เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
cloudy story | onghoon fanfictioncloudyseasky_
Onghoon ♡ You’re the only one I see
  • Ong Seongwu x Park Jihoon

    Title : You’re the only one I see
    Colorverse

    #cloudystory

    Note : เพิ่งเคยเขียนเวิร์สนี้ยังไงก็ ฝากเรื่องนี้ด้วยนะคะ :-)

     

     

     

     



    -You’re the only one I see-

     

     

     

     

     

    คุณเห็นโลกใบนี้เป็นสีอะไรครับ?

     

     

     

    เหลือง?

     

     

    ชมพู?

     

     

    หรืออาจจะฟ้า?

     

     

     

    แต่ว่าผมเห็นโลกใบนี้

     

     

     

     

    – เป็นสีขาวดำ

     

     

     

     

     

     

    -You’re the only one I see-

     

     

     

     

     

     

     

    สีเทา

     

     



    เป็นเฉดสีที่องซองอูคุ้นชินกับมันมากที่สุด

     

     

     

     

    ตั้งแต่จำความได้เขาก็มองเห็นสีสันของโลกใบนี้ได้เพียงแค่สีขาวและสีดำโรคประหลาดที่แม้แต่วิทยาศาสตร์ก็หาคำตอบให้ไม่ได้เขาเป็นมนุษย์ตาบอดสีในเคสที่แสนแปลกพร้อมกับคำทำนายจากหมอดูอีกหนึ่งอย่างที่มนุษย์ในยุคโลกาภิวัตน์อย่างเขาไม่คิดจะปักใจเชื่อ

     

     

     

    เขาจะสามารถเห็นสีได้ก็ต่อเมื่อเจอโซลเมทนั่นน่ะหรือ?

     

     

     

    มันไม่ไร้สาระไปหน่อยหรืออย่างไรกัน?

     

     

     

    แต่ถ้าหากเหนือฟ้ายังมีฟ้า

     

     

     

    เหนือโรคประหลาดที่เขาเป็นอยู่นี้ก็ไม่แน่ว่าปาฏิหาริย์

     

     

     

    – อาจมีอยู่จริง

     

     

     

     

    ดั่งเช่นตอนนี้ตรงหน้าของเขา เด็กหนุ่มที่มาพร้อมกับรอยยิ้มกว้างดวงตาสุกใสคล้ายเก็บเอากาแล็คซี่นับพันไว้ข้างในมันแวววาวสดใสแม้เขาจะมองเห็นเพียงสีขาวและดำ และ ตอนที่เราสบตากัน ณ ตอนนั้น – บางอย่างในโลกขององซองอูกำลังเปลี่ยนไป

     

     

     

     

    'พัคจีฮุน'

     

     

     

    ชื่อของเด็กคนนั้น

     

     

     

    และสีในโลกของเขา

     

     

     

    ที่ไม่เหมือนเดิม

     

     

     

     

     

     

     

    -You’re the only one I see-

     

     

     

     

     

     

    ในวันนั้นที่แสงแดดแผดจ้าและอุณหภูมิที่ร้อนระอุเสียยิ่งกว่าทุกวัน

     

     

    ในวันนั้น – เป็นครั้งแรกที่องซองอูได้รู้จัก สีแดง

     

     

     

    ณเวลาเก้าโมงเศษท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนแรงของกรุงโซลองซองอูกำลังทำหน้าบอกบุญไม่รับพร้อมกับสะพายกล้องตัวเก่งท่ามกลางผู้คนมากมายที่เขาไม่เคยชินเอาเสียเลย

     

     

     

    คนที่ถูกขอร้องกึ่งบังคับจากฮวังมินฮยอนให้มาช่วยเก็บภาพบรรยากาศการถ่ายแบบดาวเดือนของแต่ละคณะยืนหน้าหงิกอยู่มุมห้องรับรองในขณะที่ไอ้คนที่บังคับเขามากำลังยิ้มร่าถ่ายรูปกับคนนั้นทีคนนี้ที

     

     

     

     

    โธ่พ่อเดือนมหาลัย!

