เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Monkey's Life -- อะไรๆ ก็ลิงimonkey7th
"กูอยากเป็น แมสเซนเจอร์ว่ะ"


  • -1-

    "เฮ้ย แม่งตอนนั้นมืดมาก หน้าที่กูคือเดินตรวจตึกทุกสองชั่วโมงเว้ย กูก็เดินตามชั้นต่าง ๆ จนกระทั่งถึงชั้นสระว่ายน้ำ ตอนนั้นก็ตีสอง เสียงกุกกั๊ก ๆ ออกมาจากห้องน้ำข้างสระ"

    "แล้วไงต่อว่ะ" ผมถามอย่างระทึก

    "กูก็เดิน เข้าไปไฟฉายในมือก็เสือกดับยังกะเขียนบทมา มีเสียงเล็ดรอดออกจากห้องน้ำ แทรกผ่านความมืดเข้าหูกู 'เฮอ .อ.อ  เฮอ .อ.อ.'  สัส! กูแม่งสองจิตสองใจเว้ย โดนแน่ ๆ เอาไงดีเหงื่อนิไหลเป็นเยี่ยวเลย"

    "แล้วมึงเข้าไปไหม"

    "กูแม่งหลับตาเว้ย จะวิ่งแล้ว แต่เป็นไงเป็นกันวะ เสียงแม่งก็อึกอัก ๆ ลอยออกมาเหมือนเจ็บปวด กูกลั้นใจเดินเข้าไปใกล้ ๆ เคาะไฟฉายไปด้วยเดินเข้าไปด้วย พอเข้าไปใกล้เสียงแม่งเงียบ เอาสิวังเวงชิบหาย พออยู่หน้าประตูห้องน้ำ แม่งไฟฉายติดเว้ย กูส่องไป สัส " 

    "เจอเลย" ผมรีบขยี้

    "เหี้ย! เกย์แม่งสอยดากกันอยู่ อิห่า พอแม่งเห็นกู แม่งมองค้อน ด่ากูผ่านสายตาประมาณขัดจังหวะ เหี้ยกูแม่งทำไรไม่ถูกเลย แล้วมันก็เลิกทำจับเสื้อผ้าเดินผ่านกูไป ปล่อยกูเดินทำอะไรไม่ถูก"


     เรานั่งขำกับเรื่องเล่าหรรษาจากประสบการณ์ตรงของเป้




    -2-


    คนนับหมื่นเบียดเสียด คับคั่ง และวุ่นวายภายในสถานีขนส่งหมอชิต เทศกาลออกพรรษา ผมกำลังงมเข็มในมหาสมุทร โดยการมองหาเพื่อนผู้หายไปจากชีวิตมากว่าสองปี ในโลกที่เทคโนโลยีที่รวดเร็วที่สุดในตอนนั้นคือ "เพจเจอร์" ซึ่งเด็กบ้านนอกอย่างพวกผมก็อับจนปัญญาในการหามาเหน็บเป็นศิริมงคลของเอว แต่แล้วผมก็เห็นมือ หยาบกร้าน ตัวอวบ ผิวดำของเขาชูขึ้น ท่ามกลางผู้คนนับหมื่น เราโอบกอดแสดงความดีใจกับเพื่อนที่หายไปเสี้ยวนึงของเวลา

    "เป้" เพื่อนผู้ไร้ทุกอย่างแม้แต่อนาคต 
    - คำกล่าว ณ ตอนนั้น ซึ่งยังเป็นอยู่จนถึง เดี๋ยวนี้ -  


    เป้พาผมไปที่พักซึ่งเป็นโรงงานเย็บผ้า ตอนนั้นผมอยู่ปีหนึ่ง เป้ทำงานได้ปีกว่าแล้ว เพราะเรียนไม่จบเลยเข้ามาอยู่พระประแดง(จนกระทั่งเดี๋ยวนี้) ทำงานโรงงานหาเงิน ใช้แรงงาน ค่าแรงวันไม่ถึงสองร้อย อาศัยทำโอที

    โลกของเขาสวยงามมากจากคำพูดของเขา "ทำอะไรได้ก็ทำไป ตอนนี้ต้องทำทุกอย่างเพื่อครอบครัว" คำพูดของคนที่ใคร ๆ ก็เรียกว่า "ไอ้บ้า" 


