เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ไดอารี่ของโจSittingcuddle
เริ่มต้นเรียนรู้...โลก ไดอารี่ของโจ
  • กะจะไปดูหนังชิลีสะหน่อย
    อดดูเลย เสียดายจริงๆ
    คนชื่นชอบ พี่เจ้ยเยอะจริงๆ
    เลยเปลี่ยนที่ไป
    ที่ที่ทำให้รู้สึกว่าได้อะไร
    ที่ต่างจากที่หวังไว้มาก

    เราเปลี่ยนที่ไปเจเจกัน
    ผมกะจะไปดูของขายระหว่าง
    การท่องเที่ยวของผมด้วย

    ในที่สุดผมก็ไปนั่งจ่อมตัวลงที่ร้านๆหนึ่ง
    นั่งเลือกของคละแบบกันไปเยอะๆ
    ลูกค้าจะได้มีทางเลือก
    ผมเริ่มสังเกตเห็น พ่อค้านั่งคุยกับลูกค้า
    โดยแทบจะไม่สนใจผมเลย
    ในไม่นานผมกับพ่อค้า
    ก็ได้เริ่มบทสนทนากัน
    เขาหยิบแมกเนทติดตู้เย็น
    ของจากเวียดนาม ให้เรา
    และเขาก็เริ่มอธิบายเหตุผลของ
    การค้าขายของเขา
    เริ่มด้วย การไม่ติดราคา
    เพื่อจะได้คุยกับลูกค้าได้เยอะๆ
    การใส่ใจระหว่างคุยกับลูกค้าสำคัญ
    ต่อมาเขาเริ่มบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ
    ที่เกี่ยวกับชีวิตเขา
    ตั้งตัวด้วยเงิน 900 บาท
    การวิ่งขายของไม่หยุดหย่อน
    ถึงฝนตกกี่รอบ เก็บของขายกี่รอบ
    ก็แค่อยากพิสูจน์ว่าตัวเองสู้จริงๆ
    เพื่อให้ได้มีชีวิตที่ดีขึ้น

    เขาเริ่มเล่าต่อถึงความเชื่อของเขา
    การที่ทุกคนมีจุดยืน
    ของตัวเองอย่างแน่นอน
    แค่ตั้งใจหามัน และยืนหยัดเพื่อมัน
    มีวันของมันแน่นอน

    การเลือกอาหารการกิน
    เขาเลือกกินเนื้อปลาอย่างเดียว
    ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่
    การกินน้ำเยอะๆ
    การออกกำลังกายทุกอาทิตย์
    เขาทำอย่างนี้
    มาเป็นเวลา30ปีแล้ว

    ย้อนกลับมาที่ผมนั่งอยู่ร้านเขา
    หน้าตาเขาบอกอายุที่ดูอ่อนกว่า
    ตัวเลขที่เขาบอกอย่างจริงจัง
    เขาอายุ 51 ปี ถึงภายนอก
    จะบอกเพียง 30 ก็เถอะ
    พร้อมกับเอารูปเพื่อนๆเขา
    ในมือถือให้ผมดู

    ผมเริ่มรู้สึกว่าเรื่องชัก
    เริ่มน่าสนใจขึ้นเรื่อยๆ

    เขาเริ่มเล่าต่อ
    กิจการทุกวันนี้มี 2 ที่
    ที่แรก เจเจ
    ที่สอง บ้านเกิด
    ที่บ้านเกิดเขา เขาทำร้านกาแฟ
    แต่เขาชอบที่จะนั่งขายเจเจมากกว่า
    เพราะได้คุยกับผู้คน
    เขาบอกว่าคนแถวบ้าน
    ชอบถามเขาว่าเปิดร้านไม่เฝ้าร้าน
    ไม่กลัวลูกจ้างโกงเหรอ
    เขาตอบกลับไปว่า

    "ผมซื้อของฝากเขา
    ซื้อของให้ลูกเขา
    ถามไถ่เรื่องที่บ้านเขาตลอด
    เขาจะอยากโกงผมจริงๆเหรอ"

