เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
THE EXPLORER STORYTHEEXPLORER
ความตื่นเต้นอันน่าตื้นเขิน
  • (1)


    "ว่ากันว่า ความเบื่อหน่ายในชีวิตของเราสามารถถูกทำลายไปด้วยความน่าตื่นเต้น"

    หากการได้รับชมภาพยนตร์มันส์ๆสักเรื่องในสุดสัปดาห์จะสามารถปลุกเร้าให้หัวใจได้สูบฉีดและเต้นแรงมากขึ้นกว่าการดื่มกาแฟถ้วยใหญ่ๆ เราจะยังมานั่งจมจ่ออยู่กับความสิ้นหวังกับเหตุการณ์ในอดีตอยู่หรือไม่หรือเราเพียงแค่ขยับก้นออกมาจากรังสถานเดิมๆ แล้วไปเผชิญหน้ากับความน่าตื่นเต้นที่เราเองยังไม่เคยลิ้มลอง

    ในบรรดาภาพยนตร์ที่มีตัวดำเนินเรื่องเป็นสัตว์ผู้สร้างภาพยนตร์มักวางจุดไคลแมกซ์ของสัตว์ต่างๆเอาไว้ให้ดูแบบลึกลับและก็มักที่จะสรรค์สร้างเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงออกมาให้เห็นอยู่เรื่อยๆ

    ผมเป็นผู้ชมคนหนึ่งที่เอนเอียงไปทางการรับชมภาพยนตร์แบบลุ้นระทึกเสี่ยงตายเสียมากกว่าการนั่งดูภาพยนตร์ที่มีสัตว์ป่าน่ารักมาพบปะทักทายกันบางทีก็หวังไว้ว่าผู้กำกับหนังเรื่องนั้นจะพยายามจงใจให้มีสัตว์ดุร้ายอย่างเช่นจระเข้ หมี ปลาปิรันย่า หรือปลาฉลาม จะโผล่ออกมาจากฉากอย่างน่าตกใจและหลอกล่อมนุษย์ให้สับสนอลหม่านกันแบบไม่ต้องผ่านกองเซนเซอร์

    เราเชื่อว่าการเผยตัวออกมาจากฉากอันดำมืดของสัตว์ดุร้ายเหล่านี้จะทำให้การรับชมในฉากนั้นสนุกขึ้น บางทีวิธีเล่นกับความกลัวของมนุษย์ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ผู้กำกับสมัยนี้หยิบยกกันเอาไปใช้กันได้อย่างเหมาะเจาะ

    เมื่อความตื่นเต้นจะทำให้อะดรีนาลีนหลั่งเพิ่มมากขึ้นผู้ชมจำต้องตื่นตัวอยู่กับฉากที่ไม่พึงประสงค์นั้นๆอยู่หลายวินาทีก่อนที่การลำดับภาพจะนำพาความคิดของผู้ชมทั้งโรงวิ่งไปสู่บทสรุปอันแยบยลฉากสุดท้ายเมื่อเหตุการณ์ต่างๆได้คลายปมและคลี่คลายลงในที่สุดอะดรีนาลีนที่เกิดจากความดุเดือดเลือดพล่านก่อนหน้านั้นจะถูกเปลี่ยนเป็นสารปลอบประโลมหัวใจจนผู้ชมได้รับความสุขใจจากการชี้นำของภาพยนตร์อันน่าตื่นเต้นนั้นๆจุดไคลแมกซ์คือฉากสำคัญที่ผู้กำกับจำต้องจัดวางมันไว้อย่างรัดกุมเพื่อให้ผู้ชมอย่างเราได้ซึมซับและสามารถรอดชีวิตออกมาจากการไล่ล่าของสัตว์ดุร้ายนั้นได้อย่างสมบูรณ์แบบ


    (2)

    "THE SHALLOWS"


    เป็นภาพยนตร์อีกหนึ่งเรื่องทีลำดับภาพออกมาได้อย่างน่าสนใจตั้งแต่ปล่อยตัว Official Trailer ตัวอย่างภาพยนตร์เรื่องนี้จงใจปล่อยภาพความเซกซี่ของ BlakeLively ผู้ที่เคยโด่งดังมาจากซีรีย์และภาพยนตร์กินใจอย่าง The Age of Adaline ออกมาเผยเนื้อหนังมังสาจนแทบไม่อยากจะละสายตา

