เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
cloudy story | onghoon fanfictioncloudyseasky_
Onghoon ♡ Our kiss #องฮุนรายสัปดาห์
  • Onghoon –  Our kiss

    #องฮุนรายสัปดาห์ #cloudystory

    4th week theme :kiss

    Note : ฝากด้วยนะคะ :-)

     

     

    Ourstory begin when you kissing me

    -Our kiss -

     

     

     

     

    จูบครั้งที่หนึ่งจากเขา – ประทับลงบนมือข้างซ้าย

     

     

     

    "จีฮุนอา" ใบหน้าคมคร้าม ดวงตาสีรัตติกาล เสียงแหบพร่า ดวงดาวบนแก้มข้างซ้าย และ

     

    "ไปอยู่กับฉันนะ"

     

     

    จุมพิตบนหลังมือซ้าย

     

     

    ดวงตากลมโตสั่นระริกจ้องมองคนที่คุกเข่าลงตรงหน้าอย่างแคลงใจความรู้สึกวูบไหวในช่องท้องลึกซึ้งเกินกว่าเด็กหกขวบแบบเขาจะเข้าใจ

     

     

    "ว่าไง อยากไปอยู่กับฉันไหม?"

     

     

    เด็กชายนิ่งเงียบตากลมเหลือบมองซิสเตอร์ที่ยืนอยู่ข้างเขา รอยยิ้มแสนอบอุ่นบนใบหน้าใจดีทำให้เด็กชายอุ่นใจคำพร่ำสอนของเธอกรอกลับเข้ามาในความทรงจำ

     

     

    เธอจะต้องเป็นเด็กดีนะ จีฮุนอา

     

     

    ดวงเนตรใสสบเข้ากับความนุ่มลึกสีรัตติกาลอีกครั้งรอยยิ้มบางวาดขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลายามเด็กชายพยักหน้า

     

     

    "ครับ จีฮุนอยากไป"

     

    "เก่งมากเด็กดี" ความอบอุ่นทาบลงบนศีรษะกลม – อบอุ่น ในแบบที่เขาไม่เคยพบเจอ

     

    "ซองอู เรียกฉันว่าซองอู"

     

    "ครับ คุณซองอู"

     

     

     

    -Our kiss -

     

     

     

     

                พัคจีฮุนพบกับเขาครั้งแรกเมื่อสามเดือนก่อน รูปร่างสูงโปร่งชุทสูทสีดำ ใบหน้าคมคร้าม และดวงตาคู่นั้น – ดวงตาสีรัตติกาลคู่นั้นที่สะกดเขาเอาไว้

     

     

                ท้องฟ้าในวันนั้นมืดครึ้ม สายลมที่พัดผ่านกิ่งไม้ส่งเสียงดังหวิวสายฝนเม็ดเล็กโปรยปราย เช่นเดียวกับน้ำตาของใครบางคนที่ร่วงหล่นลงพื้นดิน

     

     

                คุณครับ คุณร้องไห้เหรอ?’

     

     

                เสียงกังวานใสของใครอีกคนฉุดคนที่กำลังจมดิ่งพัคจีฮุนวัยหกขวบที่กำลังหอบลิลลี่ช่อใหญ่ระบายยิ้มในขณะที่ชายแปลกหน้านิ่งเงียบเด็กชายวางดอกไม้ในอ้อมกอดลงบนหลุมศพใกล้ๆ สัมผัสแผ่นหินอ่อนเย็นเยียบด้วยปลายนิ้ว

     

     

                ถ้าร้องไห้ เดี๋ยวคนบนนั้นจะเสียใจนะ

     

    เปล่าหรอก พัคจีฮุนไม่ได้เข้มแข็งกว่าใครเขามีความรู้สึก มีความเสียใจ แต่ซิสเตอร์สอนเขาไว้ว่า –สิ่งที่เสียไป มันไม่มีทางกลับมา

     

