เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Ramp Internairinc
เด็กฝึกงาน

  • “เช้าวันจันทร์ที่12 มกราคม2558” เป็นเช้าวันจันทร์วุ่นวายมาก

    เราสะดุ้งตื่นมาในห้องเช่ารายคืนแห่งหนึ่งบริเวณถนนกิ่งแก้วเป็นห้องเช่าเพียงคืนละ500 บาท มีมัดจำอีก 250 บาท

    ตอนนั้นเหลือบมองนาฬิกาบนโทรศัพท์บอกเวลา6.50น.เรารีบรุดไปอาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดนักศึกษาถูกระเบียบตั้งแต่หัวจรดเท้าต้อนรับเช้าวัน “ฝึกงาน”วันแรกในชีวิตนักศึกษาของเราหลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เกือบๆแปดโมงเรารีบขนกระเป๋าเดินทางใบเล็กลงมาไว้ด้านล่างหลังเคาเตอร์เล็กๆพร้อมกับฝากฝังกระเป๋าไว้กับคุณลุงคนดูแลว่าหลังเลิกงานเย็นๆเราจะกลับมาเอา

    จากนั้นก็จ้ำเท้าอย่างเร็วออกไปริมถนนเพื่อโบกรถไปอาคารภาคพื้นดินของ Bangkok Flight Services บริษัทที่เราจะเริ่มฝึกงานไปอีก4 เดือนนับจากวันนี้

    เราเลือกเรียนในสาขาที่เด็กอายุ18คนนึงคิดว่ามันง่ายทีสุด และได้อยู่กับคอมพิวเตอร์ เพราะตอนนั้นเราเองยังไม่มีpassion กับการทำงานใด เลยไม่รู้ว่าควรเลือกอะไรเลยไปจบที่ e-office สาขาเล็กๆสมาชิกมีอยู่ไม่ถึง 30คน

    แต่พอขึ้นปี3เราได้ไปอบรมหัวข้อการบิน5วันในโครงการของมหาลัย ได้ไปดูงานได้เรียนรู้พื้นฐานเล็กๆน้อยๆทำให้เรารู้สึกถึงอะไรบางอย่างในตัวเรา มันตื่นเต้นกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้านั้นเราเลยดั้นด้นมาสมัครฝึกงานที่นี่ทั้งที่มันไกลบ้านมาก เดินทาง1.30 ชม. แต่ก็ไม่ย่อท้อจนสุดท้ายเราได้เป็นหนึ่งในเด็กฝึกงานณ ลานจอดเครื่องบินสนามบินสุวรรณภูมิ

    กลับมาที่เช้าวันจันทร์ที่12 มกราคม2558 ดีกว่า พอเราได้แท๊กซี่ก็บอกให้เค้าไปอาคารภาคพื้นอย่างไวเป็นครั้งแรกที่เรานั่งแท๊กซี่มาหนทางเราก็ไม่ค่อยแน่ใจหลงไปอยู่นิดนึง กว่าจะมาถึงก็ 8.45 เดินเข้าไปด้านในมีเพื่อนๆคนอื่นๆที่เริ่มฝึกงานวันเดียวกันนั่งรออยู่หมดแล้ว

    จริงๆเราก็ไม่ได้สายนะเพราะพี่คนที่โทรมาแจ้งเค้าบอกว่า8.30-9.00 นินา พี่เค้าก็เอาเอกสารหลายชุดมาให้พวกเรากรอกเพื่อจะนำไปใช้ประกอบการทำบัตรชั่วคราวเข้าเขตสนามบิน 

    เริ่มตื่นเต้นขึ้นทีล้ะนิดแล้วสิ

    บนโต๊ะมีนักศึกษาฝึกงานนั่งอยู่6คนถ้วน พี่ที่ดูแลเค้าก็คอยตรวจเอกสารเป็นระยะพร้อมบอกว่า ต้องใช้ “บัตรประชาชนตัวจริง”เราก็ควานหาบัตรในกระเป๋าจนทั่วก็หาไม่เจอ /ซวยแล้วลืมไว้ในกระเป๋าใบเล็กที่ทิ้งไว้ที่ห้องพัก/