     

     

     

     

    มึงอย่าทำหน้าน่ากลัวแบบนั้นดิวะ น้องมันเกร็งหมดละเนี่ย” เขาหันมองเพื่อนสนิทที่เข้ามากระซิบอยู่ข้างๆก่อนจะกวาดสายตามองเด็กหนุ่มเด็กสาวหน้าตาดีที่ยืนคุยกันอยู่เงียบๆพลางถอนหายใจแล้วลดความหน้าตึงลงนิดหน่อย

     

     

     

    กูรู้ว่ามึงไม่ชอบ แต่กูจำเป็นจริงๆว่ะ

     

     

    เออไม่เป็นไร

     

     

     

    เขาเอ่ยปัดเพื่อนที่กำลังจะขอโทษเขาเป็นรอบที่ร้อยของวันนี้ร่างสูงโปร่งกวาดมองโลกสีเทาของเขาที่ยังคงเป็นเช่นเดิมเหมือนทุกๆวัน มีสีขาว เทาไล่ระดับไปจนถึงสีดำ องซองอูเคยชินกับมันรวมถึงมินฮยอนที่รับรู้ถึงความแปลกประหลาดในการมองเห็นของเขาด้วย

     

     

     

    เขาหยิบกล้องขึ้นมาเช็คความพร้อมในขณะที่มินฮยอนเดินหายไปในกลีบเมฆอีกรอบดวงตาคมหยีลงหนึ่งข้างขณะที่เริ่มมองโลกใบนี้ผ่านเลนส์กล้อง เขากวาดสายตาไปเรื่อยเด็กหนุ่มสาวหลายคนกำลังถูกแต่งเติมสีสันบนใบหน้าที่องซองอูตอบไม่ได้หรอกว่ามันมีสีอะไรบ้าง

     

     

     

     

    แชะ

     

     

     

    เสียงชัตเตอร์ดังในยามที่เขากดนิ้วเก็บภาพตามหน้าที่ผ่านมุมมองสีเทา เลื่อนเลนส์ไปทางซ้ายบ้างขวาบ้างตามแต่ที่อยากทำ

     

     

     

    น้องคนนั้นสวยดีเขาก็กด

     

     

     

    แชะ

     

     

     

    น้องคนนั้นหล่อดีเขาก็กด

     

     

     

    แชะ

     

     

     

    และสีผมน้องคนนั้นเด่นดีเขาก็กด

     

     

     

    แชะ

     

     

     

    เฮ้ย!?

     

     

     

    องซองอูเบิกตาโพลงในขณะที่ปล่อยกล้องหลุดจากมือสายคล้องคอของมันทำหน้าที่ได้ดีโดยการห้อยต่องแต่งกระแทกกับอกของเขา

     

     

     

    แต่องซองอูไม่มีใจจะมาสนเรื่องนั้นหรอก

     

     

    ก็ความสนใจของเขาน่ะ

     

     

     

     

    เฮ้ยซองอู นี่น้องคณะเราเว้ย

     

     

     

    “…”

     

     

     

    สวัสดีครับ จีฮุนครับ พัคจีฮุน :-)

     

     

     

     

    มันถูกพัคจีฮุนผมสีอะไรสักอย่างดึงไปหมดแล้วยังไงล่ะ

     

     

     

     

     

     

    -You’re the only one I see-

     

     

     

     

     

     

    กว่าจะรู้ตัวว่านิ่งอึ้งไปนานแค่ไหนก็ตอนที่ศอกแหลมๆของฮวังมินฮยอนกระแทกเข้าที่สีข้างนั่นล่ะองซองอูละสายตาจากกลุ่มผมสีโดดเด่นท่ามกลางโลกสีเทาของเขา

     

     

     

    "ซองอู องซองอู"เขาเห็นกาแล็คซี่เล็กๆนั่นพราวระยับก่อนมันจะยิบหยีลงเพราะพวงแก้มสีระเรื่อดันดวงตาเรียวสวยขึ้นไปพัคจีฮุนคนนั้นยิ้มกว้างเขาพูดเบาๆว่ายินดีที่ได้รู้จักก่อนที่จะถูกฮวังมินฮยอนลากไปอีกทางทิ้งไว้เพียงองซองอู และโลกของเขาที่มีมากกว่าสีขาว เทา และดำ

     

     

     

    .

    .

    .

    .

