เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
#พี่นักจิตบอกให้เขียนส่งJelli
00.03
  • 00.03 คือเวลาที่สร้างหน้านี้ขึ้นมา

    (ถ้านักจิตของเรากำลังอ่านอยู่—ปิดหน้าจอนี้ได้นะคะ ปิดมันไปก็ดี แต่ถ้าเบื่อจนไม่มีอะไรทำจริง ๆ ละก็ จะอ่านก็ตามใจค่ะ ก็นี่โปรเจคต์ที่ไม่ค่อยจะลับที่ตกลงกันไว้ใช่มั้ยล่ะ แต่พูดจริง ๆ นะคะ กดตัวกากบาทนั่นไปได้ เตือนแล้วนะคะ)

    แบบว่า พอมาพิมพ์ในแพลตฟอร์มนี้ค่อนข้างที่จะไม่คุ้นตา, ไม่คุ้นชินทั้งสายตาแล้วก็สัมผัสบนแป้นคีย์บอร์ดที่กำลังพิมพ์อยู่ตอนนี้ด้วย

    จะว่ายังไงดี มันแปลก ๆ ที่พิมพ์ภาษาไทยหลังจากเขียนเปเปอร์ทั้งหลายด้วยภาษาอังกฤษ ไหนจะความรู้สึกประหลาด คันยุก ๆ ยิก ๆ ในใจเวลาไม่จำเป็นต้องพิมพ์ด้วย Times News Roman ไซส์ 12 พร้อม double space และตามด้วยการเขียนแบบ MLA 

    จริง ๆ บทความแรก (เรียกว่าบทความได้มั้ยนี่ มันออกจะเป็นการบ่นขิงข่ามากกว่า) อยากให้มันมีอะไรมากกว่านี้—แบบว่า ชิ้นงานที่ดูเป็นศิลปะ? ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะมาตอนตีสามหรือไม่ก็ตอนเมากรึ่ม ๆ มากกว่าตอนที่ยังมีสติแบบตอนนี้น่ะนะ (แต่คำว่าศิลปะก็แล้วแต่คนจะตีความอีกอยู่ดีนั่นแหละว่าความหมายและองค์ประกอบที่แท้จริงมันเป็นยังไง)

    แต่ว่านะ วันนี้ก็ถือว่าเป็นวันที่มีความสุข ไหน ๆ ก็ ไหน ๆ จะเขียนอะไรสักอย่างเฉลิมฉลองมันหน่อยก็ไม่ถือว่าแย่เท่าไหร่จริงมั้ย

    วันนี้ถือเป็นวันที่ได้ออกไปมีสังคม เจอเพื่อน ๆ จำนวนหยิบมือ, จำนวนที่เราพอใจที่จะมี และพร้อมตกลงปลงใจจะไปเที่ยวแบบไม่มีแพลน หรือออกไปเจอได้อย่างไม่อิดออด แน่นอนแดดประเทศนี้ค่อนข้างเป็นวายร้ายที่ทำลายความสุขประมาณนึง (รวมถึงมวลประชากรที่แออัดบนรถไฟฟ้า กระทั่งการวางผังห้างที่สับสนงงงวยแถวสยาม-สีลมแห่งหนึ่ง) แต่ก็ได้ทานอาหาร ทั้งคาวและหวาน กาแฟหนึ่งแก้ว คัสตาร์ดเค้กที่หารกินกับเพื่อน แลกหนังสือยืมกันอ่านขณะนั่งตากแอร์ในคาเฟ่ ตกเย็นมาก็นึกคึกอ่านหนังสือจบไปสองเล่ม

    ก็ถือเป็นวันดี ๆ วันนึงแหละ

    จริง ๆ ที่รู้สึกดีก็เป็นเพราะได้อ่านหนังสือนี่แหละ เพราะรู้สึกงุ่นง่าน ไร้ซึ่งสมาธิมานานโข จะหยิบจับหนังสือหรือดูหนังสักเรื่องแบบไม่หยุดเลยก็เป็นเรื่องยาก พอได้อ่านหนังสือจบแบบลืมวันเวลาก็เลยรู้สึกดี๊ด๊าเหมือนกลับไปสมัยประถมที่ชอบแข่งกับตัวเองว่า จะต้องอ่านกองหนังสือที่ไปซื้อจากงานหนังสือให้หมดภายในสามวันให้ได้ กลับคืนขึ้นมา—ความรู้สึกที่เกือบจะหลงลืมไปแล้ว ว่าการอ่านเพื่อความสนุกน่ะมันเป็นยังไง
  • มันก็น่าเศร้าอยู่เหมือนกัน ที่การอ่านกลับกลายเป็นเรื่องที่เราอยากหลีกเลี่ยงเมื่อขึ้นภาคเรียนใหม่

    แต่ความรู้สึกวันนี้ที่หยิบนาร์เนียขึ้นมาอ่าน ยังคงกรี๊ดกร๊าดกับอัสลาน สิงโตที่เท่ที่สุดในโลกอยู่ ยังคงอยากกลายเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ ที่ยังเยาว์วัยพอเข้าไปผจญภัยในนาร์เนียได้ มันก็เป็นความรู้สึกดีจริง ๆ นั่นแหละ เหมือนเป็นสัญญาณเล็ก ๆ อะไรบางอย่างว่า เรายังสนุกกับการอ่านอยู่ เรายังสนุกกับการจินตนาการโลกใบใหม่ที่เราสามารถเข้าไปพักผ่อนยามใจว่างได้ 

    อย่างน้อยก็วางใจได้ว่าเรายังท่องเที่ยวบนน้ำหมึกได้อยู่ 
    อย่างน้อยก็วางใจได้ว่า หลังจากที่พลิกหน้าถัดไปแล้ว จะไม่เจอปากกาหลากสี วงกลมสีแดง ตัวเลขสมมติที่บั่นทอนจิตใจ ไม่, ไม่มีพวกนั้นให้เห็น เพราะหน้าถัดไปก็เจออัสลานไงล่ะ

    อย่างน้อยวันนี้ก็เป็นฤดูใบไม้ผลิ ไม่ใช้หน้าหนาวที่หิมะปกคลุม

    ว่าแล้ววันนี้ก็ดูโมเดิร์นแฟมิลี่ให้จบซีซั่นสองดีกว่า


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in