัสแอบเข้าเมืองไปหาเทเรซ่าก็ตรวจจับไม่ได้ ตรงนี้ในหนังได้บอกไว้หรือเปล่า ใครรู้มาบอกเราทีนะ

    ยัง ยังไม่จบ ยังมีที่ขัดใจอีก คือฉากที่โทมัสถอดหน้ากากแล้วคุยเทเรซ่า ว้อย อิบ้า ขาดสติอะไรขนาดนั้นกัน ปฏิบัติการล่มไปเล้ยยยยยยยย




    ps. deleted scene ทั้งสองภาคที่แปะลิ้งไว้ด้านบนควรใส่ไว้ในหนังจริงๆนะ ตัดออกทำไมกัน




    ขอบคุณที่อ่านจบ ใครที่อินจัดมาหวีดกับเราได้

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in