     

     

     

    ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงกว่าๆการถ่ายภาพเดี่ยวในช่วงเช้าผ่านไปด้วยดีเหล่าพี่เลี้ยงและตัวแทนคณะแยกกันนั่งทานข้าวเที่ยงอยู่คนละมุมรวมถึงทวนสคริปต์คำถามไปด้วยองซองอูที่ทานข้าวเรียบร้อยยังคงทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป เก็บรูปน้องคนนั้นบ้างคนนี้บ้าง ต้นไม้(ที่เขามองไม่เห็นสี)บ้าง แมวอ้วนข้างทางบ้าง แต่จนแล้วจนรอด

     

     

     

    องซองอูก็ยังหันเลนส์กล้องกลับไปหาพัคจีฮุนคนนั้นและ

     

     

     

    แชะ

     

     

     

    รูปของเด็กคนนั้นถูกบันทึกผ่านมุมมองสีเทาของเขาเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่อาจนับได้

     

     

     

    "แหน่ะ ถ่ายบ่อยเชียว"เขากลอกตาเมื่อเพื่อนสนิทตัวดีเดินเข้ามายืนข้างกายฮวังมินฮยอนในตอนนี้ดูแปลกตามากกว่าเดิมเขาไม่เคยคิดว่าสีผิวของมันจะสว่างมากขนาดนั้นและที่แปลกที่สุดในความรู้สึกก็คงเป็นเสื้อสีสดที่กระแทกสายตาเขาอยู่ในตอนนี้

     

     

     

     

     

    "มินฮยอน วันนี้มึงใส่เสื้อสีอะไร? "

     

     

     

    ห๊ะถามทำไมวะ"

     

     

     

    "ตอบมาเหอะหน่า"

     

     

     

    "สีแดง วันนี้กูใส่เสื้อสีแดง"

     

     

     

    "สีแดงมันเป็นแบบนี้เหรอวะ?"

     

     

     

    "เออ มันเป็นแบบ- เมื่อกี้มึงว่าอะไรนะ?" เขาหลุดหัวเราะเมื่อเพื่อนตัวดีหันกลับมาทำหน้าเหมือนเห็นผีใส่เขาตาเรียวรีของมันเบิกกว้างขณะที่มือเขย่าไหล่เขาไปมา

     

     

     

    มึงเห็นสีแล้ว?!! "

     

     

     

    เออ แต่ไม่ทุกสีนะ ตอนนี้กูเห็นสีนี้ "เขาจิ้มลงไปบนแขนตัวเองและแขนเพื่อนสนิท "มันคือสีผิว ใช่มั้ยและกูก็เห็นสีนี้ สีแดง แบบเสื้อของมึง แบบสีผมของเด็กคนนั้น"คราวนี้เขาขยับนิ้วจิ้มลงบนเสื้อยืดตัวในของเพื่อนสนิทก่อนจะพยักเพยิดไปทางเด็กหนุ่มอายุน้อยกว่าอีกคนที่กำลังคร่ำเคร่งกับสคริปต์ในมือ

     

     

     

    มึงเห็นสีแล้ว จริงเหรอวะได้ยังไง?" เขาส่ายศีรษะเป็นคำตอบ นั่นเป็นคำถามที่เขากำลังหาคำตอบให้ตัวเองอยู่เช่นกันแม้จะมีหนึ่งคำตอบที่เด่นชัดอยู่ในใจแต่คนที่ค้านมันมาตลอดอย่างเขาก็ไม่อยากจะยอมรับนัก

     

     

     

    แต่ก็นั่นแหละ

     

     

     

    "หรือว่า..."

     

     

     

    บางที

     

     

     

    "มึงจะเจอเนื้อคู่แล้ววะ? "

     

     

     

     

     

    เขาคงต้องยอมรับมันจริงๆแล้วล่ะ

     

     

     

     

     

     

     

    -You’re the only one I see-

     

     

     

     

     

     

     

     

    เขาโดนทิ้งให้อยู่อย่างโดดเดี่ยวอีกครั้งในช่วงบ่ายฮวังมินฮยอนหายไปคุมน้องอีกรอบ ในขณะที่เขาเดินร่อนไปมาถ่ายรูปตรงนั้นบ้างตรงนี้บ้าง อันที่จริงวันนี้ก็สนุกดี ได้มาเจอกิจกรรมที่เขาไม่เคยได้ทำได้เห็นความสนิทสนมกันอย่่างรวดเร็วของเด็กๆหลายคนในแบบที่คนเก็บตัวและเพื่อนน้อยแบบเขาไม่ค่อยได้เจอข้อจำกัดเรื่องการมองเห็นของเขาเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เขาไม่ค่อยผูกมิตรกับใครนักนอกจากฮวังมินฮยอนที่รู้จักกันมาตั้งแต่ตัวเท่าเข่าเพื่อนของเขาก็มีเพียงแค่คังแดเนียล คิมแจฮวาน และเพื่อนต่างคณะอีกคนอย่างคังดงโฮ

     

     

     

     