                รอยยิ้มหวานวาดขึ้นบนริมฝีปากอีกครั้ง สายลมแผ่วพัดผ่านร่างของเรากลิ่นหอมของลิลลี่โชยขึ้นมา ขณะที่เสียงเรียกจากซิสเตอร์ดังอยู่ไม่ไกลเด็กชายเตรียมเอ่ยคำลา หากยามเมื่อดวงตาคมเงยขึ้นหา – ราวกับทุกอย่างหยุดนิ่ง

     

     

    มืดสนิทดั่งรัตติกาล

    เย็นเยียบ

    นุ่มลึก

    สั่นไหว

    – เขา ให้ความรู้สึกแบบนั้น

     

     

    เด็กชายหลบสายตาสายตาคู่นั้นมันเกินกว่าที่เขาจะทานไหว ความรู้สึกที่ไม่เข้าใจวนเวียนไปในช่องท้องกายบางถอยหลังหนึ่งก้าว ขณะที่ริมฝีปากเอื้อนเอ่ยคำพูดสุดท้ายกับชายแปลกหน้า

     

     

                อย่าร้องไห้อีกเลยนะครับ

     

     

    -Our kiss -

     

     

     

                จูบครั้งที่สองจากเขา – ร้อนผ่าวรุนแรง และแสนจะแตกหัก

     

     

                คืนนั้นบ้านหลังใหญ่เงียบสงัดร่างบอบบางลากชายชุดนอนตัวยาวไปตามทางเดินที่มืดสนิทแสงไฟจากหลอดสว่างวาบยามเขากดปลายนิ้วลงบนสวิชต์

     

                “โอ๊ะตกใจหมดเลยครับ” เด็กหนุ่มทาบมือลงบนหน้าอกขณะที่ดวงตาคมปรายมองเขากลิ่นแอลกอฮอลล์จากไวน์ชั้นดีลอยคลุ้ง

     

                “ดื่มหรือครับ?” เขาเอ่ยถามขณะที่ยกนมแก้วใหญ่ขึ้นดื่มกายสูงโปร่งส่งเสียงตอบรับเบาๆในลำคอ ระหว่างเราเงียบลงอีกครั้ง – หากสายตาคู่นั้นกลับสร้างความวูบไหว

     

     

                คมกริบ

                แลมากด้วยความร้อนแรง

                เขา

                 – ในวันนี้เป็นแบบนั้น

     

     

     

                “อ๊ะ คุณซองอื้อ!”

     

                ริมฝีปากบางเฉียบแนบสนิท ดวงตาสีรัตติกาลสะท้อนภาพเขาความนุ่มลึกดูดดึงให้หัวใจอ่อนโอน ความร้อนผ่าวช่วงชิงลมหายใจขณะที่รอยแตกร้าวภายในใจ – หลั่งไหลเป็นน้ำตา

     

     

                ซูจองอา..”

     

                “ฮึก คุณอื้อ!” พันธนาการแกร่งโอบรอบเอวสัมผัสจาบจ้วงล้วงเข้ามาในชุดนอน กายบางสั่นระริก ธารใสไหลอาบแก้มกลิ่นแอลกอฮอลล์จากริมฝีปากร้อนจัดมอมเมาเขา

     

                แต่ ไม่ – มันไม่ควรเป็นแบบนี้

     

     

                ปั่ก!

                เคร้ง!

     

                โอ๊ย!”

     

                มือเล็กสั่นไหว พัคจีฮุนสะอื้นฮัก ในขณะที่ดวงตาพร่าด้วยหยาดน้ำใสกายสูงโปร่งทรุดลงพื้น หยาดโลหิตไหลตามกรอบหน้าคม กายบางชะงักงัน

     

     

                โกรธ

                เสียใจ

                หากก็ห่วงใยไม่แพ้กัน

     

     

                “คุณซอง-”

                “ไปนอนซะจีฮุน

                “แต่-”

                “ไปเสียเถอะ ฉันไม่อยากทำร้ายเธออีก

     

     

     

    -Our kiss -

     

     

                ซูจอง..

                ใครกันนะ?

