เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
UwULoading 48%
the fairy in flower [JIKOOK]






  • วันหยุดแสนเอื่อยเฉื่อย


    ก้อนหินเล็ก ๆ ถูกเก็บมาวางเรียงกันก้อนแล้วก้อนเล่า เศษดิน และเศษหญ้าวางเรียงรายอยู่บนพื้นไม้ เด็กหนุ่มในชุดไปรเวทนอนตะแคงเอาแก้มแนบกับพื้น ดวงตากลมโตทอดสายตาไปยังพุ่มไม้สั่นไหว มันสั่นอยู่แบบนั้นสักพักก่อนจะมีลูกแมวที่น่าจะแอบหนีออกมาเที่ยวเล่นเยื้องย่างออกมาแล้วกระโดดหายเข้าไปในพุ่มไม้อีกครั้ง

    จองกุกหลับตาลง เขาคิดว่าจะพักสายตาสักหน่อยก่อนจะออกไปหาอะไรสนุก ๆ ทำให้หายเบื่อ สายลมพัดผ่านมาพร้อมกลิ่นหอมของดอกไม้ แว่วเสียงจักจั่นจากที่ไกล ๆ ช่วยกล่อมให้เด็กหนุ่มเข้าสู่นิทรา หากเป็นคนอื่นอาจจะลุกขึ้นมาก่นด่าสัตว์ตัวเล็ก ๆ เหล่านั้นเพราะเสียงที่น่ารำคาญของมัน แต่ไม่ใช่กับคนที่นอนหลับทันทีที่เปลือกตาปิดลง เขาชอบฤดูร้อน เขาชื่นชอบการได้เล่นน้ำเย็น ๆ ท่ามกลางบรรยากาศสีเขียวชอุ่ม ผลไม้หลากหลายสายพันธุ์ที่ออกดอกออกผล ท้องฟ้าใสที่ไม่มีเมฆบดบัง และการพักผ่อนที่ไม่มีที่สิ้นสุดในช่วงปิดเทอม -- นั่นแหละคือสิ่งที่เขาชอบที่สุดในหน้าร้อน




    ------------------------------




    สัมผัสแผ่วเบาที่ปลายจมูกปลุกให้เขาตื่นขึ้น ปีกสีขาวบอบบางขยับอยู่ตรงหน้าก่อนจะบินออกไปไกลแสนไกล

    จองกุกยกมือขึ้นเช็ดเหงื่อที่ข้างขมับ ถึงจะมีลมพัดอยู่ตลอดเวลาแต่มันก็ยังร้อนจนทำให้เสื้อยืดของเขาชื้นเหงื่อได้ แม้ว่าเขาจะรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองท่องไปในนิทรานานจนเด็กคนหนึ่งเรียนจบชั้นประถมแต่ความจริงมันก็แค่หนึ่งชั่วโมงที่ผ่านไป ลมพัดเอาเศษดินและหญ้าที่เขาเด็ดออกมาเล่นตกไปที่ไหนสักที่ เหลือไว้เพียงก้อนหินเล็ก ๆ ที่ยังอยู่ที่เดิม จองกุกตัดสินใจเก็บก้อนหินพวกนั้นไปวางไว้ที่เดิมของมันเพื่อเขาจะไม่ต้องกังวลว่าจะโดนแม่ดุตอนที่ตัวเองกลับมาจากการเล่นสนุก

    ผีเสื้อสีขาวตัวเดิม -- เขาเองก็พูดได้ไม่เต็มปากนักว่ามันใช่ตัวเดิมหรือเปล่าเพราะพวกผีเสื้อก็หน้าตาเหมือน ๆ กันหมด

    จองกุกมองตามการขยับปีกของสัตว์ตัวจ้อย มันบินวนรอบ ๆ ดอกไม้สีเหลืองที่เขาจำชื่อไม่ได้อยู่สักพักแล้วบินไปใกล้บ่อปลาคาร์ฟข้าง ๆ กัน จองกุกเท้าแขนลงกับพื้น วางคางของตัวเองไว้กับฝ่ามือ ดวงตาจดจ้องอยู่ที่ผีเสื้อบนดอกไม้ ตอนเขาอายุได้สี่ขวบเขาเคยมีความฝันว่าอยากจะเป็นผีเสื้อราตรีตัวใหญ่ ในตอนนั้นเด็กชายจอนคิดว่าการได้บินฉวัดเฉวียนไปท่ามกลางรัตติกาลแสนมืดมนเป็นอะไรที่เจ๋งสุด ๆ แล้ว จนเขาได้รู้จักเหยี่ยวภูเขา เสือดำ และสัตว์ต่าง ๆ จากสารคดีและสวนสัตว์ผีเสื้อราตรีก็ตกอันดับไป

    ดูเหมือนว่าผีเสื้อตัวจ้อยจะรู้ตัวว่าถูกแอบมองอยู่ มันขยับปีกเบา ๆ ราวกับจะหยอกล้อสายลม หากไม่ได้คิดไปเองจองกุกคิดว่าเขาได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ จากที่ไหนสักที่

    จองกุกเลิกสนใจผีเสื้อตัวนั้นแล้วกลับมานอนหงาย เขาหนุนแขนตัวเองแทนหมอนก่อนจะยกขาขึ้นมาไขว้ทับกันไว้ -- มันติดเป็นนิสัย แม่เคยบ่นเขาเป็นหมีกินผึ้งตอนที่เผลอไปทำท่าทางแบบนี้ที่บ้านพักตากอากาศของเพื่อนแม่ตอนปิดเทอมคราวที่แล้ว แม่บอกว่ามันไม่เหมาะ แต่เขาว่ามันก็ไม่ได้เสียหายอะไรในเมื่อเท้าเขายังไม่ได้ไปแกว่งโดนหน้าใครเข้า