    แชะ

     

     

     

     

    "แอบถ่ายอีกแล้วนะครับ"

     

     

     

     

    เจ้าของร่างสูงโปร่งสะดุ้งโหยงมือใหญ่กำกล้องตัวโปรดแน่นเขาอยากจะตีมือไม่รักดีที่เอาแต่จะหันไปหาเด็กผมแดงคนนั้นอยู่นั่นพัคจีฮุนที่นั่งอยู่บนโซฟาตรงข้ามเขาขยับตัวลุกขึ้นก่อนจะเดินเขามานั่งข้างๆเรือนผมสีแดงสดโดดเด่นท่ามกลางโลกสีเทาของเขา กลิ่นน้ำหอมลอยแตะจมูกยามที่เด็กคนนั้นโน้มตัวเข้าใกล้

     

     

     

     

    "ขอดูรูปหน่อยได้มั้ยครับ?"

     

     

     

     

     

    และกาแล็คซี่ขนาดย่อมคู่นั้นก็ดึงดูดให้องซองอูตกลงไปในนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า

     

     

     

     

     

     

     

    -You’re the only one I see-

      

     

     

     

     

     

    "พี่ถ่ายรูปสวยจังครับ"

     

     

     

    "งั้นหรือ?" องซองอูไม่แน่ใจนักว่ารูปแบบไหนที่เรียกว่าสวยโลกของเขาตลอดมามีเพียงสีขาว เทา และดำเขามองโลกผ่านวิวไฟน์เดอร์ด้วยมุมมองสีเทามาโดยตลอดตัวเขาไม่อาจตัดสินใจได้ว่าสิ่งไหนที่เรียกว่าสวย แบบไหนที่เรียกว่าดี

     

     

     

    "ไว้ส่งรูปให้ผมบ้างนะครับ"

     

     

     

     

    หือ?  รอจากสโมสิ"เด็กคนนั้นส่ายหน้าพลางยื่นกล้องคืนเขา ปลายนิ้วเราแตะกันเพียงนิด

     

     

     

     

    แต่เท่านั้นก็เพียงพอ

     

     

     

     

    "ไม่ครับ ผมอยากได้รูป จากพี่ :-)"

     

     

     

     

    เพียงพอที่จะทำให้โลกขององซองอู

     

     

     

     

    มีสีสันเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม

     

     

     

     

     

     

     

     

    -You’re the only one I see-

     

     

     

     

     

     

     

    เย็นวันเดียวกันนั้นเป็นวันที่ทางเดินกลับหอขององซองอูต่างไปจากเดิมเขาก็เพิ่งรู้ว่าสีฟ้าของท้องฟ้า มันน่ามองขนาดนี้รู้ตัวอีกทีสีที่เขาเพิ่งเรียนรู้ก็ถูกกลืนหายไปในขณะที่สีรัตติกาลแสนคุ้นเคยกำลังเข้ามาแทนที่

     

     

     

     

    องซองอูละสายตาจากท้องฟ้ายามค่ำคืนนอกระเบียงเขาเสียบเมมโมรี่ของกล้องเข้ากับแล็ปท็อป รอรูปโหลดเข้าเครื่องสักพักก่อนจะค่อยๆไล่ดูรูปในวันนี้ รูปแล้วรูปเล่าผ่านตาเขาไป ก็บอกแล้ว องซองอูน่ะดูไม่ออกหรอกว่ารูปไหนสวยหรือไม่สวย สุดท้ายเขาก็ต้องส่งให้มินฮยอนเป็นคนเลือกอยู่ดีซองอูกดปิดรูปทั้งหมดลง ขณะที่แจ้งเตือนโปรแกรมแชทจากมินฮยอนเด้งขึ้นมาพร้อมๆกับแจ้งเตือนจากใครบางคน

     

     

     

     

     

    Minhyun

    มึง กูคิดว่า

    ถ้าลองดูสักที

    มันก็ไม่เสียหายอะไรนะเว้ย

     

     

     

     

     

     

    PJH.