    แต่ไม่ใช่เราคนเดียวที่ลืม มีเพื่อนผู้หญิงอีก2คนก็ลืมเหมือนกัน พี่เค้าเลยให้เวลาเราหลังจากทำบัตรฝึกงานของบริษัทเสร็จก็ไปเอาได้ก่อนจะไปยื่นเรื่องที่ตึกการท่าฯ

    หลังจากถ่ายรูปบันทึกลายนิ้วมือเสร็จ เราก็รีบบึ่งออกไปโบกแท๊กซี่เพื่อจะหารถกลับไปที่หอแต่กว่าจะโบกได้ก็แทบตายเพราะแท๊กซี่แถวนี้ก็จะเข้าเทียบที่อาคารผู้โดยสารซะหมด

    ระยะเวลาไป-กลับจากหอและกลับมาที่อาคารของการท่าฯประมาณ 1 ชม. พอกลับมาถึงอาคารการท่าฯก็เที่ยงกว่าๆ เค้าเปิดให้ทำบัตรตอนบ่ายโมงตรง พวกเรา 5 คนก็เข้าไปนั่งรอคิวทำบัตรคนมาทำเยอะเหมือนกันแฮะมีทั้งพนักงานคนไทย ต่างชาติและเด็กฝึกงานวันแรกแบบพวกเรานั่งรอจนเกือบๆบ่ายโมงก็เห็นคนเริ่มตั้งแถวตรงเคาเตอร์ที่รับกดคิว พี่คนกดคิวเป็นคนตรวจเอกสารเบื้องต้นเค้าก็บอกให้นั่งรอเรียกคิวดูเลขคิวแล้วต้องนานแน่ๆเฮ้อ

    พอถึงคิวเค้าก็เรียกเข้าไปถ่ายรูปเพื่อติดบัตร ไฟสว่างมากกกกกกกกกกกพี่พนักงานหน้าตาใจดีมากบอกให้นั่งหลังตรง ถอดแว่นเราก็เหมือนคนตาบอดเลยค่ะหน้าเอียงบ้าง ไหล่เอียงบ้างไม่รู้เลย เพราะมองไม่เห็น

    พอถ่ายรูปเสร็จนั่งรออีกซักพักก็ได้บัตร เสร็จสิ้นก็บ่ายสองนิดๆโดยประมาณ

    ---

    Writer Message : 

    สวัสดีค่ะอายค่ะ อายุ 22
    เพิ่งเรียนจบเมื่อปีที่แล้ว
    ยังจำความรู้สึกตอนได้รับCall ให้ไปฝึกงานได้เลยว่าหัวใจเต้นแรงแค่ไหน
    เลยอยากเก็บความทรงจำความรู้สึกในวันแรกที่ได้ไปฝึกงานเอาไว้นานๆ
    เลยเอามาเขียนลงminimore ไม่ได้แต่งไม่ใช่นิยาย อันนี้คือเรื่องจริงนะค๊า
    เป็นคนเล่าเรื่องไม่เก่งอาจจะมีงงๆไปบ้าง ไม่ว่ากันเน้อะ555555
    ใครที่เข้ามาอ่านก็ขอบคุณมากมากเลยนะค๊าาาา
    แชร์ประสบการณ์เล็กๆน้อยๆจากนักศึกษาคณะบริหารที่ไม่ได้เรียนเอกเกี่ยวกับการบิน
    แต่ฝันอยากไปทำงานที่สนามบินเลยไม่ยอมแพ้ เริ่มจากฝึกงานนี่แหล่ะ
    แม้ว่าตอนนี้อาจจะยังไม่ได้เดินตามความฝันแต่ก็ยังพยายามอยู่น๊าไม่ได้ทิ้งมันไปซะทีเดียว
    เจอกันตอนหน้าค่า :D

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in