เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Stubborn as the wolf (mule)FalseSurtr
amateur - run dry
  • ใครจักไปคาดคิดว่า มือสมัครเล่นประจำนักษัตรวิทยาจักชาญฉลาดขึ้นมาได้ถึงขั้นนี้ภายในราตรีเดียว คลีมองดูเจ้าสุนัขป่าอย่างเคลือบแคลง กระนั้นแล้วความสงสัยปนอัศจรรย์ใจของเขาก็มิได้ถูกไขอย่างง่ายดาย เขาเห็นมันตะปบท่อนไม้ปีนขึ้นที่สูง เป็นหนึ่งในความสามารถที่...น่าประหลาด—สุนัขป่ามันมิปีนไม้กันดอกหนา เว้นเสียแต่ว่าสถานการณ์ฉุกละหุกบังคับให้มันทำ แลครานี้ก็ดูเหมือนจักเป็นดังนั้นอย่างมิมีทางปฏิเสธเสียด้วยซิ 


    “พรานกับแมงป่องมิเคยโคจรมาทัดเทียมกัน ข้าพอเข้าใจได้ในเรื่องปรัมปรา หากแต่ว่าการเป็นอยู่ของดาวเหนือย่อมบอกอะไรได้แน่ แต่ ไม่ซิ อยู่ทางนั้นเองรึ อาฮ้ะ ทราบละ” มันบ่นอยู่กับตนเอง แต่ด้วยดวงตาที่เบนมองมาทางผู้เสพย์เลือดเนื้อ นั่นจึงเป็นเครื่องหมายว่า ‘การบ่นอยู่กับตนเองนั้น’ เป็นสิ่งที่มันต้องการให้คลีทราบแลรู้ด้วย “ขึ้นมาซี ท่านอยากจมน้ำตายหรือไง” ในที่สุดมันก็ผินใบหน้ามาตรงๆ แลเมื่อได้เห็นสีหน้าที่น่าหมั่นเขี้ยวของมันแล้ว เขาก็เกิดนึกยากจะหัวเราะเสียให้ดังก้องภพ—หมายถึงหัวเราะประชดประชัน


    “ไอ้หมานี่ ข้าปีนต้นไม้มิได้”


    “รู้แล้วก็ขึ้นมา—ฮ้ะ?, ท่านว่ากระไรนะ”


    คลีนึกหัวเสีย ก็สิ่งมีชีวิตเฉกเขามันมีความสามารถอย่างเฉพาะเจาะจงนี่ การปีนป่ายเพื่อขึ้นไปทึ้งคอสัตว์บนต้นไม้คงจะเป็นอะไรที่เกินตัวไปหน่อย “จะว่าอย่างไรดี ข้าปีนต้นไม้มิได้ มันสูงเกินไปสำหรับข้า”


    “ท่านก็บินซิ บินโดยที่ใช้ปีกล่องหนของท่านน่ะ”


    “เจ้าโง่ ข้ามิมีปีก มันเรียกว่าเหาะ แลข้าเองก็มีมนตราเฉกนั้นเพียงแค่ตอนที่ข้าทรงพลังเท่านั้นละ มิได้อยู่โดยสัญชาตญาณสัตว์บ่อยๆ ดังเจ้าหรอกนะ” เขาพยายามอธิบาย อย่างน้อยๆ ก็พยายามอย่างมากที่สุดที่จะไม่ให้ตัวเองดูด้อย แต่ถึงจะดูด้อยประสิทธิภาพอย่างไรมันก็เป็นเรื่องที่ปรามมิให้คิดมิได้ เขาเองก็เบื่อหน่ายกับชีวิตแบบนี้เช่นเดียวกัน แลการเป็นสิ่งมีชีวิตอันทรงอำนาจนี้ก็มีเงื่อนไขร้อยพันอย่างจนน่าเหน็ดเหนื่อย 


    เจ้าสุนัขเลิกคิ้วร้องโอ้ “แล้วตอนที่ท่านหิวจนลุกมาจะกัดคอข้าเนี่ยมิใช่สัญชาตญาณหรือ” มันว่าหวนถึงอุบัติเหตุในอดีตโดยเสียงขำขัน 