    พี่ครับ

    ผมมาทวงรูปครับ :-)

     

     

     

     

     

    อืม

     

     

    ก็อย่างที่มินฮยอนว่า

     

     

     

    ลองดูสักที – ก็คงจะไม่เสียหายอะไร :-)

     

     

     

     

     

     

     

    -You’re the only one I see-

     

     

     

     

     

     

     

     

    สี่ห้าวันมานี้องซองอูคิดว่าโลกของเขาเปลี่ยนไปจากเดิมอยู่นิดหน่อยนอกจากสีที่เขาเรียนรู้มากขึ้นมาสองสี

     

     

     

     

    พัคจีฮุน

     

     

     

    ก็ดูจะเป็นสิ่งแปลกใหม่ในโลกของเขาเช่นกัน

     

     

     

     

    เรือนผมสีโดดเด่นยังคงตรึงสายตาเขาไว้เช่นเคยเหมือนกับกาแล็คซี่พราวระยับคู่นั้นที่ยังคงฉุดเขาลงไปในหลุมของพัคจีฮุนซ้ำแล้วซ้ำเล่า

     

     

     

    "อันยองจีฮุนนี่"เด็กคนนั้นโค้งรับคำทักทายจากฮวังมินฮยอนที่วันนี้มันลากเขาออกมานั่งที่คาเฟ่นอกคณะโดยให้เหตุผลว่าอยากเปลี่ยนบรรยากาศพัคจีฮุนไม่ได้ต่างไปจากวันก่อนๆที่เจอกันเท่าไหร่นักเสื้อนิสิตสีขาวถูกยัดเข้ากางเกงเรียบร้อย กางเกงพอดีตัว รองเท้าผ้าใบคู่โปรดกับกระเป๋าถือใบพอดีมือ

     

     

     

     

    อือก็ไม่ได้ต่างจากทุกวัน

     

     

    ยกเว้นแว่นทรงกลมบนใบหน้ารูปไข่นั่นที่ทำให้วันนี้พัคจีฮุนดูต่างไปจากเดิม

     

     

     

     

     

    "ไหนล่ะครับคนที่จะติวเคมีให้ผม?"

     

     

     

    "นี่ไงจะเป็นใครได้ องซองอูคนนี้แหละ"

     

     

     

    "ห๊ะ?" เจ้าของชื่อเบิกตากว้างขณะที่มินฮยอนตบไหล่เขาดังปุๆ

     

     

     

    "มึงเก่งเคมีอะ กูฝากติวให้น้องมันหน่อยนะ เนี่ยกูนัดไอ้แดนไว้มันเร่งกูยิกๆ ไปละนะเว้ย ฝากน้องด้วยๆ จีฮุนให้ซองอูมันสอนนะ พี่ไปละๆ"ไม่ทันจะค้านอะไรฮวังมินฮยอนก็คว้ากระเป๋าเดินลิ่วๆออกจากร้านไปซะแล้ว

     

     

     

     

    อะไรวะ?

     

     

     

     

    องซองอูประมวลผลตามคำพูดของเพื่อนสนิทมันชวนเขามาคาเฟ่นี่ แล้วพัคจีฮุนก็โผล่มาแล้วมันก็ทิ้งเขาพร้อมกับฝากฝังอนาคตเกรดเจนเคมของเด็กคนนึงไว้ในมือเขา

     

     

     

    แบบนี้เหรอ?

     

     

     

     นี่เขาโดนไอ้มินฮยอนหลอกมาเจอพัคจีฮุนเหรอวะ?

     

     

     

     

    ย้อนไปถึงวันแรกที่เขาเล่าถึงสาเหตุของสีแปลกตาในโลกของเขาฮวังมินฮยอนก็ฟันธงในทันทีว่าพัคจีฮุนน่ะ เป็นเนื้อคู่ของเขาจริงแท้แน่นอนถึงจะหาเหตุผลมาเถียงยากแต่องซองอูที่ไม่เคยเห็นด้วยกับคำทำนายนั้นก็ยังค้านอยู่ลึกๆในใจเขาไม่ค่อยเชื่อเรื่องพรมลิขิตหรือเนื้อคู่อะไรทำนองนั้นสักเท่าไหร่

     

     

     

     

     

    แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาประทับใจพัคจีฮุนคนนี้

     

     

    – ประทับใจมากๆเสียด้วยล่ะ

     

     

     

     

     

     

     

     

    -You’re the only one I see-

     

     

     

     

     

     

     

     

    จากหน้าที่การเป็นติวเตอร์ในวันนั้นทำให้เราสนิทกันขึ้นมาเสียอย่างนั้นองซองอูค้นพบว่าเรามีหลายสิ่งที่คล้ายกัน สไตล์เพลงที่ฟัง แนวของหนังที่ชอบดาราคนโปรดจากความประทับใจในคราแรกที่เป็นเพียงแค่การที่เขาได้มองเห็นสีเพราะเด็กคนนั้นในตอนนี้ องซองอูชักไม่แน่ใจเท่าไหร่แล้วว่าการที่เขาอยากเจอพัคจีฮุนในทุกๆวันมันเป็นเพราะเขาโลภในสีพวกนั้น

     

     

     

     

    หรือโลภ

     

     

    ที่อยากจะอยู่ใกล้พัคจีฮุนกันแน่

     

     

     

     

    .