                

     

                เด็กหนุ่มถอนหายใจยามสิ่งที่คั่งค้างในความคิดลอยวนกลับมาอีกครั้งเสียงกรอบแกรบของกระดาษดังท่ามกลางความเงียบห้องหนังสือคือสิ่งที่เขาโปรดปรานนักในบ้านหลังนี้กลิ่นหอมจากเทียนหอมลอยอบอวลยามที่ปลายนิ้วแตะลงบนสันหนังสือ

     

                “หืมอ๊ะ!” กายเล็กถอยห่างยามหนังสือแปลกตาร่วงหล่นปกสีฟ้าอ่อนแผ่ออก บางสิ่งจากหนังสือกระจัดกระจาย

     

     

              ’24Mar 2013

              Withmy Soojeong’

     

     

                รูปถ่ายแผ่นเล็กหลายแผ่นร่วงหล่นลงบนพื้นพรม เด็กหนุ่มเก็บมันขึ้นมาลายมือคุ้นตาตวัดเรียงกันบนกรอบสีขาวใบหน้าคุ้นตาปรากฏอยู่บนรูปถ่ายทุกใบพร้อมกับใครบางคน – ที่บีบหัวใจ…ให้มันเต้นช้าลง

     

              มือเล็กสั่นไหวยามที่สายตาสะท้อนภาพตนในกระจกความว่างเปล่าลอยวนในใจขณะที่ก้มลงมองใบหน้านั้นบนรูปถ่ายอีกครั้ง

     

     

              ผู้หญิงคนนั้น

     

              “นั่นเธอกำลังทำอะไร?”

     

              เหตุใดจึงมีใบหน้าคล้ายกันกับเขา?

     

                “เธอไม่ควรจะแตะต้องมัน

               

                ความรู้สึกบางอย่างตีตื้นขึ้นในอก ขณะที่รูปถ่ายถูกดึงไปจากมือใบหน้าหวานก้มต่ำยามที่ไหล่เล็กสั่นสะท้าน

     

     

                “ฮึก.. เพราะแบบนี้หรือครับ..”

                “…”

                “เพราะแบบนั้น… ผมถึงมาอยู่ที่นี่..ใช่ไหม?”

                “…”

                “ตอบมาสิฮึก!! เพราะคุณอยากให้ผมเป็นตัวแทนของเธอใช่ไหม?! ตอบมาสิครับ!!”

                “พัคจีฮุน!”

                “ผมไม่ได้อยากเป็นตัวแทนของใคร!!! ฮึก… และถ้ามันเป็นแบบนั้น.. ผมก็ขอไปจากที่นี่เสียดีกว่า

     

     

                ดวงตาพร่ามัวจ้องมองใบหน้าที่เขาหลงรัก – พัคจีฮุนไม่ได้เด็กเกินกว่าที่จะไม่เข้าใจว่าความรู้สึกในใจเขามันคือสิ่งใด

                

     

                แต่เขา

                ก็ไม่เคยอยากเป็นตัวแทนของใครเช่นกัน   

     

     

     

    -Our kiss -

     

     

                แกร๊ง

     

     

                เสียงช้อนสแตนเลสกระทบแก้วกระเบื้องดังแทรกความเงียบยามเช้ากลิ่นหอมกรุ่นของโกโก้ที่เขาโปรดปรานนักหนาไม่ได้ทำให้ใจของเขาหายหนักอึ้ง

     

     

                เจ็ดวันแล้ว

                เจ็ดวันแล้วที่เขาออกมาจากที่แห่งนั้น

     

     

                ทั้งๆที่คิดไว้แล้วว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้นดี 

             แต่ไม่เลย 

             – พัคจีฮุนไม่สามารถหยุดคิดถึงเขาได้เลยสักวินาทีเดียว

     

     

                “..ฮุนอา..”

                “…”

                “จีฮุนอา

                “อะ ครับ?”

