เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
[Fic] Street Love Songs | JackTomGCppzkb
[Fic] Street Love Songs | Track 5.
  • Title : Street Love Songs

    RPS (Dunkrik Cast)

    Paring : Jack L. x Tom GC.

    AU

     

     



     

     

    Track 5.

     

     

    ไม่รู้ว่ามันควรเป็นแบบนี้ไหม

     

    แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว

     

    ทอมมองไปรอบๆห้องธรรมดาห้องหนึ่งบนคอนโดสูง ก้าวตามเข้าห้องของคนที่พึ่งพบกันได้สามวันอย่างระมัดระวัง เหลือบตามองสำรวจห้องช้าๆ

     

    เป็นห้องธรรมดาๆของพนักงานบริษัทที่เรียบง่ายในตัวของมัน มีครัวเล็กๆล้อมด้วยเคาน์เตอร์บาร์ ห้องรับแขก มีประตูแยกสำหรับห้องนอน ทุกอย่างเหมือนในป้ายโฆษณาที่โชว์หราอยู่ด้านหน้าคอนโดแม้กระทั้งแจกันดอกไม้ที่วางอยู่บนโต๊ะกาแฟหน้าโซฟา

     

    น่าแปลกที่คนๆนี้ไม่มีท่าทีจะสนใจอะไรเป็นพิเศษเลย ไม่มีแม้แต่โปสเตอร์ทีมฟุตบอลที่ชอบ หรืออะไรบางอย่างที่บอกตัวตน ที่เห็นแปลกตาก็คงเป็นกรอบรูปคู่ของแจ็คกับใครอีกคนที่ตั้งอยู่ข้างทีวีเครื่องบางและทอมกำลังจ้องมันอย่างฉงนก่อนที่มันจะถูกคว่ำลงโดยเจ้าของห้อง

     

    “แฟนเก่าน่ะ” ดูเหมือนสีหน้าของแขกจะมีแต่เครื่องหมายคำถามเต็มไปหมดเลยทำให้แจ็คต้องตอบออกไปโดยไม่ต้องพูด แต่แค่นั้นดูไม่พอสำหรับทอม

     

    “แล้วคุณเก็บไว้ทำไม” คำถามนั้นเชิญชวนให้ร่างสูงหันกลับมามองคนตัวเล็ก ยกยิ้มให้เล็กน้อย

     

    “หึงเหรอ”

     

    “ครับ”

     

    บางทีแจ็คก็คิดนะว่าเด็กคนนี้จะพูดอะไรตรงกับใจเกินไปหรือเปล่า

     

    “ตอบซะทีสิครับว่าคุณเก็บไว้ทำไม”

     

    ใบหน้าดื้อรั้นบึ้งตึง ดวงตาใต้กรอบแว่นจ้องกรอบรูปที่คว่ำหน้าลงราวกับพยายามจะเผามันด้วยไฟในดวงตา  เหมือนกับแมวที่กำลังขู่บางอย่างที่น่ากลัวแต่สู้ไม่ได้ คิดแบบนั้นก็ทำให้คนมองหลุดหัวเราะออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ พอได้ยินดวงตากลมก็ตวัดมามองต้นเสียงทันใด ทำเอาคนถูกมองรีบแก้ตัวแทบไม่ทัน

     

    “ขอโทษ แค่..คุณน่ารักดี”

     

    พอถูกชมใบหน้าขาวก็ขึ้นสี ได้แต่เฉไฉไปมองทางอื่น มองพนังสีขาว มองไฟสีนวลบนเพดาน มองอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ใบหน้าหล่อเหลาของอีกคนที่ยิ้มกริ่มอยู่ตรงนั้น หันรีหันขวางจนคนมองหัวเราะอ่อนๆ เผลอสบตาทีก็แสร้งหันไปทางอื่นที อดเอ็นดูแล้วเดินไปใกล้จับใบหน้านั้นให้หันมามองตรงๆไม่ได้

     

    ถูกบังคับให้มอง ก็มองตาค้างไม่กระพริบ กลืนน้ำลายดังอึกพร้อมๆกับกำเสื้อตรงอกตัวเองแน่น กวาดตาสอดส่องไปทั่วใบหน้าของอีกคนที่อยู่ใกล้เพียงลมหายใจสัมผัสแล้วกลั้นหายใจ หลุบตามองริมฝีปากที่กำลังขยับก่อนช้อนมองดวงตาสีฟ้ากลมโตตรงหน้าพาลทำให้หัวใจเต้นตุบๆคล้ายจังหวะกลองที่ตีมั่วๆโดยเด็กอนุบาล

     

    “ผมกับเขาตัดขาดกันไปแล้ว ข้าวของของเขาผมก็เอาไปทิ้งหมด...”

     

    “แล้วกรอบรูป..”

