เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เรื่องเล่าเมื่อเราไปเมืองสิงค์ ( in 2015)SnapDiary
Chapter 10/ความบังเอิญมันดีอย่างนี้นี่เอง
  • เราโผล่ขึ้นมาจากสถานีQueenstown ตรงช่องทางออก B   พบว่าสถานีรถไฟนั้นตั้งอยู่เหนือถนนแบบBTSบ้านเรา  กรุ๊ปเราเลี้ยวซ้ายอีกทีตามรีวิวบอกพอลงบันไดก็พบกับถนนกว้างขนาดแปดเลน  คนเขียนรีวิวบอกขั้นตอนต่อไปว่า...ให้ข้ามถนนไปรอรถเมล์สาย195 ในช่องทางด้านซ้าย  เราต้องนั่งรถเมล์ไปอีกสองป้าย ระหว่างทาง ให้สังเกตุห้างอีเกีย IKEAให้ดีจุดหมายของเราจะอยู่ตรงข้ามห้างอีเกีย พอดี กรุ๊ปเราก็ไปตามที่เขาบอกทุกอย่าง ไม่มีผิดพลาด ถือว่าเป็นข้อมูลที่ง่ายแล้วเราก็เดินทางตามได้....สะดวก

                                                                                                            ห้าง IKEA ถ่ายจากบนสะพานลอย


    พอลงรถรถเมล์  เราทั้งสี่เดินข้ามสะพานลอยเข้าสู่ห้าง ระหว่างข้ามสะพาน ฟ้าเปลี่ยนสีความมืดเริ่มเข้าห่มคลุม มีแสงสว่างจากตึกและเสาไฟริมถนนเปิดขึ้นแทน พร้อมๆกับรถที่วิ่งหนาแน่นขึ้น  ผมชอบภาพในกรอบสายตาขณะนี้เลยล้วงมือถือออกมาถ่ายภาพเก็บไว้ แต่ว่า...สงสัยจะลืมปรับโหมดมือถือ(เพราะกึ่งถ่ายกึ่งเดิน)ภาพเลยเบลอ...แต่พอกลับมาเปิดดูรู้สึกชอบนะ ได้ฟิวส์ดี   (ถามน้องในทริปที่ถ่ายมุมเดียวกัน เบลอหมดทุกคน55555)


                                                                   กึ่งเดินกึ่งถ่าย ได้ภาพไหว เพราะแสงน้อย แต่เป็นความทรงจำที่ดีเลยล่ะ


    เราเดินต่อไปไม่นานก็ถึงห้าง  (ที่นี่มีชื่อว่า Anchor point / 370 Alexandra Rd, สิงคโปร์ 159953)   ) คนไม่เยอะอย่างที่คิดไว้ เมื่อเข้าไปข้างในก็พบว่าถึงแม้ห้างจะไม่ใหญ่แต่เต็มไปด้วย ช็อปแบรนด์เนมต่างๆ มากมาย เราเดินดูของแทบทุกช็อปไปเรื่อยๆมุ่งสู่ช็อปที่เราตั้งใจจะมาที่นี่

    แต่ว่า....โชคคงไม่เข้าข้างเราเพราะ  Charlesand Keith  Shop ที่เราตั้งใจมาดูสินค้าเหลือน้อยมาก...และที่น่าเจ็บกระดองใจ(แหน่ะ ไม่ทันมุขอะดิ ต้องวัยเลขสี่นะมุขนี้) เอาใหม่ๆ ที่น่าเจ็บใจคือ....คนขายบอกว่า เมื่อชั่วโมงที่แล้วทัวร์จากประเทศคุณเพิ่งมาลง ที่นี่ เค้าซื้อไปหมดแล้วจ้า....

    ห๊ะทัวร์ประเทศหน่ายยยย ไม่มีหรอก ประเทศผมไม่ซื้อเยอะขนาดน้านหรอกน้องจำผิดหรือเปล่า (คิดในใจนะครับ) แต่ที่มากกว่าคิดในใจคือ ทุกคนร้อง อ้าว.ววววออกมาแทบจะพร้อมกัน

    อ้าว..ววววว..อีกทีนะเออเฮ้อ!!!! ด้วยละกัน

    เอาล่ะในเมื่อจุดหมายของเราถูกช่วงชิงไปก่อนเพียงเสี้ยวชั่วโมง อย่าได้วิตกไปใยดึงพลังแห่งการชอปกลับมา


