เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
บันทึกของหมีฟูFLUFFYKUMA
BANGKOK ART BIENNALE 2018 : เทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ
  • สวัสดีค่ะเพื่อนหมีทุกท่าน ♡♡♡
    กลับมาพบกันอีกครั้งกับ บันทึกของหมีฟู ห่างหายจากการเขียนบล็อคไปนานมาก เกือบปีแล้วจะได้มั้ง...?

    หมีไปทำงานหาเงินมาแหละ 55555 (ในเลข 5 มีน้ำตาซ่อนอยู่ ฮึก) เลยไม่มีเวลาไปเที่ยว ไปเสพย์อะไรใหม่ๆ ที่เปิดหูเปิดตาเหมือนแต่ก่อน บอกตรงๆ ว่าใจเหี่ยวมาก รู้สึกชีวิตไม่ควรเป็นแบบนี้เลย ไม่มีอะไรทำให้หมีอยากกลับมาเขียนบล็อคอยู่เกือบปีเลยนะ ไร้แรงบันดาลใจมาก แง...

    แต่ล่าสุดหมีไปงานเทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ หรือ Bangkok Art Biennale 2018 มาค่ะ
    งานนี้เป็นงานรวมศิลปะหลากหลายแขนงจากศิลปินนานาชาติกว่า 75 ชีวิต ที่มาเปลี่ยนกรุงเทพฯ ของเราให้กลายเป็นเมืองแห่งศิลปะด้วยผลงานต่างๆ ของพวกเขา ด้วยคอนเซปต์ "Beyond Bliss สุขสะพรั่ง พลังอาร์ต" เพราะที่นี่เลยที่ทำให้หมีอยากกลับมาเขียนเล่าประสบการณ์ที่ได้รับมา ความรู้สึกภายในมันร่ำร้องอยากออกมาโลดแล่นเป็นตัวอักษรน่ะ ถ้าให้พูดแบบเวอร์ๆ นะ

    สำหรับสถานที่จัดแสดงผลงานนั้นมีหลายที่มาก กระจายไปตามที่ต่างๆ ในเมืองกรุงเทพมหานครของเราค่ะ หากสนใจรายละเอียดอื่นๆ จิ้มได้ที่ ลิ้งก์นี้ เลยยย 


    20 สถานที่ที่มีการจัดแสดงงาน BAB 2018


    ที่ไปมาจะเป็นที่หอศิลปะวัฒนธรรมแห่งประเทศไทย (BACC) ที่กำลังมีประเด็นจะปิดไม่ปิดแหล่อยู่เนี่ยแหละ ไม่ได้ตามข่าวเลยว่าเป็นไงมั่งแล้ว แง ส่วนที่ประทับใจจัดๆ จะมีอยู่โซนนึง ที่ศิลปินรวมเป็นหนึ่งเดียวกับศิลปะ ขยายความก็คือ ในผลงานศิลปะของเขาที่มาจัดแสดงจะมีเจ้าตัวทำอะไรบางอย่างอยู่ด้วย เช่น ยืนอยู่ข้างในผลงานของตัวเองเพื่อสื่อถึงอะไรบางอย่าง หรือเต้นระบำเพื่อแสดงออกถึงความโศกเศร้าในฉากที่จัดขึ้น


    - Our glorious past our glorious present our glorious future, 2018 -

    แต่ที่หมีชอบที่สุดจะเป็นงานของศิลปินสาวชาวกรีซชื่อ เดสปินา ซาคาโรโพลู (Despina Zacharopoulou) โดยงานของเขามีชื่อว่า "Protreptic, 2018"  ในส่วนนี้หมีขอยกคำอธิบายชิ้นงานของเขามาเขียนให้อ่านเลยละกันเนาะ


    งาน Proteptic เป็นภาษากรีก มีความหมายว่า การสนับสนุนให้คนเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลง โดยจุดประสงค์ของงานชิ้นนี้ตัวศิลปินต้องการให้ผู้ที่มาชมได้กลับไปมองดู กลับไปวิเคราะห์ และกลับไปนำพาปรัชญามาเป็นหลักในการดำเนินชีวิต ท่ามกลางภูมิทัศน์ของสังคมการเมืองในกรุงเทพฯ โดยศิลปินจะเชิญชวนให้ผู้ชมมาเผชิญหน้ากับเธอ หลังจากที่ผู้ชมได้ยินยอมต่อชุดข้อกำหนดอย่างชัดเจนแล้ว ผลงานแสดงสดชิ้นนี้จะมีการค้นหาความจริงจากคำถามเกี่ยวกับความหนาบางของชั้นขอบเขตต่างๆ การปกครองชีวญาณ (Governmentality) คุณค่า การใช้และการใช้สอยจะถูกหยิบยกขึ้นมาเพื่อหาคำตอบ