    เขาบอกว่าการให้ใจเป็นอะไร
    ที่ดีที่สุด สำหรับการทำงานแล้ว

    ในส่วนของเจเจ ของแฮนเมดที่เขาทำ
    เขาให้ชาวนาแถวบ้านฝึกทำ
    แล้วเขาจ่ายค่าจ้างให้
    เขามีหน้าที่ออกแบบ

    เขาเริ่มหยุดการเล่า
    และหันไปงุ่นกับของหลังร้าน
    สักพักเขาก็มาพร้อมกับของในมือ
    เป็นซองแผ่นซีดี 2 แผ่น
    พร้อมกับเล่าถึงความเป็นมาของซีดี
    ซีดีของเขาเป็นซีดีเพลงที่แต่งเอง
    เขาบอกว่าเขาร้องไม่เป็น
    เขาเล่นดนตรีไม่เป็น
    แต่เขาก็ทำเพลงของตัวเองได้
    มีซีดีแผ่นหนึ่ง เขียนเป็นภาษาอังกฤษ
    เป็นชื่อองค์กรอะไรสักอย่างที่เนปาล
    เขาบอกว่า เป็นมูลนิธิเด็กที่เนปาล
    ที่เนปาล มูลนิธินี้เขาจะเดินขายซีดี
    แล้วเอาเงินมาช่วยเหลือเด็กต่างๆ
    เขาเลยเอาไอเดียนี้มาทำเพลง
    ที่อยากทำของตัวเอง แล้วใช้ชื่อองค์กร
    พิมพ์บนปกซีดีของเขา และนำเงินที่ได้
    ไปให้มูลนิธิ รวมถึงแบ่งซีดีให้มูลนิธิ
    เอาไปขายต่อด้วย

    เขาให้ซีดีสองแผ่นกับเรา
    เราขอบคุณเขายกใหญ่

    เขาเริ่มการเล่าเรื่องต่อมา
    เขาบอกว่ามีลูกค้าต่างประเทศ
    มาซืัองานเขาไปขายในเว็บ
    เขาเลยสนับสนุนลูกค้าคนนี้โดยการ
    ไม่ทำเพจของตัวเอง
    ใดๆทั้งสิ้นที่เกี่ยวกับออนไลน์
    เพราะเขาไม่อยากไป
    แย่งลูกค้าของลูกค้า
    รวมถึงลูกค้าทุกคนที่มาซื้อของ
    ร้านของเขาด้วยเช่นกัน

    เขาเล่ามาได้สักระยะ
    จากนั่งคุยกันตอนเย็น
    เวลาก็ผ่านมาเป็นพลบค่ำ
    เขาเริ่มเก็บข้าวของต่างๆ
    รอบๆร้าน ผมถามว่าจะช่วย
    อะไรได้บ้าง แต่เขาบอกว่า
    ให้อยู่เป็นเพื่อนปิดร้านเขาก็พอ

    พอปิดร้านเสร็จ
    เราแลกไลน์เพื่อไว้ติดต่อกัน
    ผมเดินแยกทางไปขึ้นรถเมล์

    เราก็แค่คนที่ไม่เคยรู้จักกัน
    เราก็แค่คนที่เพิ่งได้เรียนรู้
    คุณค่าของชีวิตของคนคนหนึ่ง
    ที่อายุ 50 กว่า ผ่านระยะเวลา
    ไม่กี่ชั่วโมง
    เรียกปรากฏการณ์ทางความรู้สึก
    ครั้งนี้ว่า ประหลาดใจสุดๆ
    ไม่เคยคิดว่าในประเทศนี้
    จะมีคนที่มีชีวิตอยู่
    ภายใต้อุดมคติของ
    ตัวเองและดำเนินชีวิต
    ไปอย่างสนุกสนาน
    มีคุณค่าทั้งกับตัวเอง
    และคนอื่นๆรวมถึงผมด้วยเช่นกัน
    ขอบคุณมากๆเลยนะครับ
    สำหรับการเรียนรู้ครั้งใหญ่ครั้งนี้
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in