    คลีมิต่อล้อต่อเถียงอะไรอีก เขาทำเพียงแค่ถอนลมหายใจช้าๆ ก่อนจะเคลื่อนขาแหวกผ่านผิวน้ำไปอีกทางอย่างยากลำบาก แน่นอนว่าปุจฉาต่อมาที่มาจากอีกหนึ่งร่างคือ เฮ้ ท่านจักไปไหนน่ะ ดาวเหนืออยู่ทิศนี้ เราต้องตามมันไป —คลีลอบกลอกดวงตา ปากกระตุกรอยยิ้ม มันก็มิได้รู้สึกเลวหรอกที่เจ้าศิษย์เอก(ที่โคตรเกลียด)โหราศาสตร์อยู่ๆ ก็ตื่นขึ้นมามีความรู้รอบสารทิศเพียงเพราะ..อุทกภัย จนมิสามารถอักอยู่ในปราสาทร้างอับๆ นั่นได้ อย่างไรก็ตาม, การที่เขาหันหลังให้มันแล้วเดินจากมาเช่นนี้ ก็เป็นการห่างเหินเฉพาะกาลเท่านั้นละ 


    เฉพาะกาลจริงๆ นะ 



  • เจ้าสุนัขพอเห็นบุคคลชิดใกล้เดินหายไปทางพงหญ้ารกชัฏ มันก็เกิดหวั่นไหวขึ้นมาว่า หรือคลีจะมีอารมณ์โกรธเกรี้ยวมันจนเก็บไว้มิอยู่เสียแล้ว ข้าโอหังไปหรือ แต่ไม่นะ ก็มิได้มีท่าทีเคืองขุ่นอะไรสักหน่อย หรือเขาคิดจะทิ้งข้ารึ ช่างซิ, อยากรู้ก็แค่ตามไปดู 


    เจ้าหมาพรูลมหายใจทิ้ง ขนมันเริ่มแห้งแล้ว มิอยากลงไปให้ตัวเปียกอีกเลยนา แถมระดับน้ำก็ดูจะเพิ่มสูงขึ้นนิดละกาลใหญ่ๆ  ขณะนี้สูงเพียงเอวแล้ว หากจักให้แปลงกายเป็นหมาป่าอยู่แถวนี้คงไม่ดีเท่าไรนัก, มันกลั้นใจกระโจนลงน้ำ แล้วก้าวขาโปร่งๆ นั่นไปตามทางที่คลีเคยอยู่ แลเมื่อได้แหวกกกหญ้าสูงทัดหัวออกเป็นกอท้ายสุด มันจึงได้เห็นคลียืนอยู่ ณ ที่แห่งนั้น 


    สถานที่ที่โล่ง ไร้ต้นไม้ ไร้สิ่งก่อสร้างที่ถูกทิ้งร้าง เป็นเพียงที่โล่งที่เต็มไปด้วยน้ำแลภาพสะท้อนของแสงจันทร์ คลียืนอยู่ที่นั่นประดุจยืนอยู่ในเกลียวคลื่นของทะเล แสงจันทร์ส่องลงบนเขา ช่างเปี่ยมไปด้วยลาวัณย์ ทั้งยังสง่า เปี่ยมอำนาจ และทรงพลัง


    ภาษาโบราณยากจะเอื้อนเอ่ยคืนสนอง คลีพรั่งพรูมัน ฟังดูเหมือนสวดบางอย่างอย่างโอนอ่อน ราวเทพสลักสวดอ้อนวอนให้แก่โลก ก่อนที่เขาจะเงียบ และรับรู้ถึงการมีอยู่ของอีกหนึ่งบุรุษ 


    มิมีใครกล่าวสิ่งใดเมื่อได้ยินเสียงโฉบอากาศ กระยางตัวสูงเพรียวบินมาจากสุดขอบสายตา ร่อนตัวลงบนพื้นน้ำ ดูเหมือนนกกาแห่งสวรรค์เมื่อมันถูกฉาบให้เรืองรองโดยแสงโสม แพขนบริสุทธิ์ขับความผุดผ่องของกายมัน ล้วนแล้วแต่ค่อยๆ ถูกพับเก็บแนบลำตัวอย่างมีระเบียบ ลำคอระหงพับลงเป็นทรงโค้ง มองดูคล้ายเป็นการสดุดีอย่างนอบน้อมต่อคลี


    —ประเดี๋ยวนะ, อะไรวะเนี่ย นางฟ้ากับสัตว์พิทักษ์หรือ ทำไมต้องมีแค่สองคน(หมายถึงหนึ่งคนกับอีกหนึ่งตัว)นั้นกันนะที่เรืองรอง! ข้าละ สุนัขป่าผู้น่าเวทนา แม้แต่จันทรายังมิรับโอบรึ บ้าจริง


    คลีมองดูปักษา(ประดุจมาจาก)สวรรค์ตัวนั้นย่างขาผอมๆ ของมันไปทางเขา เขางุ้มฝ่ามือลูบไล้ศีรษะของมันอย่างนึกใคร่ ดวงตาทอดมองไปยังร่างกายของมัน 


    โอบอ้อม? เชยชม?


