เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
บันทึกสิ่งที่อยากแชร์Kulnida P.
หนัง 5 เรื่องที่เราจะแนะนำ ให้ท่านผู้นำดู !!!!!!
  • ฮือฮาและแซ่ซ้องกันไปทั่วทั้งโลกออนไลน์ กับหนังสือแนะนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ‘Animal farm’ กับแฮชแท็กเด็ดในทวิตเตอร์ #หมดเวลาหมูครองเมือง 

    นอกจากท่านผู้นำจะแต่งเพลงเก่งแล้วยังอ่านหนังสือดีอีกด้วย แลกเปลี่ยนมาทั้งเพลงและหนังสือ อยากจะแชร์ความชอบของเราให้ท่านผู้นำบ้าง และเพราะว่าเราชอบดูหนังเลยขอแนะนำ ภาพยนตร์ 5 เรื่อง ที่ท่านผู้นำควรดู!

    Life is beautiful (1997)

    หนังคลาสสิคตลอดกาล ลุงอาจจะเคยดูแล้ว หนังเล่าเรื่องความพยายามของคุณพ่อที่ต้องการปกป้องจินตนาการของลูกชายให้ออกห่างจากความจริงอันโหดร้าย ความที่ว่าครอบครัวของเขาถูกส่งมาในสถานกักกันและอีกหลายครอบครัวต้องถูก 
    จับอาบน้ำ ’ เพียงเพราะพวกเขาเป็นยิวส์

    หนังทำให้เราอ่อนไหวไปกับครอบครัวนี้ ลูกชายที่น่ารักแสนดีมากๆทำให้เราอยากร่วมมือกับพ่อที่พยายามทำให้โลกของเขากับลูกชายยังสวยงามอยู่เสมอ 

    ถ้าจะให้เล่าอะไรมากกว่านี้ แนะนำไปดูเองเลยดีกว่า แล้วมาบอกด้วยว่าน้ำตาซึมเหมือนกันไหม! 

    Schindler's list (1993)

    ถ้าเอ่ยถึงหนังที่ใช้เหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่2 เป็นองค์ประกอบสำคัญแล้วจะขาดหนังเรื่องนี้ไม่ได้ ชื่อไทยก็บอกว่าเป็น ‘ชะตากรรมโลกไม่ลืม’  หนังชีวประวัติของออสการ์ ซินเลอร์ 
    ผู้ใช้ประโยชน์การเป็นนักธุรกิจวาทศิลป์เป็นเลิศ และช่วยชีวิตผู้บริสุทธิ์จากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์หลายพันราย 

    ความสนใจไม่ได้มีแค่การเล่าในมุมมองของฝั่งนักธุรกิจสัญชาติเยอรมันคนนี้ที่มองเห็นมนุษยธรรมท่ามกลางสงคราม ช่วงที่มืดมนของประวัติศาสตร์ แต่การเล่าเรื่องในฝั่งของทหารเยอรมันก็ปรากฏให้ได้ศึกษาด้วยเช่นกัน ตัวละคร เอมอน ซึ่งเป็นทหารที่ได้รับมอบหมายจากกองทัพนาซีให้จัดการชาวยิวส์ จนกระทั่งเยอรมันแพ้สงคราม ที่หนังไม่ได้จงใจต่อว่าคาดโทษอะไรมากกว่ามองผลจากการกระทำของตัวละคร 

    และเมื่อช่วงต้นปี หนังเรื่องนี้ถูกนำกลับมาฉายในโรงภาพยนตร์เนื่องในโอกาสครบรอบ 25 ปี 

    The hunger games (ทุกภาค)

    ยกหนังอิงประวัติศาสตร์ออกไปให้หมด เราพักมาดูหนังแนวแฟนตาซีดิสโทเปียที่ถอดมาจากวรรณกรรมเยาวชนไตรภาคของ the hunger games ได้อย่างครบถ้วนกันดีกว่า ซึ่งฉบับหนังก็ทำออกมาสามภาคครบตามชื่อหนังสือ ตั้งแต่ The Hunger Games , Catching Fire และ Mockingjay ที่แบ่งเป็น 2 พาร์ท (ส่วนตัวคิดว่ารวบเอาก็ได้นะ)