    จองกุกคิดว่าผีเสื้อตัวน้อยน่าจะต้องการเพื่อนเล่น

    รูปร่างปราดเปรียวงดงามของมันบินวนอยู่รอบ ๆ ตัวเขา หยุดตอมตรงนั้นทีตรงนี้ทีอย่างร่าเริง จองกุกได้ยินเสียงหัวเราะอีกแล้ว ดังอยู่ข้าง ๆ กายเขา หากอิงตามความเป็นจริงเขาจะต้องหงุดหงิดที่มีคนมาหัวเราะใส่ใกล้หูเขาขนาดนี้ -- แต่ทว่าเสียงนั้นกลับแผ่วเบาราวเสียงกระซิบ

    "ว่าไงเจ้าตัวน้อย"

    จองกุกกระซิบ -- เบาจนแทบไม่ได้ยินเสียง

    "อยากพาฉันไปไหนไหม ที่ ๆ ไม่น่าเบื่อ"

    ราวกับผีเสื้อตัวจ้อยฟังภาษามนุษย์ออก มันบินมาหยุดอยู่ที่หัวเข่าของเด็กหนุ่ม ขยับปีกแผ่วเบาสองสามครั้งเป็นการตอบรับก่อนจะโผบิน ล่องลอยไปตามสายลม จองกุกลุกขึ้นวิ่งตามไปอย่างไม่ลังเล เขาไม่แม้แต่จะหยุดใส่รองเท้าด้วยซ้ำ




    ------------------------------




    ผีเสื้อตัวนั้นพาเขาเข้ามาในป่า ลัดเลาะมาตามธารน้ำ อยู่ห่างไกลจากสายตาผู้คน


    ทุ่งดอกไม้กว้างไกลสุดลูกหูลูกตาปรากฏอยู่ตรงหน้า ดอกไม้นานาพันธุ์พากันส่งกลิ่นหอม หมู่มวลผีเสื้อบินวนอยู่ใต้ผืนฟ้าก่อนจะค่อย ๆ หายไป รวมทั้งผีเสื้อสีขาวตัวนั้นด้วย

    จองกุกทิ้งตัวลงบนผืนหญ้า เขาเลือกที่ ๆ โล่งเตียนที่สุดเพื่อจะได้ไม่ต้องนอนทับดอกไม้แสนสวยให้รู้สึกผิด จองกุกมีความฝัน เขาอยากอยู่ท่ามกลางกองลูกกวาด ขนมหวานและช็อคโกแลต แต่การที่ได้นอนอยู่ท่ามกลางทุ่งดอกไม้ก็ไม่เลวนัก -- กลับกัน มันดีมากทีเดียว




    แน่นอนว่าจองกุกกำลังฝัน ดวงตาของเขาปิดสนิท ร่างกายไม่ขยับไหวติง แต่เขากลับรู้สึกได้ถึงทุกอย่างรอบตัว ทั้งสัมผัสแผ่วเบาที่ศีรษะ บทเพลงแสนหวานที่ถูกขับร้องโดยใครสักคน กลิ่นหอมของดอกไม้ มวลความสุขที่หมุนวนอยู่ในท้องของเขา จองกุกมีความสุขมากเหลือเกิน ราวกับว่าทั้งชีวิตนี้เขาไม่เคยรู้จักความทุกข์ ไม่แม้แต่จะใกล้เคียง

    บทเพลงไพเราะยังคงดังก้องอยู่อย่างนั้น แม้ว่าตอนนี้เขาจะตื่นจากนิทราแล้วก็ตามที

    ดวงตากลมโตจ้องมองความงดงามตรงหน้า จองกุกไม่กะพริบตาด้วยซ้ำ เขาต้องการเก็บเกี่ยวภาพฝันนี้ไว้ให้มากที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ ก่อนที่มันจะหายไป แต่ทว่าผ่านมาเนิ่นนานจนตาของเขาเริ่มเจ็บคนตรงหน้าก็ไม่ได้หายไปไหน นัยน์ตาสีฟ้าหม่นมองกลับมาพร้อมกับรอยยิ้ม เรือนผมสีบลอนด์หยักศก ผิวกายขาวนวล ปีกสีฟ้าใสขยับแผ่วเบาก่อนจะมีประกายสีทองล่องลอยออกมาจากการกระทำนั้น

    งดงาม -- งดงามดังภาพวาด

    เด็กหนุ่มยกมือขึ้นไปแตะใบหน้างดงามนั้นด้วยความอยากรู้อยากเห็นก่อนจะถดตัวหนีเมื่อใครคนนั้นขยับเข้ามาใกล้ แม้ว่าจองกุกจะไม่ได้กลัวชายตรงหน้าแต่เขาก็ไม่ใช่ผู้วิเศษที่จะเห็นนางฟ้าเป็นเรื่องปกติธรรมดา รอยยิ้มใจดียังคงอยู่ แววตาสดใสนั้นก็ไม่ได้หายไปไหน แต่เด็กหนุ่มกลับหวาดกลัวการทำความรู้จักกับคนตรงหน้าเหลือเกิน

    "หวัดดี"

    ใครคนนั้นเอ่ยขึ้น แม้แต่น้ำเสียงยังเจือไปด้วยความบริสุทธิ์และอ่อนหวาน

    "หว-หวัดดีฮะ"

