เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
maaneewaan
เราอายุ 21
  • ตอนนี้เรากำลังใช้ชีวิตปีที่ 21 อยู่ 
    แบบไม่มีคู่มือ 

    เราค่อนข้างใช้ชีวิตแบบเอาแต่ใจตัวเอง ยิ่งเจอกับอิสระที่พ่อและแม่มอบให้เราก็ยิ่งร่าเริงกับสิ่งที่คิดว่าตัวเองชอบและพยายามปฏิเสธภาระหน้าที่บางอย่าง เราสร้างเหตุผลมากมายขึ้นในใจเพื่อบอกตัวเองว่าเราไม่ได้ละเลยหน้าที่นะ เราพยายามเต็มที่แล้วแต่มันไปไม่ถึงเพราะมีคนที่เหมาะสมเขาไปยืนตรงนั้นเต็มหมดแล้ว 

    ตอนนี้ เราตอบตัวเองไม่ได้ว่าอยากเป็นอะไร อยากทำงานอะไร อยากยืนอยู่ตรงไหน หรืออยากเรียนต่อไหม เราตอบตัวเองไม่ได้ ตอบไม่ได้สักคำถามเดียว มันค่อนข้างทรมานนะ

    เราไม่รู้ว่าคนอื่น ๆ กำลังใช้ชีวิตปีที่ 21 กันยังไงบ้าง แต่เท่าที่สังเกตด้วยตาเปล่าเรารู้สึกได้ว่าทุกคนรอบตัวดูมีอนาคตที่ดีกว่าเราทั้งนั้นเลยอะ เราเป็นเด็กคณะวิทยาศาสตร์ที่เจ๋อไปสมัครฝึกงานตำแหน่งพิสูจน์อักษรแล้วก็อกหัก ( มันรู้สึกจุกที่อกจริง ๆ นะตอนเปิดอ่านอีเมลที่เขาส่งมาปฏิเสธเรา ) แต่ตอนนี้เราไม่เป็นไรแล้วเพราะเราเพิ่งอ่านเจอข้อความนึงจากหนังสือ เขาบอกว่า “โชคดีที่วัยนั้นเป็นช่วงเวลาแห่งการแสวงหาและถูกปฏิเสธ” วัยนั้นที่ผู้เขียนพูดถึงก็คือวัยนี้ของเรานี่แหละ เขาพูดถึงตัวเขาเองตอนเรียนมหาวิทยาลัย 

    เท่าที่ผ่านมา
    เราเดินทางผ่านเวลามาแบบที่จำรายละเอียดอะไรได้ไม่มากนัก คงเป็นเพราะความจำแย่แถมยังขี้เกียจจดอีกด้วย แต่ส่วนตัวแล้วเราชอบทุกประสบการณ์ที่ทิ้งหลักฐานเป็นสิ่งชี้ให้เห็นว่าเคยผ่านเหตุการณ์นั้นมาแล้วจริง ๆ ยกตัวอย่างเช่น ตั๋วหนัง บัตรคอนเสิร์ต สายรัดข้อมือจากงานคอนเสิร์ต อัลบั้มของศิลปินที่ชอบ แผ่นหนัง ตั้วรถเมล์ รูปถ่ายที่อัดออกมาแปะผนังห้อง ฯลฯ

    ภาพความทรงจำที่ชัด ๆ ส่วนใหญ่ก็เป็นภาพตอนที่ตัวเรายืนอยู่หน้าเวทีคอนเสิร์ตที่ไหนสักแห่ง 

    เราชอบดนตรีจนรู้สึกเสียใจที่ตัวเองเล่นดนตรีไม่เป็นแถมไม่พยายามขวนขวายสักอย่าง ถ้าตอนอายุ 15 เรารู้ล่วงหน้าว่าตอนอายุ 20 เราจะชอบมันขนาดนี้เราจะผลักดันตัวเองไปในอีกทิศทางนึง เราจะพาตัวเองไปเรียนดนตรี พอสอบเข้ามหาวิทยาลัยเราก็จะพาตัวเองไปเจออะไรที่คล้าย ๆ กับแนวทางที่เราอยากไป

    ที่จริงจะเรียกว่าอยากไปก็คงไม่ได้มั้ง เพราะไม่รู้ว่าที่บอกว่าอยากเพราะอยากจริง ๆ รึเพราะว่าต้องการปัดความรับผิดชอบต่อปัจจุบัน พยายามคิดข้ออ้างต่าง ๆ นานาเพื่อหนีไปจากตรงนี้มากกว่า

    เอาเข้าจริงพอทบทวนดี ๆ เราถึงได้รู้ว่าตัวเองใช้ชีวิตแบบเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางมาก มากชนิดที่ว่าเลือกเสพแค่ที่ชอบ เลือกอยู่แต่ในมุมที่อยู่แล้วชอบตัวเอง ชอบตอนทีได้อุดอู้อยู่ในมุมเดิม ๆ ของตัวเอง 
    แล้วคนส่วนใหญ่เขาไม่ได้ใช้ชีวิตแบบนี้หรอ เขาไม่ได้เลือกเสพแค่ที่ชอบ เลือกอยู่แค่ที่ที่ตัวเองอยากอยู่หรอกหรอ

    ไม่ เราไม่ได้เถียง เราแค่ถาม

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in