เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
คุณเก่อเกอกับน้องตี้ติbamisabammmmmmm
องเมียวจิ
  • " เอาละ ครูจะให้ทุกคนเดินสำรวจแถวนี้นะ อีก2ชั่วโมงเราจะกลับมาเจอกันที่เดิม "

    " ครับ//ค่ะ "

    เสียงขานรับของนักศึกษาดังก้องทั่วบริเวณนั้น ต่างฝ่ายต่างจับกลุ่มบ้างก็เดินคนเดียวแยกกันไปสำรวจรอบๆภูเขาสูงที่ก็เต็มไปด้วยดอกอุเมะบานเต็มพื้นที่

    ' เซ็นโซ ' เลือกที่จะไปเดินเล่นคนเดียวขึ้นไปตามแนวเส้นทางที่เหมือนปูทางไว้สำหรับนักท่องเที่ยว ดวงตากลมจ้องมองดอกไม้สีชมพูสูดกลิ่นอากาศ
    เดือมกุมภาพันธ์ให้เต็มปอดพลางหยิบกล้องคู่ใจถ่ายวิวไปเรื่อยเปื่อย

    " อะไรน่ะ... " เซ็นโซเอ่ย สองเท้าหยุดที่บริเวณหนึ่งที่พื้นดูเหมือนมีเส้นสีแดงถูกสีขีดเอาไว้ 

    ความสงสัยอยู่คู่กับมนุษย์มาช้านานเซ็นโซก็เช่นกัน ไม่ใช้เวลาตัดสินใจเขาเลือกที่จะก้าวขาข้ามเส้นสีแดงนั้นไป " เสียงลมหายไปแล้ว " คนตัวสูงเอ่ยกับตนเอง บรรยากาศเเตกต่างกับก่อนหน้านั้นไปนิดหน่อย

    อย่างเเรกเสียงลมพัดอ่อนๆจากก่อนหน้าที่ตอนนี้ก็เเทบจะไม่ได้ยินอะไรเลย

    อย่างที่สองคงจะเป็นสีดอกอุเมะที่เปลี่ยนไป ถึงเขาจะสายตาสั้นเเต่ไม่ได้ตาบอดสีจนเห็นดอกอุเมะตรงหน้าเป็นสีม่วง

    อย่างที่สาม

    ตอนนี้เซ็นโซกำลังได้ยินเสียงคำรามของตัวอะไรสักอย่างดังสะท้อนอยู่แถวๆนี้...

    เขาหันหลังรีบจะเดินย้อนกลับ " เวรแล้ว ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้ละ! " ปากสบถสายตาจ้องไปยังทางเดิมเเต่เส้นทางตรงนั้นกลับมีพุ่มไม้สูงบังทางไว้เเทน

    เสียงคำรามขู่ชวนขนลุกนั้นดังซ้ำขึ้นอีกครั้ง พาจิตใจเตลิดไปไหนต่อไหน เซ็นโซรีบพาร่างตัวเองไปนั่งย่องๆหลบตรงพุ่มไม้สูงๆใกล้ตัวใจสวดภาวนาให้เจ้าของเสียงประหลาดนั้นรีบๆจากไปซะ

    ' กรรรร....อือออออออ...อือออ...' 

    เสียงคำรามสลับเสียงครางอืออาในลำคอ เรียกอาการขนลุกชูชันได้เป็นอย่างดีเซ็นโซจึงรีบขด
    เเขนขายาวๆของตัวเองให้ตัวเล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้

    เเรงสั่นสะเทือนเบาๆมาจากฝั่งขวา เป็นนัยๆว่าอะไรบางอย่างนั่นกำลังมาทางนี้ กลิ่นสาปเหมือนปลาทะเลเน่าลอยมาเเตะจมูกเต็มๆจนต้องยกมือบีบ

    ' กรรรร..อือออ..ข้าได้กลิ่นหอมมม..'