    จองกุกตอบกลับไปแม้ไม่ได้สบตา เขารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะจับไข้เพราะใบหน้าของเขาร้อนเหมือนกาต้มน้ำที่กำลังเดือด ชายคนนั้นจ้องมองเขาไม่วางตา เป็นเหตุของความรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ และอาการสั่นที่ควบคุมไม่ได้นี้

    "ชอบไหม"

    "ฮะ? ช-ชอบ..ชอบอะไรฮะ"

    สาบานว่าจองกุกพยายามห้ามเสียงตัวเองไม่ให้สั่นแล้ว แต่ในเมื่อชายคนนั้นยังยิ้มให้เขาอยู่แล้วถามด้วยน้ำเสียงแบบนั้นเป็นใครก็ต้องเขวบ้างแหละน่า

    "ชอบที่นี่ เธอชอบที่นี่ไหม"

    เขาว่าพร้อมกับมองไปรอบ ๆ แววตาเต็มไปด้วยความสุขจนจองกุกเผลอมองตาม รอบ ๆ ตัวเขามีแต่ต้นไม้ ต้นไม้ ต้นไม้ และดอกไม้ มีหญ้าที่แสนอ่อนนุ่มไม่เหมือนที่อื่น ผีเสื้อนับร้อยที่บินออกมาต้อนรับตอนนี้ไปแอบซ่อนอยู่ที่ไหนเขาเองก็ไม่รู้ ที่นี่ไม่มีอะไรเลยนอกจากพืชพรรณธรรมชาติและนางฟ้า

    ไม่มีสิ่งใดเลยที่เขาเคยชอบ

    แต่กระนั้นจองกุกก็ยิ้มพร้อมกับพยักหน้าแทนการตอบคำถาม




    จำไม่ได้แล้วว่าเขาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่มานานเท่าไหร่ สิ่งที่เขาทำคือการแค่นอนนิ่ง ๆ แล้วถามคำถามคนข้างตัวอย่างไม่รู้จบ

    "อยู่ที่นี่ตลอดเลยหรอฮะ"

    "อืม เกิดที่นี่น่ะ"

    "แล้วปกติคุณได้ออกไปเที่ยวเล่นทุกวันหรือเปล่าฮะ"

    "ฉันไปแค่วันที่ฉันอยากจะไปเท่านั้นแหละ"

    "คุณพาทุกคนมาที่นี่เลยหรอฮะ พวกเขาชอบไหม ผมว่าต้องถูกใจมากแน่ ๆ เพราะมันสวยมาก ตอนแรกผมก็ไม่คิดว่าแค่ดอกไม้กับนางฟ้าจะทำให้ผมหายเบื่อหรอก แต่พอได้อยู่กับคุณนาน ๆ ผมก็ลืมความรู้สึกนั้นไปเลย จริง ๆ นะฮะ ผมน่ะชอ--"

    "มีแค่เธอที่ฉันไปหา"

    จองกุกเงียบไป

    "มีแค่เธอคนเดียวที่ได้เห็น มีแค่เธอคนเดียวที่ได้เข้ามา"

    เขาพูดด้วยน้ำเสียงเนิบนาบเหมือนกำลังเล่านิทานกล่อมเด็ก นัยน์ตาสีฟ้าหม่นมีประกายบางอย่างอยู่ในนั้น มันสุกสกาว งดงามยิ่งกว่าผืนฟ้ายามรัตติกาลที่มีดวงดาราลอยประดับ จองกุกหันกลับมาจ้องมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของชายคนนั้นด้วยความหลงใหล เขาคิดว่าเขาคงจะหลงรักความงดงามที่จับต้องไม่ได้นี้เข้าให้แล้ว

    "คุณ.. ไม่สิ -- เรายังไม่ได้แนะนำตัวกันเลย"

    ชายผมบลอนด์ส่งเสียงร้องออกมาเมื่อเขานึกขึ้นได้ เขาหยัดตัวขึ้นนั่งแล้วก้มลงมาสบตาเด็กหนุ่มที่ยังคงนอนอยู่ในท่าเดิม

    "จีมิน" ว่าพร้อมกับค้อมศีรษะลงเล็กน้อยเป็นการทักทาย

    "ผมจอน จองกุกฮะ ปีนี้อายุสิบสี่"

    จีมินหัวเราะเบา ๆ กับการแนะนำชื่อที่ดูเป็นทางการไปสักหน่อยของเด็กตรงหน้า จองกุกยังคงเขินอายกับสายตาที่เต็มไปด้วยความเอ็นดูเขาของชายหนุ่ม กระนั้นฝ่ามือเล็ก ๆ ก็ยังยื่นออกมาคล้ายกับจะเป็นการทำความรู้จัก (อย่างเป็นทางการ)

    "แบบตะวันตกหรอ" จีมินว่าพลางกลั้วหัวเราะ

    จองกุกแทบจะลมจับตอนที่นางฟ้าตรงหน้าประทับริมฝีปากลงมาบนหลังมือของเขาแผ่วเบา ใบหน้างดงามยังคงส่งยิ้มละไมมาให้อย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว จีมินไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังทำตัวร้ายกาจใส่เด็กที่เสียงยังไม่แตกหนุ่มเสียด้วยซ้ำ

    "การทักทายในแบบของฉันน่ะ"




    ------------------------------




    จีมินมาส่งเขาถึงบ้านด้วยการบิน ใช่ -- จองกุกเดินตามผีเสื้อตัวจ้อยมาจนถึงหน้าบ้าน ยังไม่ทันจะกล่าวลาเขาก็หายไป

