เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
litanies of you.sweetsingularity
day 21: date


  • ผมสะดุ้งตื่นเพราะมือถือสั่นที่ข้างหมอน

    แค่โพสรูปๆเดียวกับแคปชั่น  ทำเป็นตกใจกันหมด



    ….แต่ความจริง ผมก็ดีใจกับตัวเองไม่ใช่เล่น



    เพราะไม่ใช่ทุกวันที่จะมีนางฟ้าเป็นของตัวเองนี่ฮะ




    เรานัดเจอกันที่ร้านเจลาโต้แถวมหาลัย โคเว้นท์​ การ์เด้นไม่เคยเงียบเหงา มักเต็มไปด้วยผู้คนและนักท่องเที่ยวที่เดินขวักไขว่ แม้จะยามบ่ายวันพุธ


    บางทีผมเอือมระอาพื้นที่ย่านดังกลางลอนดอน



    ผิดกับคนผมหยิกตรงหน้า ที่กำลังและเล็มไอศครีมทิรามิสุของตัวเองอย่างอารมณ์ดี





    เขาว่าไม่มียาวิเศษหรือกระสุนเงินที่จะคลี่คลายปัญหารุงรังของเราได้ 

    ผมว่ามองตาพี่นายเหมือนการรักษาเยียวยาทุกสิ่ง

    ส่วนคุณ(คง)ว่าความรักบิดเบือนมุมมองผมต่อโลกภายนอกสำเร็จแล้ว



    จะให้อธิบายอิทธิพลของเสียงเทเนอร์หวานต่อความเครียดของผมยังไงคุณก็อาจไม่เข้าใจ




    ความรักไม่ได้เป็นกุญแจอเนกประสงค์ที่ไขประตูออกทุกบานหรอก ผมรู้

    เพียงให้มีคนๆหนึ่งให้เราคอยแบ่งปันชีวิตที่กำลังพยายามอยู่ด้วย

    มีคนที่ไม่จำเป็นจะต้องเข้าใจเราทุกเรื่อง ไม่ได้ชอบอะไรเหมือนกันหมด ไม่ได้เคยรู้จักอะไรที่เรารู้จัก


    แต่เป็นคนที่ยอม


    ยอมเหมือนเรายอมเขา


    ยอมแบ่งเวลาให้กัน ยอม พยายามเข้าใจ รับฟังเวลาผมไม่ใช่เวอร์ชั่นที่ดีที่สุด

    พูดคุย ตักเตือน ทวงให้ผมดูแลตัวเอง


    พร้อมจะขยับจัดการตารางชีวิตไปด้วยกัน

    สนับสนุนกันในสิ่งที่ต่างคนรักเหมือนเราเป็นละครเวทีเรื่องใหม่ในชีวิต


    เรื่องที่ผมขออย่าให้จบลงง่ายๆ




    “แบร์ ดูสิ”  พี่นายเรียกผมเบาๆ เรานั่งตรงข้ามกันที่โต๊ะกลมตัวเล็กสีขาวหลังร้าน เจ้าตัวยกช้อนเล็กขึ้นชี้ผม

    “ฮะพี่นาย”  ผมเลียสแตร็กคิอาเตลล่าบนช้อน รสวานิลลาหวานติดปลายลิ้นตัดกับช็อกโกแลตขม 



    เจลาโต้สกู๊ปเดียวหมดอย่างรวดเร็ว



    เร็วจนผมยังรู้สึกว่ากินไปไม่เต็มที่


    (ก็มันอร่อยสุดในลอนดอนนี่นา)





    พี่นายยิ้มเอ็นดูให้กับสายตาผิดหวังของผม



    “เราใส่เสื้อสีเดียวกันเลย”



    ผมหัวเราะ  ก้มลงมองเสื้อยืดสีดำของตัวเอง



    “บังเอิญ”  ผมว่า วางช้อนลงในถ้วยกระดาษที่ความว่างเปล่าเหมือนจะล้อผมกลับ



    เท้าแขนกลางโต๊ะแล้วเอนตัวเข้าใกล้พี่นาย


    “แต่จะไม่ให้บังเอิญก็ได้--“


    พี่นายเลิกคิ้ว จ้องผมนิ่ง


    ผมคว้ามือพี่นายมากุม





    “--เป็นแฟนกับผมนะฮะ”





    ความสุขคือความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย

    ความรู้สึกชนิดที่คุณก็คงรู้สึกว่าใช่ก็ต่อเมื่อได้รู้สึกถึงมันนั่นแหละ*



    ความรู้สึกวินาทีที่ริมฝีปากคนข้างตัวสัมผัสต้นแขนผม

    ลมหายใจใกล้ตัวจนอยากจะรีรันเหตุการณ์บนเตียงเมื่อคืน




    “ตื่นก่อนพี่เป็นด้วยหรอเรา”

    ผมกลอกตา เอื้อมมือไปวางมือถือไว้ที่โต๊ะข้างเตียง


    “มีโนติเตือนน่ะพี่”  หย่อนตัวกลับลงเตียง ขยับไปเบียดที่นอนของคนข้างตัว 

    “นาฬิกาปลุกดีๆนี่เอง”


    พี่นายจูบไหล่ผม 

    “สำคัญรึเปล่า”


    ผมยิ้ม

    “จะว่าสำคัญก็ได้--“  ผมหลับตา คิดถึงรูปถ้วยเจลาโต้กับช้อนคู่สองคันที่ปักสกู๊ปสแตร็กคิอาเตลล่าอยู่


    “รอพี่ดูเอาเองละกัน”




    //


    ฟฟฟฟฟ แบร์อนาย!!!


    แนบเพลง:



    ชอบเวอร์ของ คริสติน เชียวโนเวท์ (เทพธิดาอีสต์เตอร์ของ American Gods, กลินด้าดั้งเดิมของละครเพลง Wicked) ที่หวานมาก จะฟังเวอร์ Beatles ก็น่ารักอีกแบบ


    พูดตรงๆเหมือนน้องฟินน์ว่ายังไงคนเขียนก็คิดถึงค่ะ


    .... เราจะไปถึงวันที่ 31 ด้วยกัน :3


    <3


    ชอบไม่ชอบยังไงติชมได้เลยค่ะ คุยกับเรา เม้นท์ข้างล่าง รบกวนกดบอกคนเขียนด้วยน้าว่าเป็นไง


    ขอบคุณทุกคนที่รับแบร์อนายไว้ในอ้อมอก และ ขอบคุณทุกกำลังใจเสมอค่ะ


    x


    ข้าวเอง.


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in