    ' เวรๆๆๆๆ!! " 

    เซ็นโซสบถซ้ำๆ เขาเห็นร่างสีเขียวคล้ำตัวสูงใหญ่กว่า3เมตรได้ เส้นผมยาวปิดใบหน้าถึงเข่าร่างกายนั้นมีเพียงผ้าสีน้ำตาลซีดๆผูกอยู่ที่เอว

    ร่างนั้นยืดตัวเล็กน้อยส่ายหัวไปมาเหมือนหาเจ้าของกลิ่นหอมที่มันพูดถึงอยู่เมื่อกี้นี้ก่อนที่มันจะค่อยๆหันกลับมาทางเดิมและเดินเชื่องช้าออกไป

    เซ็นโซยกมือทาบหน้าอกของตัวเองที่ใจเต้นแทบจะหลุดออกมาเต้นระบำ " เฮ้อ..." 

    " เจอ...แล้ว...กลิ่นนี้เเหละ!! "

    " เฮ้ย!!! "

    ร่างประหลาดนั่นโผล่ออกหน้ามาจ้องเขา มือใหญ่โตคว้าตัวเซ็นโซเอาไว้อย่างทันท่วงทีฉับพลันหาสังเกตุเทียบขนาดตัวตอนนี้ชัดๆมันก็ชั่งเหมือนกับหนังสือที่เขาเคยอ่านมาไม่มีผิด

    - นี่มันยักษ์!! -

    " ไม่ได้เจอกลิ่นแบบนี้มานานเเล้ว...หอมมมม "

    " อย่ามาดมนะโว้ยปล่อยยย!! " เซ็นโซตะโกนลั่นพลางเอาสองมือทุบผิวหนังเย็นชืด

    " เจ้ามีสายเลือดพิเศษ... "

    " สายเลือดอะไร!! ไม่มีทั้งนั้นเเหละ!! "

    " กรรร...หนวกหูจริงรีบๆมาอยู่ในท้องข้าดีกว่า!! "

    ยักษ์ตัวเขียวเงยหน้าอ้าปากเผยให้เห็นเขี้ยวคมซ้อนกันหลายชั้นเรียงรายนับสิบ น้ำลายยืดเหนียวข้นไหลออกชวนคลื่นไส้

    " เหวอ!! " เซ็นโซตะโกนร้องครั้งสุดท้ายก่อนจะหลับตาปี๋รับชะตากรรมของตัวเอง

    " กรรรรร!!! ร้อน!! เหม็น!! ร้อน!! "

    เขาลืมตาโผล่งมองภาพตรงหน้า หน้าผากของยักษ์นั่นมียันต์สีเหลืองลุกท่วมเป็นไฟสีแดง เสียงคำรามกรีดร้องเเหลมสูงพร้อมกับที่ยักษ์ตัวเขียนนั้นปล่อยเซ็นโซล่วงกระเเทกพื้นดิน

    เเม้จะเจ็บอยู่นิดหน่อยเเต่ก็รีบกุลีกุจอดันตัวเองถอยหลังออกห่างจากสิ่งมีชีวิตน่าเกลียดนั้นจนหลังไปชนกับท่อนไม้สองท่อน

    หรือว่าไม่ใช่...

    " ท่านองเมียวจิ..ได้โปรดอภัยให้ข้าด้วย..." ยักษ์ตนนั้นคุกเข่าเอามือกุมหัวที่ยังมีเปลวไฟจากยันต์ลุกโชนอยู่

    เซ็นโซขมวดคิ้ว " องเมียวจิ? "

    " เขาหมายถึงเรานั่นเเหละ "

    เสียงชายหนุ่มเอ่ยขึ้นเหนือของเขา ใบหน้าคมรีบหันไปมองผู้ช่วยชีวิตอย่างรวดเร็ว

    สง่างาม

    ไม่มีอะไรจะยกยอคนตรงหน้าได้อีกเเล้ว ร่างสูงโปร่งของชายหนุ่มที่ดูจากใบหน้าคงเด็กกว่าเซ็นโซอยู่ไม่มากนัก ใบหน้าเรียบนิ่งดวงตาสีน้ำตาลเข้มกับผมสีดำมัดหางม้าสูงปลายเส้นผมยาวถึงเข่า