    อ่านอย่างนี้แล้วโคตรไม่เข้าใจเลยใช่ปะ... 
    หมีก็เหมือนกัน (ว้ายยย) ตอนแรกหมีไม่ได้คิดจะเข้าไปชมงานแสดงสดชิ้นนี้เลย เพราะเขาจัดในห้องที่มีผ้าม่านสีขาวทึบปิดไว้ คนที่จะเข้าไปดูจะต้องอ่านข้อกำหนดและเซ็นสัญญายอมรับข้อกำหนดนั้น หากเข้าใจกับกฎเกณฑ์เหล่านั้นแล้ว ทางเจ้าหน้าที่จะมีถุงมือยางให้สวมใส่ ก่อนจะปล่อยให้เข้าไปชมภายในค่ะ 

    และสาเหตุที่ตอนแรกไม่คิดจะเข้าไปน่ะเหรอ...
    เพราะกลัวเห็นคนโป๊ค่ะ สารภาพตรงๆ กลัวทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้จะเอาหูตาไว้ตรงไหน แถมเข้าไปกับแฟนด้วย ตายๆ Awkward มากเวอร์


    - Telephus, 2018 - อีกหนึ่งผลงานที่ศิลปินรวมเป็นหนึ่งกับศิลปะ

    แต่เมื่อเข้าไปแล้วเราไม่ได้เห็นใครโป๊ทั้งนั้นค่ะ
    ภายในเป็นห้องโล่งๆ สีขาวธรรมดา แต่จุดรวมสายตาของเราจะอยู่ที่กล่องไม้ขนาดใหญ่ ลักษณะเหมือนกล่องไม้สำหรับใส่สินค้าสำหรับส่งออกไปยังที่ห่างไกล ด้านบนฝาจะมีกระดาษที่แปะรายละเอียดสถานที่ปลายทางเอาไว้ และมีร่างของผู้หญิงต่างชาติคนนึงนั่งอยู่บนกล่องนั้น ซึ่งอันนี้หมีเดาเอาเองว่าเธอคงจะเป็นศิลปินเจ้าของผลงาน ดังนั้นหลังจากนี้หมีจะขอเรียกเธอว่า เดสปินา นะคะ

    ย้อนกลับไปหน่อยถึงข้อกำหนดที่หมีได้อ่าน ขอสรุปสั้นๆ เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใจ คือเราสามารถสัมผัสตัวหญิงสาวในห้องนั้นได้ค่ะ จะสัมผัสยังไงก็ได้แต่ต้องใส่ถุงมือยางไว้ และหากเธอพูดว่า "วอลล์ (Wall)" นั่นหมายถึงเราต้องหยุดทุกการกระทำโดยปราศจากข้อโต้แย้งใดๆ


    จู่ๆ ถ้ามีคนมาบอกว่า "สัมผัสฉันสิ" ทุกคนจะทำยังไงคะ?


    หมีคิดว่าในวินาทีแรกเราคงจะนิ่งไปก่อนและไม่กล้าทำตามคำพูดเชื้อเชิญนั้นเพราะเราไม่รู้ว่าจุดประสงค์ของการสัมผัสคืออะไร แล้วทำไมถึงต้องทำ ...เช่นเดียวกันค่ะ หมีเองก็ไม่กล้าแตะต้องอะไรเลย ทำได้แค่เดินวนไปรอบๆ ห้องแบบเก้ๆ กังๆ แหะๆ


    ขอบคุณวิดีโอจากคุณแฟนค่ะ เนื่องจากหมีไม่ได้แตะมือถือเลยตอนนั้น แง

    แต่เมื่อได้สัมผัสตัวเธอแล้วความรู้สึกมันเปลี่ยนไปเลยนะ หมีอยากให้ทุกคนที่ไปลองเข้าไปชมงานตรงส่วนนี้ดู ใช้ใจสัมผัสและสื่อสารกับเธอผ่านสายตา เพราะหลังจากนั้นไม่นานหมีร้องไห้แหละ เหมือนกับว่าจู่ๆ เราก็รู้สึกเศร้าขึ้นมาอย่างหาสาเหตุไม่ได้ จนออกมาแล้วหมีก็ถามแฟนด้วยความไม่เข้าใจมากๆ ว่าทำไมตัวเองถึงร้องไห้ ทั้งๆ ที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยในห้องนั้น และหมีก็ไม่เข้าใจจุดประสงค์ของงานชิ้นนี้เลยสักนิดเดียว