    หรือ.. กักขฬะ?


    นกกระสาที่น่าสงสารรับรู้ได้ถึงความหนักอึ้งกระทั่งหายใจไม่ออก ความตระหนกตกอยู่ทุกที่ มันเงื้อปีกขึ้น ปากพะงาบขัดขืน เฉกเดียวกันกับเรียวขาที่ถูกพับงอเข้า คลีง้างอวัยวะทรงท่อที่พับเข้าหาลำคอระหงนั่นออก ตรึงปีกมันโดยแขนอีกข้าง แลเมื่อได้เห็นปฎิกิริยาความรักชีวิตของสัตว์ในกำมือ เขาก็หลุบดวงตาลงราวกับมิอยาก ย้อนแย้งกันสุดขั้วกับการกระทำของเขาเอง ปักษาซึ่งมาตามเสียงเรียกหมดสิ้นลมที่เล็ดลอดออกจากคอ มันถูกฉีกทิ้งจนร่างขาดออกเป็นสองท่อนอย่างไร้อาการลังเล โลหิตไหลพุ่ง อาบชโลมใบหน้าของเขา แสงโสมทอดลงมา ราวเป็นภาพการหลั่งเลือดของสวรรค์


    ต่อหน้าต่อตาเจ้าสุนัขป่านั่นละ 


    คลีมิแชเชือนสูบกินเลือดเนื้อของนกกระยางจนหมด เมื่อรู้สึกว่าตัวของมันแห้ง เขาจึงดึงอกของมันออก หักกระดูกโครงโยนทิ้งไป ควักเอาอวัยวะภายในของมันออกมาพิศ หัวใจนกกระยาง ตับ ถุงลม เครื่องในอย่างที่เขาไม่กินคือกระเพาะแลลำไส้ สัตว์คืออาหารของเขาจริง แต่อาหารสัตว์มิใช่สิ่งที่เขาปราถนา


    มื้อค่ำของคลียาวนานไปอีกสักพัก จนเมื่อเขามั่นใจว่า ปักษาตนนี้มิมีอะไรเหลืออีกแล้วนอกจากเปลือกโครง เขาจึงปล่อยร่างของมันลงสู่น้ำ ส่งให้มันลอยกลับไปทางที่มันมา อันที่จริง, เขามิใคร่ให้เป็นเฉกนั้นเลยสักนิด แต่ธรรมชาติเลือกสรรค์แล้ว ย่อมต้องปล่อยโชคชะตาไหลพาตามครรลองไป เฉกเช่นซากศพซากนี้ที่เขาจักมิลืมเลือนคุณค่าของมัน--จากเปียกปอนสู่แห้งผาก กระแสน้ำพัดเพหนีออกจากบริเวณของคลี บริเวณนั้นหญ้าแห้งสนิท ใบพลันแห้งเหี่ยว กิ่งไม้เปราะ เป็นอาณาบริเวณแปดก้าวที่ถูกสาดโดยความแห้งแล้ง หยดน้ำเคลื่อนไหลออกจากกายเขา อย่างเดียวกับที่มันไหลออกจากดวงตาของเขาเผาะหนึ่ง


    “ข้าทำอีกแล้ว” คลีดูจะมิมีสติมากนัก ซึ่งเจ้าสุนัขป่าเข้าใจดี มันเคยเห็นคลีทำดังนี้ราวสองสามรอบ ซึ่งดูเหมือนมันจะเป็นทางเลือกที่ไม่ค่อยโสภานัก อุทกภัยค่อยๆ เลือนหายไป คืนทัศนวิสัยแห่งผืนดิน มิมีความชื้นใดเหลืออยู่นอกจากนัยน์นาของผู้ถูกตราหน้าว่าเป็นภัยแห่งความแห้งแล้ง


    “ช่างมันปะไร” เจ้าสุนัขว่า พยายามคลายสภาวะความตึงเครียดนี้ด้วยอารมณ์ขันอันแห้งเหือด มันพินิจดูหยดน้ำบนร่างของตนค่อยๆ ร่วงหล่นหนีหายอย่างนึกอัศจรรย์ พลันก้าวขาไปยกมือขึ้นเกาะเกี่ยวไหล่ของคลีอย่างถือวิสาสะ 


    “กลับกันเถอะ กลับบ้านเรา”


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in