    ชุดที่องเมียวจิใส่ก็เหมือนออกมาจากหนังสือไม่มีผิด 
    เสื้อสีขาวทับกับสีน้ำเงินแขนยาวและผ้าคาดเอว
    ข้อมือประดับด้วยลูกประคำสีดำพันที่ข้อมือสวมกางเกงพองสีดำกับรองเท้าทรงสูงไม่มีส้น

    องเมียวจิคนนั้นชูนิ้วชี้เเละนิ้วกลางสบัดกลางอากาศยันต์สีเหลืองสลายหายไปพร้อมกับร่างยักษ์ตัวเขียวที่ค่อยๆเลือนหายไปเช่นกัน

    " ขะ ขอบคุณครับที่ช่วยผม "

    " ไม่เป็นไร การก้าวข้ามเส้นเขตมาได้คงมีอะไรบ้างอย่างที่พิเศษในตัวท่าน "

    " ครับ? "

    " เอาเถิด เราจะพาท่านไปส่งที่ที่ท่านจากมา "


    คนๆนั้นพาเซ็นโซเดินไปเรื่อยๆจากตอนเเรกที่แทบไม่มีเสียงลมเเต่ตอนนี้กลับมีเสียงสิ่งมีชีวิตดังไปทั่วเซ็นโซมองกลีบดอกอุเมะสีม่วงที่ปลิวลอยตามร่างโปร่งตรงหน้าเหมือนมีอะไรดึงดูด

    พวกเขาทั้งสองเดือนมาหยุดที่ถ้ำเล็กๆมีไม้เลื้อยห้อยลงมาปิดทางเอาไว้ " ผ่านตรงนี้ไปท่านก็จะกลับไปที่เดิม " องเมียวจิชี้ไปยังปากถ้ำ " ต่อไปท่านอาจต้องระวังการเดินไปไหนมาไหน บางทีท่านอาจจะถูกดึงจนต้องวกกลับมาที่นี่อีกครั้ง "

    เซ็นโซมองตามมือขาวในใจยินดีอยู่ไม่น้อยที่ตัวเองจะได้กลับบ้านเเต่ก็ยังมีเรื่องสงสัยคาใจอยู่

    " เดี๋ยวนะครับ " องเมียวจิหันมามองหน้าเขา " อะไรหรือท่าน "

    " คุณบอกผมอาจจะได้กลับมานี่อีก หมายถึงอะไร "

    " เพราะท่านมีสิ่งพิเศษดั่งเช่นที่เรามี เเม้จะเบาบางเเต่มันก็เป็นสิ่งที่ทำให้ท่านได้ข้ามมาอยู่ที่นี่ "

    " แล้วยักษ์นั่นพูดว่าเหม็นๆนั่น.."

    " พวกเขาเกลียดกลิ่นดอกอุเมะเสียยิ่งกว่าอะไรดี ยันต์ของเรามีกลิ่นนั้นเขาเลยไม่ชอบ "

    " อ่อ...เเต่ผมมีโอกาสกลับมาอีกสินะครับ " เซ็นโซเงยหน้ามองไปรอบตัว " ถ้าผมอยากจะกลับมาผมจะได้เจอคุณไหม "

    ชายหนุ่มพยักหน้า " เราอยู่ที่แห่งนี้มาช้านานแล้ว หากท่านต้องการมาที่นี่อีกโปรดเก็บสิ่งนี้เอาไว้ " มือเรียวล้วงไปในสาบเสื้อสีน้ำเงินดึงเครื่องสีเขียวเขียนตัวอักษรคันจิ

    " เครื่องรางจะปกป้องท่านเเละจะคอยบอกเราเมื่อท่านมาที่นี่ ถึงเวลานั้นเราจะไปหาท่านเอง "

    เซ็นโซยื่นมือไปรับก่อนจะเก็บไว้ในอกเสื้อ " ขอบคุณนะครับเเต่ว่าคุณ..."