    ยิ่งไปกว่านั้นตัวอย่างภาพยนตร์ยังนำเอากีฬาเอ็กซ์ตรีมอย่างเซิฟบอร์ดมาเป็นตัวนำเรื่องก่อนที่ลากอารมณ์ของผู้ชมให้เดินหลงเข้าไปสู่นาทีชีวิตที่พลิกผันผนวกกับสถานการณ์ความเป็นความตายที่ Blake Lively ในชุดบิกินี่ตัวจิ๋วที่จะต้องพยายามดิ้นรนว่ายหนีฉลามดุร้าย เพื่อกลับขึ้นมายังฝั่งอย่างปลอดภัยให้จนได้

    ว่ากันมาถึงตัวภาพยนตร์จริงๆก็ถือว่าทำออกมาได้อย่างน่าตื่นเต้นไม่แพ้ตัวอย่างเลยเนื้อเรื่องบางช่วงถูกสร้างออกมาให้คนดูสามารถผูกเรื่องราวได้ดีแถมอ่าวลึกลับใน Mexico ก็เป็นใจให้ผู้ชมผ่อนคลายไปกับบรรยากาศอันเงียบสงบได้อย่างดีซึ่งตัวหนังก็พยายามที่จะสร้างความขัดแย้งภายในความคิดของ Nancy ขึ้นมาอย่างเบาๆ อย่างเช่นเรื่องการดรอปเรียนแพทย์ของเธอเพื่อต้องการที่จะออกมาค้นหาคำตอบบางอย่างให้กับชีวิตหรือฉากตอนต้นที่ผู้สร้างภาพยนตร์จงใจให้มีบทสนทนาเกี่ยวกับเกาะที่ดูคล้ายผู้หญิงตั้งครรภ์และจงใจให้ Nancy หวนนึกไปถึงความรู้สึกที่มีต่อครอบครัวของตัวเอง

    "PLAN-YOUR-GETAWAY" ถือเป็นกิมมิคและ Wording โดดเด่นที่เผยอยู่ให้เห็นในตัวภาพยนตร์ตลอดทั้งเรื่องหลายต่อหลายครั้งที่ Nancy พยายามแสดงไหวพริบอันเฉียบขาดเพื่อเอาตัวรอดจากการรุกรานของฉลามที่ดุร้าย เธอเรียนรู้ที่จะใช้วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้กับตัวเองและเจ้านกที่บินมาติดเกาะเธอพยายามคาดคะเนและสังเกตการณ์การระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นอันเนื่องมาจากแรงดึงดูดของโลกในข้างขึ้นข้างแรมและยิ่งไปกว่านั้นเธอพยายามดิ้นรนที่จะมีชีวิตอยู่ ในยามที่ไม่มีใครคนใดจะหยิบยื่นความช่วยเหลือมาให้เธอได้

    หลากหลายการลำดับความคิดและการตัดสินใจของเธอยิ่งดูก็ยิ่งช่างน่าประทับใจหากเราทุกคนสามารถเรียนรู้ที่จะใช้ไหวพริบจากประสบการณ์ที่สั่งสมมานานแรมปีเพื่อผ่านพ้นเรื่องราวอันเลวร้ายในชีวิตไปได้อย่าง Nancy บ้างก็คงจะดีไม่น้อย หรือไม่อาจจะเป็นเพราะเรายังไม่รู้จักตัวเองอย่างถ่องแท้ทั้งๆที่ตัวเราเองก็มีของดีๆที่สามารถสำแดงให้คนทั้งโลกได้เห็นอยู่กับตัว



    (3)

    "แม้ภาพยนตร์จะถูกทำมาให้ดีเด่นสักเท่าไรมันก็ยังขัดแย้งกับความเป็นจริงอยู่ดี"