    "ผมจะได้เจอคุณอีกไหม"

    "ได้เสมอ เมื่อเธอต้องการ"

    "แล้วผมจะมาที่นี่ได้ยังไง มันไกลมาก ผมจำทางไม่ได้ด้วยซ้ำ"

    "นึกถึงฉันสิ แค่นึกถึงฉัน"

    จีมินขยับเข้าไปใกล้เด็กหนุ่ม สบดวงตาที่เต็มไปด้วยความอ่อนเดียงสาก่อนจะพูดออกมาอีกครั้ง

    "แค่นึกถึงฉันเท่านั้น เธอก็จะมาถึงที่นี่จองกุก"

    แก้มกลมเจือสีระเรื่ออีกครั้งเมื่อนึกถึงคำพูดของใครอีกคน จองกุกกวักน้ำใส่ตัวเองอย่างเร่งรีบเพื่อหวังจะดับอาการเห่อร้อนบนใบหน้า




    ------------------------------




    พายแอปเปิ้ลถาดใหญ่ถูกเก็บไว้ในตะกร้าสานอย่างดี น้ำพั้นซ์สีสวยฝีมือจองกุกบรรจุอยู่ในขวดแก้วใส เด็กหนุ่มค่อย ๆ บรรจงเก็บของลงตะกร้าสานของตัวเองอย่างระมัดระวัง วันนี้เขาตั้งใจจะเอาขนมไปด้วยเพราะเขาจะไม่ออกมาจากที่นั่นจนกว่าจะเย็น และเพราะว่าที่นั่นมีแค่ต้นไม้ ต้นไม้ ต้นไม้ และดอกไม้เท่านั้นเขาอาจจะหิวตายได้ นิ้วชี้เล็ก ๆ ยกขึ้นมาเช็กความเรียบร้อยของเสบียงในวันนี้ เขาเอื้อมไปหยิบส้อมมาสองคันก่อนเจ้าตัวจะรีบรุดเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเมื่อเตรียมของเรียบร้อยแล้ว

    เพราะวันนี้ร้อนกว่าเมื่อวานมากจองกุกเลยเลือกใส่เชิ้ตสีขาวผ้าลินินตัวเก่งของตัวเองออกมากับกางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน เขาสวมหมวกสานปีกกว้างที่แม่บังคับให้ใส่ก่อนจะเดินออกมาจากบ้าน เรียวแขนเล็กมีตะกร้าสานที่ถูกคลุมด้วยผ้าสีขาวแต่งขอบด้วยลายดอกไม้เล็ก ๆ รอบผืนห้อยอยู่ จองกุกเดินไปเรื่อย ๆ ตามธารน้ำ เป็นทางเข้าไปในป่า -- แม่เคยบอกว่าอย่างนั้น

    ผ่านมาสักพักจองกุกก็ยังหาทางเข้าไปในลานดอกไม้ไม่พบ เขาไม่แน่ใจว่าจะต้องเลี้ยวไปทางซ้ายหรือขวาเพราะเมื่อวานเขามัวแต่จ้องผีเสื้อตัวนั้นแล้ววิ่งตามมา

    "แค่นึกถึงฉันเท่านั้น เธอก็จะมาถึงที่นี่จองกุก"

    จองกุกหลับตาลงนึกถึงใบหน้าของเจ้าของคำพูดนั้น เพียงเสี้ยววินาทีตัวของเขาก็เหมือนถูกอุ้มลอยไปที่ไหนสักที่ พลันดวงตากลมเปิดขึ้นเจ้าของรอยยิ้มละไมก็ยืนอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว

    "เร็วกว่าเดินตามธารน้ำเข้ามาเยอะเลยใช่ไหมล่ะ"

    จองกุกนึกอยากจะฟาดแขนนางฟ้าตรงหน้าสักทีตอนที่จีมินพูดพร้อมกับยิ้มหน้าระรื่นไปด้วย จองกุกเดินตามจีมินไปที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง มันแผ่กิ่งก้านออกมาจนทำให้พื้นที่ตรงนี้ร่มรื่น เขาหลับตาสูดอากาศเข้าปอดแบบที่พ่อสอนตอนเขาอายุหกขวบ ไม่นานเสียงหัวเราะเบา ๆ ก็ดังขึ้นอีกครั้ง

    "อยากให้คุณอารมณ์ไม่ดีบ้างจัง"

    "เคยเห็นนางฟ้าอารมณ์ร้ายในนิทานไหมล่ะเจ้าหนู"

    "แต่คุณไม่ได้อยู่ในนิทานนี่ฮะ"

    "นั่นสินะ ฉันก็อาจจะกลายเป็นนางฟ้าอารมณ์ร้ายเข้าสักวัน"

    ว่าจบเราทั้งคู่ก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน จีมินเดินมาฉวยตะกร้าที่แขนเขาไปถือเสียเองก่อนจะรีบบอกว่าเพราะเราต้องเดินเข้าไปอีกไกล กลัวว่าแขนของเขาจะช้ำเสียก่อน จองกุกพยักหน้าตามคำพูดนั้นพร้อมกับล้มเลิกความคิดที่จะแย่งตะกร้ามาจากชายหนุ่ม