    .

    .

    .

     

     

     

     

     

    องซองอูรู้จักดอกทานตะวันดอกไม้หน้าตาคล้ายพระอาทิตย์ในการ์ตูนเด็ก มีก้านชูคอยาว รวมถึงมีกลีบสีเหลืองสดใสในตลอดชีวิตยี่สิบปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้ว่าไอ้คำว่าสีเหลืองสดใสน่ะมันเป็นแบบไหนแต่วันหนึ่งในเดือนกันยา วันที่อุณหภูมิพอดิบพอดีในความรู้สึก ในตอนนั้น ณเวลาสิบห้านาฬิกา

     

     

     

    สีเหลืองสดใสที่ว่านั่นน่ะ

     

     

     

     

    "พี่ครับ ทางนี้"

     

     

     

     

     

    เทียบกับสีเหลืองบนตัวของพัคจีฮุนไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว

     

     

     

     

     

     

     

     

    -You’re the only one I see-

     

     

     

     

     

     

     

    องซองอูทอดมองเด็กหนุ่มที่ตัวสูงเลยไหล่เขามาเพียงคืบกับเสื้อฮู้ดสีเหลืองสดใสที่กำลังกระโดดไปทางนั้นทีทางนี้ทีมองดูคล้ายกับกระต่ายในคอกเล็กๆที่เจ้าตัวกำลังป้อนแครอทใส่ปากให้

     

     

     

    แชะ

     

     

     

     

    "พี่แอบถ่ายผมอีกแล้ว" พัคจีฮุนพองลมในแก้มในขณะที่เขาทำเมินประโยคนั้นองซองอูไม่ผิดเสียหน่อย ถ้าจะหาคนผิดก็พัคจีฮุนคนนั้นนั่นแหละ ก็พัคจีฮุนน่ะ – น่ารัก

     

     

     

     

    อืม โคตรจะน่ารัก

     

     

     

    แล้วจะให้เขาอดใจไม่ลั่นชัตเตอร์ไหวได้ยังไงกัน?

     

     

     

     

     

     

    -You’re the only one I see-

     

     

     

     

     

     

    "พี่จะทานอะไรครับ?"

     

     

     

     

    ในตอนบ่ายแก่ๆเราสองคนเลือกที่จะจบทริปตามใจพัคจีฮุนในวันนี้ด้วยคาเฟ่ร้านดังร้านหนึ่งเขาเลือกมอคค่าเย็นหนึ่งแก้ว ขณะที่เด็กคนนั้นเลือกช็อคโกแลตปั่นและบราวนี่สองก้อนอาจเพราะคาเฟ่นี้อยู่บนพื้นที่ที่เป็นเนินทำให้วิวจากบาร์ติดหน้าต่างที่เราสองคนเลือกนั่งดูสวยแปลกตาองซองอูทอดมองโลกสีเทาของเขาที่ตอนนี้มีหลายอย่างเปลี่ยนไปเขาได้เรียนรู้ที่จะรู้จักสีหลายเฉดในแบบที่ไม่เคยคาดหวังว่าจะได้เห็น

     

     

     

     

     

    และสิ่งหนึ่งที่เขายินดีที่สุดที่ได้เรียนรู้ – ก็คือใครบางคน

     

     

     

    ที่เข้ามาทำให้โลกสีทึมของเขาเปลี่ยนไป

     

     

     

     

     

    "วันนี้ท้องฟ้าสวยดีนะครับ"เจ้าของเสื้อฮู้ดสีเหลืองข้างกายเอ่ยในขณะที่ยังมือขึ้นเท้าคาง

     

     

     

     

    "พี่ว่าความลับมีในโลกไหม?" พัคจีฮุนยังเอ่ยต่อในขณะที่ดวงตาสีน้ำตาลเข้มคู่นั้นสะท้อนภาพท้องฟ้า

     

     

     

    "ก็น่าจะมีล่ะมั้ง?"