     

    “ชู่..ฟังสิครับ”

    ทอมเม้มปากแน่นทันที มองคนตัวสูงก้มลงมองเขาแล้วยิ้มใกล้ๆ

     

    “ผมคิดว่าเอาไปทิ้งหมดแล้ว แต่ผมคงลืมกรอบรูปนี่ไปจนคุณมองมันเหมือนจะขว้างออกไปเนี่ยแหละ”

     

    อายไหมล่ะ ทอมพึ่งรู้ตัวว่าเขาแสดงอาการเป็นเจ้าเข้าเจ้าของอีกคนเกินไปทั้งที่ยังไม่ได้เป็นอะไรกันแท้ๆ เหลือบมองคนตัวสูงกว่าแล้วยิ้มแหย ยิ่งเห็นอีกคนไม่มีท่าทีรำคาญใจแม้แต่นิดก็ยิ่งรู้สึกละอาย จนต้องเอ่ยขอโทษเสียงแผ่ว

     

    “ขอโทษครับ”

     

    “ไม่เป็นไรครับ จริงๆ..ผมยินดีบอกคุณทุกเรื่องนะถ้าคุณถาม ถึงแม้เราจะพึ่งรู้จักกันก็เถอะ”

     

    “อย่าใจดีนักสิครับ”

     

    “ทำไมล่ะครับ”

     

    “แค่นี้ผมก็หลงคุณจะตายอยู่แล้ว”

    ถ้าพูดขออะไรซักอย่างได้จากอีกคน อย่างแรกแจ็คคงขอให้ทอมหยุดพูดอะไรที่ทำให้หัวใจจะวายเสียที

     

    ต่างคนต่างผละออกจากกันเหมือนแม่เหล็กต่างขั้ว ต่างมองไปรอบๆทำเหมือนว่ามีอะไรน่าสนใจไปมากกว่าใบหน้าของอีกคน หากแต่ถ้าตัวของทั้งคู่เป็นแม่เหล็กขั้วเดียวกัน ถ้าแบบนั้นดวงตาทั้งสองคู่ก็เหมือนแม่เหล็กต่างขั้วที่ผละออกจากกันได้ไม่นานก็เหลือบมาสบกันเหมือนตั้งใจ

     

    ทุกอย่างดูขัดๆเขินๆไปหมด คนเป็นแขกเหลือบมองเจ้าห้องสลับกับหันมองโทรทัศน์ที่ไม่ได้ฉายอะไรนอกจากเงาของเขากับโซฟา พลางกำสายกระเป๋าแน่นจนลืมความเจ็บที่ปลายนิ้วก่อนหน้า กลับกันความเจ็บดันเพิ่มพูนในอกที่พองคับรับหัวใจที่ขยายกว้างแทบไม่ไหว ไม่ต่างกันเท่าไหร่กับร่างสูงที่เลือกมองโซฟาของตัวเองที่เห็นทุกวี่วันแบบไม่คุ้นชินก่อนจะเหลือบมองคนตัวเล็กเป็นระยะ เป็นเช่นนั้นอยู่นานจนเริ่มเมื่อยและหัวใจเริ่มรับความประดักประเดิดนี้ไม่ไหว ใครสักคนจึงเริ่มทำลายความเงียบด้วยเสียงกระซิบทีเผลอ

     

    “คุณควรอาบน้ำ เดี๋ยวผมหาเสื้อผ้าเปลี่ยนให้”

     

    เป็นเสียงกระซิบที่ดังมากๆในห้องที่มีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศ ทอมพยักหน้ารับเอ่ยเสียงแผ่วตอบรับในลำคอ “รบกวนด้วยนะครับ”

     

    แขนเล็กค่อยๆขยับกระเป๋ากีตาร์ออกจากบ่า วางมันบนพื้นอย่างระมัดระวังก่อนหันหลัง เป้าหมายคือห้องน้ำที่อยู่ข้างครัวแต่ก่อนที่เท้าจะออกก้าวมือใหญ่ก็รั้งไว้เสียก่อน ใบหน้าขาวที่ยังมีรอยแดงจางๆหันกลับมามองด้วยแววตาแสดงความฉงน เจ้าของมือแลบลิ้นเลียริมฝีปากแห้งปากใช้ความคิด ถอนหายใจเบาๆเมื่อแน่ใจ เอียงศีรษะไปอีกทางที่มีประตูสีขาวอยู่ตรงนั้น

     

    “ไปอาบในห้องสิ ผมจะได้หยิบเสื้อผ้าให้ได้ถนัด”

    .

    .

    .