    เสียงน้ำดังขึ้นเรื่อย ๆ เป็นสัญญาณบอกว่าเราเข้าใกล้น้ำตกมากขึ้นทุกทีแล้ว ถึงตรงนี้จองกุกเริ่มได้ยินเสียงนกที่ดูเหมือนจะพูดคุยกันอย่างร่าเริง กระรอกตัวหนึ่งปีนป่ายลงมาจากต้นไม้ใหญ่ มันเกาะอยู่ตรงกิ่งไม้ พอจองกุกเงยหน้าขึ้นไปมองเจ้าตัวเล็กก็หยุดนิ่งเป็นหิน ทำอย่างกับว่าเขาจะไม่รู้ว่ามันเป็นตัวอะไรถ้าหากทำอย่างนั้น

    "รีบไปเถอะน่า จะมาหยุดอยู่ตรงนี้ทำไม" จองกุกเงยหน้าพูดกับกระรอกน้อยบนหัว

    "เป็นสโนวไวท์หรอ"

    "คุณนี่เหมือนนางฟ้าในเทพนิยายแค่รูปร่างหน้าตาจริง ๆ นะ"

    "แหม ไม่อย่างนั้นฉันจะปลีกวิเวกออกมาอยู่กลางป่าคนเดียวหรือไงล่ะ"

    จีมินพูดทีเล่นทีจริงก่อนจะกวักมือเรียกให้เขาเดินตามมาได้แล้ว และเจ้ากระรอกน้อยก็ดูท่าจะไม่ยอมขยับจนกว่าเขาจะเดินไปจากตรงนี้ เพราะแบบนั้นจองกุกเลยจำใจต้องเดินตามเสียงเรียกของนางฟ้าต้อย ๆ

    "เอาชุดมาเปลี่ยนหรือเปล่า"

    "ทำไมฮะ คุณจะแกล้งผลักผมลงน้ำหรอ"

    "เผื่อเธออยากเล่นน้ำ ถ้าไม่มีฉันจะได้บอกให้คนเอามาให้"

    "ใครฮะ" จองกุกถามตาโต

    "ฉันนี่แหละ" และจีมินก็ตอบกลับไปด้วยสีหน้านิ่งเรียบ

    "คุณโกหกผมว่าเป็นนางฟ้าหรอ ปีกนี่ของปลอมใช่ไหม"

    "เธอหวังจะให้ฉันเป็นยังไงหืม หนุ่มน้อย"

    จองกุกหยุดคิดสักพัก เขาเองก็ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วนางฟ้ามีนิสัยใจคออย่างไร

    "จริงจังไปแล้ว" จีมินหัวเราะ "ฉันล้อเล่นหน่า ถ้าเธออยากให้ชุดเธอแห้งเดี๋ยวมันก็แห้งเองนั่นแหละ"

    เราตัดสินใจจะนั่งลงตรงใกล้ ๆ กับทางที่ (ดูเหมือนจะ) เดินลงไปที่น้ำตกไปแบบสบาย ๆ ถาดพายแอปเปิ้ลถูกหยิบออกมาวางก่อนเป็นสิ่งแรก ตามมาด้วยน้ำพั้นซ์และผลไม้อีกสองสามอย่าง จองกุกถามจีมินว่านางฟ้าต้องกินข้าวไหม คำตอบที่ได้คือ "ถ้าฉันอยากกิน" จองกุกคิดว่านางฟ้าตรงหน้าเขาคงจะเป็นนางฟ้าที่ไม่เหมือนใคร ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยเจอนางฟ้าตนอื่นก็ตามเถอะ

    "ส้มไหมฮะ"

    "เธอถามฉันแต่หยิบเข้าปากตัวเองไปแล้ว"

    "ก็ผมไม่ได้จะป้อนคุณสักหน่อย" จองกุกยิ้ม ส้มครึ่งลูกที่เขายัดเข้าไปทำให้แก้มของเขาพองออกมา

    จองกุกตักพายแอปเปิ้ลคำเล็ก ๆ ให้นางฟ้าผมบลอนด์ตรงหน้า เขาแน่ใจว่าจีมินต้องไม่เคยกินพายแอปเปิ้ลที่อร่อยมากขนาดนี้มาก่อนแน่ ๆ หรือบางทีเขาอาจจะไม่เคยกินเลยก็ได้ ในทีแรกนางฟ้าหันหน้าหนีสิ่งที่เขาไม่คุ้นเคย จองกุกพยายามจะป้อนอยู่หลายครั้งจนจีมินต้องยอมอ้าปากงับชิ้นพายจากส้อมในมือเด็กหนุ่ม จากคำเล็ก ๆ กลายเป็นคำใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จีมินดูจะพอใจกับของหวานชิ้นนี้อยู่ไม่น้อย ปีกของเขาขยับเร็วรี่เหมือนตอนเด็กตัวเล็ก ๆ ดีใจจนต้องกระโดดโลดเต้นหรือขยับตัวไปมาเพราะได้ของเล่นชิ้นใหม่ เศษผงสีทองปลิวว่อนออกมาจากปีกสีฟ้าใสของเขาไม่หยุดหย่อน ยามนี้นางฟ้าแสนงดงามกำลังเพลิดเพลินกับการตักพายแอปเปิ้ลเข้าปากพร้อมกับขยับปีกแสดงความรู้สึกไปด้วยอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

    "ถ้าคุณชอบวันพรุ่งนี้ผมจะเอามาอีก"

    จีมินไม่ตอบ เขาเพียงแต่เงยหน้าขึ้นมาสบตากับจองกุก ดวงตาสีฟ้าหม่นมีประกายวิบวับเมื่อได้ยินสิ่งที่ถูกใจ

    "เว้นแต่ว่าคุณจะไม่ต้องกา--"