    แฟนหมีก็เลยอธิบายให้ฟัง (ในความเข้าใจของเขานะ เราไม่สามารถบอกได้ว่าสิ่งนี้ถูกหรือไม่ แต่หมีคิดตามเขาแล้วก็เข้าใจในแบบนั้นเหมือนกัน) ว่าในนั้นน่ะ เดสปินาเปรียบเสมือนกับสินค้า เป็นวัตถุชิ้นนึง ที่คนอื่นๆ เข้ามาดูด้วยความรู้สึกสงสัย และสัมผัสด้วยความอยากรู้หรือด้วยจุดประสงค์ที่จะทำความเข้าใจงานศิลปะชิ้นนี้ 

    แต่เพราะหมีเห็นเดสปินาต่างออกไป ก็เลยสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของเธอ และที่ร้องไห้ออกมาก็เพราะความเศร้าของเขามันส่งตรงมาถึงเรา ทั้งผ่านสายตาและการสัมผัสกัน ซึ่งอันนี้อยากให้คนที่ได้ไปลองสังเกตดูนะคะว่าเราสามารถสื่อสารกับเขาได้ แม้จะไม่ตอบด้วยคำพูด แต่มองที่ตาดีๆ เธอจะส่งสัญญาณให้เราผ่านสายตาค่ะ


    กำลังร้องเลย แงงง

    เขียนมาถึงตรงนี้จริงๆ แค่อยากจะบอกว่า หมีอยากให้คนที่ไปได้เข้าไปชมงานศิลปะที่ชื่อว่า Protreptic ชิ้นนี้ และใช้เวลากับมันหน่อยเพื่อสัมผัสถึงอะไรบางอย่างและมาแบ่งปันกันว่า "คุณได้พบเจอและเกิดความรู้สึกอะไรบ้างในขณะนั้น" หมีอยากรู้จริงๆ นะว่าคนอื่นๆ จะเหมือนหรือต่างกับหมีไปในทางไหนบ้าง

    ยิ่งไปกว่านั้นคืออยากให้ทุกคนได้ลองไปชมงานนี้ดู เพราะเราคงไม่มีโอกาสได้ชมอะไรแบบนี้บ่อยๆ หรอกใช่ไหมล่ะคะ? โดยระยะเวลาจัดงาน Bangkok Art Biennale 2018 คือตั้งแต่วันที่ 19 ต.ค. - 3 ก.พ. 2018 ยาวๆ กันไปเลยยยย หมีเองถ้ามีโอกาสก็อยากเก็บให้ครบทุกที่เหมือนกัน (ซึ่งน่าจะยาก... แง)

    จริงๆ ส่วนที่หมีชอบในหอศิลป์ก็มีอีกนะ ปกติหมีไปจะชอบดูพวกรูปถ่ายสวยๆ แล้วถ่ายเก็บไว้ รอบนี้ที่ชอบที่สุดก็คือผลงานที่ชื่อ Acts of Appearance ของศิลปินชาวอินเดีย จุดที่สะดุดตาคือสีสันกับการนำหน้ากากมาสวมใส่แล้วถ่ายตามสถานที่ต่างๆ (ซึ่งดูเผินๆ ก็หลอนอยู่เหมือนกัน) และนี่คือ 2 รูปที่หมีชอบที่สุดค่า


    อันนี้น่ารักมากกก เป็นลุงพระอาทิตย์กับพระจันทร์

    อืม... มันหลอนจริงๆ ด้วยแฮะรูปนี้ 555

    สำหรับบล็อคในคราวนี้ก็มาถึงตอนจบสักที
    บอกตรงๆ ว่าฝืดๆ อยู่เหมือนกันเวลาเขียนเพราะหายไปนาน... ขอบคุณทุกคนที่กดเข้ามาอ่านทั้งโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ หวังว่าจะมีคนที่อ่านแล้วเกิดความรู้สึกอยากไปเดินเที่ยวดูงาน Bangkok Art Biennale 2018 บ้างเนาะ 

    แล้วถ้าใครได้แวะไปตรงโซนที่หมีเล่าก็อย่าลืมมาแชร์กันนะคะว่าเป็นยังไงบ้าง แล้วพบกันใหม่คราวหน้าเน้อ บ๊ายบายยยย♡

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in