"อรุณสวัสดิ์" อีกฝ่ายเอ่ยทักทายอีกครั้ง แม้จะล่วงเลยเวลาที่สมควรจะทักไปนานมากแล้ว มันควรเป็นประโยคแรกของคนที่พึ่งเจอกัน ทว่า
ช่างหัวมันเถอะน่า ความรู้สึกแบบนั้นแล่นเข้ามาแล้วมันก็ผ่านอออกไป เขาตอบกลับ "อรุณสวัสดิ์"
อรุณสวัสดิ์ แค่ อรุณสวัสดิ์ ช่างเป็นประโยคเปิดบทสทนาที่เรียบง่ายจริงๆ โทมัสคิดในใจขณะสั่งยูซุอเมริกาโน เมนูที่เขาไม่เคยดื่มมันมาก่อน อันที่จริง โทมัสแทบไม่เคยดื่มอะไรนอกจากอเมริกาโนและน้ำเปล่า ไม่ใช่เพราะว่าเขาขยะแขยง หรือการเริ่มต้นอะไรใหม่ๆเป็นสิ่งที่เขาพยายามหลีกเลี่ยงมันมาโดยตลอด, โทมัส ลี เป็นผู้ชายวัยยี่สิบสามที่ค่อนข้างมั่นใจว่าสิ่งที่เขาเลือกเป็นอันดับแรกนั้นดีที่สุด (เช่นเดียวกับความคิดแรกมักจะดีที่สุด) ซึ่งดูเหมือนกับว่าเขาจะเคร่งครัดกับแนวคิดนี้มากจนทำให้ใครหลายๆคนโมโห โทมัสไม่ใช่คนยืดหยุ่น เขารักกฏเกณฑ์ สุนัขที่บ้านและความคิดแรก ทว่านั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเพราะแม่ของเขาเป็นคนจีน (ถึงแม้ว่าแม่ของเขาจะเป็นคนจีนจริงๆ และตั้งชื่อเขาว่า โทมัส ลี) โทมัสถึงได้เป็นคนแบบนี้ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมสังคมถึงมักคิดว่าลูกคนจีนจะต้องจริงจังกับชีวิตไปซะทุกเรื่อง ไม่ใช่ทุกคนที่เป็นแบบนั้น แค่ส่วนใหญ่ที่เป็นแบบนั้น อย่างไรก็ตาม โทมัสไม่ปฏิเสธว่าบางครั้ง การปล่อยปะละเลยตัวเองบ้างก็เป็นเรื่องที่ดี
ห้านาทีต่อมา โทมัสกำลังดื่มยูซุอเมริกาโนแก้วที่สอง พนันหมดหน้าตักว่าคืนนี้เขาคงนอนไม่หลับ ทว่าแต่ไหนแต่ไร โทมัสก็ไม่เคยนอนหลับในเวลาเดียวกับชาวบ้านอยู่แล้ว ดังนั้นถึงได้ได้มีความคิดบ้าๆอย่างการดื่มมันอีกแก้ว ครั้นจะสั่งเพิ่มก็ดูมากเกินพอดี สุดท้ายเขาขมวดคิ้วด้วยความเสียดาย วางแก้วลงเมื่อน้ำอึกสุดท้ายถูกดูดจนหมด
"คุณดูชอบมันนะ"
โทมัสไม่เคยคิดมาก่อนว่าชายไร้ชื่อคนนี้จะยังตามมานั่งโต๊ะเดียวกัน มันทำให้เขาสงสัย -แค่ครู่เดียว เขาถามออกไป "คุณต้องการอะไร?" โทมัสเพียงแค่ถามอย่างนั้นไม่ได้คาดว่าจะต้องได้รับคำตอบ และไม่ได้คาดว่าจะให้อะไรที่อีกฝ่ายต้องการได้อยู่แล้ว อย่างเดียวที่เขาทำได้คือนั่งสงบเสงี่ยม รอเวลาที่จะได้แรงบันดาลใจในการเขียนเรียงความต่อให้เสร็จ
"เปล่านี่"
มุมปากของเขาโค้งลง ขณะยกมือขึ้นมาเสยผมที่พันกันอยู่แล้วให้มันยิ่งพันเข้าไปอีก โทมัสไม่ค่อยอยากจะสนทนากับคนแปลกหน้านัก โอเค เขาคุยกับหมอนี่เพราะว่าดวงตาสีเปลือกไม้กับน้ำเสียงซอฟต์ๆที่ไม่ค่อยได้ยินบ่อยๆในแฟลตของเขาซึ่งมักจะมีเสียงป้าแก่ๆกับเสียงแมวพันธุ์บริติชขนสั้นที่กระโดดไปมาระหว่างระเบียงให้รำคาญใจเล่น อาจเป็นเพราะเหตุผลนั้นโทมัสถึงได้ยอมแพ้ที่จะทำเมินเฉย
"ว่าแต่คุณ..."