    "เอาสิ เอามาอีก ฉันชอบ" จีมินรีบตอบพร้อมกับขยับปีกไปด้วย




    หลังจากจัดการมื้ออาหารเสร็จเรียบร้อยจองกุกก็ลุกขึ้นยืนมองน้ำตกตรงหน้า เขาใช้มือทั้งสองข้างค้ำเอวตัวเองเอาไว้พร้อมกับทำหน้าตามุ่งมั่น เด็กหนุ่มหันกลับมามองนางฟ้าที่ตอนนี้กำลังจัดแจงเก็บของลงตะกร้าสานให้จองกุกอยู่อย่างใจเย็น

    "ปีกคุณจะเปียกไหมฮะ"

    "หือ?" จีมินร้องถามอีกครั้ง เมื่อกี้เขามัวแต่ฮัมเพลงจนไม่ทันฟัง

    "คุณจะเล่นน้ำกับผมไหมฮะ หรือว่าคุณเล่นไม่ได้เพราะปีกคุณอาจจะขาดถ้าเปียกน้ำ"

    "แน่นอนอยู่แล้วล่ะ แต่ฉันเก็บปีกตัวเองได้น่ะ"

    จองกุกตาโตอีกครั้ง เขาตื่นเต้นกับข้อเท็จจริงใหม่เกี่ยวกับนางฟ้าตรงหน้า

    "หมายความว่าคุณสามารถเก็บหรือทำให้ปีกคุณงอกออกมาได้ตามใจชอบน่ะหรอฮะ!?"

    "ไม่อย่างนั้นมันจะลำบากต่อการดำรงชีวิตของฉันไปหน่อยน่ะ"

    "สุดยอดไปเลย.." น้ำเสียงนั้นเจือความชื่นชมอยู่เล็ก ๆ

    "แล้วคุณจะเล่นน้ำกับผมไหมฮะ"

    จีมินทำท่าครุ่นคิด "เล่นหรือไม่เล่นดีล่ะ"

    จองกุกจะพูดอีกครั้งว่านางฟ้าผมบลอนด์ตรงหน้าเขากำลังทำตัวไม่เหมือนนางฟ้า เขาน่ะเป็นปีศาจจอมกวน!

    จองกุกเลิกสนใจคน (นางฟ้า) ที่เอาแต่ทำท่าทียียวนไม่ยอมตอบคำถามแล้วถอดเชิ้ตสีขาวของตัวเองออก ยังไม่ทันจะทำอะไรต่อจากนั้นร่างเขาก็ถูกฉุดให้กลับมายืนที่เดิม ดวงตาสีฟ้าหม่นดูตื่นตระหนก ใบหน้าชื้นเหงื่อเล็กน้อยจากสภาพอากาศ ปีกสีฟ้าใสของเขาขยับด้วยจังหวะเร่งรีบอีกครั้ง ฝ่ามือที่เคยแค่จับแขนเขาเอาไว้หลวม ๆ กลับรัดแน่นขึ้นจนจองกุกต้องร้องขอให้ปล่อย

    "คุณเป็นอะไรฮะ บาดเจ็บหรือเปล่า การรักษานางฟ้าคล้าย ๆ กับมนุษย์ไหมฮะ"

    "ไม่ จองกุก ไม่"

    "อย่าลงไป ห้ามลงไป ลงไปไม่ได้" จีมินละล่ำละลักพูดด้วยความตื่นตระหนก ใบหน้าของเขาซีดเผือด รูม่านตาที่หดเล็กลงกะทันหันทำให้เด็กหนุ่มหวั่นกลัว กระนั้นจองกุกก็ยังคงพูดกับจีมินด้วยความใจเย็น

    "ทำไมฮะ ในนั้นมีอะไร"

    "อันตราย เธอจะอันตราย" จีมินกลับมาพูดด้วยน้ำเสียงเนิบนาบอีกครั้ง

    "ลงไปไม่ได้เด็ดขาด ใส่เสื้อซะ เราต้องกลับไปที่เดิม"

    แม้เขาจะไม่เข้าใจคำพูดเหล่านั้นเท่าไหร่นักแต่จองกุกก็ทำตามแต่โดยดี จีมินเดินนำจองกุกที่กำลังก้มเก็บผ้าปูสีน้ำตาลอ่อนของแม่อยู่ที่เดิมไปก่อน แต่สักพักเขาก็เดินกลับมายืนข้าง ๆ เด็กหนุ่มเมื่อรู้สึกว่าการปล่อยให้จองกุกอยู่คนเดียวค่อนข้างเสี่ยงเกินไป




    "คุณไม่ได้อาศัยอยู่ในปราสาท แบบว่า -- อาณาจักรอะไรทำนองนั้นหรอฮะ"

    "ไม่หรอก ฉันอยู่ในดอกไม้"

    จองกุกตาโตอีกครั้งเมื่อได้ยินคำว่าดอกไม้จากปากของนางฟ้าข้างตัว

    "ดอกไม้? คุณเข้าไปได้ยังไงน่ะ ตัวโตออกขนาดนี้"

    "นี่เจ้าหนู ฉันเป็นนางฟ้า"

    "นางฟ้ายักษ์"

    ที่จองกุกเคยปรารถนาจะให้นางฟ้าผมบลอนด์ข้าง ๆ เขามีอารมณ์โมโหร้ายบ้างดูท่าจะเป็นความคิดที่ผิดมหันต์ เพียงแค่ดวงตาสีหม่นคู่นั้นปรายตามามองเขาด้วยอารมณ์ขุ่นเคืองเล็ก ๆ แบบทีเล่นทีจริงจองกุกยังรู้สึกเย็นไปทั้งตัว หากว่าจีมินเกิดโมโหร้ายขึ้นมาจริง ๆ ภาพจำของนางฟ้าแสนใจดีของเด็ก ๆ อาจจะต้องบิดเบือนไป

    "รู้นะว่าคิดอะไร"

    "คุณอ่านใจผมหรอ! จีมิน!"