    จำได้ว่าวันนั้นเป้พาผมไปเดินบิ๊กซีพระประแดงเราพูดคุยเชื่อมต่อช่วงเวลาที่ขาดหายไปอย่างสนุกสนาน เป้ซื้อเทปคาสเซ็ต Back Street Boy อัลบั้ม Black & Blue ให้ ราคา 109 บาท(แพงมาก เพราะเทปทั่วไปราคาประมาณ 69-89เท่านั้น) ผมดีใจมาก มันเป็นเทปเพลงฝรั่งอันแรกในชีวิตผมฟังมันจนร้องได้ทุกเพลง  


    ตอนเรียน ม ปลาย เป้อยู่ห้องสามสาย วิทย์-คณิต ผมอยู่ห้องสิบสายศิลป์-ภาษา ด้วยเป้เป็นคนไม่สนใจเรียน ซกมก เฮฮาแบบไร้สาระ ตลกไปเรื่อง ไร้แก่นสาร หน้าส้นตีน มีสิวเต็มหน้าลามถึงต้นแขนและแผ่นหลังถ้าเปิดตูดมาผมก็มั่นใจว่าไปถึง รูปร่างอ้วน ดำ จน และโง่ -พอเถอะ สงสารมัน- 

     ข้อดีข้อเดียวของเป้คือ "การมองโลก" มองแบบบ้า ๆ ของมันนั่นแหละ 

    เป้จะพยายามทำให้ผู้อยู่รอบข้างเขามีความสุขเสมอ ๆ แต่จนแล้วเป้ก็ไม่ค่อยได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมห้อง หลายครั้งที่เป้โดดเรียนมาเล่นกับห้องผม ความเหงาและความต่างแยกเป้ออกจากสังคม 

    เป้ตั้งคำถามการหลบหนีพื้นที่ที่ไม่ใช่ของตนเอง มันเป็นการกระทำของคนขี้ขลาด จริงหรือ? 

    จนกระทั่ง ม ห้า พ่อกับแม่เป้ต้องไปทำงานที่อุบล ปล่อยเป้อยู่คนเดียวในบ้านส่งค่าใช้จ่ายมาให้สัปดาห์ละสองร้อย นั่นเป็นจุดทำให้เป้ไม่ไปเรียน ไปสถิตย์อยู่ร้านการ์ตูนบ้าง ร้านเกมส์บ้าง 
    แล้ววันนึงเป้ก็หายไป 



    -3-

    "เฮ้ย" 

    เป้สะกิดหลังผมตอนที่ผมกำลังขอใบเสร็จจากสายการบิน ผมกำลังจะเดินทางกลับบ้านเพื่อทำงานในเส้นทางผม เป้ขับมอ'ไซค์ ร่วมสองชั่วโมงจากที่ทำงานมาส่งผมขึ้นเครื่อง เป็นเหตุการณ์ปกติตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วที่เป้มาส่งผมกลับบ้าน ไม่ว่าจะเป็นหมอชิต ดอนเมือง รถไฟฟ้า หรือที่ไหนก็ตาม ทุกครั้งที่ผมขึ้นกรุงเทพมาไม่ว่าจะไปไหน อยู่ไหน ถ้าเป็นไปได้เป้จะมาหา และเป้เป็นคนสุดท้ายที่ผมจะเห็นก่อนเดินทางกลับ 

    ผมยิ้มแสดงการตอบรับว่าเห็นเป้แล้ว เราเข็นสัมภาระชวนกันเดินเล่น จนไปถึงร้านกาแฟ เรามีเวลาอยู่ด้วยกันยี่สิบนาที ผมหยอกล้อ เล่นหัวกับเป้อย่างไร้เกราะกำแพงกั้น กาแฟถูกส่งมาให้ผม โกโก้ถูกส่งให้เป้ เรานั่งกันอย่างผ่อนคลาย เป้เริ่มเล่าเรื่องราวในที่ทำงานให้ฟัง ผมฟังและมองดูเขาอย่างชื่นชม
     เป้คิดว่าตัวเองต่ำต้อยเสมอ ตั้งแต่เรียนจบ กศน เมื่อสักสิบปีที่แล้ว มุ่งมั่นเรียนราม ทำงานไปด้วยทั้ง งานโรงงาน รปภ เป้ทำทุกอย่างที่เป็นเงินเขาเรียนไม่จบปริญญา แต่ผมว่า ไม่ว่าเป้จะจบไม่จบเขาก็คงเป็นแบบนี้เหมือนเดิม บ้า ๆ บอ ๆ เหมือนเดิม เป็นที่รักของเพื่อน ๆ ในซุ้มราม และเป็นที่น่ารำคาญของคนทั่วไปที่ไม่รู้จักเป้เป็นการส่วนตัว 