"โทมัส ลี" เขาถอนหายใจ รำคาญความอยากรู้อยากเห็นไม่เลิกของอีกฝ่าย
"โอเค โทมัส ลี, คุณทำงานเสร็จแล้ว?"
เปล่า เขาปฏิเสธหน้างอง้ำ อีกทั้งนั่งเคาะโต๊ะเล่นเพราะไม่รู้จะทำอะไร นี่ไม่ใช่เกมตอบคำถามแต่ก็เริ่มคล้ายขึ้นทุกที หลังจากนั้นสักพัก เมื่อความเงียบและเกมตอบคำถามดูจะดำเนินต่อเรื่อยๆ โทมัสขัด บ้าบอจริงๆ เขาคิด ทำไมถึงได้มีคนเดียวที่คอยถามคำถาม อย่างเช่น 'วันนี้คุณทำอะไร' 'สภาพอากาศจะดีไหม' และ 'ผมคงไม่ได้รบกวนคุณหรอกนะ'
ห้านาทีต่อมา โทมัสถึงได้ตัดสินใจหลังทบทวนหลายรอบว่าเขาควรจะลุกออกจากที่นี่ตั้งแต่สิบนาทีก่อนหากพวกเขาไม่มัวคุยไร้สาระ (อันที่จริงนี่ไม่ใช่การพูดคุย โทมัสเพียงแค่ตอบรับในลำคอว่า 'อืม' 'คงงั้น' และก็ 'ไม่' ) แต่ช่างปะไร โทมัส ลีเก่งเรื่องล้างผลาญเวลาชีวิตตัวเองอยู่แล้ว
"ผมต้องรู้ชื่อคุณไหม?" เขาถามพลางกวาดของใส่กระเป๋า พร้อมจะลุกขึ้นยืนและเดินจากไปได้ทุกเมื่อ "เดาว่าไม่" ก่อนจะเสริมประโยคก่อนหน้าอย่างรวดเร็ว โทมัสไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องรู้จักใครเพิ่มอีก เขาคิดว่าอย่างนั้น
"เดาว่าไม่" อีกฝ่ายเอ่ยเลียนแบบด้วยน้ำเสียงที่ดูเศร้ากว่าต้นฉบับ คิ้วตกเหมือนลูกสุนัข "คุณไม่คิดจะเรียกชื่อผมบ้างเลยหรือไง?" เขากลอกตา คำสอนที่ว่าอย่าคุยกับคนแปลกหน้าปรากฎในสารบบความคิด บางที...โทมัสน่าจะเชื่อฟังพ่อแม่ของตัวเองให้มากกว่านี้
ไม่มีคำอำลา ไม่มีการโบกมือ เขาก้าวถอยหลังจากเจ้าของใบหน้าผู้ครอบครองดวงตาสีเปลือกไม้ที่สวยที่สุด
ชั่วอึดใจ เสียงที่โทมัสเคยคิดว่าตนหลงใหลก็หลุดออกมาจากริมฝีปากซึ่งแย้มยิ้มอยู่ก่อนแล้ว "โทมัส ลี" อีกฝ่ายเอ่ยด้วยน้ำเสียงติดตลก "เรียกผมว่าหมายเลขเก้า"
"หมายเลขเก้า?" โทมัสหันหลังกลับ ทำหน้าไม่เชื่อหูแล้วทวนให้แน่ใจว่าประสาทการได้ยินของเขามันยังปกติ กระนั้นหมายเลขเก้าคงเข้าใจว่าเขาเรียกชื่ออยู่ เมื่อโทมัสเอ่ยอีกรอบ "นายหมายเลขเก้า?" มีรอยยิ้มและประโยคตอบรับกลับมา
"ครัับ โทมัส"
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in