     

                เด็กหนุ่มสะดุ้งยามมืออุ่นแตะลงบนไหล่รอยยิ้มใจดีของซิสเตอร์ทำให้เขายิ้มตาม เธอนั่งลงบนเก้าอี้ไม้ตัวใหญ่พลางกวักมือเรียกให้เขาเข้าไปนั่งข้างๆเธอไม่ได้ทำอะไรนอกเสียจากวางมือบนศีรษะของเขา ลูบมันไปมาด้วยความอ่อนโยนดั่งเคยหากแต่นั่น – กลับทำให้ความรู้ในใจล้นทะลักออกมาอย่างง่ายดาย

     

     

              “มีอะไรอยากเล่าให้ฉันฟังไหม?”

     

     

     

    -Our kiss -

     

     

                กิ๊ง

     

     

                น้ำแข็งที่กระทบแก้วใสดังก้องบ้านหลังใหญ่ที่เงียบสงัดบรั่นดีชั้นยอดเหวี่ยงวนไปมายามเขาหมุนข้อมือ องซองอูจรดมันบนริมฝีปากส่งความร้อนผ่าวลงไปในลำคอ

                

     

              แก้วแล้วแก้วเล่า

     

     

                ขณะที่เสียงของบางความรู้สึกคำรามก้องอยู่ในอก

                เขาหลับตาลงอีกครั้ง ซบใบหน้าลงกับแขนทั้งสองข้างปิดเปลือกตาขณะที่ภาพของเจ้าของบางสิ่งในใจเขาเริ่มฉายชัด

     

     

                'คุณซองอูเหนื่อยมั้ยครับผมชงชาไว้ให้'

                เสียงกังวาลใสดังก้องในความคิด

     

                'คุณซองอูทำไมดูเครียดจังเลยครับ ไม่เอาๆ ยิ้มเยอะๆนะ'

                รอยยิ้มสดใสกรอกลับมาราวกับถูกเปิดเทป

     

                'ฮึก..'

                เสียงสะอื้นไห้และรอยน้ำตาชัดเจนในความทรงจำ

     

     

                ทุกอย่างบีบรัดหัวใจเขา

     

                รวมถึงอีกหนึ่งความรู้สึกที่กำลังเด่นชัดภายในใจ

     

                คิดถึง

     

                องซองอูคนนี้คิดถึงพัคจีฮุนเหลือเกิน

     

     

    -Our kiss -

     

     

     

                "หมดสภาพอีกแล้วนะมึง"เสียงทุ้มและร่างสูงใหญ่ของเพื่อนสนิทปลุกเขาจากภวังค์ดวงตาคมปรายมองคังแดเนียลที่ทิ้งตัวลงข้างเขาปล่อยคำเหน็บแนมของมันออกไปและส่งความร้อนผ่าวลงลำคออีกครั้ง

     

                “ถามจริงๆเถอะนะ มึงชอบเด็กคนนั้นเหรอ?”

     

                องซองอูหยุดชะงัก เขาลดแก้วบรั่นดีลง และถามคำถามเดียวกันนั้นกับตนเอง คำถาม – ที่เขาให้คำตอบมันไม่ได้มานานหลายปี

     

                เขานิ่งในขณะที่แดเนียลเงียบมันไม่ได้พูดอะไรนอกจากนั่งอยู่ข้างเขาเช่นเดิม หากแต่สายตาของมันกำลังกดดันเขาและเขาก็รู้ดี มันคงจะเหนื่อยหน่ายกับตัวเขาเต็มทน

     

     

                “กูเคยเตือนมึงแล้ว

                “อืม กูรู้

     

     

                แดเนียลถอนหายใจ ความเงียบปกคลุมลงมาอีกครั้ง มีเพียงเสียงแก้วกระทบกันและเสียงกรุ๊งกริ๊งจากพวงกุญแจดังแทรกเมื่อมันขยับกาย

     

     

                “กูจะถามมึงอีกครั้งนะ

                “มึงชอบเขาใช่ไหมไม่ต้องตอบกูก็ได้ตอบแค่หัวใจมึง

                “และถ้ามันใช่ – มันก็ถึงเวลาที่มึงควรจะไปเอาหัวใจตัวเองกลับมาสักที

     

