เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
บันทึกแรกของเราNoi Beleza
วันที่แวะแผนกฉุกเฉิน..โรงพยาบาล

  • พอเริ่มปีใหม่ วันอันแสนสุขที่ทุกคนรอคอย
    แม้ว่าจริงๆแล้ว เป็นเพียงช่วงรอยต่อ
    ของการข้ามนาที ต่อนาทีตามปกติ

    เราให้คุณค่าของการเริ่มต้นใหม่
    เราสัญญาว่าเราจะทำสิ่งดีๆ
    ตามเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ในปีใหม่นี้
    ปึกุน ปีหมูทำอะไรขอให้ง่ายๆ สำเร็จกัน
    .
    .
    แต่ยังไม่ทันไร พอเริ่มวันจันทร์ที่ 7 มกราคม
    ลูกเราหกล้มขาแพลง ข้อเท้าบวมเป่ง
    และมึแผลตรงเท้า ร่อยรอยการครูดกับฟุตบาท
    ตอนล้างแผล ก็แสบเล็กน้อย น่าสงสารจัง

    เราพาลูกไปโรงพยาบาลแถวสีลม
    ช่วงใกล้ 2 ทุ่ม มีแต่แผนกฉุกเฉิน
    คนรอคิวเกือบสิบคน หลายคนก็นั่งรถเข็นกัน
    ส่วนใหญ่เป็น case อุบัติเหตุเล็กน้อย ไม่รุนแรง

    นึกภาพในหนังเกาหลี เรื่องหมอๆทั้งหลาย
    คนเข็นเตียงคนไข้ เจ้าหน้าที่วิ่งกรูกันมาช่วย
    ส่ายระโยงระยาง เครื่องช่วยหายใจ
    งานหมอ พยาบาล หนักหน่วงจริงๆ
    .
    .
    ตัดภาพมาที่การรอหมอตรวจ
    และให้ไป X-Ray กระดูก เพื่อความสบายใจ
    ฉีดยาป้องกันบาดทะยัก
    เด็กๆจะเคยฉีดเมื่ออายุ10-12 ปี ตามกำหนด
    1 เข็มอยู่คุมอาการได้ถึง 10 ปี คุ้มดีนะ

    โชคดีว่าลูกบาดเจ็บเพียงเส้นเอ็น
    จะหายเองตามธรรมชาติ
    ให้คอยทานยา และประคบเย็นในวันแรก
    แล้วประคบร้อนในวันต่อๆมา ก็จะหายดี

    การทำประกันอุบัติเหตุไว้ ก็ช่วยได้ดีนะ
    เคยบ่นๆว่า จ่ายไป 2,500 บาท
    เราไม่ค่อยได้ใช้สิทธิ์ คุ้มรึเปล่านะ ?
    แต่พอวันได้ใช้สิทธิ์ ก็แลกกับการเจ็บป่วย
    ทำไว้เผื่อฉุกเฉิน จะมีผลดีแน่นอน
    .
    .
    ดูๆไปแล้วงานของหมอ
    และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล
    เป็นงานเสียสละจริงๆ ทำงานเหน็ดเหนื่อยกัน

    อยู่ใกล้คนที่มีแต่ความทุกข์
    และความคาดหวังของญาติคนไข้
    หมอ..รักษาคนไข้หายป่วย ก็ดีไป
    หากยังไม่หายดี ..
    ญาติ .. คนไข้เองก็มีความกังวลกันต่อไป

    จึงไม่แปลกใจเลยว่า..
    คุณหมอ พยาบาล เจ้าหน้าที่ทั้งหลาย
    เมื่อถึงจุดหนึ่ง ..
    ท่านจะมานั่งสมาธิ ปฏิบัติกัน

    เพื่อให้มีสติ มีปัญญาทั้งกับการทำงาน
    และการปล่อยวาง.. การวางใจเป็นกลาง
    กับความคาดหวังทั้งหลาย ที่รุมเร้ากันเข้ามา
    โดยเฉพาะ case คนไข้อาการรุนแรง รักษายาก
    .
    .
    และปัจจุบัน คนก็เริ่มทำบุญกับโรงพยาบาลรัฐ
    ช่วยกันจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์
    ช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้กัน
    เป็นการแบ่งปัน ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
    สามารถหักชำระภาษีเงินได้ ได้ 2 เท่า
    ได้ทั้งบุญ และมีเงินออมกลับมา
    อิ่มบุญ อิ่มใจกันถ้วนหน้าค่ะ

    ?????

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in