“เจ้าหมาจรตัวนั้น

มองมาที่ฉันขอร้อง

ช่วยรักหนูแแบบเพื่อนสอง

ได้ลองเล่นกับหนูจะรัก

ถึงแม้ว่าหนูไม่สบาย

แต่ร้ายห่างจากตัวหนูได้

หนูมีรอยยิ้มที่สดใส

หนูได้เป็นแรงบันดาลใจ”

     เรื่องราวนี้เป็นเรื่องราวสุดแสนประทับใจที่เจ้าหมาตัวหนึ่งผู้มากด้วยรอยยิ้ม ทำให้คนตกหลุมรักในพริบตา เมื่อเห็นมันยิ้ม เมื่อเห็นมันสู้กับโรคร้าย และมันสามารถมอบรอยยิ้มจากใจจของมันสู่สายตาของคนไทยได้ 

     มันทำให้เราทั้งรัก ทั้งเอ็นดู และสามารถนำเรื่องราวของมันมาเป็นแรงบันดาลใจในการสู้ต่อไปว่า ถึงแม้หมามันเป็นสัตว์แต่มันก็รักชีวิตและยังเป็นนักสู้ที่จะสู้เพื่อมีชีวิตอยู่

     เรื่องราวในหนังสือเล่มนี้ไม่ได้เป็นเรื่องราวเศร้า ไม่มีเคล้าน้ำตาแน่นอน เพราะมันยังมีชีวิตอยู่ แต่มีแต่เรื่องราวขบขัน ตลก น่ารัก และอดเอ็นดูมันไม่ได้มากกว่า 

“สู้นะครับ ผมให้กำลังใจอยู่”

     คุณยอร์ช ผู้ซึ่งทำเพจ Gluta Story ที่เราฟอลโล่อยู่เหมือนกัน ช่วงนี้จะมีทำมหึหมากับมหึเหมียวที่สนุกดี เรานั่งดู ชอบตอนที่คุณยอร์ชทำรถไฟหมาที่สุด ดูน่ารักดี แต่เอ๊ะ พาทุกคนออกทะเลอีกแล้ว กลับมาๆในหนังสือกัน

     กลูต้าเป็นหมาจรที่คุณยอร์ชและคุณส้มตัดสินใจเก็บมาเลี้ยงค่ะ และมีคนช่วยเหลือทั้งหาอาหาร และออกค่าใช้จ่ายให้ตอนที่กลูต้าป่วยเป็นโรคร้าย คือ โรคมะเร็ง แต่เนื่องจาก โชคของกลูต้าที่เป็นมะเร็ง VG ซึ่งเป็นมะเร็งชนิดเดียวที่สามารถรักษาหายได้

     หลังจากมันรักษาด้วยคลีโม มันดันแพ้คลีโม มันทั้งอ้วก ทั้งเดินโซเซ แต่มันมีสิ่งหนึ่งที่จะเห็นได้ คือ รอยยิ้มอ่อนๆของนักสู้ที่ว่า มันต้องรอดชีวิต และเมื่อผ่านไป ๒ เดือน หลังจากฉีดยารักษาเสร็จแล้ว คุณหมอก็ใช้เลเซอร์ยิงรักษามะเร็ง แล้วหลังจากนั้นมันก็หายขาด

     พอหลังจากที่มันหายขาดนี้ล่ะค่ะ มันกลายเป็นหมาเซเลบไปทันที เพราะคุณยอร์อช นำรูปภาพที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของมันมาโชว์ มันเป็นรอยยิ้มจริงใจ รอยยิ้มดีใจที่มันผ่านโรคนี้ไปแล้ว ต่อจากนี้ มันจะมอบแต่รอยยิ้มสุดแสนซื่อทำให้โลกของทุกคนสดใส 

"หนูจะนับ หนึ่ง สอง สามนะ 

ถ้าใครหันมา จะเห็นความน่ารักของหนู"

     มันจะมีเพื่อนแสนดีที่ต่างกันอย่างกอลลั่ม โดยเจ้ากลูต้าเป็นหมาขี้กลัว เรียบร้อย ส่วนกอลลั่มตรงข้าม แต่ทั้งสองสามารถอยู่ด้วยกันอย่างกลมเกลียวและรักกันอย่างมาก โดยที่มันทะเลาะกันเพียงแค่ครั้งเดียว และกลับมาคืนดีกันแบบรักกันมากกว่าเดิม

“เราเชื่อว่า ทุกคนมีความรักที่

ให้สรรพสัตว์ในหลายมุมมองนะ

ซึ่งเราเป็นทาสทั้งหมาทั้งแมวแบบไม่เคยเลี้ยง

และยังทาสหมีอีกด้วย คือ แบบรักตุ๊กตาหมีมากๆ

เกี่ยวกันไหม ฮ่าๆๆ”

เรื่องราวของเจ้าหมา นามกลูต้าจบแค่เท่านี้ในหนังสือ แต่มันสร้างความรักให้กับเราไปแล้ว มันเลยยังไม่จบในความทรงจำของเรา และทุกคนยังสามารถไปตามความน่ารักของพวกหมาใน Gluta Story ได้ต่อค่ะ

“ความใสซื่อบริสุทธิ์ของหมามัน

ทำให้เราเห็นถึงความรักบริสุทธิ์ที่มันมอบให้นะ

มันไร้พิษภัย อันตรายอันใด”

Look a Breathe