     

     

    -Our kiss -

     

     

     

                เสียงลมพัดดังหวิว กระดิ่งที่แขวนไว้ส่งเสียงกรุ๊งกริ๊งยามสายลมแตะต้องมันแสงแดดยามเย็นสาดส่องใบหน้า พัคจีฮุนแตะปลายนิ้วลงบนกลีบบอบบางของกุหลาบสีแดงสดจ้องมองหยดน้ำสีใส ขณะที่เสียงของซิสเตอร์ถูกกรอซ้ำไปมาในห้วงความคิด

     

     

                จีฮุนรักเขาไหม?’

                

     

                เธอถามเพียงเท่านั้น

                และเขา – ก็มีเพียงคำตอบเดียวเท่านั้นเช่นกัน

     

     

              “จีฮุนอา..”

                

     

                เสียงที่คุ้นเคยตรึงกายบอบบางให้แข็งทื่อมือเล็กทิ้งลงข้างกายขณะเบือนสายตามองเจ้าของคำตอบทั้งหมดในหัวใจ

     

                เขา – ยังคงอยู่ในชุทสูทสีดำเช่นเคยดวงตาสีรัตติกาลที่เคยคมกริบ หากตอนนี้มันโอนอ่อนแต่สิ่งที่เป็นองซองอูยังคงดึงดูดเขา นุ่มลึก แลเย็นเยียบ

     

     

                ทั้งหมดนั่น

              ยังทำให้เขาตกหลุมรักองซองอูซ้ำๆดั่งที่ผ่านมา

     

     

                ดอกลิลลี่ช่อใหญ่ทำให้รู้สึกสั่นไหวดวงตากลมใสสั่นระริกในยามที่กลิ่นของรัตติกาลที่แสนอบอุ่นขยับเข้าใกล้ความอุ่นเข้าเกาะกุมมือซ้ายขณะที่เขา – ประทับจุมพิตลงบนมือข้างซ้ายเฉกเช่นวันนั้น

     

                ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อใดที่ธารใสไหลอาบแก้ม เขาจ้องมองดวงตาคู่นั้น – ดวงตาสีรัตติกาลคู่นั้นที่ฉุดเขาให้ดำดิ่งลงไปในหลุมดำอันใหญ่ที่ชื่อว่าองซองอู

     

                มืออุ่นไล้ตามกรอบหน้า เขาฝากจุมพิตแผ่วเบาไว้บนรอยน้ำตา ขณะที่ความนุ่มลึกกำลังโอบกอดตัวเขา

     

     

                “ขอโทษนะ…”

                “…”

                “ขอโทษที่ทำให้เธอเสียใจ..”

                “…”

                “ขอโทษที่ไม่เข้าใจหัวใจตัวเองเสียที

                “ฮึก..”

                “จีฮุนนา… กลับบ้านเราเถอะนะ

     

     

     

    -Our kiss -

     

     

     

                บ้านหลังใหญ่ในคืนนี้เงียบสงัด ห้องนอนกว้างสะท้อนเสียงหายใจดังก้องหากทุกสิ่งนั้นไม่ได้น่าอึดอัด มีเพียงความขะเขินของเด็กหนุ่มที่กำลังลอยฟุ้งพันธนาการแกร่งโอบรอบเอวเขา ขณะที่ปลายจมูกโด่งกดบนไหล่บางซ้ำๆ

     

     

                “คุณซองอูครับ…” เสียงหืมเบาๆจากลำคอแกร่งนั้นเขย่าใจเขาให้สั่นไหวดวงหน้าหวานขึ้นสีแดงจัดเสียจนคนมองยิ้มเอ็นดูอย่างอดไม่ได้

     

                “ว่ายังไงหืม?” เขาถามซ้ำในขณะที่เจ้าของกายบางในอ้อมกอดหลบตา

     

                “ไม่มีอะไรครับ

     

                เราปล่อยให้ความเงียบโรยตัวลงมาแบบนั้น เขากระชับอ้อมแขนแกร่ง กดปลายจมูกลงบนผิวเนื้ออ่อนกลิ่นรัตติกาลที่หลงใหลโอบกอดเด็กหนุ่ม เสียงทุ้มเอ่ยทำลายความเงียบ

     

                “โกรธฉันไหม?”