    "อะไรกัน สีหน้าเธอมันบอกทั้งหมดนั่นแหละ"

    เด็กหนุ่มมีสีหน้างอง้ำด้วยความขัดใจ ดวงตากลมโตหันมองไปทางอื่นเพื่อบอกให้คนข้าง ๆ รู้ว่าเขากำลังรู้สึกไม่พอใจกับคำพูดนั้น จังหวะการเดินที่ช้าลงกะทันหันทำให้จีมินเดินนำจองกุกไปก่อน เสียงฮึดังตามหลังเขามาหลังจากที่จีมินเลือกที่จะเดินไปเรื่อย ๆ ทิ้งคนเอาแต่ใจไว้ด้านหลัง ไม่นานนักจองกุกก็กระหืดกระหอบมาอยู่ข้างเขาเพราะกลัวว่าตัวเองจะหลงทาง

    จีมินหัวเราะให้กับใบหน้าบึ้งตึงแต่ดวงตากลมกลับฉายแววตื่นตระหนกเต็มทนเมื่อเขาไม่หยุดยืนรออย่างเคย

    "ผมไม่พอใจคุณอยู่นะฮะจีมิน"

    "เธอทำให้ประโยคแสนเย่อหยิ่งนั่นฟังดูอ่อนน้อมขนาดนั้นได้ยังไงกัน"

    "จีมิน!"

    จีมินหัวเราะออกมาเต็มเสียงเป็นครั้งแรกในรอบปี คริสตัลเม็ดเล็กร่วงหล่นออกมาจากดวงตาสุกสกาวแทนหยดน้ำตา ตอนนี้นางฟ้ากำลังก้มลงกุมท้องตัวเองเพราะเขาเริ่มจะรู้สึกปวดท้องจากการขำค้าง จองกุกยังคงมีสีหน้างอง้ำแม้ว่านางฟ้าข้างตัวเขาจะมีความสุขมากจนแทบจะล้นก็ตาม

    "โธ่ เธอจะไม่พอใจฉันขนาดนั้นเชียวหรอจองกุก"

    ให้ตายเถอะ -- ใครกันที่เป็นคนสรรสร้างอมนุษย์ประเภทนี้ขึ้นมาบนโลก ทำไมต้องให้เขามีท่วงท่าอ่อนหวาน วาจาน่าฟังแม้จะทำตัวน่าหมั่นไส้แค่ไหนก็ตามด้วย

    "ยกโทษให้ฉันเถอะนะ"

    การเผลอไปสบตานางฟ้าแสนร้ายกาจที่กำลังเอ่ยขอโทษเสียงหวานเป็นเรื่องที่ไม่น่าอภัยตัวเอง จองกุกรู้สึกว่าตัวเองกำลังจนตรอก เขาไม่มีหนทางที่จะเอาชนะคนตรงหน้าได้เลย ใบหน้าเยาว์วัยซับสีจางเมื่อจีมินเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ อานุภาพของรอยยิ้มมุมปากกำลังทำลายล้างเขา จองกุกรู้สึกได้ว่าหัวใจของเขาเต้นเร็วแค่ไหนตอนที่จ้องเข้าไปในดวงตาสีฟ้าหม่นคู่นั้น

    ก่อนที่จะมีอะไรเลยเถิดไปมากกว่านี้ และก่อนที่เด็กน้อยจะตกหลุมพรางนางฟ้าแสนใจดีจองกุกก็ตะโกนขึ้นมาเสียก่อน

    "โอเค! โอเค ผมยกโทษให้คุณ เรากลับบ้านกันดีกว่า"

    จีมินถอยกลับไปยืนที่เดิมเมื่อจองกุกดันตัวเขาออกก่อนจะเดินนำหน้าไปเหมือนคนชำนาญทาง ใบหน้างดงามยังคงมีรอยยิ้มแต้มอยู่ไม่หายไปไหน จีมินรู้หมดนั่นแหละว่าจองกุกคิดอะไร

    ก็เขาอ่านใจเด็กของตัวเองได้นี่นา




    ------------------------------




    ทั้งคืน

    จองกุกเอาแต่คิดถึงดวงตาสีฟ้าหม่นคู่นั้นอยู่ทั้งคืน เขาแทบจะไม่ได้นอนด้วยซ้ำเพราะหัวใจที่เต้นระรัวไม่ยอมปล่อยให้เขาพักผ่อน จีมินไม่ใช่แค่นางฟ้าธรรมดา ๆ จีมินเป็นนางฟ้าที่ร้ายกาจที่สุด เขามั่นใจ -- ถึงแม้ว่าทั้งชีวิตเขาจะรู้จักนางฟ้าอยู่ตนเดียว แต่แค่นั้นก็มากพอ




    ขณะที่จองกุกกำลังจะเคลิ้มหลับกล่องดนตรีของเขาก็หยุดทำงานกะทันหัน อาจเป็นเพราะมันค่อนข้างจะเก่าไปสักหน่อยสำหรับการบรรเลงดนตรีทั้งคืนแบบเมื่อก่อนจองกุกจึงไม่ได้สนใจอะไรมากนัก ไม่นานเด็กหนุ่มก็เข้าสู่นิทรารมณ์