    เมื่อ ไบรอัน คาร์ก ฮาเวิร์คได้เปิดเผยบทความเกี่ยวกับ 6 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับฉลามในเวบไซด์ของ National geographic อย่างเช่นเรื่องฉลามจะไม่ขึ้นไปลากเหยื่อที่อยู่บนบกหรือโขดหิน แต่ฉลามจะรอคอยและดักจับแมวน้ำที่ไม่ระมัดระวังตัวอยู่ตามชายหาดเสียมากกว่า ฉลามพันธุ์เล็กบางชนิดเท่านั้นที่จะจู่โจมมนุษย์เพราะที่จริงแล้วฉลามกินปลาและสัตว์ทะเลเป็นอาหารส่วนการกัดมนุษย์ที่เกิดขึ้นนั้นมักเกิดจากการสับสนเพราะคิดว่าเป็นแมวน้ำหากมันพบแล้วว่านี่ไม่ใช่อาหารของมัน ฉลามก็จะว่ายหนีออกไปจากบริเวณนั้นอย่างเร็วพลัน

    อีกข้อเท็จจริงหนึ่งที่น่าสนใจในบทความของไบรอัน คาร์ก ฮาเวิร์ค ก็คือ ฉลามไม่ได้เป็นสัตว์ที่เจ้าคิดเจ้าแค้นเหมือนอย่างที่ภาพยนตร์เผยให้เห็นบาดแผลที่ปากของมันในช่วงสุดท้ายแม้ฉลามจะมีความสามารถในการเรียนรู้และจดจำถึงท่าทางการให้อาหารของมนุษย์ได้บ้างแต่ก็ยังไม่ปรากฏหลักฐานใดๆมายืนยันพฤติกรรมการแก้แค้นมนุษย์ของมัน

    อีกทั้ง "จอร์จ เบอร์เจส"ผู้อำนวยการโครงการวิจัยฉลามที่รัฐฟลอริดายังคงย้ำถึงพฤติกรรมของสัตว์ตัวนี้ว่า"เราทุกคนควรจะทราบว่าอะไรคือข้อเท็จจริงหรือเรื่องแต่งหากฉลามควรจะกลัวมนุษย์เสียมากกว่ามนุษย์อย่างเราจะกลัวมันเสียอีก"

    อย่างไรก็ดี ผู้สร้างภาพยนตร์ย่อมรู้วิธีจะสร้างความบันเทิงให้แก่ผู้ชมในแต่ละฉากให้ออกมาสมจริงสมจังได้มากน้อยแตกต่างกันไปในขณะที่การวิจัยก็ถูกหยิบยกขึ้นมาเพื่อให้มนุษย์อย่างเราได้เรียนรู้และเข้าใจอย่างถ่องแท้ในข้อเท็จจริงหากบางฉากบางตอนจะถูกเสริมเติมแต่งขึ้นมาเพื่อให้บทภาพยนตร์นั้นน่าสนใจเพียงใดแต่พอกลับเข้ามาสู่ชีวิตจริงอีกครั้ง ตัวเราเองนั้นก็ควรที่จะดำเนินชีวิตไปบนรากฐานของความเป็นจริงและคงไม่จำเป็นที่จะต้องเอาความดราม่าในโลกของละครมาแต่งสีเติมไข่ให้ชีวิตต้องมืดมนกันไปยกใหญ่

    "THE SHALLOWS" เป็นภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่แอบแฝงคำถามปลายเปิดอยู่ทุกวินาทีจนผู้ชมอย่างเราๆต้องหวนกลับมามองทักษะการใช้ชีวิตประจำวันเสียบ้างหากการเผชิญหน้ากับความสิ้นหวังที่แอบย่องผ่านเข้ามาในชีวิตจะทำให้เราเรียนรู้และกล้าที่จะเค้นไหวพริบออกมาแก้ปัญหาเหล่านั้นให้ลุล่วงไปจนได้

    แท้จริงความคิดเราก็อาจจะไม่ได้"ตื้นเขิน" อย่างที่ตัวเรานั้นเคยปรามาสเอาไว้ทว่าเราอาจจะยังไม่รู้วิธีดึงความสามารถอันมากมายเหล่านั้นออกมาใช้ให้ถูกที่ถูกทางหรือไม่เราก็ควรที่จะกล้าออกไปเผชิญหน้ากับความตื่นเต้นเหล่านั้นเสียทีแล้ว

    Written by
    https://www.facebook.com/Theexplorerphotographer

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in