     

                “ถ้าบอกว่าไม่… ก็คงจะโกหกสินะครับ” 

     

                “ขอโทษนะ” อีกครั้งที่เด็กหนุ่มส่ายศีรษะ

     

                “ไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไรเลย แค่ตอนนี้มีคุณ… มันก็ดีมากแล้วจริงๆครับ” ไม่รู้ว่านี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วที่องซองอูหลุดยิ้มเขาประคองแก้มนิ่มไว้มือ ดวงตากลมสะท้อนเพียงภาพของเขา

     

                ใบหน้าคมคายคืบคลานเข้าใกล้ รัตติกาลที่เย็นเยียบหากอบอุ่นโอบรอบกายลมหายใจอุ่นคลอเคลียปลายจมูก

     

                “จีฮุนอา… ขอบคุณที่ยอมกลับมา

                “…”

              “ฉันรักเธอนะ

     

               

                ครั้งแรก… ที่จูบของเราลึกซึ้งกว่าที่เคยเป็น

     

     

    -Our kiss -

     

     

                แลหากมีคราที่หนึ่ง ก็ต้องมีสอง สาม สี่ ห้า..

     

     

                ทุกจุมพิตจากเขาล้วน

     อ่อนโยน

     เร่าร้อน

    และ

     – รุนแรง

     

                ทุกความร้อนผ่าวประทับลงบนผิวกาย

                แก้มใส

                ขมับ

    ใบหู

    แผ่นอก

    ไล่หากระดูกซี่โครงคู่ที่แปดเก้า สิบ

     

    "อ๊ะ ฮะ.."
    "ชู่ เด็กดี"

     

     

    ริมฝีปากบางเฉียบเอ่ยคำหวานกระซิบชิดผิวเนื้ออ่อนมือแกร่งไล้ตามแนวกระดูกสันหลังชวนให้ขนกายลุกชัน

     

    เขาประทับจุมพิตลงอีกครั้ง

     

    ขณะที่พัคจีฮุนแหงนหน้าเสียงใสดังก้องยามที่เรียวลิ้นแกร่งตวัด – ความวูบไหวในช่องท้องยังเป็นสิ่งที่พัคจีฮุนในวัยสิบแปดปีอธิบายไม่ได้เช่นเคย

     

                “อ๊ะ อือ.. คุณซองอู…” สุ้มเสียงหวานล่องลอยยามที่ความร้อนผ่าวขยับแทรกเข้าหาอีกหนึ่งจุมพิตจากเขาประทับบนแผ่นอกข้างซ้าย – หัวใจของเด็กหนุ่มเต้นแรง

     

                “ว่ายังไงเด็กดี

     

                “ขอจูบ… ได้ไหมครับ?”

     

                สุ้มเสียงทุ้มหัวเราะ รอยยิ้มแบบที่เขาชอบวาดบนใบหน้าหล่อเหลาความนุ่มลึกสีรัตติกาลชักชวนให้ลุ่มหลง

     

                ยามที่ริมฝีปากบางเฉียบแนบเข้าหา

     

     

     – พัคจีฮุนก้าวขาดำดิ่งสู่รัตติกาลที่ชื่อว่าองซองอูอีกครั้ง

     

     

     

    -Our kiss -

     

     

     

    [Talk]

    เขินค่ะ จะไม่พูดเยอะ 5555555

    จริงๆมันน่าจะจบตั้งแต่น้องยอมกลับมาแล้ว555 

    แต่ตอนท้ายก็เป็นของแถมละกันเนอะ แฮ่

    ฝากด้วยนะคะแล้วเจอกันใหม่เรื่องหน้าคั้บ!

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in