    " เราชื่อฮานะ "

    " เซ็นโซครับ " เขายิ้ม " หวังว่าเราจะได้เจอกันอีก "

    ฮานะพยักหน้าทั้งสองโค้งให้กันก่อนที่เซ็นโซจะเดินหันหลังแหวกไม้เลื้อยประดับสอดส่ายสายตาหาทางออกจนมองเห็นแสงขาวๆจากริมสุดทางเดิน

    เซ็นโซเดินหลุดออกมาแล้วพอหันกลับไปถ้ำไม้เลื้อยนั่นก็หายไปกลายเป็นเส้นทางเดิมเหมือนก่อนที่เขาจะข้ามเส้นสีแดงเข้าไปแต่ตอนนี้ทั้งตัวของเซ็นโซก็กลับมายืนอยู่หลังเส้นสีแดงนั้น

    ' รีบไปเถิดเพื่อนๆกำลังตามหาท่านอยู่ '

    เสียงขององเมียวจิหนุ่มคนนั้นลอยเบาๆมาข้างหู เขายกยิ้มพลางเดินลงไปจนถึงที่ที่อาจารย์ได้นัดรวมตัวกันไว้

    " ไปไหนมาน่ะเซ็นโซพวกเรานึกว่านายหลงป่าซะแล้ว! "

    " เปล่าสักหน่อยก็นี่ไงยังอยู่ดี " ว่าพลางยกท่อนแขนทั้งสองอ้ากว้างให้เพื่อนเห็นว่าสบายดี

    " เซ็นโซๆ " หนึ่งในแก็งค์เพื่อนของเขาเอ่ยพลางชี้ไปบนหัวเซ็นโซ " กลีบดอกอะไรน่ะ "

    ใบหน้าเข้มขมวดคิ้วยกมือขวาขึ้นคว้าเส้นผมสีดำของตัวเองก่อนจะกำรวบเผื่ออะไรที่เพื่อนทักจะหลุดติดมือมาให้เห็น

    " ฮานะ..."

    " ฮานะอะไรของนายน่ะ ไปเจอมิโกะสวยๆบนภูเขามาละสิ "

    เพื่อนผู้ชายอีกคนนึงข้างกันรีบหันไปเถียง " จะบ้า
    เหรอมิโกะเค้าอยู่ตีนเขานู้นจะมาทำอะไรบนนี้กัน
    เล่า " 

    " ชั่งเถอะก็แค่ดอกไม้ รีบขึ้นรถดีกว่าถึงเวลากลับแล้ว "

    ทั้งหมดพยักหน้างึมงำไม่ถามอะไรต่อจึงหันหลังเดินดุ่มๆขึ้นรถประจำมหาวิทยาลัยที่มีเสียงอาจารย์ประจำคณะตะโกนเรียกคนอื่นๆให้รีบขึ้นรถเร็วๆ

    เซ็นโซประจำที่นั่งริมหน้าต่างจ้องมองกลีบดอกอุเมะสีม่วงสดในมืออย่างเรียบนิ่งก่อนที่หางตาเล็กๆจะเหลือบไปเห็นใครบ้างคนยืนอยู่ใต้ต้นอุเมะสีชมพูบนโขดหินก้อนเล็กๆ

    ปากบางๆของอีกฝ่ายเอ่ยถ้อยคำที่มีเพียงเซ็นโซที่ได้ยิน

    ' โปรดรักษาตัว ขอให้ท่านเดินทางโดยสวัสดิภาพ '

    ' ขอบคุณที่ช่วยผมไว้แล้ววันหลังจะมาเที่ยวใหม่นะครับ '

    แค่คิดในใจเซ็นโซก็ฉีกยิ้มกว้างจนตาโค้งเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวโดยที่อีกฝ่ายก็ยิ้มบางๆให้เขาเช่นเดียวกัน

    รถเคลื่อนตัวออกไปทิ้งองเมียวจิหนุ่มให้ยืนมองมนุษย์ผู้ที่มีพลังเหมือนกับตนเเถมยังเเปลกนิดหน่อยยามที่ตอนนั้นได้ยินว่าอีกฝ่ายอยากจะกลับมาที่นี่อีกทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เกือบจะโดนยักษ์กินแท้ๆ

    " อยู่มา200ปีก็กลับมาเจอกันอีก " 

     " เราคงได้เป็นเพื่อนกันอีกครั้งนานนับจนกว่าเขาจะสิ้นอายุขัย..."












เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in