    “เสื้อผ้ามันใหญ่กว่าตัวคุณนิดหน่อยคงไม่เป็นไรใช่ไหมครับ” แจ็คจัดการพาอีกคนเข้าห้องนอนพร้อมคู่หูของเจ้าตัวก่อนหันไปเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นให้พร้อมกับชั้นในที่ยังอยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่ถูกแกะไปแล้วและมีที่ว่างเหลือจนสามารถใส่เพิ่มได้อีกสองสามตัว “ส่วนชั้นใน..ตัวนี้ผมยังไม่ได้ใส่ ไม่ต้องห่วง”

     

    ทอมพยักหน้าช้าๆ รับของพวกนั้นมากอดไว้แนบอกเหลือบมองชั้นในสีดำที่อยู่ก้นถุงแล้วกลืนน้ำลาย เผลอคิดอะไรอกุศลอย่างภาพที่อีกคนใส่ชั้นในแบบเดียวกันอยู่ใต้ร่มผ้ารัดรูปนั่น เหลือบมองคนตัวสูงที่มีริ้วรอยแดงพาดผ่านกลางใบหน้าแล้วในใจก็สงสัยว่าแจ็คคิดเหมือนกันรึเปล่า และนั่นเป็นคำถามเดียวกันกับที่คนตัวสูงถามตัวเอง

    .

    .

    เก้ๆกังๆกันอยู่นานทอมก็ตัดสินใจเดินเข้าห้องน้ำทิ้งเจ้าของห้องทิ้งตัวนอนรอบนเตียง แจ็คก็ได้แต่สะบัดไล่ความคิดติดเรทก่อนหน้า แต่เชื่อเถอะว่ามันไม่ช่วย ภาพเนื้อตัวเปลือยเปล่าที่มีเพียงชั้นในสีเข้มตัวเดียวปกปิดยังคอยวนเวียนในหัวพาลทำหัวใจสั่นไหวจนสะเทือนไปปลุกอะไรที่หลับอยู่ใต้กางเกงรัดรูปตัวเก่งแบบไม่ทันตั้งตัวจนเผลอสบถ

     

    “เวรเอ๊ย”

     

    ยิ่งได้ยินเสียงน้ำไหลดังมาจากหลังประตูที่อีกคนอยู่จินตนาการยิ่งเตลิด หลับตานึกภาพอื่นก็ไม่ช่วย ยิ่งทำให้เห็นภาพที่วาดชัดขึ้นอย่างช่วยไม่ได้

     

    ให้ตายสิ นี่มันแย่แล้ว

    .

    .

    .

    กลิ่นหอมอ่อนๆของสบู่ที่เขาใช้โชยมาแตะจมูกพร้อมๆกับเสียงเปิดประตู แจ็คหันไปมองก่อนที่ทั้งห้องจะคลุ้งไปด้วยกลิ่นหอมทันทีที่ร่างเล็กปรากฏตัวด้วยเสื้อผ้าของเขาที่อยู่บนร่าง

     

    เสื้อยืดทีเขาใส่แล้วพอดีตัวกลับดูหลวมโคร่งเมื่ออยู่บนตัวอีกคน กางเกงขาสั้นที่เขาใส่แล้วสั้นเต่อจนสามารถเห็นอะไรต่ออะไรกลับยาวปิดขาอ่อนเมื่ออีกคนใส่ แล้ว...นี่มันหายนะ คนตัวเล็กที่ทำอะไรไม่ถูกอยู่หน้าประตูห้องน้ำทำให้เขาอยากจะบ้าตาย

     

    “เอ่อ..” เมื่อรู้สึกว่าตัวเองตกเป็นเป้าสายตาให้ใครอีกคนมอง ทอมก็เริ่มส่งเสียงสติให้ดวงตาคู่นั้นหันกลับมามองที่หน้าของเขาก่อนเอ่ยถามอย่างขัดๆเขินๆ “ให้ผมนอนตรงไหนเหรอครับ”

     

    แจ็คเหลือบมองคนตัวเล็กนิ่งคิดอีกครั้งแล้ววางมือบนเตียง

     

    “นอนบนเตียง..” เขาเว้นช่วงก่อนยกยิ้ม “..กับผม”

    .

    .

    .

    ทอมไม่รู้มาก่อนว่าประโยคนั้นของอีกคนหมายความว่านอนแบบไหนแต่เขาพอใจที่จะนอนแบบนี้กับชายคนนี้

     

     

    หลังจากสิ้นเสียงทุ้มติดสำเนียงพูดแบบแปล่ง ร่างเล็กวางเสื้อผ้าของเขาลงบนพื้น เดินเข้าไปหาคนตัวสูงทีละก้าวด้วยใจที่เต้นรัว เมื่อชิดใกล้ แขนแกร่งโอบรอบเอวรั้งเข้าไปใกล้ แทรกกลางระหว่างขาเรียวยาว ทอมก้มมองใบหน้าเรียวได้รูปเป็นจังหวะเดียวกับที่แจ็คเงยหน้าขึ้นสบตาสีเดียวกันในระยะล่อแหลม