    ทันทีที่เด็กหนุ่มผล็อยหลับปีศาจร้ายก็ออกอาละวาด กลุ่มเมฆสีขมุกขมัวเข้าโอบกอดร่างของคนบนที่นอนเอาไว้ ฝันดีอันหอมหวานของเด็กน้อยไร้เดียงสา -- มันจะกลืนกินเข้าไปทั้งหมด

    ใบหน้าอ่อนวัยมีเหงื่อซึมตามไรผมแม้รอบกายเขาจะเย็นยะเยือก ร่างเล็กขยับไปมาเมื่อรู้สึกได้ถึงความอึดอัดราวกับเขาถูกมือใหญ่ ๆ บีบเอาไว้ไม่ยอมปล่อย จองกุกรู้สึกเหมือนจะขาดใจตอนที่แรงบีบนั้นเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามกาลเวลาที่ผ่านไป ผิวกายของเด็กหนุ่มไม่ต่างอะไรกับก้อนเนื้อในช่องแช่เย็นเลยสักนิด

    "นึกถึงฉันสิ แค่นึกถึงฉัน"

    แม้จะไม่รู้ผลของการกระทำแต่จองกุกก็เลือกที่จะนึกถึงคนที่ทำให้ใจเขาว้าวุ่นอยู่ทั้งวัน แรงบีบอัดนั้นยังคงอยู่ -- ความกลัวเริ่มเกาะกินหัวใจดวงน้อยจนขอบตาของเขาชื้นไปด้วยหยดน้ำตา หลังจากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงกล่องดนตรีดังมากจากที่ไหนสักที่ แต่จองกุกมั่นใจว่ามันไม่ใช่จากกล่องข้างเตียงของเขาแน่

    สิ้นเสียงดนตรีความอึดอัดก็มลายสิ้น จองกุกรีบขยับเข้าหาความอบอุ่นที่มุมเตียง กายเขาสั่นพร้อมกับเสียงสะอื้นเบา ๆ แม้จะยังคงหลับตาอยู่

    "หลับฝันดีเถอะนะจองกุก ไม่มีอะไรแล้ว"

    น้ำเสียงนุ่มลึกกระซิบบอกคนที่ยังคงสั่นอยู่ในอ้อมแขน จีมินใช้ปลายนิ้วไล้แก้มเนียนแผ่วเบาก่อนจะก้มลงประทับจูบลงบนหน้าผากมน เฝ้าดูจนแน่ใจว่าเด็กน้อยจะไม่ตื่นขึ้นมาอีกเพราะฝันร้ายเขาถึงได้กลับไปยังที่เดิมที่จากมาเพื่อพักผ่อน -- นั่นคือเวลารุ่งสาง

    คืนนั้นจีมินเฝ้าจองกุกอยู่ทั้งคืน

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
septemberrainy (@septemberrainy)
ชอบมากๆเลยค่ะ ดีทุกอย่างเลยทั้งเนื้อเรื่องแล้วก็การบรรยาย ชอบภาษาของไรต์มากๆค่ะ อ่านไปได้เรื่อยๆก็ยิ่งรู้สึกว่าไม่อยากให้ตอนนี้จบเลย 5555555555555 ขอบคุณที่แต่งฟิคดีๆแบบนี้ให้ได้อ่านกันนะคะ
Loading 48% (@mimisaom)
@septemberrainy ขอบคุณมากๆเลยนะคะ แง /-\ ดีใจที่ชอบนะคะ
lyxpers (@lyxpers)
ฮื่อออ อ่านแล้วฟีลกู๊ดมากๆค่ะ มันน่ารักมากๆ คูมนางฟ้าจีมินน กับน้องจองกุกก >< ภาษาอ่านแล้วลื่นไหลมากกก ฟีลแบบเหมือนเราอยู่ตรงนั้นเลยยย เห็นภาพ ความสวยงามของทุ่งดอกไม้ กับนางฟ้าจีมินแสนดีมากๆค่ะ พี่จีมินของน้งงงง
Loading 48% (@mimisaom)
@lyxpers ดีใจที่ชอบนะคะ ดีใจมากๆเลยจริงๆ แง ขอบคุณนะคะ
losts girl (@lostsgirl)
แงงงงงง คุณคะ ;-; นี่มันดีมากเลย พี่จีมินเป็นนางฟ้า TT ซึ่งมันก็ดีมากเลยค่ะ สารภาพว่ามองพี่เค้าเป็นนางฟ้าเหมินกัน (ฮือ พี่คนดี) ภาษาอ่านแล้วชวนให้ติดตามมากเลยค่ะ มันเนิบ ๆ สบาย ๆ รู้สึกว่าผงพิกซี่จากตัวพี่นางฟ้าเค้ามันร่วงออกมาตลอดเวลา ฮือ สุดแสนจะดิสนีย์ ส่วนยัยน้องก็คือน่ารักมาก คุณฮะ ๆ งือออออ ขอบคุณที่เขียนเรื่องนี้ขึ้นมานะค้าบ เริ้ป
Loading 48% (@mimisaom)
@lostsgirl คุณลอสเกิวววว แง เขินจะแย่แล้วค่ะ /-\ ขอบคุณแล้วก็ดีใจที่ชอบนะคะ ที่ตัดสินใจเขียนเรื่องนี้ก็เพราะช่วงนี้รู้สึกว่าพี่เขาแสนดีมากจนใจจะทนไม่ไหว จะภักดีต่อพี่นางฟ้า แม้นกายจะแหลกสลายใจหนูก็จะยังภักดีต่อพี่นางฟ้าตลอดไป ;-;