     

     

     

    ครานี้ดวงตาคู่นั้นหันกลับมาสะท้อนภาพเขามันพราวระยับราวกับผืนน้ำ

     

     

     

     

    "วันนี้... ผมมีความลับอยากจะบอกกับพี่.. "

     

     

     

     

     

    ราวกับกาแล็คซี่ย่อส่วนที่คอยจะดูดดึงทุกสิ่งอย่าง

     

     

     

     

    พี่ซองอู.."

     

     

     

    และทุกสิ่งอย่่างนั้น

     

     

     

    "ผมชอบพี่นะครับ"

     

     

     

     

    ก็รวมไปถึงองซองอูคนนี้ด้วย

     

     

                .

                .

                .

                .

                .

     

     

     

     

    ผมไม่รู้ว่าพี่จะจำได้ไหม แต่เมื่อสองปีก่อน...ผมเคยถูกเด็กผู้ชายคนนึงช่วยเอาไว้"ภาพความทรงจำสีเทาถูกกรอกลับเข้ามาในห้วงคำนึงขององซองอู

     

     

     

     

     

    เสียงเอะอะจากซอกตึกลับตาคนเด็กผู้ชายในชุดนักเรียนม.ต้นทับด้วยคาร์ดิแกนตัวโคร่งและเด็กที่ตัวใหญ่กว่าสามคนที่องซองอูคุ้นหน้าคุ้นตาดี

     

     

     

    'เอามาให้หมดกระเป๋าตังค์เลยไอ้เปี๊ยก อย่ามาโกหกว่าไม่มีเงินนะบ้านนายรวยจะตายไปใครๆก็รู้ใช่มั้ย พัคจีฮุน'

     

     

    'ผ.. ผม..'

     

     

    'ไม่ต้องมาหาข้ออ้าง!!!'

     

     

     

     

     

    คนที่ตัวจ้อยสุดในวงล้อมนั้นถอยกรูดเมื่อถูกย่างสามขุมเข้าหากำปั้นใหญ่ที่ถูกรวบเข้าหากันถูกเงื้อขึ้นและนั่นก็มากเพียงพอที่จะทำให้ความอดทนขององซองอูหมดลง

     

     

     

    'เลิกทำตัวแบบนี้สักทีเถอะคิมซังกยุนเจ้าของชื่อหันกลับมาทันทีที่ถูกเรียกคิ้วเข้มเลิกขึ้นอย่างนึกสงสัยว่าเพื่อนประธานนักเรียนโนเนมแบบเขามาทำอะไรตรงนี้

     

     

     

     

    'แล้วมึงเสือกอะไร?'

     

     

     

     

    'เดือนนี้นายเข้าห้องปกครองมากี่ครั้งแล้วนะ สี่ห้า? อืม...หรือฉันควรจะส่งคลิปนี้ให้คุณนายคิมดีล่ะ นายว่ายังไง?' ภาพและบทสนทนาเมื่อสักครู่ที่ฉายอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ทำให้นักเลงที่ดีแค่ปากอย่างคิมซังกยุนหัวเสียได้ไม่น้อยมันจ้องหน้าเขาอย่างคาดโทษก่อนจะเดินหนีไป

     

     

     

    'ฝากไว้ก่อนเถอะมึง'

     

     

     

     

    เออเขาก็หวังว่ามันจะมาเอาคืนไปจริงๆสักที

     

     

     

     

    'ไม่เป็นอะไรใช่มั้ย? ' เด็กคนนั้นส่ายหน้าขณะที่เขาสำรวจร่างกายนั้นอีกครา

     

     

    'ขอบคุณนะครับ'

     

     

    'อืม ไม่เป็นไร'

     

     

     

     

     

     

    "ตอนนั้น.. ขอบคุณนะครับ"

     

     

    "ไม่เป็น-"

     

     

    "เปล่าครับ ผมไม่ได้ขอบคุณเรื่องนั้น

     

     

     

     

    แต่ขอบคุณ – ที่ทำให้ผมได้รู้จักองซองอู"เจ้าของชื่อเผลอกลั้นหายใจในขณะที่แสงจากดวงอาทิตย์ยามเย็นสาดลงกระทบใบหน้าและบางอย่าง – กำลังเริ่มส่องประกาย

     

     

     

     

    "องซองอูที่เป็นคนเงียบๆแต่ใจดีองซองอูที่ทำให้ผมหลงรักเสียงกีตาร์ของเขาซ้ำๆ องซองอูที่รักการถ่ายรูปมากกว่าอะไรขอบคุณที่ทำให้ผมได้ตกหลุมรักองซองอูคนนั้น"

     

     

     

     

    ณวินาทีนั้น

     

     

     

     

    "คนที่ผมอยากจะเป็นรอยยิ้มของเขาในทุกๆวัน"

     

     

     

     

    องซองอูเพิ่งเข้าใจว่าทำไม

     

     

     

     

    "คนที่ผม... อยากจะเป็นสีสันในโลกของเขา"

     

     

     

     

    สีชมพู... ถึงเป็นสีของความรัก

     

     

     

     

    ความลับของผม... หมดแล้วครับ แล้วพี่ล่ะ มีความลับจะบอกผมไหม?"