     

    “คุณบอกว่านอนกับคุณ..ใช่นอนแบบเดียวกับที่ผมคิดไหม” คนเด็กกว่าถามเสียงสั่นเพราะมือกร้านของอีกคนกำลังลูบไล้ตัวเขาผ่านผิวหยาบของเสื้อ

     

    “คุณคิดอะไรล่ะ” นิ้วเรียวสอดเข้าไปใต้เสื้อค่อยๆเลิกขึ้นสัมผัสผิวเนียน วนนิ้วไปมาอยู่บนร่องสันหลังรอคอยคำตอบ ทั้งยังเร่งเร้าด้วยสายตาอ้อนวอน

     

    หากแต่ความอดทนใกล้หมดลง แจ็ดขยับขึ้นไปบนเตียงมากขึ้นพร้อมรั้งร่างเล็กขึ้นมาคร่อมตักของเขาไว้ แน่นอนเด็กหนุ่มทำตามอย่างว่าง่ายไม่อิดออด กลับกันยิ่งทำแบบนั้นความต้องการก็ยิ่งเห็นชัด

     

    มือเล็กยกขึ้นมาวางบนบ่ากว้างขณะเดียวกันร่างเล็กก้มลงจุมพิตแก้มสากจากตอหนวดที่เริ่มขึ้นแผ่วเบาก่อนค่อยๆจูบไปตามสันกรามไล้ไปจนถึงติ่งหู

     

    “คุณคิดว่าเราคิดสกปรกกับคนที่ชอบกี่เรื่องกัน” เขากระซิบถามก่อนเลื่อนตัวกลับมายืดตัวตรงมองหน้าขาวที่ขึ้นริ้วแดงของอีกคน สบตาก่อนจะที่ริมฝีปากจะเปลี่ยนขั้วแม่เหล็กเป็นบวกและลบ

     

     

    “งั้นเราก็คิดเหมือนกัน”

    .

    .

    .

    บรรยากาศภายในห้องรายล้อมไปด้วยความเย็นของเครื่องปรับอากาศหากแต่อุณหภูมิบนเตียงกลับต่างออกไป เสียงเอี๊ยดอ๊าดของเตียงที่ขยับไปมาตามแรงเคลื่อนไหวของคนสองคนที่กอดตะกองกันบนเตียงดังเคล้าเสียงหอบครางแผ่วเบาของคนที่อยู่ใต้ร่าง หากแต่ยังดังไม่พอกลบเสียงหัวใจที่เต้นดังจนสมองเบลอ ภาพด้านหน้าขมุกขมัวพร่ามัวบดบังไปด้วยหมอกของอารมณ์  สิ่งที่เห็นชัดคือริมฝีปากสีสดที่ฉ่ำวาวไปด้วยของเหลวสีใสของอีกคนปะปนกันเพราะจูบอุ่น

     

    พวกเขาสร้างความวาบหวามพร้อมทั้งความเสียวซ่านให้แก่กันด้วยร่างกายที่เชื่อมต่อกันเป็นหนึ่งเดียวโดยไม่มีอะไรขวางกั้น แนบชิดส่งผ่านความร้อนผ่านผิวกายและการเคลื่อนไหวที่กระชั้นถี่สลับนิ่มนวลคล้ายเกลียวคลื่นตอนเช้ามืด เชื่องช้าทว่าหนักแน่นจนทำให้ร่างทั้งปลิวไปตามแรง

     

    คำพูดมากมายหลุดออกมาจากเรียวปากสีสวยแต่ทว่ามีแค่คำเดียวที่คนตัวสูงพูดออกมาให้ร่างเล็กได้ยินแล้วโฉบเอาทุกอย่างขึ้นฝั่งแล้วแตกกระจายเป็นฟองคลื่นค้างติดชายหาด แค่..

     

    “ทอม”

     

    เท่านั้น...

     

     


     

     

    Talk : ได้กันแล้วววว(เว้ย!!!) เร็วไปไหม (สำหรับเราเร็วมาก) ฮื่อออออออ ยอมรับว่ารีบค่ะ คืออยากให้เขาได้กัน แล้วก็กลัวถ้ายืดเรื่องเราจะไปไกลกว่านี้ เอาจริงๆนี่ก็เริ่มนอกเรื่องแล้ว แงงงงงงงงงงงง

    ไม่รู้ว่าจะจบตอนไหน มาดูไปพร้อมกันนะคะ อยู่ด้วยกันนะอย่าพึ่งเบื่อกันเด้ออ

    เช่นเคยครับ ติชมได้ที่ #lovesongsJLTGCC ห้ามด่า อยากด่าเมนชั่นด่าได้ที่ทวิตนี้ @PPZKB

    ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านเด้อค่ะ

    -รักส์-

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in