    สิ่งที่สะท้อนทั้งในหนังสือและในหนังมีความน่าสนใจ เมืองสมมุติหรือ ดิสโทเปียในเรื่องที่จะเชื่อมโยงกับอะไรหลายอย่างในบ้านเราหรือประวัติศาสตร์การเมืองชองหลายประเทศทั่วโลก จึงไม่แปลกใจที่หนังจะกลายเป็นที่พูดถึง รวมถึงสัญลักษณ์การชูสามนิ้วอันโด่งดังของนางเอกด้วย ที่ครั้งหนึ่งหนังเกือบถูกแบนเพราะสัญลักษณ์นี้ และแม้แต่คุณธนาธรยังทำตาม! ถ้าดูหนังก่อนแล้วไปอ่านหนังสือ บอกเลยว่าตัวละครที่คุณรัก คุณจะรักเขามากขึ้นไปอีก รวมถึงความเป็นเหตุเป็นผลของแต่ละขั้วอำนาจที่เล่าออกมาได้น่าสนใจมากๆ


    Ten Years Thailand (2018)


    ไม่มีหนังไทยมาขยี้สักหน่อยก็คงไม่ได้ หนังสร้างจากโปรเจค Ten Years ที่ร่วมทุนสร้างระหว่างไทย-ฮ่องกง-ญี่ปุ่น ต่อเนื่องมาจนถึงเราที่นำผู้กำกับหลายรุ่นหลายขนาด (ใช้คำยังกับเครื่องใช้ไฟฟ้า) มาเล่าคอนเซปต์สิบปีประเทศไทยในความเห็นของตน และเมื่อส่งต่อมาถึง Ten Years Thailand ที่ร้อยเรียงผ่านหนังสั้นทั้งหมด 4 เรื่อง จาก 4 ผู้กำกับ ( Sunset กำกับโดย อาทิตย์ อัสสรัตน์ , Catopia กำกับโดย วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง, Planetarium กำกับโดย จุฬญาณนนท์ ศิริผล และ Song of the city กำกับโดยอภิชาติพงษ์ วีระเศรษฐกุล )

    4 หนังสั้นที่ไม่เชื่อมโยงกันด้วยเนื้อเรื่อง แต่มีการตีความคอนเซปต์ของ Ten Years Thailand ไว้ด้วยกัน อีกทั้งสไตล์ทั้ง 4 เรื่องก็ต่างกันโดยสิ้นเชิงแต่เป็นความหลากหลายที่น่าสนใจในเชิงศิลปะ ภาพยนตร์ และการเมืองที่คมคาย มีนัยยะสำคัญทั้งสิ้น


    The Dreamers (2003)

    ท้ายสุด มาที่หนังหายากกันอีกสักหน่อย แต่เป็นความประทับใจส่วนตัวกับหนังคลาสสิคอีกหนึ่ง The Dreamers หนัง 3 สัญชาติเล่าเรื่องความสัมพันธ์ของตัวละคร 3 คน ที่สะท้อนเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ในช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศสปี 1968 ได้ออกมาแบบลุ่มลึกมากๆ ความเพ้อฟันของปัญญาชนผู้เปี่ยมล้นด้วยอุดมการณ์ ชนชั้น กับคำถามที่ไม่เคยตกยุค กลับมาดูก็ยังรู้สึกเชื่อมโยงได้ เป็นหนังที่มีคุณค่าต่อการศึกษาอย่างยิ่ง หรือจะดูเพื่อชื่นชมความคลั่งศิลปะของตัวละครอย่างเดียวเลยก็ได้นะ

    อวยขนาดนี้แล้ว ถ้าบอกว่าหาดูยาก ที่จริงแล้วตอนนี้น่ะนะ 
    (เริ่มขายของ) ทาง Doc Club เขานำเรื่องนี้กลับมาฉายที่โรงภาพยนตร์ (จำกัดโรงนะ ลองไปดูเพิ่มเติมในเพจ FB ของ Documentary Club นะ) ช่วงเดือนมิถุนานี้ ใครสนใจอยากเสพสุนทรียะในผลงานของผู้กำกับแบร์นาโด แบร์โตลุชชี่ ก็ไปชมกันได้นะ เรท 20+ เอาบัตรปชช.ไปด้วย 

    แค่นี้แหละ สรุปแล้ว เราน่าจะแชร์ให้ทุกคนอ่านมากกว่า
    เพราะผู้นำเราไม่น่าจะว่างดู (ภารกิจเยอะ) จ๊ากก




    Kulnida P.



    ขอบคุณข้อมูลจาก Wikipedia, Documentary Club
     
     

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
honiiejus (@honiiejus)
ถ้าชอบดูแนว life is beautiful เราแนะนำ the pianist อีกเรื่องนึง หดหู่มากก