    ฮึ๊บๆหลังจากฮึบๆ พอได้แรงฮึดกลับมา  เราทั้งสี่ก็เลยเดินๆ ดูโน่น นี่ นั่น  แบบคนกระหายของเซล  ผมขอแยกกับน้องๆเลือกดูในสิ่งที่ตัวเองสนใจ พบว่าราคานั้นไม่ห่างจากบ้านเรามากนักเลย เลยวกกลับมาเดินดูนั่น นี่ ตามๆ น้องๆ  กระทั่งพวกเราไปพบกับ BILLABONG shopเลยเดินแวะเข้าไปดู  พอเห็นป้ายราคาแล้วถึงกับถามพนักงานด้วยความไม่เชื่อสายตาตัวเองราคาที่ติดป้ายนั้นก็ถูกกว่าบ้านเราเยอะแล้วนะ แถมมันมีตัวหนังสือ Sale ติดทับอีก


    โอ้ว....โหขุมทรัพย์สิ่งของราคางามอยู่ที่นี่เอง ผมที่ชอบกระเป๋าเป้อยู่แล้ว...ถึงกับกระเป๋าตังค์สั่นด้วยความไม่แน่ใจในราคาว่า จำผิดหรือเปล่า เลยเข้ากูเกิ้ลเทียบราคาอีกที  ปรากฎว่า....กระเป๋าเป้ใบที่ผมอยากได้รุ่นที่ผมชอบ  ตอนที่ไปจับๆลูบๆ คลำๆที่เซนทรัลบ้านราขาย3590 ที่นี่ 550  บาท

    เอ้า!!!ลุ้ย.....

    ผมได้กระเป๋ามาสองใบ(เล็กหนึ่ง ใหญ่หนึ่ง ) จริงๆ อยากซื้อเยอะกว่านี้ แต่ห้ามใจไว้ซื้ออย่างอื่นพอจ่ายตังค์ก็รู้สึก  ยิ้มในใจ อยู่คนเดียว

    เย้!!!  ในที่สวด เอ้ย สุด การมาที่นี่ก็ไม่เปล่าประโยชน์เห็นไหม ความบังเอิญมันดีอย่างนี้นี่เอง

    น้องๆในกรุ๊ป ที่ไม่ค่อยอินแบบผม ก็ได้ของติดมือมาคนละ ชิ้น สอง สาม สี่ ชิ้น(คนที่ไม่อินได้ สามชิ้นอ่ะ) จนกระทั่งได้เวลาที่เราจะไปต่อ ซึ่งเป็นจุดหมายสุดท้ายในค่ำคืนนี้ผมหันไปถามน้องๆ ว่ามีใครหิวหรือเปล่า ถ้าหิวจะหาอะไรกินกันที่นี่ได้คำตอบว่า.....ยังไม่เท่าไหร่ ไว้ไปกินแถว ห้างมุสตาฟา ดีกว่าน้องคนหนึ่งบอกว่า..อยากลองนั่งกินข้าวยามค่ำในบรรยากาศภาราตะหน่อย ผมก็ โอเค๊ได้ๆ  เมื่อได้คำตอบแบบนี้เราก็แยกย้ายไปทำธุระส่วนตัวเข้าห้องน้ำห้องท่า ให้เรียบร้อย (เออ ทำไม ต้องมีห้องท่าด้วยนะ)  เมื่อเข้าห้องน้ำเสร็จ ผมก็มองหาตู้หยอดเหรียญขายน้ำดื่มเพื่อหยอดพกใส่เป้ไว้แก้กระหาย แต่ไม่มี ไม่เห็น หาอยู่นานไปได้ที่ วัสสันน้องคนขายใจดีมาก เห็นว่าผมเป็นนักท่องเที่ยว เลยแนะนำให้ไปกดน้ำฟรีได้ที่ศูนย์อาหาร ผมยิ้มรับในคำแนะนำ แต่ที่พลาดคือไม่ได้เอากระบอกน้ำมา (น้ำที่นี่แพงมากนะครับ แล้วก็คนที่นี่เค้ากดน้ำฟรีตามห้างตามริมถนน ดื่มได้แบบสบายใจเลย) ผมเลยต้อง จ่ายค่าน้ำไปขวดละ ราว 85 บาท (ฮื้อ..ได้เป้ราคาถูก แต่เสียค่าน้ำดื่มแพงมากกกกก )

    เมื่อทุกคนทำธุระส่วนตัวเสร็จพร้อมออกเดินทาง เราก็เช็คของที่เพิ่มขึ้นมาจากการชอปทุกคน แล้วมาแบ่งกันถือช่วยกันจำ เผื่อบางคนจะลืม...จะหลับบนรถไรงี้ (น้องในทริปคนหนึ่ง หลับได้ทุกๆห้านาที)

    เอาหล่ะพร้อมแล้ว มุสตาฟาเราอยู่ หลังจากนี้ให้เปิดซาวน์ดนตรี ภารตะ แล้วตามเรามานะฮะ

    ดนตรี.......มา

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in