เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
The extraordinary life of FasicaFasica Fasica
Feeling วิงเวียนคล้ายจะเป็นลม : รับน้องขึ้นดอย59
  • ** ความจริงเราเขียนทิ้งในโน้ตบน facebook ตั้งแต่ช่วงรับน้องขึ้นดอยใหม่ๆแล้ว แต่อยากจะเอามาลงใน minimore เก็บไว้อ่านเล่นน่ะ อิอิ**

    ** เขียนไว้เป็น timehop เตือนตัวเองในอนาคต **
    **ถ้าเผลอมาอ่านแล้วงงก็…งง นั่นแหละ (แค่พูดเรายังพูดไม่รู้เรื่องเลย ภาษาเลยอาจจะงงๆ แปลก ไม่สวยสักเท่าไหร่ ขอโทษจริงๆ ) **

     จริงๆก็เริ่มรู้สึกดีแล้วล่ะที่ไม่ได้ซิ่วไปที่อื่น (ถึงก่อนหน้านี้ใจจะไม่ได้อยู่ที่นี่เลย) 
    เพราะถ้าเกิดซิ่วไปจริงๆ ก็คงไม่ได้มาสัมผัสบรรยากาศรับน้องขึ้นดอยแบบนี้ 
    แล้วก็คงไม่ได้มาเดินขึ้นดอยตั้ง 14 กิโลแบบนี้แน่ๆอะ 
    อีกอย่างประสบการณ์แบบนี้คงยากที่จะหาจากที่อื่นด้วย

    แปลกที่ปีนี้อินยิ่งกว่าปีที่แล้วซะอีก 
    อาจเป็นเพราะปีที่แล้วแม่งอยากซิ่วสัสๆ แบบใจมันไปอยู่ที่อื่นแล้ว 
    แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ปีที่แล้วก็ยังคงจอยและประทับใจอยู่ดี

    แต่พอมาปีนี้รู้สึกว่ามันมีอะไรบางอย่างที่อิมแพคมากเป็นพิเศษ 
    (อาจจะเป็นเพราะเริ่มผูกพันกับที่นี่บ้างแล้ว (( คิดเองเออเองที่สุด )) )
     แค่การที่โดนถามว่า 
    "แก โอเครึป่าว" 
    "ไหวไหม" 
     คือมันเป็นแค่ประโยคธรรมดาๆนะ 
    แต่แม่งโคตรดีต่อใจ ทำให้ฮึดเดินไปเรื่อยๆ (เอ้อ ปีนี้ขึ้นรถด้วยเพราะสังขารไม่ไหวจริงๆ ;___;) 
    จนสุดท้ายก็ขึ้นไปถึงข้างบนได้

    ตลอด 14 กิโลเพื่อนพยายามลากและเดินไปด้วยกัน 
    หยุดรอเวลาเราไม่ไหว ไล่ให้ขึ้นรถแดงบ้าง 
    ขอบคุณทุกคนจริงๆโดยเฉพาะกานกับเอิง 
    ไม่งั้นคงได้นั่งเฝ้าโค้งแล้วรอเดินลงดอยกับพี่ปี4แน่ 555555555

    การวิ่งตรงโค้งสปิริตก็เป็นอีกสิ่งนึงที่ประทับใจมาก (และก็เหนื่อยโคตรรรรรรร ) 
    ถึงแม้เราจะโคตรเหนื่อยจนเดินแทบไม่ไหว แต่ก็ยังมีคนคอยลากคอยพยุง 
    ขอบคุณพี่กิ๊ฟกับพิงพิงมาก โดยเฉพาะพี่กิ้ฟที่ให้เค้าเกาะ ลากเค้าให้ไปถึงข้างบน 
    คือตอนนั้นแม่งใกล้ตายแล้วโว้ย หายใจแทบไม่ไหว 
    แต่พี่ก็ลากเค้าขึ้นไปจนได้ ฮืออออ ขอบคุณจริงๆนะ รัก <3 

    วันนี้ยังคงไม่จบง่ายๆ เพราะยังมีเรื่องให้เสียน้ำตาอีก 
    พูดแล้วก็อายความเซ้นซิทีปของตัวเอง 
    ( ที่ช่วงนี้อ่อนไหวง่ายเป็นพิเศษ เลยบ่อน้ำตาตื้น งิงิ) 
    ฮือ แต่แม่งใจหายจริงๆว่ะที่เห็นพี่ 56 จะจบแล้ว 
    โดยเฉพาะพี่เฟ 
    รุ่นพี่ไม่กี่คนที่เราสนิทด้วย 

    (note  พี่เฟคือพี่โรงเรียนเรา รู้จักกันแบบงงๆ 
    นางชอบชวนไปเที่ยว ชวนไปเดินงานพวกอาร์ทๆ 
    รู้สึกคุยกันค่อนข้างถูกคอดี เอ้อ นางเป็นพี่ที่ดีนะ )
     
    อยากให้มันจบนะ แต่ไม่อยากให้มันไปจากที่นี่อ่ะ 555555555 
    ก็จริง ที่ว่าแกไม่ได้หายไปจากชีวิต (อีกอย่างคือ กูยังไม่จบ -พี่เฟไม่ได้กล่าว) 
    แต่แบบรู้สึกว่ายังใช้เวลาด้วยกันไม่คุ้มเลย 
    แล้วยิ่งพอคิดว่าแกจะไม่อยู่เชียงใหม่แล้วยิ่งโคตรรู้สึกเศร้า 
    ยิ่งคิดว่าเราน่าจะรู้จักกันเร็วกว่านี้ จะได้มีเวลาทำอะไรด้วยกันอีกเยอะๆ 
    ก็ยิ่งเสียดายที่รู้จักกันช้าเกิน 
     // โอ้ยยยย จบพร้อมกันเถอะ มั้ย กลัวคิดถึง 5555555 //

    ถึงแม้เรื่องพวกนี้มันจะเป็นเรื่องเล็กๆไม่กี่เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ 
    แต่มันโคตรมีผลต่อใจเราจริงๆ 
    ขอบคุณพี่น้องเพื่อนผู้ร่วมทางครั้งนี้ทุกคนนะ 
    ขอบคุณจริงๆจ้าว :3
    แล้วก็ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้ด้วยนะ :D 
    เราเป็นคนที่แค่พูดยังไม่รู้เรื่องเลย 
    โน้ตนี้เลยอาจจะอ่านแล้วงงบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง 
    ก็ขอโทษจริงๆนะ 
    เราจะพยายามฝึกเขียนต่อไป :D
    แล้วไว้เรามาเขียนใหม่นะ บาย <3
    - จ บ -
    รับน้องขึ้นดอย59
    10 ก.ย 59 
     ฟ้ า 
    คนเคยอยากซิ่วคนเดิม 
    เพิ่มเติมคือทุกคนเรียก ฟ้าสิก้า (-_-) 
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in