    "กูอยากเป็น แมสเซนเจอร์ว่ะ" 

    เป้พูดกับผมเมื่อหลายปีที่แล้ว จำได้ว่าตอนนั้นเป้เป็น รปภ. หลังจากทำงานโรงงานเงินเดือนสี่ห้าพัน ก็เปลี่ยนงานเป็น รปภ ขยับเงินเป็น แปดเก้าพัน เขาเจียดเงินเขาส่งแม่เสมอ ๆ ไม่ว่ามากหรือน้อย ตอนนั้นผมก็ทำงานส่งแม่ให้เหมือนกันเลยเข้าใจ แต่ด้วยรายได้ของเขา การดิ้นรนเอาตัวรอดมันต่างกันมาก มันทำให้ผมอดชื่นชมเป้ไม่ได้ 


    ความด้อยของเขาไม่ได้ด้อยอย่างที่เขาคิดเลย การก้มหน้ารับชะตากรรมด้วยรอยยิ้มที่จริงใจแบบนั้น แม้แต่คนสูงส่งยังยากที่จะยิ้มแบบนั้นได้ คำดูถูกมากมายประดังเข้ามาแต่ก็หาสะกิด ระคายผิวไม่ อาจเป็นเพราะการไม่คิดอะไรจนคล้ายไร้ความคิด แต่ท้ายสุดผลของมันคือการปล่อยวางที่หลาย ๆ คนไขว่ขว้า 


    ทุกวันนี้เป้เป็นแมสเซนเจอร์สมใจ ไล่ตามความฝัน ผมแซว ๆ เป้ประจำว่าไม่ลองเปิดคอร์ส สอนไล่ตามความฝันบ้าง เป้ขำและเดินตามเส้นทางของเขาต่อไป เป้ไม่ได้ภูมิใจในงานของเขาจนอยากให้ใครเอาเยี่ยงหรอก เป้อยากให้บางส่วนของชิวิตเขาสอนเขาเองเวลาที่เขานั่งลงแล้วกลับมาทบทวนมันต่างหาก ทุกวันนี้เป้ไม่ได้สบายมากกว่าเดิม แต่ก็มีความสุขกับสิ่งเดิม ๆ ได้ และเดินก้าวไปพร้อม ๆ กับมันอย่างราบรื่น





    -4-

    ด้วยอะไรไม่รู้จำไม่ได้ ที่ทำให้ผมได้เบอร์โทรโรงงานที่เป้ทำงานอยู่ ผมโทรไปและเรานัดกันที่หมอชิต ในวันที่คนมหาศาลและไร้เทคโนโลยีเฉกเช่นทุกวันนี้ มันเป็นการนัดที่ห่วยมาก ๆ ของเด็กบ้านนอก 
    แต่เส้นโลกที่เราเดินอยู่ การบรรจบกันของมิตรภาพมันเป็นไปได้ ไม่แน่ใจว่าหากวันนั้นเราหากันไม่เจอ


    วันนี้เราจะเป็นอย่างไร 
    เราจะเข้าใจคำว่ามิตรภาพหรือไม่ 
    ตลอดเกือบยี่สิบปีที่เราคบกัน มันมีอะไรผูกเราไว้เหรอ?
    สนุก เศร้า ยิ้ม หัวเราะ น้ำตา มันยังกรุ่นในความทรงจำ และแวะเวียนมาสร้างเสียงหัวเราะเมื่อเรามาเจอกัน และแลกเปลี่ยนกัน


    เป้เป็นคนไม่กินเหล้า สูบบุหรี่ การพนัน ไม่เหลวไหล และก็ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเหมือนเดิม ความไร้สาระของเป้ก็ยังเป็นอยู่ เหมือนกับพวกเราทุกคนละมั้งที่ยังไม่โตกับเรื่องบางเรื่อง ความบ้าของ"ไอ้บ้า"สอนผมมาตลอดเหมือนกัน 


    ความต่างของฐานะ ความต่างของอาชีพ ความต่างของความคิด ความต่างของทุกสิ่งอย่าง ก็ไม่อาจมาทำลายหรือแยกเพื่อนจากกันได้ 

    เป้ยังขับรถสองชั่วโมงเพื่อมาส่งผมแค่สิบนาทีเสมอ

    เป้ยังยิ้มและมาสวมกอดผมเสมอ 

    กลิ่นสาปเหม็นของเสื้อแจ๊กเก็ตที่เน่ายังติดอยู่ในจมูกผมและความรู้สึกผมเสมอ


    "ไอ้เป้"
    กูรักมึงว่ะ  


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in