     

     

     

     

    ดวงตาพราวระยับนั้นช้อนสบเข้ากับเขา

     

     

     

    และเท่านั้นก็มากพอ

     

     

     

    ที่องซองอูจะพ่ายแพ้ให้กับพัคจีฮุน อีกครั้ง

     

     

     

     

     

     

    พี่ก็มีความลับ... โลกของพี่ – ไม่เหมือนใคร มันมีแค่สีขาว ดำ และเทา มันเป็นแบบนั้นมาตลอดและควรจะเป็นแบบนั้นไปตลอดเหมือนกัน"

     

     

     

    "..."

     

     

     

    "แต่ในวันนึงตอนเกรดสิบเอ็ด วันนั้นพี่เดินกลับบ้านเหมือนทุกวันแต่ในตอนที่เดินผ่านตรอกเล็กๆตรอกหนึ่ง สีของพี่ มันเปลี่ยนไป"

     

     

     

    "มันไม่ได้มีแค่สีขาว เทา และดำเหมือนทุกที มัน – ไม่เหมือนเดิม"

     

     

     

     

    องซองอูเคยบอกหรือยังว่าเขามีความลับ?

     

     

     

     

     

    เด็กมอต้นคนนั้น ทำให้สีของพี่เปลี่ยนไปมันมีหนึ่งสีที่พี่ไม่เข้าใจเพิ่มขึ้นมา ไม่เคยเข้าใจเลยว่าทำไมถึงเป็นสีนั้นในวันนั้น พี่ไม่เคยเข้าใจเลย"

     

     

     

     

    และความลับของเขาน่ะ-

     

     

     

     

    แต่ตอนนี้พี่เข้าใจแล้ว"

     

     

     

     

     

    ความลับของเขา ยังคงเป็นคนเดิมมาตลอดหลายปี

     

     

     

     

     

    มือข้างหนึ่งวางลงบนแก้มนิ่มที่เฝ้ามองตลอดมาองซองอูมองลึกเข้าไปในตาคู่สวยที่เขาแอบชื่นชม ลูกแก้วสีน้ำตาลใสคลอด้วยหยาดน้ำมันสะท้อนภาพรอยยิ้มเบาบางบนใบหน้าของเขา

     

     

     

     

    "ขอบคุณ ที่เข้ามาเป็นสีสันในชีวิตของพี่"

     

     

     

     

    ขอบคุณ ที่ทำให้เข้าใจ ว่าทำไม วันนั้นถึงต้องเป็นสีชมพู"

     

     

     

     

    "ขอบคุณ และก็... ชอบเหมือนกันนะครับพัคจีฮุน :-)"

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    -You’re the only one I see-

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    [talk]

    โฮฮฮฮฮฮโมเม้นวันก่อนมันเกินจะรับไหวจริงๆนะคะ T___T

     

    เราอยากลองเวิร์สนี้มานานมากๆแล้วแต่ไม่ได้เขียนสักที พอพี่เขาลงรูปเท่านั้นล่ะค่ะ ไม่ไหวแล้ว ต้องจัดแล้ว T _ T

     

    ถ้าหากผิดพลาดตรงไหนขออภัยมาณ ที่นี้ด้วยนะคะ ;w; 

    แล้วก็หวังว่าหลายๆคนจะชอบเรื่องนี้น้า T - T

     

    ขอบคุณองซองอูที่ทำให้เราได้อัพฟิคด้วยนะคะ 555

    คิดถึงคนอ่านแล้วก็คิดถึงการเขียนฟิคมากๆเลย ;- ;

    หวังว่าเราจะได้มาอัพฟิคให้ทุกคนได้อ่านอีกบ่อยๆนะคะ

     

    สำหรับตอนนี้เราต้องลาไปตบตีกับมิดเทอมก่อนแล้วค่ะ T_____T

    ไว้เจอกันเรื่องหน้าน้า :-)

     

     

    #cloudystory

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in